สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ ของตัวเราเอง ซึ่ง มีปัญหาผิวแพ้ง่ายมาก ผื่นขึ้นตลอด แบบหาสาเหตุไม่ได้
แต่สิ่งที่ทำให้เราเสียบุคลิกมากๆ คือการที่เราคันหัว มีรังแค และผมร่วงค่ะ
แต่ก่อนเราไม่เคยแพ้อะไรเลย หนังหัว หนังหน้าแข็งแรงมาก อยู่ดีๆ เป็นเหมือนเปิดสวิตซ์ค่ะ เป็นปุ๊บปั๊บทันที
อยู่ดีๆ ก็เริ่มมีรังแคค่ะ และมีอาการคันหัว ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียกเท่าไหร่ ก็เกาๆไปค่ะ เกาๆ แกะๆ รังแคตกเต็มไหล่เลย จนรู้สึกว่า เห้ยไม่โอเคแล้วอ่ะ แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรนะคะ แค่เปลี่ยนแชมพูไปเรื่อยๆ ใช้ทั้ง แชมพูยาสีแดงบ้าง แชมพูจีนสีเขียว ก็ไม่ดีขึ้น แต่ไม่ได้ไปหาหมอค่ะ
ระหว่างเปลี่ยนแชมพูไปเรื่อยๆ ก็ ใช้วิธีวิ่งเข้าห้องน้ำ ก้มหัวสะบัดๆ ลงอ่างให้รังแคมันร่วงออกมาก่อน เวลาออกไปเจอเพื่อนจะได้ไม่ร่วงต่อหน้าต่อตา (เคยเป็นไหมคะ แบบ โค ตร คันหัว อยากเกามากๆ แต่ไม่กล้าเกา เพราะกลัวรังแคร่วงต่อหน้าคนอื่น) และไม่ใส่เสื้อสีเข้มค่ะ กลัวคนสังเกต
นานๆเข้าไป (ผ่านไปเป็นปีค่ะ คือเราจะมีนิสัยตรงที่ว่า ไม่ไปหาหมอหน้า หมอผิวหนังเพราะคิดว่าเปลืองไม่จำเป็น จะไปหาหมอเมื่อป่วยหนักจริงๆค่ะ เลยคิดว่าไปหาหมอเพราะมีรังแค มันไม่ใช่ แหะๆ) เหมือนมันลามค่ะ ลามไปคันหลังหูฝั่งนึง ก็เกาๆ และแกะออกมาเป็นแผ่นๆ เหมือนผิวหนังมันหนาตัวมาก เป็นแข็งๆ เราก็มือบอนค่ะ เวลาอ่านหนังสือสอบไรงี้ มือว่างๆ ก็จัดการลอกมันออกมาดู
(แล้วดีดทิ้ง -_- ยอมรับว่าทุเรศมาก55)
มีวันนึงคิดขึ้นมาได้ว่า ไหนลองส่องกระจกดูหน่อยสิ๊ โห พอส่องกระจกดูนี่กรี๊ดค่ะ น่ากลัวมากกกกกกกกกกก คือหนังหัวแดงเป็นแผ่นขาวๆคลุมอยู่ หลังหูเป็น วงแดงๆ มีแผ่นหนังแข็งๆคลุมอยู่ เราลองคลำ มันคือไอ้หนังที่เราคิดว่ารังแคนี่ล่ะค่ะ คราวนี้เครียดเลย หาข้อมูลต่างๆ นาๆ คิดว่าตัวเปงเป็นสะเก็ดเงิน (แต่ก็ยั้งงง ไม่ได้ไปหาหมอ) มีรูปให้ดูค่ะ มันนานแล้ว พยามค้นมา ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ น่ากลัวนิดหน่อยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทีนี้เราก็ค้นหาข้อมูลเยอะมากสรุป ให้กับตัวเองได้ว่า
1. เราน่าจะแพ้ง่าย แพ้สารเคมีในแชมพู พวก สาร paraben SLS sillicone
