[CR] One Day Trip – นั่งรถไฟไปนครปฐม – ใส่ชุดไทยถ่ายรูปที่พระราชวังสนามจันทร์_ใช้งบเพียง 219 บาทเท่านั้น @@



ก่อนที่จะมาเป็นทริปนั่งรถไฟไปนครปฐม เราและเพื่อนๆ ร่วมทริปคุยกันว่าอยากใส่ชุดไทยไปถ่ายรูปที่พระราชวังสนามจันทร์ จำได้ว่าหลายคนอยากจัดทริปนั่งรถไฟเที่ยว เราเลยเสนอไอเดียว่าลองนั่งรถไฟไปกันดีมั้ย ปรากฏว่าทุกคนเห็นด้วย แต่ปัญหาอยู่ตรงที่เราจะนัดกันไปขึ้นรถไฟที่ไหนดี
จะไปนครปฐมต้องนั่งรถไฟสายใต้ พอเช็คแล้วนอกจากหัวลำโพง สถานีที่ใกล้บ้านของทุกคนมากที่สุดคือชุมทางรถไฟบางซื่อ พวกเราจึงนัดกันที่นั่น พอเช็คเวลาแล้วเราเลือกรถไฟสาย 261 ชั้น 3 ซึ่งเป็นรถไฟฟรีจ้า จริงๆ ค่ารถไฟไม่แพงนะคะสิบกว่าบาทเองแต่ความงกไม่เคยปรานีใคร 555

พวกเรานัดกัน 08.45 แต่รถไฟจะออกจากหัวลำโพงมาถึงบางซื่อคือ 09.40 แต่เผื่อเวลาไว้สำหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนิดหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ราบรื่นดี น้องอีกคนในกลุ่มสะดวกขึ้นที่สถานีตลิ่งชัน

พอไปถึงก่อนอื่นก็ดูตารางเวลาเพื่อความแน่ใจ แล้วก็ไปซื้อตั๋วค่ะ
เตรียมหลักฐานที่ใช้ในการซื้อตั๋วไปด้วยนะคะ เป็นบัตรประชาชนหรือไม่ก็หนังสือเดินทางค่ะ





โฉมหน้าตั๋วฟรีของพวกเราค่ะ




ระหว่างรอรถไฟเราก็กินข้าวเหนียวหมูทอดที่น้องในกลุ่มเตรียมมาพลางๆ ก่อน




ตอนแรกพวกเรานึกภาพกันว่าพอขึ้นจากสถานีบางซื่อแล้วนั่ง 3 คนก็จะเหลืออีกที่ไว้ให้น้องอีกคนพอดี จะได้นั่งชมวิวกันไปถ่ายรูปกันไป เม้าท์กันไป แต่เรื่องจริงคือ คนที่นั่งจากสถานีหัวลำโพงเขานั่งกันมาเต็มหมด บางคนนอนเหยียดยาวทั้งที่สามารถนั่งได้ 3 คน บางคนก็วางของบนที่นั่ง อันนี้ไม่ได้มาบ่นแต่เล่าให้ฟังเผื่อใครไปเป็นกลุ่มและอยากจะนั่งด้วยกันก็ไปขึ้นที่หัวลำโพงดีกว่าค่ะ






เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ ก็มาถึงสถานีนครปฐมค่ะ



พอออกจากสถานีมามองตรงไปข้างหน้าจะเห็นองค์พระปฐมเจดีย์อยู่ข้างหน้าเลยค่ะ



แผนของเราวันนี้คือ
-    กินข้าวหมูแดงร้านดัง
-    ไหว้พระ
-    ถ่ายรูปที่พระราชวังสนามจันทร์


พอเดินออกจากสถานีรถไฟตรงไปเรื่อยจนถึงถนนเลียบหน้าองค์พระปฐมเจดีย์เราก็เลี้ยวซ้ายไปซอยตลาดล่าง 3 เพื่อไปกินข้าวหมูแดงร้านนายฉั่ว ไปถึงช่วงเกือบเที่ยงคนยืนรอคิวกันเต็มหน้าร้านเลยค่ะ แต่สำหรับคนที่จะกินที่ร้านก็หาโต๊ะนั่งได้เลย เดี๋ยวจะมีคนมารับออเดอร์




วันนั้นเราสั่งข้าวรวมธรรมดา คือรวมทั้งหมูแดง หมูกรอบ และไก่ หน้าตาเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ




เราเป็นคนไม่กินหวานเลยถือว่ารสชาติพอใช้ไม่ถูกปากเท่าไหร่




หลังจากกินอิ่มก็ได้เวลาไปทำบุญไหว้พระกันแล้ว วันนี้เราโชคดีที่ฟ้าใส ท้องฟ้าสีสวยมาก แต่ก็ร้อนมากๆ เช่นกัน

เข้าไปไหว้พระกันค่ะ


















ไหว้พระเสร็จเราก็เดินทางต่อไปยังพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากพระปฐมเจดีย์ประมาณ 2 กิโลเมตร
พวกเราเลือกนั่งรถตุ๊กๆ กันค่ะ ค่ารถ 80 บาท ถ้าต่ออาจจะถูกลงนิดหน่อยแต่วันนั้นร้อนมาก พอคนขับบอก 80 บาทเราก็กระโดดขึ้นไปนั่งกันเลยทันที



