สวัสดีวันนี้ จขกท.จะมาเล่าประสบการณ์ชีวิตที่เกี่ยวกับเรื่องผีๆให้ฟัง เกิดขึ้นกับชีวิตจริงๆของ จขกท.
เรามาเริ่มกันเลยโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ครั้งแรกที่ จขกท.ได้เจอกับสิ่งที่ทุกคนไม่อยากจะเจอมันเริ่มจากการที่วันนั้น จขกท.ได้ไปเล่นน้ำที่หาดกับครอบครัว ตอนนั้นเราอายุได้7ปียังเป็นเด็กแล้วเล่นน้ำกับพี่สาวแม่และพี่ๆที่เป็นญาติอีก4-5คน ไอ้เราคิดอะไรก็ไม่รู้เห็นพี่สาวจับไหล่น้าแล้วไปหลังแพรเราก็เลยตัวไปด้วย แต่ตอนไปไม่มีใครเห็นเราเลยสักคนแม้กระทั้งพี่สาวและก็น้าเขาพอน้ากับพี่สาวเดินไปถึงแถวๆข้างแพรส่วนตรงนั้นหละที่มันลึกมาก ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะเพราะเราคิดว่าตามไปอีกนิดก็จะจับไหล่พี่สาวได้แล้วแต่หลังจากนั้นนะสิ อยู่ๆก็เหมือนมีอะไรมาถึงที่ขาแล้ว จขกท.ก็จู่น้ำตอนนั้นคิดว่ายังไงก็ต้องตายแน่ๆเลยเพราะแพรที่เรานั่งอยู่นั้นถัดไปอีกสี่แพรถ้าจะมีคนมาช่วยคงมาไม่ทันหรอก จขกท.เลยร้องเรียกแม่เป็นครั้งสุดท้าย
จขกท. “แม่จ้าช่วยด้วย”
พอสุดเสียงของเราภาพที่เห็นต่อจากนั้นคือ ยายของเราร้องเสียงดังมากเลยว่าหลานจ่มน้ำแล้วภาพต่อจากนั้นคือแม่ของเราเหมือนซูเปอร์ฮีโร่เลย กระโดดน้ำมาช่วยเราแต่เราก็เห็นแค่นั้นนะแล้วรู้สึกว่าเห็นแต่น้ำสีน้ำตาลๆโคตรกลัวเลยจนตื่นขึ้นมาอีกที่ลุงเราอุ้มแล้วเขย่าเรา
ลุงของเราบอกว่า “นึกว่าจะไม่รอดแล้วนะ มาซีดมาเลยจนเขย่าแรงๆครั้งสุดท้ายน้ำถึงออก”
หลังจากวันนั้นมาเราก็ไม่ลงเล่นน้ำอีกเลยไม่ว่าจะที่ไหนตามเพราะหลังจากเหตุการณ์วันไหนมันเลยทำให้เราได้เจอสิ่งที่ไม่ค่อยอยากจะเจอเท่าไร
(พอโตขึ้นเราได้ยินมาว่าทุกหาดจะมีการเส้นเจ้าที่โดยการเอาชีวิตคนนับสิบทำแบบนี้ทุกปีและทุกหาดที่อยู่บ้านเรา แต่ไม่รู้ว่าใช่เรื่องจริงหรือปล่าแต่เคยได้ยินลุงว่าวันที่เราไปเล่นน้ำก็เป็นวันหลังที่เขาบนกันเสร็จแล้วเพราะก่อนหน้านี้ก็มีคนจ่มน้ำมาแล้ว)
เปรต
หลังจากเห็นการณ์นั้นเกิดขึ้นเราก็ไม่ค่อยได้เจอกอะไรมากมายนอกจากเสียง แต่เสียงที่เราได้ยินชัดที่สุดคือเสียงเปรต ในวันวางข้าวศาสตร์ ตอนนั้นอายุ10ปีแล้วแม่เราทำงานที่โรงพยาบาลเลิกงานตอนเที่ยงคืนแม่จะชอบซื้อก๋วยเตี๋ยวมาให้เรากินวันนั้นเรานั่งรอแม่ที่ห้อง(บ้านเราเคยเป็นป่าช้ามาก่อนโดยเฉพาะห้องเราเป็นที่ฝังกระดูก ยายเราบอก)หลังจากที่แม่มาถึงเราก็ไปเอาถ้วยมาใส่ก๋วยเตี๋ยวแล้วเสียงก็ค่อยๆดังขึ้น
เสียง “วิ๊ด วิ๊ด” ในใจเราสงสัยไอ้เด็กข้างบ้านมันคงเป่านกวี้ดเล่นมั่งเพราะมันพึ่งเล่นอะไรที่เกี่ยวกับตำรวจทหารอยู่