2. เราคิดว่าเราเป็นยีสต์ที่หัวด้วยค่ะ 555555 คอนเฟิร์มจากการ swab (ขูดหนังหัว) หนังหัวตัวเองไปย้อมสีดู พอส่องกล้องจุลทรรศน์ ดูเท่านั้นแหละ เงิบไปสามสิบวิ
เห็น ยีสต์ด้วยอ้ะะะะ มีแบคทีเรียนิดหน่อย (อายจัง แต่ก็ยอมพลีชีพค่ะ เป็นเรื่องปกติเน๊าะ ปุถุชนทั่วไปก็พบได้ 555)
3. ผมร่วงเยอะจากการใช้ครีมนวด ตามท้องตลาดทั่วไป อันนี้สำคัญเพราะ ซิลิโคนมันไปอุดตันรูขุมขน แล้ว ล้างไม่ออกนะจ๊ะ อยู่ยาวเลย ทำให้ผมร่วง บางคนเกิดสิวอุดตันด้วย
4. ชอบอาบน้ำร้อนมากกกกกก และเดิมทีเป็นคนผิวแห้ง หนังหัวก็ยิ่งแห้งใหญ่ค่ะ
ทางออกของเราคือ
1. เปลี่ยนแชมพู มาใช้แชมพูธรรมชาติ อ่อนโยน ที่เราใช้ ใช้กับคนท้องได้ด้วย เลยไม่มีสารเคมีพวก paraben SLS sillicone
ข้อดี : อ่อนโยน ใช้แล้วไม่แพ้ มีสารบำรุงเยอะ เช่นอัญชัญ ช่วยเรื่องการไหลเวียน blood vessel ไปเลี้ยงรากผมได้ดีขึ้น
เปลือกมังคุด่วยเรื่อง การฆ่าเชื้อบนหนังศีรษะของเรา (ที่เป็นสาเหตุของการคันและรังแค) ตัวบำรุงเยอะมาก Aloe vera น้ำผึ้ง ที่สำคัญ หอมมากๆ
สระได้ทุกวัน (เราหนังหัวแห้ง เลยต้องใช้ครีมนวดร่วมด้วย)
ข้อเสีย : ฟองไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ฟองจะมาตอนสระรอบสอง
ทางคนขายเค้าบอกว่า ถ้าใช้แล้วต้องนวดหัวไปด้วย ทิ้งไว้สักแป๊บ ค่อยล้างออกค่ะ ให้ตัวบำรุงได้ทำงานหน่อย
2. ใช้ Tar shampoo ร่วมด้วย นานๆ ที ตัวนี้ช่วยเรื่อง ลดการแบ่งเซลล์ของชั่นผิวค่ะ ก็คือช่วยเรื่องรังแคอีกแรงหนึ่ง อันนี้ได้มาจากหมอ
ได้มาทีหลังค่ะ ใช้สระก่อนแชมพูอ่อนโยนค่ะ ทิ้งไว้สามนาที ล้างออก แล้วค่อยลงแชมพูอ่อนโยนอีกที เรานานๆใช้ทีค่ะ ไม่ได้ใช้ทุกวัน แต่ถ้าใคร หนังศีรษะลอกเยอะ ช่วงแรก แนะนำให่ใช้ทุกวันไปก่อนนะคะ (ไม่ก็วันเว้นวัน)
ข้อดีคือ : จากการอ่านข้อมูลมา ช่วยเรื่องรังแค (แต่เรามาเริ่มฝช้ทีหลังหลังจากใช้แชมพู อ่อนโยนไปแล้วสองเดือน แต่พอใช้แล้วก็ดีนะคะ ไม่มีรังแคเพิ่ม
ข้อเสีย : เหม็นมากเลยค่ะ กลิ่นเหมือนน้ำมันเครื่อง หรือเคมี ฉุนๆ
แต่ก็เก็บไว้ใช้เป็นไอเทมเสริมสร้างความมั่นใจค่ะ
3. เนื่องจากเราหนังศีรษะแห้ง ทำให้ บางทีคันหัว และรังแคเป็นผงๆ เลยต้องใช้ครีมนวดค่ะ อันนี้ก็ครีมนวดยี่ห้อเดียวกับ แชมพูนะคะ
ตอนแรกซื้อแชมพู แล้วเค้าแถม ครีมนวดหลอดเล็กมาให้ใช้ ในครีมนวดตัวนี้ไม่มีซิลิโคนค่ะ อันนี้คือที่ปลื้มมาก ตัวที่ทำให้นิ่มจะเป็นสารธรรมชาติเข้มข้น เอาไว้บำรุงหนังศีรษะได้เลย
