โบ ธัญญะสุภางค์ ต้นแบบนักแสดงรุ่นใหม่ !! กับคติที่เธอใช้ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น !!

ชีวิตต้องพลิกแพลง "เนิร์ดมากตั้งแต่เด็กเลยค่ะ" นางเอกสาว "โบ-ธัญญะสุภางค์" เผยถึงชีวิตการเรียนของตัวเองตอนเด็กๆ

และเล่าต่อว่า

"ตั้งแต่ รู้ตัวว่าอยากเป็นนักการทูตก็เต็มที่กับ สายอาชีพนี้ อายุ 17 สอบชิงทุนไปเรียนปริญญาตรีที่ญี่ปุ่น รัฐศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ต้องปรับตัวค่อนข้างมาก อยู่ญี่ปุ่นได้ทำงาน พาร์ตไทม์ เป็นทั้งเด็กเสิร์ฟ ครูสอนภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ลองทำหลายอย่างเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีมาก ทำให้โตขึ้น สอนให้เรารักตัวเองให้เราสู้ กลายเป็นว่าเราเป็นคนค่อนข้างสติ๊กกับตัวเองมาก"

"โบได้เลือดคุณพ่อ เยอะมาก คุณย่าเป็นครู คุณพ่อเลยเนี้ยบมาก ส่วนคุณแม่จะหัวสมัยใหม่จบฝรั่งเศสทำงานนิวยอร์ก โบมาสายคุณพ่อ ประกอบกับไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เหมือนเป็นเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ กลายเป็นคนเครียดมาก ทำงานในวงการแรกๆ เวลาเลตจะไม่เข้าใจ หลังๆ เริ่มปรับตัวได้ การเป็นนักแสดงสอนให้รู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องเป๊ะกับชีวิตเสมอไป บางสิ่งบางอย่างเพื่อให้เกิดสมดุลต้องรู้จักผ่อนบ้าง"

เคยคิดไหมว่า จะเป็นนักแสดง "ไม่เคยคิด ไม่ใช่สายงานที่ใฝ่ฝัน อยากเป็นนักการทูตตั้งแต่อายุ 9 ขวบ จุดเปลี่ยนที่ทำให้เป็นนักแสดง ด้วยจังหวะและโอกาส"

ตอนนี้ยังอยากทำตามเป้าหมายเดิมอยู่ไหม "การจะเป็นนักการทูตต้องรับราชการตั้งแต่อายุยังน้อย ตอนนี้ชีวิตโบเลยจุดนั้นมาแล้ว ดังนั้นโบอยากทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด ทุกวันนี้โบสามารถนำสิ่งที่เรียนมาประยุกต์ใช้กับการเป็นนักแสดงได้ ทำให้รู้ว่าชีวิตจริงของคนต้องพลิกแพลง"

ครอบครัวเป็นยังไง "โบเป็นคนกรุงเทพฯ พ่อเป็นคนใต้ ชาวจ.นครศรีธรรมราช โตที่อุบลฯ โบฟังใต้รู้เรื่องแต่พูดไม่ได้ โบมีน้องสาวชื่อบูเก้ อ่อนกว่าสี่ปีครึ่ง คุณพ่อทำงานการบินไทยไม่ค่อยอยู่ประเทศไทย โบจะสนิทคุณแม่มาก คุณแม่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ส่วนคุณพ่อเป็นฮีโร่ของโบ เป็นแฟมิลี่แมน เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ไม่ดื่มไม่สูบ ถ้าโบจะมีครอบครัวก็อยากได้ผู้ชายเหมือนคุณพ่อนี่แหละ"


ฉีกภาพนางเอกเรียบร้อยเจ้าน้ำตา มา รับบทร้ายสุดขั้วในละคร "รอยรัก แรงแค้น" ช่อง 7 ในบท "พักตรา" สำหรับ "โบ"ธัญญะสุภางค์ จิรปรีชานนท์

เรียก ว่าออกมาแต่ละฉาก ทำเอาชาวบ้านอินถึงขั้นเกลียด วันนี้จังหวะดี ได้พูดคุยกับเธอถึงบทบาทการแสดง รวมถึงเรื่องราวชีวิตส่วนตัวและการทำงาน

จุดเริ่มต้นเข้าสู่วงการ?