แต่!!ไม่ใช่เพราะเสียงที่ได้ยินมันอยู่ทางข้างหลังบ้านเราที่เป็นป่าพื้นที่น่าจะไร่1มั้ง เสียงเริ่มดังขึ้นดังขึ้นดังมาทางที่ห้องเราเหมือนเสียงจะเข้ามาทางเราเลย ในตอนนั้นไม่ได้กลัวอะไรเลยนะเลยลองเปิดหน้าต่างดูก็ไม่เห็นอะไรสิ่งที่เห็นคือต้นตาลสองต้นไม่มีใบกับต้นไม้ที่เต็มไปหมด(ตอนที่เปิดหน้าต่างเสียงก็หายไปนะ)พอคิดว่าคงไม่มีอะไรเลยมานั่งกินก๋วยต่อแต่เสียงก็ไม่หยุดจนกระทั่งแม่ จขกท.เดินเข้ามา
เรา “แม่ได้ยินเสียงอะไรไหม”
แม่ “ไม่นิทำไมได้ยินอะไรอีกแล้วหรอ”
เรา “เปล่าๆ” เราไม่กล้าบอกแม่เพราะเดี๋ยวแม่จะหาว่าเราเป็นบ้าเราเลยปล่อยผ่านไปจนกระทั่งเช้าก็มาเจอพวกน้องที่กำลังเล่นกันอยู่เลยไปถามน้องชายข้างบ้านว่าได้ยินอะไรหรือเปล่ามือคืน
เรา “ปอเมือคือได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่า”
ปอ “ได้ยินสิ เจ๊ก็ได้ยินหรอ”
เรา “เออ แกว่าเสียงไรว่ะ”
ปอ “เสียงเปรต ย่าบอกเพราะย่าปอเห็นอยู่ตรงต้นตาลหลังบ้านเจ๊นะแต่ตอนตีสามตีสี่นะ”
ให้ตายเถอะมันเรื่องจริงหรอเนี่ยหลังบ้านเรามีผีโครตหน้ากลัวเลยบ้านเราก็ยิ่งเป็นบ้านเก่าอยู่แล้วจะมีอะไรไหมเนี่ยขอแค่เจอแต่เสียงก็พอนะอย่าออกมาให้เห็นเลยกลัว
ผีอำ
ผ่านมาหลายไม่นานเท่าไรแม่ของเราก็โดนผีอ่ำทุกๆคืนไม่รู้เป็นเพราะอะไรเรามักจะนอนกับแม่และได้ยินเสียงแม่ร้องทุกครั้งไม่รู้ว่าอำหรือเข้าฝันแต่แกจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งเมื่อแกนอนตัวตรงจะร้องว่า ไม่ไม่ ฮือๆ ทุกคืนแรกเรากลัวมากเลยนะเพราะแม่ร้องแบบนี้เราไม่เคยเจอแทบในห้องเราก็มีตุ๊กแกตัวใหญ่มากอยู่ด้านหลังตู้มันจะร้องตลอดเราอยู่กับมันจนชิน นานๆไปแล้วก็ชินที่แม่เป็นแบบนั้นแม่จะร้องหนักขึ้นทุกวันพระจนวันหนึ่งเราได้ยินเสียงแม่ร้องเราเลยพูดว่า
เรา “มาอีกแล้วหรอ เบื่อจัง” เราก็เดินไปเอาพระมาให้แม่ใส่แม่ก็หายตลอดแม่เป็นแบบนี้เป็นนานถึง2ปี เรามารู้ที่หลังว่าแม่เราเคยทำแท้งเราเลยคิดว่าน้องคงมาหาแม่หรือมาแกล้งแม่หรือเปล่า แม่หายเป็นยายไปถามใครก็ไม่รู้เขาคนนั้นบอกว่าตุ๊กแกที่อยู่บ้านเรานะเป็นตุ๊กแกผีให้เอาออกจากบ้านพอเอาออกแม่เราก็หายไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเราก็ไม่เข้าหรือจะเป็นเวรกรรมที่เราเคยทำเอาไว้ก็ไม่รู้(ในตอนนี้เราอายุ13ปีแล้ว)
ศาลเจ้าที่
หลังจากที่แม่เราหายเป็นปกติทุกอย่างก็กลับมาดีเหมือนเดิมไม่เคยเจออะไรเลยตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจนกระทั่งเราอายุ14ปีเราได้ไปนอนที่บ้านของพ่อเป็นบ้านจัดสรรสวยมากเลย สิ่งที่เราเห็นอย่างแรกเลยคือศาลเจ้าที่ไม่เคยทำความสะอาดเลยใช่ไหมเนี่ยโฮ่ว!รกมาก