ข้อดี : ธรรมชาติ อ่อนโยน *** ไม่มีซิลิโคน*** ทำให้นวดที่หนังศีรษะ ผ่อนคลายได้เลยค่ะ ไอเทมดีๆ สำหรับคนหนังศีรษะแห้ง กลิ่นหอมแบบ หวานๆ มะพร้าว ใช้แล้วหัวไม่มันค่ะ ที่สำคัญสิวอุดตันไม่ขึ้นด้วยค่ะ
ข้อเสีย : อาจจะเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ เคยใช้ครีมนวดทั่วๆไป คือมันไม่ได้ นิ่มลื่นปรื๊ด เหมือนครีมนวดทั่วไปค่ะ อารมณ์แบบ เป็นครีมมานวดๆหนังหัว แล้ว ค่อยๆ ลูบผม ตอนผมเปียก รู้สึกไม่ลื่น ต้องใช้เยอะ สำหรับคนผมยาว
ปล. แต่พอล้างออก เป่าแห้งแล้วผม มีน้ำหนักดีค่ะ ใช้มาครบ สามเดือนแล้ว ผมเงางามเป็นธรรมชาติ
จากรูปนะคะ หลอดเขียวๆ หลอดแรก เป็นครีมนวดค่ะ หลอดนี้ได้แถมฟรีจากการที่เราซื้อแชมพู พอใช้ดี เราเลยไปซื้อขวดจริงมาใช้ ปรากฏว่าเค้าแถม hair mask มาให้ค่ะ หลอดสีม่วงๆ (เยินๆหน่อย เพราะใช้หมด นานแล้ว) ใช้ดีค่ะ เอาไว้หมักผมเป็นอาหารผมใช้แล้วผมมีน้ำหนักขึ้น แต่เรายังไม่ได้ซื้อมาใช้อีกนะคะ เพราะไม่ค่อยมีเวลาหมักผม
4. ในวันที่ seb derm กำเริบ แบบคันมากๆ หรือลอกสุดๆ (สาเหตุจาก ความเครียด นอนไม่พอ แอลกอฮลล์) เราได้ ครีม elomet มาจากคุณหมอค่ะ
เป็น สเตียรอยด์สังเคราะห์ ช่วยลดการแพ้ แต่ใช้ได้ระยะสั้นๆ นะคะ ตามคำสั่งหมอ ส่วยใหญ่ถ้าเราไม่ เยินจริงเราไม่ค่อยทาค่ะ
5. พยายามสระผมด้วยน้ำเย็นค่ะ เพราะว่าการสระน้ำร้อนหนังหัวแห้งมาก
6. สำหรับคนที่ผมร่วงเยอะ*** พยายามนวดๆๆ หนังศีรษะค่ะ กระตุ้น blood circulation ให้ไปเลี้ยงรากผม ช่วยได้เยอะมาก
(อ้อห้าม เครียดนะคะ ตอนไหนเครียด นี่ร่วงกราว) ถ้ามีเวลาว่างใช้ดอกอัญชัญสด นี่แหละค่ะ นวดหัวขยำกีบหัว ไม่ก้อไปทำคลุกคลิกกับน้ำสะอาดแล้วเอามานวดหนังหัวค่ะ พอดีที่บ้านเราปลูกอัญชัญ คุณแม่ก็จะเก็บดอกมาตากแห้งไว้ วันไหนเราว่างๆเราก็เอามาต้มน้ำข้นๆแล้วนวดหัว
เคล็ดลับของเราคือ ชวนคุณแม่มาดูหนังเกาหลีด้วยกันวันพักผ่อน แล้ววานให้คุณแม่ช่วยละเลงบนหัวให้หน่อย 5555 คุณแม่ใจดีเลย นวดๆ ต่อให้
ท่านไหนมีคนรู้ใจเคียงข้างกาย ก็ไหว้วานกันเอาเองนะคะ ถ้าใครไม่มีก็นวดเองเลยค่าา
7. สำหรับคนผมยาว เวลาหวีผม ให้หวีตอนผมแห้งนะคะ ถ้าหวีตอนผมเปียก เส้นผมจะขาดร่วงค่ะ หรือ สางผมด้วยนิ้วมือเบาๆ ตอนนวดครีมนวดก็ได้ค่ะ
อาจจะมีผมหลุดร่วงบ้าง ไม่ต้องกังวล เพราะ ปกติ ผมมันต้องร่วงตาม cycle ของมันอยู่แล้วค่า
