สวัสดีค่ะ นี่เป็นการเขียนรีวิว และการสมัครเป็นสมาชิกพันทิปครั้งแรกของเรา ยังเป็นมือสมัครเล่นอยู่ อิอิ รูปและข้อความอาจจะยังดูไม่สละสลวยสวยเก๋ก็ต้องขออภัยด้วยน่ะค่ะ ก่อนหน้าที่เราจะมาเขียนรีวิวนี้ เราก็เคยแต่เข้ามาอ่านกระทู้ดูรีวิวของคนอื่น คิดไว้ในใจว่า ถ้าวันนึงเราได้ไปไหนสักที่แล้วประทับใจจะลองมาเขียนรีวิวบ้าง ในที่สุดเราก็เจอ เกาะที่คนไปกันเยอะมาก และก็มีรีวิวในพันทิปเยอะมากๆๆๆด้วย
                                               "เกาะล้าน" เกาะเล็กๆที่อยู่ที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯนี่เองจุดประสงค์ในการเดินทาง แค่อยากไปเปลี่ยนบรรยากาศ หนีควันพิษ หนีรถติด หนีบรรยากาศเดิมๆในกรุงเทพฯ ไปหาอากาศดีๆสงบๆไม่วุ่นวาย เลยชวนเพื่อนสาวที่สนิทอีก 2 คน แล้วพวกนางก็ตกลงไปด้วย ได้เพื่อนร่วมชะตากรรมแล้วเรา 5555 จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลที่พัก การเดินทาง เนื่องจากทั้ง 3 คนไม่เคยมีใคร เคยไปเกาะล้าน นี่เป็นครั้งแรก เลยต้องพึ่งอินเตอร์เน็ต เมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว ก็จัดการโทรจองที่พักล่วงหน้า ตกลงกันว่า จะไปวันที่ 22-24 ก.ย.58 ซึ่งตรงกับวันธรรมดาคนไม่น่าเยอะ แต่ก็จองล่วงหน้าไว้เกือบเดือนเหมือนกัน 555 แอบกลัวว่าจะได้ห้องพักไม่ถูกใจ หรือตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวหรือเปล่าก็ไม่รู้ อิอิ

   
    แต่การเดินทางย่อมมีอุปสรรค ช่วงวันที่ 15-16 ก.ย. พายุ"หว่ามก๋อ"เข้าพอดี พิษพายุทำให้อากาศช่วงนั้นไม่เป็นใจเอาเสียเลย เอาไงหล่ะทีนี้ วันที่ 22 ก็จะไปอยู่แล้ว Cr.ig thairath
มีนักท่องเที่ยวติดเกาะด้วย งานเข้า เศร้าแป๊ป 5555

   กรมเจ้าท่าประกาศงดเดินเรือโดยสารไปเกาะล้านถึงวันที่ 18 ให้บริการอีกทีวันที่ 19 เอาหล่ะ มีกำลังใจขึ้นมาหน่อย ถึงยังไงเราต้องได้ไป คงไม่มีอะไรแล้ว เราไป วันที่ 22 ทุกอย่างคงเป็นปกติแล้ว และมันก็เป็นจริง วันที่ 22 ทุกอย่างเป็นปกติ เราได้เดินทางแล้วโว้ยยยย ดีใจ๊ดีใจ 5555


    22/09/58 วันแรกของกาารเดินทาง เนื่องจากพวกเราอยู่กันคนละทิศละทาง คนนึงอยู่สำโรง คนนึงอยู่ท่าพระ ส่วนอีกคนอยู่บางกะปิ พวกเราจึงนัดพบกันที่ BTS อนุสาวรีย์ ภาพตึกสูงในเมืองหลวงที่ดูแข็งๆทื้อๆไม่มีความอ่อนโยนเป็นธรรมชาติ แต่พอมีลายธงชาติโบกสะบัด ที่ปักอยู่บนสถานี bts ทำให้ตึกสูงดูสวยขึ้นทันที
**ภาพในรีวิวนี้ เป็นภาพถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ อาจดูไม่สวยเท่าไหร่ อย่าว่ากันน๊าาาา...

     เมื่อทุกคนมากันพร้อม พวกเราก็เดินไปหาคิวรถตู้ที่จะไปเกาะล้านเลยค่ะ ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ตรงไหนไกล ใต้สถานี bts นั้นแหละค่ะ
ถึงแล้วก็ซื้อตั๋ว ค่ารถคนละ 99 บาท ส่งถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย

   อ๋อ...เกือบลืมบอกไปค่ะ ว่าทริปนี้พวกเราลงขันกันคนละ 3000 บาท รวมทุกอย่าง ตั้งแต่ค่าที่พัก ค่ารถ ค่าเรือ ค่ากิน ค่าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ ยังมีเหลือกลับบ้านอีกน่ะค่ะ บอกเลยว่าคุ้มจริงๆ  ขออนุญาตไม่แจกแจงรายละเอียดรายจ่ายน่ะค่ะ จำไม่ได้จริงๆ อย่าว่ากันน๊าาา...คนดี