วันนั้นเป็นวันที่เราลองย้ายไปอยู่ที่บ้านของพ่อเราอยู่ได้สองสามวันก็ดีนะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้นเราก็ไม่สบายหนักมาก คืนวันหนึ่งที่ทุกคนนอนหมดแล้วเตียงของ จขกท.จะอยู่ตรงข้ามกับประตูแล้วข้างนอกจะเป็นห้องน้ำใครได้ไปเดินมาก็จะเห็นเงา แต่วันนั้นมีคนมาเคาะที่ห้องเราก็กำลังจะหลับๆตื่นๆมองรอดไปที่ช่องด้านล่างของประตูก็เห็นเงาเท้าคนนะแต่ก็หาไปเลย หาแบบพลิ้ว!หายเลยอ่ะ ถ้าเป็นคนก็จะเป็นเงาขาที่เดินออกไปใช่ไหมแต่นี้แบบพลิ้วเหมือนหายตัวได้อะไรประมาณนั้นไอ้เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาหรอกนะก็เลยนอนต่อ จนเย็นวันต่อมาเราอาการดีขึ้นนิดหน่อยเราได้ออกไปซื้อของ
พ่อ “ออกไปซื้อพริกเผ่าให้หน่อย”
เราก็แกไปขับมอไซด์ออกไปไม่ถึง500เมตรก็ถึงร้านแต่ทางตรงนั้นไม่คอยมีไฟมีอยู่แถวกลางๆพอไฟตกกระมาเราก็จะเห็นเงาตัวเองแต่เรากับเห็นเงาของอีกคนนั่งที่ข้างหลังรถเราแบบตกใจมากรถเกือบล้มตั้งสติได้เลยหันไปมองพระเจ้าไม่มีใครเลย พอกลับไปก็ไม่พูดกับใครสักคนนอนอย่างเดียวเพราะไข้ขึ้นอีก จนต้องกลับมานอนที่บ้านแม่เรานอนช่วงสี่โมงเย็นจะห้าโมงเย็นนอนไม่รู้เรื่องอะไรเลยตอนนั้นเรามีน้องนะน้องของเราอายุ1ปีอ้วนมากเลย
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่น้องเรานะ คือเราโดยผีอำครั้งแรกในชีวิตเจ้าข้า
ฝันว่ามีหญิงแก่ๆคนหนึ่งมานอนข้างๆเราซึ่งเรานอนตะแคงอยู่แกนอนหันหน้ามาทางเรา จขกท.จำได้ติดตาเลยยายคนนั้นใส่ชุดขาวตาดำไม่มีสีขาวเคี้ยวหมาก(ขนลุก)ปากแดงผิดค้ำเราเลยหันไปอีกทางก็เห็นงูเหลือมยาวมากๆกำลังเลื้อยอยู่แล้วมองไปทางปลายเท้าเห็นผู้ชายร่างสูงตัวดำนุ่งผ้าเตียวสีแดงแล้วพูดว่า
ผู้ชายร่างสูงตัวดำนุ่งผ้าเตียวสีแดง “หมดเวลาของเจ้าแล้วมากับเราเถอะ”
หลังจากนั้นเราก็เดินไปกับผู้ชายคนนั้นเราเห็นตัวเรานอนอยู่ตรงนั้นแต่ไม่เห็นยายคนนั้นแล้วนะเราเดินออกมาทางหลังบ้านของเรากำลังจะข้ามกำแพงแต่เราได้ยินเสียงน้องของเราเรียกชื่อ...แล้วเห็นน้องมาดึงแขนเราเอาไว้เราเลยเพ้อพูดกับผู้ชายคนนั้นออกไปว่า
เรา “ขออยู่ต่ออีกหน่อยได้ไหมของให้เราได้เห็นน้องเรารับปริญาก่อนแล้วเราจะไปด้วย”
ผู้ชายร่างสูงตัวดำนุ่งผ้าเตียวสีแดง “ได้และข้าจะอยู่กับเจ้าตลอดเวลา”
หลังจากนั้นเราก็ตื่นชี่แตกใส่ที่นอนเลยนะเราไปเล่าให้ยายฟังยายเราบอกว่าขนลุกเลยยายเลยพาไปหาพระอาจารย์ที่ยายเรานับถือ พระอาจารย์ดูวันเดือนปีเกิดให้บอกว่าเรายังอยู่อีกนานยังไม่ตายหรอก เราก็ดีใจมากเลยเกือบตายแล้วไหมเรา แต่หลังจากวันนั้นเราก็คิดมาตลอดว่ามีคนอยู่กับเราบ้างครั้งก็ไม่ได้คิดไปเองเพราะทุกครั้งที่ไปกินข้าวกับเพื่อนพนักงานที่เสริฟจะเอาจานช้อนส้อมหรืแก้วมาเกินตลอด เพื่อนเราเลยชอบแซวว่า