8. เปลี่ยนปลอกหมอนค่ะ >///< เดี๋ยวรา กับยีสต์ขึ้นหัวเหมือน จขกท นะคะ T_T
หลังจากเราใช้แชมพูใหม่ และเคร่งครัด ตามวิธีที่ได้กล่าวไปแล้ว
ผ่านไปสองเดือน หนังศีรษะเราดีขึ้นมากๆ ค่ะ แผ่นลอกๆที่หลังหู บางลง ไม่ลอก (ถ้าไม่แกะ) ไม่คันหัวแล้ว ผมร่วงน้อยลงค่ะ
จากรูปจะเห็นว่า หลังหูยังเห็นเป็นแผ่นๆ อยู่นิดหน่อย ที่ไรผมหลังหู ไม่ลอกแล้ว ไม่แดงไม่คัน มีเศษรังแค นิดนึง
จนถึงปัจจุบันนะคะ สามเดือนกว่าแล้ว
ตอนนี้หลังหูเป็นผิวเนียนสวยแล้ว แอบมีขุยๆนิดนึง ไรผมขาวเนียน แต่โดยรวม เราปลื้มมากกก ได้แค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ
สุดท้ายแล้วเราว่าเรื่อง หนังศีรษะนี่เป็นอะไรที่สำคัฯกว่าที่คิด และ ส่งผลต่อบุคลิกอย่างมาก ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีปัญหา ก็รีบไปหาหมอนะคะ หรือไม่ก็ลองหาแชมพูที่ เหมาะสมกับตัวเอง แบบใช้แล้วไม่แพ้ ส่วนถ้าใครเป็น seb derm แบบเรา ก็ต้องมีวินัย และใส่ใจตัวเองมากขึ้น อย่าปล่อยให้ หนังหัวเยินแบบเราแล้วค่อยดูแลนะคะ รีบแก้ไข จะได้หายเร็วๆ
อาจจะยาวไปหน่อย แต่หวังว่า จะเป็นประโยชน์ แต่เพื่อนๆ ที่มีปัญหาเรื่องหนังศีรษะแบบเราค่ะ
แชร์ประสบการณ์ ผ่านวิกฤติ seb derm หนังศีรษะลอกเป็นแผ่น รังแคบุก ผมร่วง คันหัวมาก
แต่สิ่งที่ทำให้เราเสียบุคลิกมากๆ คือการที่เราคันหัว มีรังแค และผมร่วงค่ะ
แต่ก่อนเราไม่เคยแพ้อะไรเลย หนังหัว หนังหน้าแข็งแรงมาก อยู่ดีๆ เป็นเหมือนเปิดสวิตซ์ค่ะ เป็นปุ๊บปั๊บทันที
อยู่ดีๆ ก็เริ่มมีรังแคค่ะ และมีอาการคันหัว ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียกเท่าไหร่ ก็เกาๆไปค่ะ เกาๆ แกะๆ รังแคตกเต็มไหล่เลย จนรู้สึกว่า เห้ยไม่โอเคแล้วอ่ะ แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรนะคะ แค่เปลี่ยนแชมพูไปเรื่อยๆ ใช้ทั้ง แชมพูยาสีแดงบ้าง แชมพูจีนสีเขียว ก็ไม่ดีขึ้น แต่ไม่ได้ไปหาหมอค่ะ
ระหว่างเปลี่ยนแชมพูไปเรื่อยๆ ก็ ใช้วิธีวิ่งเข้าห้องน้ำ ก้มหัวสะบัดๆ ลงอ่างให้รังแคมันร่วงออกมาก่อน เวลาออกไปเจอเพื่อนจะได้ไม่ร่วงต่อหน้าต่อตา (เคยเป็นไหมคะ แบบ โค ตร คันหัว อยากเกามากๆ แต่ไม่กล้าเกา เพราะกลัวรังแคร่วงต่อหน้าคนอื่น) และไม่ใส่เสื้อสีเข้มค่ะ กลัวคนสังเกต