รถตุ๊กๆ มาส่งเราถึงหน้าวัง พวกเราขอเบอร์โทรศัพท์สำหรับโทรให้มารับตอนกลับด้วย เพราะดูท่าทางน่าจะเดินกันจนเหนื่อย เอาแบบเดินทางสะดวกดีกว่า

ค่าเข้าวังคนละ 30 บาทนะคะ

สำหรับการแต่งตัว ถ้าใครใส่กระโปรงต้องเลยเข่าลงไปถึงน่องเลยนะคะ
วันนั้นน้องคนหนึ่งในกลุ่มใส่กระโปรแต่เลยเข่าไปนิดเดียว ดีที่น้องอีกคนเอาผ้าถุงมาเผื่อ เลยนุ่งกันสดๆ ตรงนั้นเลย
ถ้าใครไม่มีรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่มีขายนะคะ ผืนละ 60 บาทมั้งถ้าจำไม่ผิด


ส่วนเสื้อต้องเป็นเสื้อมีแขนนะคะ เปิดไหล่ เว้าแขน แขนกุด ต้องมีผ้าคลุมค่ะ

มาชมบรรยากาศในพระราชวังกันดีกว่าค่ะ

สองเรือนนี้ชมได้เฉพาะด้านนอกนะคะ






พระตำหนักแรกที่เราจะแนะนำคือ พระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์ ซึ่งมีจุดเด่นที่สะพานทอดยาวเชื่อไปยังพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ ซึ่งมีอนุสาวรย์ย่าเหลอยู่ด้านหน้าค่ะ ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์ เข้าชมได้แต่ห้ามถ่ายรูปนะคะ













ถ้าใครชอบเรือนไทยต้องไปพลาดชมที่พระตำหนักทับขวัญนะคะ สวยงามจริงๆ วันนั้นที่เราไปแดดร้อนจัดมาก
แต่พอขึ้นไปบนพระตำหนักกลับเย็นสบาย เราเดินชมไปก็อดชื่นชมภูมิปัญญาไทยไม่ได้ ในความคิดเรา บ้านเรือนไทยนี่เหมาะกับคนไทยและประเทศไทยที่สุดแล้วล่ะค่ะ






ต่อมาเป็น พระตำหนักทับแก้ว เป็นเรือนไทยภาคกลางที่อาจเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบที่สุด
และเป็นแบบอย่างของสถาปัตยกรรมเรือนไทย ชั้นครู ที่ยังคงลักษณะของเรือนไทยภาคกลาง











ถัดไปเป็นพระที่นั่ง 3 พระที่นั่งที่อยู่ติดกันคือ พระที่นั่งพิมานปฐม พระที่นั่งวัชรีรมยา และ พระที่นั่งสามัคคีมุขมาตย์














หลังจากเดินเที่ยวจนกระทั่งได้เวลากลับแล้วเราก็ยังเดินไม่ทั่ว พวกเราโทรเรียกรถตุ๊กๆ มารับที่เดิม จากนั้นก็แวะหาอะไรกินที่หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ ร้านยังตั้งไม่เต็มบริเวณ แต่พวกเราต้องรีบกินเพราะกลัวตกรถ เราเลือกร้านผัดไทย หอยทอด ที่ส่งกลิ่นโชยมาแต่ไกล มื้อนั้นเราสั่งออส่วนหอยนางรม ผัดไทยกุ้งสด และทะเลทอดมากินกัน รสชาติใช้ได้ทีเดียว









หลังจากกินเสร็จก็เดินไปที่สถานีรถไฟ ตอนแรกตั้งใจว่าจะขึ้นรถตู้กลับ ซึ่งเที่ยวสุดท้ายจะออกตอน 1 ทุ่ม แต่พอดูเวลาแล้วน่าจะทันรถไฟฟรีเที่ยวสุดท้าย เราจึงเลือกกลับรถไฟกัน










ค่าใช้จ่ายในวันนั้น

ค่ารถตุ๊กๆ ไป-กลับ 2 คัน  320  บาท หาร 5 เท่ากับคนละ 64 บาท
ทำบุญ  400 บาท
ค่าข้าวหมูแดง + น้ำ   45  บาท
ค่าเข้าพระราชวัง 30 บาท
ค่าออส่วน+น้ำ  80 บาท
ค่าเดินทางไป-กลับ ระหว่างบ้านกับสถานีรถไฟ (แท็กซี่)  450 บาท
รวมทริปนี้ใช้เงิน  1069 บาท

ถ้าไม่รวมค่าเดินทางใน กทม. กับ ค่าเงินทำบุญ เราใช้จ่ายไปเพียง 219 บาท เท่านั้น
เป็นทริปที่ถูกมากจริงๆ ค่ะ

...................................................

รีวิวทริปอื่นของเราค่ะ
http://ppantip.com/topic/34146216
ชื่อสินค้า:   จ.นครปฐม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่