เพื่อน “สงสัยผู้ชายนุ่งผ้าเตียวที่แกเคยเจอจะมานั่งกินด้วยนะ”
มาได้แต่อย่าทำอะไรเราก็พอ
หลังจากนั้นเราก็เจอมาเลื่อยๆทั้งเสียงทั้งเงาบางเจอจนชินโดยเฉพาะเจ้าที่เจ้าบ่อยเกินไปนะบ้างที่
มีอยู่วันหนึ่งเราได้ไปนอนที่บ้านเพื่อนบ้านเพื่อนของเราจะศาลอยู่หน้าบ้านแล้วเราไปนอนแบบไม่ได้บอกพอเรานอนๆอยู่เจ้าที่ก็เดินทะลุประตูแล้วมาเดินแถวปลายเตียงเดินไปเดินมาเรามองเห็นทุกอย่างเลยนะแต่ท่านมาแบบเงาเลยไม่กลัวเท่าไรเดินไปทะลุกำแพงเหมือนสงสัยว่าเราเป็นใครแต่ไม่ได้ทำอะไรประสบการณ์ชีวิตที่ไม่อยากได้
พอเราโตขึ้นมาหน่อยอายุ18ปีไม่ค่อยที่จะได้เจอแต่วันนั้นกลับบ้านจากเพื่อนไปกินเลี้ยงงานวันเกิดเพื่อน เพื่อนของเรามาส่งโดยขับรถผ่านหลังป่าช้าอะไรก็ไม่รู้ดลใจให้มาทางนี้พอขับมาถึงหอๆหนึ่งเรามองขึ้นไปบนตึกชั้นบนสุดก็เห็นเหมือนมีเสื้อห้อยอยู่พอดูดีๆเป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดทำกระโปรงยาวมาแคล้วคออยู่พอถามเพื่อนเพื่อนก็บอกว่าไม่เห็นอะไรเลยเราเลยมั่นใจมากเลยว่าวิ่งนั้นไม่ใช่คนอย่างแน่นอนเลยไม่สนใจพอหันกลับไปดูอีกที่ก็ไม่เห็นแล้ว พอไปถามรุ่นพี่ที่อยู่แถวนั้นแกก็บอกว่าแถวนั้นเป็นดอนเจ้าปู่มันต้องมีอะไรบ้างเป็นธรรมดา
ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอคือเมื่อเดือนที่แล้วกันยายน 2558 เราอายุ19ปี ช่วงนี้เรานอนดึกมากเพราะต้องทำงานส่งมหาลัยแต่วันนั้นเราอาบน้ำเสร็จกำลังจะไปนอนเราเห็นเงาที่เป็นขาผู้หญิงใส่กระโปรงยาวถึงเข่ามายืนอยู่แล้วก็หาไปแล้วเลยคิดว่าเรานะตาฟาดเพราะเราง่วงนอนมากเลยเอาไปนอนแต่หลังจากนั้นไม่นาน ยายจขกท.ก็ไปกรุงเทพ เราต้องมานอนห้องยายที่มีกระดูกตาทวดยาทวดอยู่ในห้อง(ไม่ชอบอะกลัวแกมาให้)สิ่งที่กลัวก็เป็นจริงครับเพราะวันนั้นตอนตีสามมีคนมาหาเราแต่ไม่รู้ว่าใครและไม่ใช่ยาทวดตาทวดด้วยแต่เป็นผู้หญิง เราเห็นแบบเดิมเห็นขาเห็นไปถึงเอวนอกนั้นไม่เห็นหลังจากวันนั้นเราไม่พูดให้ใครฟังเลยนะตั้งใจจะมาเล่าให้ยายฟังคนเดียวเลยพอยายเรามาเท่านั้นและ
เรา “ยายเมือคืนมาคนมาหาเป็นผู้หญิงนุ่งกระโปรงมาหาที่ห้องนั้งเล่นกับในห้องยายอะ”
ยาย “ใช่คนนี้หรือเปล่า”
เรา “ให้ตายเถอะขาแบบนี้กระโปรงแบบนี้เลย ใครอ่ะ”
ยาย “หลานตายนานแล้วนะไม่รู้ว่ามาทำไหม”
เรา “ใช่ มาทำไหม”
หลังจากบอกยายได้ไม่ถึงวันเราก็รถล้มขานี้เขียวไปหมดเลยช่ำ บวม เราเลยเข้าใจว่าผู้คนนั้นคงมาบอกเราเรื่องนี้มั่ง วันหลังเขียนใส่กระดาษบอกเลยนะจะได้ไม่เจ็บแบบนี้(ล้อเล่นนะค่ะยาย)
จบแล้วนี้คือสิ่งที่เราเห็นมาตั้งแต่จมน้ำมีมากกว่านี้นะแต่ไม่ได้มาให้เจอแบบนี้ นอกนั้นมาแบบเสียงหมด