นานๆเข้าไป (ผ่านไปเป็นปีค่ะ คือเราจะมีนิสัยตรงที่ว่า ไม่ไปหาหมอหน้า หมอผิวหนังเพราะคิดว่าเปลืองไม่จำเป็น จะไปหาหมอเมื่อป่วยหนักจริงๆค่ะ เลยคิดว่าไปหาหมอเพราะมีรังแค มันไม่ใช่ แหะๆ) เหมือนมันลามค่ะ ลามไปคันหลังหูฝั่งนึง ก็เกาๆ และแกะออกมาเป็นแผ่นๆ เหมือนผิวหนังมันหนาตัวมาก เป็นแข็งๆ เราก็มือบอนค่ะ เวลาอ่านหนังสือสอบไรงี้ มือว่างๆ ก็จัดการลอกมันออกมาดู
(แล้วดีดทิ้ง -_- ยอมรับว่าทุเรศมาก55)
มีวันนึงคิดขึ้นมาได้ว่า ไหนลองส่องกระจกดูหน่อยสิ๊ โห พอส่องกระจกดูนี่กรี๊ดค่ะ น่ากลัวมากกกกกกกกกกก คือหนังหัวแดงเป็นแผ่นขาวๆคลุมอยู่ หลังหูเป็น วงแดงๆ มีแผ่นหนังแข็งๆคลุมอยู่ เราลองคลำ มันคือไอ้หนังที่เราคิดว่ารังแคนี่ล่ะค่ะ คราวนี้เครียดเลย หาข้อมูลต่างๆ นาๆ คิดว่าตัวเปงเป็นสะเก็ดเงิน (แต่ก็ยั้งงง ไม่ได้ไปหาหมอ) มีรูปให้ดูค่ะ มันนานแล้ว พยามค้นมา ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ น่ากลัวนิดหน่อยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทีนี้เราก็ค้นหาข้อมูลเยอะมากสรุป ให้กับตัวเองได้ว่า
1. เราน่าจะแพ้ง่าย แพ้สารเคมีในแชมพู พวก สาร paraben SLS sillicone
2. เราคิดว่าเราเป็นยีสต์ที่หัวด้วยค่ะ 555555 คอนเฟิร์มจากการ swab (ขูดหนังหัว) หนังหัวตัวเองไปย้อมสีดู พอส่องกล้องจุลทรรศน์ ดูเท่านั้นแหละ เงิบไปสามสิบวิ
เห็น ยีสต์ด้วยอ้ะะะะ มีแบคทีเรียนิดหน่อย (อายจัง แต่ก็ยอมพลีชีพค่ะ เป็นเรื่องปกติเน๊าะ ปุถุชนทั่วไปก็พบได้ 555)
3. ผมร่วงเยอะจากการใช้ครีมนวด ตามท้องตลาดทั่วไป อันนี้สำคัญเพราะ ซิลิโคนมันไปอุดตันรูขุมขน แล้ว ล้างไม่ออกนะจ๊ะ อยู่ยาวเลย ทำให้ผมร่วง บางคนเกิดสิวอุดตันด้วย
4. ชอบอาบน้ำร้อนมากกกกกก และเดิมทีเป็นคนผิวแห้ง หนังหัวก็ยิ่งแห้งใหญ่ค่ะ
ทางออกของเราคือ
1. เปลี่ยนแชมพู มาใช้แชมพูธรรมชาติ อ่อนโยน ที่เราใช้ ใช้กับคนท้องได้ด้วย เลยไม่มีสารเคมีพวก paraben SLS sillicone
ข้อดี : อ่อนโยน ใช้แล้วไม่แพ้ มีสารบำรุงเยอะ เช่นอัญชัญ ช่วยเรื่องการไหลเวียน blood vessel ไปเลี้ยงรากผมได้ดีขึ้น
เปลือกมังคุด่วยเรื่อง การฆ่าเชื้อบนหนังศีรษะของเรา (ที่เป็นสาเหตุของการคันและรังแค) ตัวบำรุงเยอะมาก Aloe vera น้ำผึ้ง ที่สำคัญ หอมมากๆ
สระได้ทุกวัน (เราหนังหัวแห้ง เลยต้องใช้ครีมนวดร่วมด้วย)
ข้อเสีย : ฟองไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ฟองจะมาตอนสระรอบสอง
