ผมมีความเชื่ออยู่ว่า “การที่เราทำอะไรในสิ่งที่เรารัก เราจะทำมันออกมาได้ดี และมีความสุขเวลาที่เราได้ทำสิ่งนั้น” ในเมื่อมีเวลาว่างก็อยากทำในสิ่งที่เรารัก ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีกิจกรรมที่ชื่นชอบ หลงใหลกับมันเหมือนกัน นั่นคือการปั่นจักรยาน ก่อนจะเข้าเรื่องทริปในครั้งนี้ ขอเล่าเรื่องจักรยานของผมสักนิดหน่อยก่อนนะครับ
สมัยนี้ใครหลายๆคนก็อาจจะเริ่มหันมาปั่นจักรยานกันเยอะขึ้น บ้างก็ปั่นเพราะอยากลดน้ำหนัก บ้างก็ปั่นเพราะเป็นวิธีการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง บ้างก็ปั่นเพราะเพื่อนๆชวน หลากหลายเหตุผล ส่วนตัวผมนั้นเริ่มแรกเมื่อประมาณเดือนกันยายนปีที่แล้ว ก็มาจากพี่คนนึงที่มาชวนผมแค่ปั่นออกกำลังกายเฉยๆ ผมก็ไปหาซื้อจักรยานญี่ปุ่นมือ2 มาด้วยราคา 2-3 พันบาท โดยไม่ได้คิดจะจริงจังอะไร เริ่มปั่นไป ปั่นมา ใช้เวลาอยู่กับจักรยานสักระยะนึง กลับหลงรักในเสน่ห์ของการปั่นจักรยานแบบถอนตัวไม่ขึ้น 555 ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่เป็นเหมือนผม จากจักรยานญี่ปุ่นคันละไม่กี่พัน ก็เปลี่ยนเป็นรถเสือหมอบเต็มตัว ผมเลือก Trek Madone 5.2 มาใช้ประจำการ ก่อนหน้านี้ผมเริ่มต้นด้วย Trek Madone 2.1 แล้วก็เปลี่ยนมาเป็น Trek Madone 5.9 ผ่านทั้งทริป LRT สวนผึ้งของพ่อใหญ่ และขึ้นภูทับเบิก แต่แล้วด้วยความที่เจ้า 5.9 มีเบรคหลังอยู่ด้านล่าง จึงทำให้ยากต่อการ Service ผมจึงเปลี่ยนตัวเฟรมไปใช้ Madone 5.2 ปีเก่าซึ่งมีเบรคหลังอยู่ด้านบน แล้วใช้ชุดเกียร์ Ultegra ด้วยเหตผลที่ชอบเสน่ห์ของ Trek Madone ที่ผมว่าเป็นจักรยานที่ปั่นสบาย ด้วยองศาคอที่ไม่ต่ำมาก และยังกดแล้วพุ่ง กดแล้วมาตามเท้าเรา แถมยังไหลไม่อืดอีกด้วย ทางเรียบก็ว่าดี ผมว่าขึ้นเขาตัวนี้ก็ยืนโยกได้สนุกเลยทีเดียว
เอาล่ะ เมื่อผมเคลียร์งานหาเวลาว่างได้เสาร์-อาทิตย์ ผมจึงไม่รอช้าที่จะวางแผนพาแฟนไปเที่ยว+กับการเอาจักรยานไปปั่นซ้อมด้วยในตัว ซึ่งจุดหมายที่ผมวางไว้ครั้งนี้ ผมเลือกที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ปั่นที่ไม่ไกลจาก กทม. เท่าไรนัก แล้วผมยังติดใจในธรรมชาติเมื่อครั้งมาปั่นงาน LRT สวนผึ้ง เมื่อ 2-3 เดือนก่อน ครั้งนั้นผมมาปั่นงานนี้ประเภททีม กับเพื่อนๆ ระยะทาง 60 กิโล