เรื่องผีที่เจอมาตลอด13ปี ตอนรับฮาโลวีน
เรามาเริ่มกันเลยโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ครั้งแรกที่ จขกท.ได้เจอกับสิ่งที่ทุกคนไม่อยากจะเจอมันเริ่มจากการที่วันนั้น จขกท.ได้ไปเล่นน้ำที่หาดกับครอบครัว ตอนนั้นเราอายุได้7ปียังเป็นเด็กแล้วเล่นน้ำกับพี่สาวแม่และพี่ๆที่เป็นญาติอีก4-5คน ไอ้เราคิดอะไรก็ไม่รู้เห็นพี่สาวจับไหล่น้าแล้วไปหลังแพรเราก็เลยตัวไปด้วย แต่ตอนไปไม่มีใครเห็นเราเลยสักคนแม้กระทั้งพี่สาวและก็น้าเขาพอน้ากับพี่สาวเดินไปถึงแถวๆข้างแพรส่วนตรงนั้นหละที่มันลึกมาก ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะเพราะเราคิดว่าตามไปอีกนิดก็จะจับไหล่พี่สาวได้แล้วแต่หลังจากนั้นนะสิ อยู่ๆก็เหมือนมีอะไรมาถึงที่ขาแล้ว จขกท.ก็จู่น้ำตอนนั้นคิดว่ายังไงก็ต้องตายแน่ๆเลยเพราะแพรที่เรานั่งอยู่นั้นถัดไปอีกสี่แพรถ้าจะมีคนมาช่วยคงมาไม่ทันหรอก จขกท.เลยร้องเรียกแม่เป็นครั้งสุดท้าย
จขกท. “แม่จ้าช่วยด้วย”
พอสุดเสียงของเราภาพที่เห็นต่อจากนั้นคือ ยายของเราร้องเสียงดังมากเลยว่าหลานจ่มน้ำแล้วภาพต่อจากนั้นคือแม่ของเราเหมือนซูเปอร์ฮีโร่เลย กระโดดน้ำมาช่วยเราแต่เราก็เห็นแค่นั้นนะแล้วรู้สึกว่าเห็นแต่น้ำสีน้ำตาลๆโคตรกลัวเลยจนตื่นขึ้นมาอีกที่ลุงเราอุ้มแล้วเขย่าเรา
ลุงของเราบอกว่า “นึกว่าจะไม่รอดแล้วนะ มาซีดมาเลยจนเขย่าแรงๆครั้งสุดท้ายน้ำถึงออก”
หลังจากวันนั้นมาเราก็ไม่ลงเล่นน้ำอีกเลยไม่ว่าจะที่ไหนตามเพราะหลังจากเหตุการณ์วันไหนมันเลยทำให้เราได้เจอสิ่งที่ไม่ค่อยอยากจะเจอเท่าไร
(พอโตขึ้นเราได้ยินมาว่าทุกหาดจะมีการเส้นเจ้าที่โดยการเอาชีวิตคนนับสิบทำแบบนี้ทุกปีและทุกหาดที่อยู่บ้านเรา แต่ไม่รู้ว่าใช่เรื่องจริงหรือปล่าแต่เคยได้ยินลุงว่าวันที่เราไปเล่นน้ำก็เป็นวันหลังที่เขาบนกันเสร็จแล้วเพราะก่อนหน้านี้ก็มีคนจ่มน้ำมาแล้ว)
เปรต
หลังจากเห็นการณ์นั้นเกิดขึ้นเราก็ไม่ค่อยได้เจอกอะไรมากมายนอกจากเสียง แต่เสียงที่เราได้ยินชัดที่สุดคือเสียงเปรต ในวันวางข้าวศาสตร์ ตอนนั้นอายุ10ปีแล้วแม่เราทำงานที่โรงพยาบาลเลิกงานตอนเที่ยงคืนแม่จะชอบซื้อก๋วยเตี๋ยวมาให้เรากินวันนั้นเรานั่งรอแม่ที่ห้อง(บ้านเราเคยเป็นป่าช้ามาก่อนโดยเฉพาะห้องเราเป็นที่ฝังกระดูก ยายเราบอก)หลังจากที่แม่มาถึงเราก็ไปเอาถ้วยมาใส่ก๋วยเตี๋ยวแล้วเสียงก็ค่อยๆดังขึ้น
เสียง “วิ๊ด วิ๊ด” ในใจเราสงสัยไอ้เด็กข้างบ้านมันคงเป่านกวี้ดเล่นมั่งเพราะมันพึ่งเล่นอะไรที่เกี่ยวกับตำรวจทหารอยู่