ทางคนขายเค้าบอกว่า ถ้าใช้แล้วต้องนวดหัวไปด้วย ทิ้งไว้สักแป๊บ ค่อยล้างออกค่ะ ให้ตัวบำรุงได้ทำงานหน่อย
2. ใช้ Tar shampoo ร่วมด้วย นานๆ ที ตัวนี้ช่วยเรื่อง ลดการแบ่งเซลล์ของชั่นผิวค่ะ ก็คือช่วยเรื่องรังแคอีกแรงหนึ่ง อันนี้ได้มาจากหมอ
ได้มาทีหลังค่ะ ใช้สระก่อนแชมพูอ่อนโยนค่ะ ทิ้งไว้สามนาที ล้างออก แล้วค่อยลงแชมพูอ่อนโยนอีกที เรานานๆใช้ทีค่ะ ไม่ได้ใช้ทุกวัน แต่ถ้าใคร หนังศีรษะลอกเยอะ ช่วงแรก แนะนำให่ใช้ทุกวันไปก่อนนะคะ (ไม่ก็วันเว้นวัน)
ข้อดีคือ : จากการอ่านข้อมูลมา ช่วยเรื่องรังแค (แต่เรามาเริ่มฝช้ทีหลังหลังจากใช้แชมพู อ่อนโยนไปแล้วสองเดือน แต่พอใช้แล้วก็ดีนะคะ ไม่มีรังแคเพิ่ม
ข้อเสีย : เหม็นมากเลยค่ะ กลิ่นเหมือนน้ำมันเครื่อง หรือเคมี ฉุนๆ
แต่ก็เก็บไว้ใช้เป็นไอเทมเสริมสร้างความมั่นใจค่ะ
3. เนื่องจากเราหนังศีรษะแห้ง ทำให้ บางทีคันหัว และรังแคเป็นผงๆ เลยต้องใช้ครีมนวดค่ะ อันนี้ก็ครีมนวดยี่ห้อเดียวกับ แชมพูนะคะ
ตอนแรกซื้อแชมพู แล้วเค้าแถม ครีมนวดหลอดเล็กมาให้ใช้ ในครีมนวดตัวนี้ไม่มีซิลิโคนค่ะ อันนี้คือที่ปลื้มมาก ตัวที่ทำให้นิ่มจะเป็นสารธรรมชาติเข้มข้น เอาไว้บำรุงหนังศีรษะได้เลย
ข้อดี : ธรรมชาติ อ่อนโยน *** ไม่มีซิลิโคน*** ทำให้นวดที่หนังศีรษะ ผ่อนคลายได้เลยค่ะ ไอเทมดีๆ สำหรับคนหนังศีรษะแห้ง กลิ่นหอมแบบ หวานๆ มะพร้าว ใช้แล้วหัวไม่มันค่ะ ที่สำคัญสิวอุดตันไม่ขึ้นด้วยค่ะ
ข้อเสีย : อาจจะเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ เคยใช้ครีมนวดทั่วๆไป คือมันไม่ได้ นิ่มลื่นปรื๊ด เหมือนครีมนวดทั่วไปค่ะ อารมณ์แบบ เป็นครีมมานวดๆหนังหัว แล้ว ค่อยๆ ลูบผม ตอนผมเปียก รู้สึกไม่ลื่น ต้องใช้เยอะ สำหรับคนผมยาว
ปล. แต่พอล้างออก เป่าแห้งแล้วผม มีน้ำหนักดีค่ะ ใช้มาครบ สามเดือนแล้ว ผมเงางามเป็นธรรมชาติ
จากรูปนะคะ หลอดเขียวๆ หลอดแรก เป็นครีมนวดค่ะ หลอดนี้ได้แถมฟรีจากการที่เราซื้อแชมพู พอใช้ดี เราเลยไปซื้อขวดจริงมาใช้ ปรากฏว่าเค้าแถม hair mask มาให้ค่ะ หลอดสีม่วงๆ (เยินๆหน่อย เพราะใช้หมด นานแล้ว) ใช้ดีค่ะ เอาไว้หมักผมเป็นอาหารผมใช้แล้วผมมีน้ำหนักขึ้น แต่เรายังไม่ได้ซื้อมาใช้อีกนะคะ เพราะไม่ค่อยมีเวลาหมักผม
4. ในวันที่ seb derm กำเริบ แบบคันมากๆ หรือลอกสุดๆ (สาเหตุจาก ความเครียด นอนไม่พอ แอลกอฮลล์) เราได้ ครีม elomet มาจากคุณหมอค่ะ