                          พวกเราขึ้นรถตู้ประมาณ 11 โมง ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม.ก็ถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย       วิวยอดฮิตที่คนอื่นๆถ่ายออกมาสวย แต่ภาพที่เราถ่ายไม่สวยเลย ฮือๆๆ แอบนอยนิดหน่อย

    พอถึงพวกเราก็ไปซื้อตั๋วเรือได้รอบบ่าย 2 คนขายบอกเรือเต็มก่อนออกก่อนน่ะ ได้เเดินเล่นถ่ายรูปอยู่แป๊ปนึง เรือก็บีบแตรเรียก ยังไม่ทันถึงบ่าย 2 เรือก็ออก  บริเวณท่าเรือบรรยากาศค่อนข้างจะอึมครึม เพราะฝนเพิ่งจะตก นักท่องเที่ยวก็น้อยมาก คงเป็นเพราะพิษพายุที่เพิ่งจะเข้ามาก่อนหน้านี้

                                                       บรรยากาศสบายๆตามสไตล์ชาวเกาะ
**ขออภัยบุคคลที่อยู่ในภาพ ที่นำมาออกสื่อโดยไม่ได้ขออนุญาต ให้อภัยด้วยน่ะค่ะ...คนดี
   
เรานั่งเรือมาประมาณ 30-40 นาที ก็ถึงท่าเรือหน้าบ้าน ภาพแรกเมื่อขึ้นจากเรือ"เกาะล้าน"       จากนั้นพวกเราก็โทรบอกที่พักเค้าจะส่งรถมารับ ระหว่างรอก็ได้ภาพนี้มาอีกภาพเป็นร้านขายของที่ระลึก อยู่ใกล้ๆเซเว่นตรงท่าเรือ ไม่นานรถมาถึง พร้อมเดินทางไปที่พักกัน ตามมาเลยค่ะ...ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงที่พัก และนี้ก็คือที่พัก 3 วัน 2 คืน ของพวกเรา
                                                                       
                                                                          "บ้านเฉลียงลม"
บ้านพักที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ บรรยากาศดีสุดๆ

ทางเข้าด้านหน้า
           
ทางเข้าด้านข้าง มีจักรยานไว้ปั่นฟรีด้วยดีจัง...อิอิ พวกเราจองห้องพักบ้านเฟื่องฟ้า 3 ไว้ราคาคืนล่ะ 1200 บาท เสริมเตียงอีก 400 เป็น 1600 ต่อ/คืน นี่เป็นวันธรรมดาน่ะค่ะ ถ้าเป็นวันหยุดจะอีกราคานึง
บ้านเฟื่องฟ้า 3 ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว มีระเบียงหน้าบ้าน หันหน้าหาทะเลบรรยากาศดีโดยส่วนตัวชอบมากๆๆ ภายในตกแต่งด้วยภาพวาด ของเก่าๆ เก๋ดีค่ะ


     หลังจากเก็บของเข้าที่พักเสร็จพวกเราก็ขอรายละเอียดและแผนที่จากที่พัก แล้วก็เช่ามอร์ไช 1 คันเพื่อความสะดวก แล้วตกลงกันว่าต้องไปหาไรกินก่อนสุดท้ายก็ไม่พ้นร้านนี้ ร้านขึ้นชื่อของเกาะล้าน  "มาหารัก"คาเฟ่

สั่งเค้กคนละชิ้น ชาเขียว 1 แก้ว โกโก้วิสครีม 2 แก้ว มีเพื่อนหิวข้าวเลยสั่งข้าวผัดทะเลเพิ่มอีก 1 จาน โดนค่าบาดเจ็บไป 700 กว่าบาท เป็นไงหล่ะ หายอยากเลย 55555 หัวเราะหนักม๊าาาก แต่ถ้าแลกกับบรรยากาศร้าน รสชาดอาหารที่อร่อย การบริการที่ดี ถือว่าคุ้มค่ะ  นั่งอยู่ มาหารัก ประมาณ 2 ชั่วโมง เห็นว่าจะ 5 โมงแล้วเลยกลับที่พัก พอดีเจอลุงกับป้านั่งคุยกันอยู่หน้าที่พัก เรายิ้มให้ แกก็ยิ้มตอบ แกถามว่าพวกเราไปไหนกันมา ด้วยความที่เราอยากรู้ว่าลุงกับป้าเป็นใครเราเลยถามได้คำตอบว่าท่านเป็นพ่อกับแม่ คุณณรงค์ เจ้าของบ้านเฉลียงลม ลุงกับป้าท่านน่ารักค่ะ คุยดีมากแนะนำทุกอย่าง ท่านก็แนะนำว่ายังไม่มืดลองขับรถไปหาดตายายสิอยู่ใกล้ๆเองสวยน่ะ พวกเราไม่รอช้าไปกันเลย สวยจริงๆค่ะ แต่ว่ามันเงียบมาก มีแต่แคมป์คนงานต่างด้าว บรรยากาศดูวังเวงเลยไม่ได้ทันได้ถ่ายรูป รีบกลับเลยค่ะ แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน
กลายเป็นว่าได้กลับมาถ่ายรูปเล่นกันริมหาดหน้าที่พักแทน