แต่!!ไม่ใช่เพราะเสียงที่ได้ยินมันอยู่ทางข้างหลังบ้านเราที่เป็นป่าพื้นที่น่าจะไร่1มั้ง เสียงเริ่มดังขึ้นดังขึ้นดังมาทางที่ห้องเราเหมือนเสียงจะเข้ามาทางเราเลย ในตอนนั้นไม่ได้กลัวอะไรเลยนะเลยลองเปิดหน้าต่างดูก็ไม่เห็นอะไรสิ่งที่เห็นคือต้นตาลสองต้นไม่มีใบกับต้นไม้ที่เต็มไปหมด(ตอนที่เปิดหน้าต่างเสียงก็หายไปนะ)พอคิดว่าคงไม่มีอะไรเลยมานั่งกินก๋วยต่อแต่เสียงก็ไม่หยุดจนกระทั่งแม่ จขกท.เดินเข้ามา
เรา “แม่ได้ยินเสียงอะไรไหม”
แม่ “ไม่นิทำไมได้ยินอะไรอีกแล้วหรอ”
เรา “เปล่าๆ” เราไม่กล้าบอกแม่เพราะเดี๋ยวแม่จะหาว่าเราเป็นบ้าเราเลยปล่อยผ่านไปจนกระทั่งเช้าก็มาเจอพวกน้องที่กำลังเล่นกันอยู่เลยไปถามน้องชายข้างบ้านว่าได้ยินอะไรหรือเปล่ามือคืน
เรา “ปอเมือคือได้ยินเสียงอะไรหรือเปล่า”
ปอ “ได้ยินสิ เจ๊ก็ได้ยินหรอ”
เรา “เออ แกว่าเสียงไรว่ะ”
ปอ “เสียงเปรต ย่าบอกเพราะย่าปอเห็นอยู่ตรงต้นตาลหลังบ้านเจ๊นะแต่ตอนตีสามตีสี่นะ”
ให้ตายเถอะมันเรื่องจริงหรอเนี่ยหลังบ้านเรามีผีโครตหน้ากลัวเลยบ้านเราก็ยิ่งเป็นบ้านเก่าอยู่แล้วจะมีอะไรไหมเนี่ยขอแค่เจอแต่เสียงก็พอนะอย่าออกมาให้เห็นเลยกลัว
ผีอำ
ผ่านมาหลายไม่นานเท่าไรแม่ของเราก็โดนผีอ่ำทุกๆคืนไม่รู้เป็นเพราะอะไรเรามักจะนอนกับแม่และได้ยินเสียงแม่ร้องทุกครั้งไม่รู้ว่าอำหรือเข้าฝันแต่แกจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งเมื่อแกนอนตัวตรงจะร้องว่า ไม่ไม่ ฮือๆ ทุกคืนแรกเรากลัวมากเลยนะเพราะแม่ร้องแบบนี้เราไม่เคยเจอแทบในห้องเราก็มีตุ๊กแกตัวใหญ่มากอยู่ด้านหลังตู้มันจะร้องตลอดเราอยู่กับมันจนชิน นานๆไปแล้วก็ชินที่แม่เป็นแบบนั้นแม่จะร้องหนักขึ้นทุกวันพระจนวันหนึ่งเราได้ยินเสียงแม่ร้องเราเลยพูดว่า
เรา “มาอีกแล้วหรอ เบื่อจัง” เราก็เดินไปเอาพระมาให้แม่ใส่แม่ก็หายตลอดแม่เป็นแบบนี้เป็นนานถึง2ปี เรามารู้ที่หลังว่าแม่เราเคยทำแท้งเราเลยคิดว่าน้องคงมาหาแม่หรือมาแกล้งแม่หรือเปล่า แม่หายเป็นยายไปถามใครก็ไม่รู้เขาคนนั้นบอกว่าตุ๊กแกที่อยู่บ้านเรานะเป็นตุ๊กแกผีให้เอาออกจากบ้านพอเอาออกแม่เราก็หายไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเราก็ไม่เข้าหรือจะเป็นเวรกรรมที่เราเคยทำเอาไว้ก็ไม่รู้(ในตอนนี้เราอายุ13ปีแล้ว)
ศาลเจ้าที่
หลังจากที่แม่เราหายเป็นปกติทุกอย่างก็กลับมาดีเหมือนเดิมไม่เคยเจออะไรเลยตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจนกระทั่งเราอายุ14ปีเราได้ไปนอนที่บ้านของพ่อเป็นบ้านจัดสรรสวยมากเลย สิ่งที่เราเห็นอย่างแรกเลยคือศาลเจ้าที่ไม่เคยทำความสะอาดเลยใช่ไหมเนี่ยโฮ่ว!รกมาก