เป็น สเตียรอยด์สังเคราะห์ ช่วยลดการแพ้ แต่ใช้ได้ระยะสั้นๆ นะคะ ตามคำสั่งหมอ ส่วยใหญ่ถ้าเราไม่ เยินจริงเราไม่ค่อยทาค่ะ
5. พยายามสระผมด้วยน้ำเย็นค่ะ เพราะว่าการสระน้ำร้อนหนังหัวแห้งมาก
6. สำหรับคนที่ผมร่วงเยอะ*** พยายามนวดๆๆ หนังศีรษะค่ะ กระตุ้น blood circulation ให้ไปเลี้ยงรากผม ช่วยได้เยอะมาก
(อ้อห้าม เครียดนะคะ ตอนไหนเครียด นี่ร่วงกราว) ถ้ามีเวลาว่างใช้ดอกอัญชัญสด นี่แหละค่ะ นวดหัวขยำกีบหัว ไม่ก้อไปทำคลุกคลิกกับน้ำสะอาดแล้วเอามานวดหนังหัวค่ะ พอดีที่บ้านเราปลูกอัญชัญ คุณแม่ก็จะเก็บดอกมาตากแห้งไว้ วันไหนเราว่างๆเราก็เอามาต้มน้ำข้นๆแล้วนวดหัว
เคล็ดลับของเราคือ ชวนคุณแม่มาดูหนังเกาหลีด้วยกันวันพักผ่อน แล้ววานให้คุณแม่ช่วยละเลงบนหัวให้หน่อย 5555 คุณแม่ใจดีเลย นวดๆ ต่อให้
ท่านไหนมีคนรู้ใจเคียงข้างกาย ก็ไหว้วานกันเอาเองนะคะ ถ้าใครไม่มีก็นวดเองเลยค่าา
7. สำหรับคนผมยาว เวลาหวีผม ให้หวีตอนผมแห้งนะคะ ถ้าหวีตอนผมเปียก เส้นผมจะขาดร่วงค่ะ หรือ สางผมด้วยนิ้วมือเบาๆ ตอนนวดครีมนวดก็ได้ค่ะ
อาจจะมีผมหลุดร่วงบ้าง ไม่ต้องกังวล เพราะ ปกติ ผมมันต้องร่วงตาม cycle ของมันอยู่แล้วค่า
8. เปลี่ยนปลอกหมอนค่ะ >///< เดี๋ยวรา กับยีสต์ขึ้นหัวเหมือน จขกท นะคะ T_T
หลังจากเราใช้แชมพูใหม่ และเคร่งครัด ตามวิธีที่ได้กล่าวไปแล้ว
ผ่านไปสองเดือน หนังศีรษะเราดีขึ้นมากๆ ค่ะ แผ่นลอกๆที่หลังหู บางลง ไม่ลอก (ถ้าไม่แกะ) ไม่คันหัวแล้ว ผมร่วงน้อยลงค่ะ
จากรูปจะเห็นว่า หลังหูยังเห็นเป็นแผ่นๆ อยู่นิดหน่อย ที่ไรผมหลังหู ไม่ลอกแล้ว ไม่แดงไม่คัน มีเศษรังแค นิดนึง
จนถึงปัจจุบันนะคะ สามเดือนกว่าแล้ว
ตอนนี้หลังหูเป็นผิวเนียนสวยแล้ว แอบมีขุยๆนิดนึง ไรผมขาวเนียน แต่โดยรวม เราปลื้มมากกก ได้แค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ
สุดท้ายแล้วเราว่าเรื่อง หนังศีรษะนี่เป็นอะไรที่สำคัฯกว่าที่คิด และ ส่งผลต่อบุคลิกอย่างมาก ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีปัญหา ก็รีบไปหาหมอนะคะ หรือไม่ก็ลองหาแชมพูที่ เหมาะสมกับตัวเอง แบบใช้แล้วไม่แพ้ ส่วนถ้าใครเป็น seb derm แบบเรา ก็ต้องมีวินัย และใส่ใจตัวเองมากขึ้น อย่าปล่อยให้ หนังหัวเยินแบบเราแล้วค่อยดูแลนะคะ รีบแก้ไข จะได้หายเร็วๆ
อาจจะยาวไปหน่อย แต่หวังว่า จะเป็นประโยชน์ แต่เพื่อนๆ ที่มีปัญหาเรื่องหนังศีรษะแบบเราค่ะ