เป็นทางขึ้นเขา-ลงเขา ผ่านทัศนียภาพที่สวยงาม อากาศดี แต่ด้วยครั้งนั้นเป็นงานแข่งผมจึงไม่มีโอกาสได้มองธรรมชาติสักเท่าไร ได้แต่มองล้อหลังคันหน้ามากกว่า ครั้งนี้ผมเลยตั้งใจ จะมาปั่นแบบซ้อมทางเขา สูดรับอาการบริสุทธิ์ และชมธรรมชาติ การซ้อมครั้งนี้ผมมีเป้าหมายครับ เป้าหมาย คือ งานดอยอินทนนท์ ที่จะมีขึ้นในต้นปีหน้า ตั้งใจว่าจะซ้อมให้ดีแล้วจะไปพิชิตให้ได้ ว่าแล้วก็จัดกระเป๋า เช้าวันเสาร์ ออกเดินทางจาก กทม. ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงสวนผึ้ง บนเส้นทางใน อ.สวนผึ้งนั้นเป็นทางเนิน สลับทางราบ มีโค้งหนักๆอยู่หลายโค้งด้วยกันรถของผมที่ใช้สำหรับทริปครั้งนี้คือ Toyota Altis นอกจากผมจะชอบจักรยานแล้วรถยนต์ผมก็ชอบขับเหมือนกันครับ
เพราะมันประทับใจเลยอยากเล่าสั้นๆ Altis คันนี้ ผมใช้มาจะปีแล้วครับ หลายคนถามผมบ่อยๆ ชอบออกต่างจังหวัดไปไกลๆ ทำไม
ไม่เลือกพวก SUV ไปเลย แต่ส่วนตัวผมว่ารถเก๋งขับแล้วผมรู้สึกมั่นใจมากกว่า เวลาเจอเส้นทางอย่างที่สวนผึ้ง มีโค้งหักศอกบ้างอะไรบ้าง เข้าโค้งได้ดี ช่วงล่างเกาะถนน และนุ่มกว่า SUV ด้วย ทำให้ได้ฟิลลิ่งการขับแบบไม่เหนื่อยทั้งคนนั่งคนขับ แต่คนนั่งข้างผมคงไม่เหนื่อยอยู่แล้ว นั่งสบาย หลับอย่างเดียว 555 แต่ถ้าใครจะซื้อรถเก๋งออกต่างจังหวัดบ่อยๆ สำหรับผมคิดว่าเครื่อง 1800 cc. น่าจะเหมาะครับ เพราะผมขับ Altis เร่งแซงได้มันส์มากบอกเลย อัตราเร่งดีสมคำร่ำลือ เวลาเจอทางขึ้นเขาชันๆ ก็ใช้วิธี shift เกียร์เรียกกำลังของเครื่องยนต์เอา จะทำให้ขับสนุกเร้าใจมากขึ้นครับ (ระหว่างทางดีนะที่คุณเธอหลับไม่งั้นคงไม่ได้ขับสนุกๆหรอกครับ) แล้วเราก็มาถึงจุดหมายแรก Scenery Farm
[CR] เมื่อใจมันอยากปั่น สนองนี้ดตัวเอง จัดไปทริปปั่น ณ สวนผึ้ง
สมัยนี้ใครหลายๆคนก็อาจจะเริ่มหันมาปั่นจักรยานกันเยอะขึ้น บ้างก็ปั่นเพราะอยากลดน้ำหนัก บ้างก็ปั่นเพราะเป็นวิธีการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง บ้างก็ปั่นเพราะเพื่อนๆชวน หลากหลายเหตุผล ส่วนตัวผมนั้นเริ่มแรกเมื่อประมาณเดือนกันยายนปีที่แล้ว ก็มาจากพี่คนนึงที่มาชวนผมแค่ปั่นออกกำลังกายเฉยๆ ผมก็ไปหาซื้อจักรยานญี่ปุ่นมือ2 มาด้วยราคา 2-3 พันบาท โดยไม่ได้คิดจะจริงจังอะไร เริ่มปั่นไป ปั่นมา ใช้เวลาอยู่กับจักรยานสักระยะนึง กลับหลงรักในเสน่ห์ของการปั่นจักรยานแบบถอนตัวไม่ขึ้น 555 ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่เป็นเหมือนผม จากจักรยานญี่ปุ่นคันละไม่กี่พัน ก็เปลี่ยนเป็นรถเสือหมอบเต็มตัว ผมเลือก Trek Madone 5.2 มาใช้ประจำการ ก่อนหน้านี้ผมเริ่มต้นด้วย Trek Madone 2.1 แล้วก็เปลี่ยนมาเป็น Trek Madone 5.9 ผ่านทั้งทริป LRT สวนผึ้งของพ่อใหญ่ และขึ้นภูทับเบิก แต่แล้วด้วยความที่เจ้า 5.9 มีเบรคหลังอยู่ด้านล่าง