ปัญหาชีวิต คิดหนักใช่ย่อย!

คุณจะทำยังไง?? เมื่อเรียนมหาลัยไปได้ซักปีหรือสองปีแล้วรู้สึกไม่ไหว และตัดสินใจลาออก โดยไม่รู้ว่าตัวเองจะไปเรียนอะไรที่ชอบจริงๆแต่ก็หาทางออกไว้แต่ผู้ปกครองไม่ค่อยเห้นด้วยและหาทางออกให้ Facepalm (เนื้อหายาวนะครับ ถ้าทนอ่านไหว ผมขอกราบงามๆเลย พาพันขอบคุณ)
อยากเล่าแต่แรกเลย คือว่า ผมตอนอยู่ ม.ปลาย ค่อนข้างสนใจเรื่องกฎหมายพอสมควร จึงทุ่มเทอ่านกฎหมายเบื้องต้นจนสามารถไปแข่งและได้รางวัลมาได้(ที่3อะ) เลยคิดว่าตัวเองน่าจะเหมาะกับวิชานี้ ผมจึงตัดสินใจเลือกเรียนคณะนี้ซะเลย แต่ปรากฎว่าเรียนมาได้ซักพัก(ตอนนี้กำลังขึ้นปีสองและกำลังจะสอบมิดเทอม) เริ่มรู้สึกท้อเหลือเกิน ทำไมมันไม่แฮปปี้เหมือนเมื่อก่อนอาจจะเป็นเพราะมันยากขึ้นคงจะใช่เพราะตอนปีหนึ่งเทอมหนึ่งมันก็ง่ายๆ(ได้Aได้B) แต่พอเริ่มเทอมสองของปีหนึ่งเริ่มยากขึ้นละ แต่ก็ผ่านมาได้(ได้Cได้Dด้วยไม่ใช่AหรือB) จนตอนนี้เพิ่งขึ้นปีสองเทอมหนึ่งและเรียนมาได้ระยะนึงละ และกลับมาคิดว่าตัวเองจะรอดมั้ยเพราะเนื้อหามันเยอะขึ้น เรียนหลายตัวมากขึ้น ลึกขึ้น เกณฑ์คะแนนโหดขึ้น คิดไปคิดมาก็คิดว่าถ้าเรารู้สึกแบบนี้ รู้สึกท้อ ไม่ไหว อาจเป็นเพราะเรากำลังฝืนรึเปล่า เราอาจไม่ได้ชอบทางนี้จริงก็ได้ เลยตัดสินใจลาออกซะเลย เต่าเอือม แต่ก่อนลาออกก็คิดว่าจะไปไงต่อ แต่คิดเท่าไหร่ก็ไม่ออกว่าจะไปเรียนอะไร อะไรคือสิ่งที่เราชอบและสามารถตั้งใจกับมันจนจบโดยไม่ต้องมาคิดว่าจะไหวมั้ย ท้อมั้ย จะรอดมั้ย  สุดท้ายมาจบตรงที่คิดว่าไปลองสอบนายสิบดีตำรวจดีกว่า เพราะเหตุผลที่ว่าเราเกลียดคดีฆ่ากันตาย ทำร้ายร่างกาย คดีฆ่าข่มขืน คดีที่เอาเปรียบกันและกันแต่ไม่สามารถจะลงโทษผู้ร้ายได้หรือโทษที่มันได้รับมันไม่เหมาะสม เราเลยคิดว่าไปเป็นตำรวจและไปปฏิบัติหน้าที่ให้ผู้เคราะห์ร้ายได้รับความยุติธรรม สร้างรอยยิ้มกลับมาให้เค้าและทำให้กฎหมายประเทศไทยกลับมาน่าเชื่อถืออีกครั้ง ไม่ต้องมีใครมาว่ากฎหมายไทยมันอย่างนู้นอย่างนี้อีก(นี่เราคิดมากไปเปล่าอมยิ้ม20) เราเลยรู้สึกว่ามันอาจจะใช่ก็ได้ อาจจะรุ้สึกแฮปปี้ก็ได้ถ้าได้ทำเพื่อประชาชน แต่เผอิ้ญ...