หาดตรงที่พักก็สวยดีน่ะ ตอนน้ำลงจะเห็นโขดหิน แต่ไม่เหมาะจะลงเล่นน้ำ เพราะน้ำไม่ค่อยใสเท่าไหร่ เปลือกหอยก็เยอะค่ะ

   ถ่ายรูปเล่นกันเสร็จก็ต่อกันด้วยมื้อเย็นเลยค่ะ มื้อเย็นทั้ง 2 วัน พวกเราฝากท้องไว้ที่นี้เลยเลยค่ะ   "ครัวเฉลียงลม"


บรรยากาศดีมากๆอยู่ริมทะเล ยิ่งมืดๆหน่อย Romantic มากกก เราแอบอิจฉาคนที่มาเป็นคู่เลย..อิอิ

นั่งกินนั่งเม้าท์กันแบบไม่รีบ มีเพลงเพราะๆให้ฟัง จน 2 ทุ่มกว่า พวกเราก็กลับเข้าที่พัก อาบน้ำนอนพักผ่อน ชาร์จแบตตัวเอง แบตโทรศัพท์ เตรียมไว้สำหรับวันรุ่งขึ้น


     23/09/58 วันที่ 2 ของพวกเรา คือแบบว่ามาพักผ่อนกันจริงๆ ไม่มีใครตื่นเช้าสักคน 5555 ใน 3 คนเราตื่นเร็วสุด เลยได้อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน แต่งตัวเสร็จก่อนคนอื่น ระหว่างรอเพื่อนเลยมีเวลาสำรวจบริเวณรอบๆที่พัก แต่ก็ไม่ถึงกับละเอียดมากน๊าาา

ถาพมุมกว้างด้านหน้า

มุมแคบลงมา

จะเห็นว่าเป็นที่นั่งเล่นที่จัดได้น่ารัก และก็น่านั่งมาก

มีประตูทะลุมิติด้วย 55555

เดินเข้าข้างในด้านขวาเป็นร้านกาแฟ

สระบัว

มุมไว้ถ่ายรูป นั่งเล่น

ทางด้านซ้ายจะเป็นทางเดินไม้ เดินไปจะเป็นมุมนั่งเล่นอีกมุมนึง จะอยู่ตรงกับบ้านเฟื่องฟ้า 3


เดินตรงเข้าไปข้างในก็จะเป้นบ้านพักแต่ล่ะหลัง ถ่ายมาไม่ครบทุกหลังน่ะค่ะ





เจอเจ้าถิ่นด้วย คุยกันไม่รู้เรื่องเลยไม่รู้เลยว่าชื่ออะไร 5555


แล้วก็มาหยุดกับเจ้าดอกนี้ ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าชื่อดอกอะไร พอดีป้าเดินผ่านมาเลยถามได้ความว่า มันชื่อดอก มิคกี้เม้าส์ แหมๆๆชื่อน่ารักเชียว อิอิ

บรรยากาศรอบบ้านเฉลียงลมร่มรื่นมากบอกเลย เหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆ

    ทุกคนทำภาระกิจเสร็จกว่าจะได้ออกจากห้องก็เที่ยง จุดมุ่งหมายต่อไปคือหาดนวล ทริปนี้พวกเราไม่เน้นตะลอนตามหาดน่ะ  3 วันได้ไปแค่ 3 หาดเอง ระหว่างทางก็แวะหาข้าวเที่ยงกินก่อน เพราะข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กินกัน ตื่นสาย 5555 เราแวะกันร้านตรงข้ามกับเซเว่น



ร้านเก๋ดีค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายบรรยากาศกับอาหารให้ดู มัวแต่กินค่ะ อิอิ สั่งตามสั่งคนละจาน จานละ 60 บาท ราคาถือว่าโอเคไม่แพงมาก รสชาดใช้ได้ ปริมาณเยอะมาก เยอะจนกินไม่หมด

  จากนั้นก็ไปต่อกันที่หาดนวลเลย หาดสวย น้ำใส


แอบดูฝรั่งนอนอาบแดด 5555

    ถ่ายรูปเล่นอยู่หาดนวลพักนึง ได้รูปจากหาดนี้เยอะมาก ส่วนมากจะเป็นรูปพวกเราเอง ไม่ค่อยมีรูปวิว ขอออกสื่อเป็นบางรูปน่ะค่ะ

อยู่แบบเหงาๆกับรองเท้าคู่ใจ




เดี๋ยวค่อยมาต่อน่ะค่ะ แบรคไว้ก่อน