วันนั้นเป็นวันที่เราลองย้ายไปอยู่ที่บ้านของพ่อเราอยู่ได้สองสามวันก็ดีนะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้นเราก็ไม่สบายหนักมาก คืนวันหนึ่งที่ทุกคนนอนหมดแล้วเตียงของ จขกท.จะอยู่ตรงข้ามกับประตูแล้วข้างนอกจะเป็นห้องน้ำใครได้ไปเดินมาก็จะเห็นเงา แต่วันนั้นมีคนมาเคาะที่ห้องเราก็กำลังจะหลับๆตื่นๆมองรอดไปที่ช่องด้านล่างของประตูก็เห็นเงาเท้าคนนะแต่ก็หาไปเลย หาแบบพลิ้ว!หายเลยอ่ะ ถ้าเป็นคนก็จะเป็นเงาขาที่เดินออกไปใช่ไหมแต่นี้แบบพลิ้วเหมือนหายตัวได้อะไรประมาณนั้นไอ้เราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาหรอกนะก็เลยนอนต่อ จนเย็นวันต่อมาเราอาการดีขึ้นนิดหน่อยเราได้ออกไปซื้อของ
พ่อ “ออกไปซื้อพริกเผ่าให้หน่อย”
เราก็แกไปขับมอไซด์ออกไปไม่ถึง500เมตรก็ถึงร้านแต่ทางตรงนั้นไม่คอยมีไฟมีอยู่แถวกลางๆพอไฟตกกระมาเราก็จะเห็นเงาตัวเองแต่เรากับเห็นเงาของอีกคนนั่งที่ข้างหลังรถเราแบบตกใจมากรถเกือบล้มตั้งสติได้เลยหันไปมองพระเจ้าไม่มีใครเลย พอกลับไปก็ไม่พูดกับใครสักคนนอนอย่างเดียวเพราะไข้ขึ้นอีก จนต้องกลับมานอนที่บ้านแม่เรานอนช่วงสี่โมงเย็นจะห้าโมงเย็นนอนไม่รู้เรื่องอะไรเลยตอนนั้นเรามีน้องนะน้องของเราอายุ1ปีอ้วนมากเลย
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่น้องเรานะ คือเราโดยผีอำครั้งแรกในชีวิตเจ้าข้า
ฝันว่ามีหญิงแก่ๆคนหนึ่งมานอนข้างๆเราซึ่งเรานอนตะแคงอยู่แกนอนหันหน้ามาทางเรา จขกท.จำได้ติดตาเลยยายคนนั้นใส่ชุดขาวตาดำไม่มีสีขาวเคี้ยวหมาก(ขนลุก)ปากแดงผิดค้ำเราเลยหันไปอีกทางก็เห็นงูเหลือมยาวมากๆกำลังเลื้อยอยู่แล้วมองไปทางปลายเท้าเห็นผู้ชายร่างสูงตัวดำนุ่งผ้าเตียวสีแดงแล้วพูดว่า
ผู้ชายร่างสูงตัวดำนุ่งผ้าเตียวสีแดง “หมดเวลาของเจ้าแล้วมากับเราเถอะ”
หลังจากนั้นเราก็เดินไปกับผู้ชายคนนั้นเราเห็นตัวเรานอนอยู่ตรงนั้นแต่ไม่เห็นยายคนนั้นแล้วนะเราเดินออกมาทางหลังบ้านของเรากำลังจะข้ามกำแพงแต่เราได้ยินเสียงน้องของเราเรียกชื่อ...แล้วเห็นน้องมาดึงแขนเราเอาไว้เราเลยเพ้อพูดกับผู้ชายคนนั้นออกไปว่า
เรา “ขออยู่ต่ออีกหน่อยได้ไหมของให้เราได้เห็นน้องเรารับปริญาก่อนแล้วเราจะไปด้วย”
ผู้ชายร่างสูงตัวดำนุ่งผ้าเตียวสีแดง “ได้และข้าจะอยู่กับเจ้าตลอดเวลา”
หลังจากนั้นเราก็ตื่นชี่แตกใส่ที่นอนเลยนะเราไปเล่าให้ยายฟังยายเราบอกว่าขนลุกเลยยายเลยพาไปหาพระอาจารย์ที่ยายเรานับถือ พระอาจารย์ดูวันเดือนปีเกิดให้บอกว่าเรายังอยู่อีกนานยังไม่ตายหรอก เราก็ดีใจมากเลยเกือบตายแล้วไหมเรา แต่หลังจากวันนั้นเราก็คิดมาตลอดว่ามีคนอยู่กับเราบ้างครั้งก็ไม่ได้คิดไปเองเพราะทุกครั้งที่ไปกินข้าวกับเพื่อนพนักงานที่เสริฟจะเอาจานช้อนส้อมหรืแก้วมาเกินตลอด เพื่อนเราเลยชอบแซวว่า