มันต้องผ่านการเกณฑ์ทหารก่อน(ถ้าอายุ18,19ปีไปสมัครนายสิบตำรวจได้เลย แต่ถ้าอายุ20ปีและได้หมายเรียก สด.35แล้ว ต้องไปเป็นหทารหรือผ่านการเกณฑ์ทหารก่อนถึงจะสามารถสอบนายสิบตำรวจได้ หลายๆคนเข้าใจผิดนะว่าใช้แค่วุฒิ ม.6 อย่างเดียว)ซึ่งผมตอนนี้อายุ20ปีและได้หมายเรียก สด.35 แล้วไง เลยต้องผ่านการเกณฑ์ทหารก่อน ผมก็เลยบอกไปว่าผมลาออกแล้วนะและจะมุ่งไปสมัครนายสิบตำรวจแต่ต้องผ่านการเกณฑ์ทหารก่อนซึ่งผมจะสมัครทหารและจะได้ฝึกแค่1ปีเพราะกลัวว่าจะจับได้ใบแดง(มันฝึก2ปี ก็คิดว่ามันจะเสียเวลา) แต่อีกใจก็อยากจับใบดำเหมือนกันเพราะถ้าได้ใบดำก็ไม่ต้องไปเป็นหทารละถือว่าผ่านการเกณฑ์ทหารเรียบร้อยสามารถไปสอบนายสิบตำรวจได้เลย แต่พอมาพูดแบบนี้ให้ครอบครัวฟัง  ครอบครัวกลับไม่สนับสนุน อยากให้ผมเรียนให้จบ แถมบอกว่าเรียนคณะนี้ไม่ไหว ก็เรียนคณะอื่นก็ได้ อย่างน้อยก็ได้ปริญญาเป็นใบเบิกทาง ทำให้ครอบครัวภูมิใจ อะไรที่เคยพูดให้คนอื่นฟังว่าลูกเราหลานเราได้เรียนมหาลัยและได้รับปริญญามันทำให้รู้สึกดีและคนอื่นไม่ดูถูกผมและครอบครัวเรา (เชิงเปรียบเทียบบ้านผมกับบ้านคนอื่นนั้นแหละ) และยังบอกว่าวัยผมยังเป็นวัยเรียนยังไม่ใช่วัยทำงาน หาความรู้ติดตัวไว้ก่อน ให้คิดถึงคนที่บ้านไว้เพราะเค้าคาดหวังในตัวผมมาก อยากให้ผมดูแลครอบครัวและเป็นแบบอย่างให้กับน้องๆหลานๆ... โอเค พอเค้าพูดแบบนี้ผมก็กลับเอามาคิดว่าที่เราตัดสินใจลาออกมหาลัยและจะไปสอบนายสิบตำรวจนั้นมันใช่หรือไม่ เม่าตาสว่าง ทำเพื่อครอบครัว? เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆ? ทำให้ครอบครัวภูมิใจ? ไม่เสียหน้าถ้าไปคุยกับบ้านหลังอื่น? แล้วคิดจะเป็นตำรวจตอนนี้มันเร็วไปงั้นหรอทั้งๆที่เค้ารับสมัครได้ตั้งแต่อายุ18ละ(ม.6) ทำงานตอนนี้มันเร็วไปงั้นหรอ? เม่าจอแดง2
***สุดท้าย ทางครอบครัวเค้าเสนอทางเลือกให้ผมมาสองทาง คือ 1.เรียนที่ใหม่โดยเทียบโอนหน่วยกิต(แปลว่าต้องคณะเดิม)และต้องผ่อนผันทหารไปจนกว่าจะเรียนจบแล้วค่อยไปสมัครทหารหรือจับสลาก จากนั้นค่อยไปสอบนายสิบตำรวจ 2.ถ้าอยากเป็นนายสิบตอนนี้ก็ได้นะ แต่ต้องจับสลากใบดำใบแดง ให้ลุ้นเอาว่าจะได้ดำหรือแดง ถ้าได้แดงก็ไปเป็นทหารสองปีและค่อยออกมาสอบนายสิบตำรวจ แต่ถ้าได้ใบดำก็ไปสอบนายสิบตำรวจได้เลย มีข้อแม้ว่าถ้าได้ใบดำแล้วต้องไปสมัครเรียนมหาลัยด้วยโดยเป็นการเผื่อไว้(ตัวเลือกสำรอง)คือถ้าไม่ติดนายสิบตำรวจก็ให้มาเรียนมหาลัยก่อนและค่อยไปเริ่มสอบนายสิบใหม่ปีหน้า
***พวกคุณคงสังเกตแล้วว่า ทางครอบครัวก็เห็นด้วยกับการจะเป็นตำรวจของผม แต่ก็อยากให้ผมเรียนให้ได้ปริญญาก่อนแล้วค่อยหางานทำหรือไปเป็นตำรวจ สำหรับผมนะ ผู้ปกครองเนี่ย กำหนดชีวิตให้ผมเลย ไม่ให้ผมได้ตัดสินใจเองเลย ไม่รุ้ด้วยซ้ำว่าผมไหวมั้ย จะทำได้ตามที่เค้าบอกมั้ย...