จึงทำให้ยากต่อการ Service ผมจึงเปลี่ยนตัวเฟรมไปใช้ Madone 5.2 ปีเก่าซึ่งมีเบรคหลังอยู่ด้านบน แล้วใช้ชุดเกียร์ Ultegra ด้วยเหตผลที่ชอบเสน่ห์ของ Trek Madone ที่ผมว่าเป็นจักรยานที่ปั่นสบาย ด้วยองศาคอที่ไม่ต่ำมาก และยังกดแล้วพุ่ง กดแล้วมาตามเท้าเรา แถมยังไหลไม่อืดอีกด้วย ทางเรียบก็ว่าดี ผมว่าขึ้นเขาตัวนี้ก็ยืนโยกได้สนุกเลยทีเดียว
เอาล่ะ เมื่อผมเคลียร์งานหาเวลาว่างได้เสาร์-อาทิตย์ ผมจึงไม่รอช้าที่จะวางแผนพาแฟนไปเที่ยว+กับการเอาจักรยานไปปั่นซ้อมด้วยในตัว ซึ่งจุดหมายที่ผมวางไว้ครั้งนี้ ผมเลือกที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ปั่นที่ไม่ไกลจาก กทม. เท่าไรนัก แล้วผมยังติดใจในธรรมชาติเมื่อครั้งมาปั่นงาน LRT สวนผึ้ง เมื่อ 2-3 เดือนก่อน ครั้งนั้นผมมาปั่นงานนี้ประเภททีม กับเพื่อนๆ ระยะทาง 60 กิโล
เป็นทางขึ้นเขา-ลงเขา ผ่านทัศนียภาพที่สวยงาม อากาศดี แต่ด้วยครั้งนั้นเป็นงานแข่งผมจึงไม่มีโอกาสได้มองธรรมชาติสักเท่าไร ได้แต่มองล้อหลังคันหน้ามากกว่า ครั้งนี้ผมเลยตั้งใจ จะมาปั่นแบบซ้อมทางเขา สูดรับอาการบริสุทธิ์ และชมธรรมชาติ การซ้อมครั้งนี้ผมมีเป้าหมายครับ เป้าหมาย คือ งานดอยอินทนนท์ ที่จะมีขึ้นในต้นปีหน้า ตั้งใจว่าจะซ้อมให้ดีแล้วจะไปพิชิตให้ได้ ว่าแล้วก็จัดกระเป๋า เช้าวันเสาร์ ออกเดินทางจาก กทม. ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงสวนผึ้ง บนเส้นทางใน อ.สวนผึ้งนั้นเป็นทางเนิน สลับทางราบ มีโค้งหนักๆอยู่หลายโค้งด้วยกันรถของผมที่ใช้สำหรับทริปครั้งนี้คือ Toyota Altis นอกจากผมจะชอบจักรยานแล้วรถยนต์ผมก็ชอบขับเหมือนกันครับ
เพราะมันประทับใจเลยอยากเล่าสั้นๆ Altis คันนี้ ผมใช้มาจะปีแล้วครับ หลายคนถามผมบ่อยๆ ชอบออกต่างจังหวัดไปไกลๆ ทำไม
ไม่เลือกพวก SUV ไปเลย แต่ส่วนตัวผมว่ารถเก๋งขับแล้วผมรู้สึกมั่นใจมากกว่า เวลาเจอเส้นทางอย่างที่สวนผึ้ง มีโค้งหักศอกบ้างอะไรบ้าง เข้าโค้งได้ดี ช่วงล่างเกาะถนน และนุ่มกว่า SUV ด้วย ทำให้ได้ฟิลลิ่งการขับแบบไม่เหนื่อยทั้งคนนั่งคนขับ แต่คนนั่งข้างผมคงไม่เหนื่อยอยู่แล้ว นั่งสบาย หลับอย่างเดียว 555 แต่ถ้าใครจะซื้อรถเก๋งออกต่างจังหวัดบ่อยๆ สำหรับผมคิดว่าเครื่อง 1800 cc. น่าจะเหมาะครับ เพราะผมขับ Altis เร่งแซงได้มันส์มากบอกเลย อัตราเร่งดีสมคำร่ำลือ เวลาเจอทางขึ้นเขาชันๆ ก็ใช้วิธี shift เกียร์เรียกกำลังของเครื่องยนต์เอา จะทำให้ขับสนุกเร้าใจมากขึ้นครับ (ระหว่างทางดีนะที่คุณเธอหลับไม่งั้นคงไม่ได้ขับสนุกๆหรอกครับ) แล้วเราก็มาถึงจุดหมายแรก Scenery Farm