เพื่อน “สงสัยผู้ชายนุ่งผ้าเตียวที่แกเคยเจอจะมานั่งกินด้วยนะ”
มาได้แต่อย่าทำอะไรเราก็พอ
หลังจากนั้นเราก็เจอมาเลื่อยๆทั้งเสียงทั้งเงาบางเจอจนชินโดยเฉพาะเจ้าที่เจ้าบ่อยเกินไปนะบ้างที่
มีอยู่วันหนึ่งเราได้ไปนอนที่บ้านเพื่อนบ้านเพื่อนของเราจะศาลอยู่หน้าบ้านแล้วเราไปนอนแบบไม่ได้บอกพอเรานอนๆอยู่เจ้าที่ก็เดินทะลุประตูแล้วมาเดินแถวปลายเตียงเดินไปเดินมาเรามองเห็นทุกอย่างเลยนะแต่ท่านมาแบบเงาเลยไม่กลัวเท่าไรเดินไปทะลุกำแพงเหมือนสงสัยว่าเราเป็นใครแต่ไม่ได้ทำอะไรประสบการณ์ชีวิตที่ไม่อยากได้
พอเราโตขึ้นมาหน่อยอายุ18ปีไม่ค่อยที่จะได้เจอแต่วันนั้นกลับบ้านจากเพื่อนไปกินเลี้ยงงานวันเกิดเพื่อน เพื่อนของเรามาส่งโดยขับรถผ่านหลังป่าช้าอะไรก็ไม่รู้ดลใจให้มาทางนี้พอขับมาถึงหอๆหนึ่งเรามองขึ้นไปบนตึกชั้นบนสุดก็เห็นเหมือนมีเสื้อห้อยอยู่พอดูดีๆเป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดทำกระโปรงยาวมาแคล้วคออยู่พอถามเพื่อนเพื่อนก็บอกว่าไม่เห็นอะไรเลยเราเลยมั่นใจมากเลยว่าวิ่งนั้นไม่ใช่คนอย่างแน่นอนเลยไม่สนใจพอหันกลับไปดูอีกที่ก็ไม่เห็นแล้ว พอไปถามรุ่นพี่ที่อยู่แถวนั้นแกก็บอกว่าแถวนั้นเป็นดอนเจ้าปู่มันต้องมีอะไรบ้างเป็นธรรมดา
ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอคือเมื่อเดือนที่แล้วกันยายน 2558 เราอายุ19ปี ช่วงนี้เรานอนดึกมากเพราะต้องทำงานส่งมหาลัยแต่วันนั้นเราอาบน้ำเสร็จกำลังจะไปนอนเราเห็นเงาที่เป็นขาผู้หญิงใส่กระโปรงยาวถึงเข่ามายืนอยู่แล้วก็หาไปแล้วเลยคิดว่าเรานะตาฟาดเพราะเราง่วงนอนมากเลยเอาไปนอนแต่หลังจากนั้นไม่นาน ยายจขกท.ก็ไปกรุงเทพ เราต้องมานอนห้องยายที่มีกระดูกตาทวดยาทวดอยู่ในห้อง(ไม่ชอบอะกลัวแกมาให้)สิ่งที่กลัวก็เป็นจริงครับเพราะวันนั้นตอนตีสามมีคนมาหาเราแต่ไม่รู้ว่าใครและไม่ใช่ยาทวดตาทวดด้วยแต่เป็นผู้หญิง เราเห็นแบบเดิมเห็นขาเห็นไปถึงเอวนอกนั้นไม่เห็นหลังจากวันนั้นเราไม่พูดให้ใครฟังเลยนะตั้งใจจะมาเล่าให้ยายฟังคนเดียวเลยพอยายเรามาเท่านั้นและ
เรา “ยายเมือคืนมาคนมาหาเป็นผู้หญิงนุ่งกระโปรงมาหาที่ห้องนั้งเล่นกับในห้องยายอะ”
ยาย “ใช่คนนี้หรือเปล่า”
เรา “ให้ตายเถอะขาแบบนี้กระโปรงแบบนี้เลย ใครอ่ะ”
ยาย “หลานตายนานแล้วนะไม่รู้ว่ามาทำไหม”
เรา “ใช่ มาทำไหม”
หลังจากบอกยายได้ไม่ถึงวันเราก็รถล้มขานี้เขียวไปหมดเลยช่ำ บวม เราเลยเข้าใจว่าผู้คนนั้นคงมาบอกเราเรื่องนี้มั่ง วันหลังเขียนใส่กระดาษบอกเลยนะจะได้ไม่เจ็บแบบนี้(ล้อเล่นนะค่ะยาย)
จบแล้วนี้คือสิ่งที่เราเห็นมาตั้งแต่จมน้ำมีมากกว่านี้นะแต่ไม่ได้มาให้เจอแบบนี้ นอกนั้นมาแบบเสียงหมด