เม่าผิงไฟ ผมคิดว่าผมโตแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว(อายุ20ปี) และหาทางออกได้ ผมไม่อยากให้ครอบครัวมากำหนดชีวิตผมมาก ขอแค่แนะนำก็พอ สั่งสอนก็พอ แต่ครอบครัวยังคิดว่าผมยังเด็ก คิดอะไรทำอะไรไม่ค่อยเป็น กลัวผมจะถูกเอาเปรียบ ถูกนินทา กลัวผมเข้าสังคมไม่ได้ ตรงนี้ผมก็เข้าใจ แต่การที่คนๆนึงจะโตขึ้นหรือเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มันก็ต้องเจออะไรร้ายๆอยู่แล้ว ต้องเผชิญปัญหาอะไรพวกนี้อยุ่แล้ว และพวกนี้แหละจะทำให้ผมโตขึ้นและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ถ้าผู้ปกครองมากำหนดชีวิตเรา ห้ามเราทำโน้นทำนี้ ต้องทำตามคำสั่งเท่านั้น แล้วเมื่อไหร่เราจะคิดเองเป็นหละ แล้วก็มาว่าเราว่าคิดเองไม่เป็น ทำไรก็ไม่เป็น ก็เพราะพวกผู้ปกครองมากำหนดให้ทำโน้นทำนี้ตามที่สั่งอยุ่นั้นแหละ แล้วเมื่อไหร่ผมจะคิดเองทำเองเป็นหละ!! ใช่มั้ยหละครับ ร้องไห้
***สุดท้ายนี้ ผมยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเป็นไงต่อไป แต่ถ้าเลือกข้อสองจากผู้ปกครองมันก็โอเคอยู่นะ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียนต่อคณะเดิมไหวมั้ยและถ้าจะเรียนอย่างอื่นก็ไม่รู้จะเรียนอะไร ในใจผมอยากจะเป็นตำรวจให้ได้เลยด้วยซ้ำแล้วค่อยตัดสินใจเรียนเพิ่มเติมในเรื่องที่เราสนใจทีหลังก็ได้ มันคงไม่สาย(เรื่องเรียนไม่มีคำว่าสายใช่มั้ย เม่าติดดอย) แต่ผมก็คิดนะ เป้นตำรวจมันก็ต้องเรียนกฎหมายอยู่แล้ว แต่ต้องเข้าใจนะครับ ตอนติดนายสิบตำรวจเค้าจะเรียนแค่ปีเดียวและบรรจุซึ่งปีเดียวเนี่ยคงไม่เรียนกฎหมายเยอะเท่ามหาลัยหรอกครับ เพราะมันต้องฝึกอะไรหลายๆอย่างด้วย มันเลยเปรียบเทียบได้ไม่ยากหรอกครับว่าเรียนกฎหมายจากที่ไหนไม่เครียดและไม่ยากมากกว่ากัน แน่นอนก็ต้องนายสิบอยุ่แล้ว เพราะมันเรียนและฝึกภายใน1ปีเท่านั้น ส่วนมหาลัยมันตั้ง4ปีนะครับ เป็นผมผมขอเลือกนายสิบดีกว่า แต่ทำไงได้ ผมมันเป็นแค่เด็กที่ทำอะไรไม่เป็น คิดอะไรไม่ได้ในสายตาพวกผู้ปกครองอยู่ เลยตัดสินใจอะไรก็มาแย้งมากำหนดทางเลือกให้ตลอด
ปล.ขอแค่รับฟังปัญหาที่ผมได้เล่าไปผมก็รู้สึกดีแล้วครับ ยิ่งพวกคุณกลับเอาไปคิดตาม หรือคอมเม้น ผมยิ่งรู้สึกดี หลายคนอาจมองต่างเพราะความคิดเราไม่เหมือนกัน ผมก็ไม่ว่าไร และขอบคุณที่คุณอ่านมาได้จนถึงบรรทัดนี้ ขอบคุณมากๆครับ ซึ้งมาก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่