โบ- "โบโดนตามกลับเมืองไทยจากที่ไปเรียนปริญญาตรีที่ญี่ปุ่น เพราะตอนนั้นแผ่นดินไหวหนัก พอกลับมามีคนชวนมาแคสติ้งงาน ได้เล่นหนังเรื่องแรก เค้าเรียกผมว่าความรัก จากนั้นมาเซ็นสัญญากับช่อง 7 เล่นละคร ไฟหวน สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ซิตคอม 7 มงกุฎ เล่นละครเวที ว้าวุ่น 2013 แล้วมาเรื่อง กุหลาบเล่นไฟ และล่าสุดเรื่องนี้ รอยรักแรงแค้น"



"ตอน ไฟหวนกับสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย เล่นเป็นนางเอกเรียบร้อยเจ้าน้ำตา มีคนวิพากษ์วิจารณ์เยอะมากว่าไม่เหมาะเป็นนางเอกละครหลังข่าว ยอมรับว่าเสียใจ ร้องไห้ทุกวัน แต่พอโบคิดได้ว่าอย่างน้อยคนดูเสียสละเวลามาบอกว่าจุดไหนไม่ดี เราควรปรับปรุง โบควรนำจุดพวกนี้มาแก้ไขปรับปรุงให้เร็วที่สุด"



กลับไปตั้งหลักกับตัวเองเพื่อมาพิสูจน์ตัวเองใหม่อีกครั้งยังไง?

โบ - "ขอคุณแม่บินไปญี่ปุ่นอยู่เงียบๆ สองสัปดาห์ พอจิตใจแข็งแรงปุ๊บโบลุยเต็มที่ ไปเรียนแอ๊กติ้งกับหลายครูมาก เกินสิบครู จนมาเรียนกับครูเงาะ (รสสุคนธ์) และไปเรียนออกเสียงกับครูอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เปลี่ยนวิธีการหายใจใหม่ ฝึกพูด เดิน นั่ง ยืน ฝึกใหม่ทุกอย่าง เปลี่ยนสีผม ตัดซิลิโคนออกจากจมูก ทำทุกอย่าง พยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกด้าน เรื่อง กุหลาบเล่นไฟ คนเริ่มชมว่าเล่นดี จาก ที่คนว่าเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์กลายเป็นคนชมร้อยเปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ พักตรา มันปังขึ้นมา พอมองย้อนกลับไป นี่แหละคือชีวิตของคน ที่บางทีเราอาจจะไม่ได้เก่งทุกอย่างตั้งแต่เกิด ตราบใดที่เราพยายาม ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น"



อะไรที่ทำให้ผ่านจุดที่คนวิพากษ์วิจารณ์ได้?

โบ - "สติค่ะ และโบโชคดีมีครอบครัวที่ดี มี ผู้จัดการที่น่ารัก มีพี่เอก (ศุภากร) ที่อยู่เคียงข้าง โบมีตัวเองที่ยังมีสติและทำ ให้คิดได้ว่าเราควรเอาคำเหล่านี้มาเป็นแรงฮึด สู้กับมันสักตั้ง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง โบอยากพยายามให้เต็มที่ก่อน"



ตอนนี้ได้แจ้งเกิดกับบท "พักตรา" ใน "รอยรักแรงแค้น"?

โบ - "มันเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ฉีกคาแร็กเตอร์ที่เคยเล่นมา หรือคาแร็กเตอร์ตัวโบเอง ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ลองประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นโอกาสดีมากที่ทำให้ได้พัฒนาศักยภาพตัวเองไปอีกสเต็ป เพราะบทพักตราไกลตัวโบมาก ไม่มีอะไรเหมือนโบเลย พักตราเป็นคนมั่นใจมาก แต่งตัวฉูดฉาด ใส่ส้นสูงเดินเหินตลอดเวลา พูดเร็ว ต้องทำการบ้านหนักมาก"



ก่อนหน้านี้ถูกด่าเยอะว่าเล่นแข็ง พอตอนนี้ทุกคนชื่นชมพัฒนาการแสดงของเรา?

โบ - "ดีใจค่ะ หายเหนื่อย แต่ไม่ได้รู้สึกอุ่นใจนะ ตอนนี้ถ้าคนยิ่งชม เรื่องต่อๆ ไปเราอาจยิ่งกดดันตัวเองให้ได้ดียิ่งขึ้น แต่ ณ วันนี้อยากให้ตัวเองแฮปปี้กับคำชม คิดว่าอย่างน้อยคนที่ติดตามละครโบมาตั้งแต่ต้น ได้รู้จักโบมากขึ้นมั่นใจว่าตัวเองมีความพยายาม โบอาจไม่เก่งมาตั้งแต่เกิด อาจจะไม่ได้มีพรสวรรค์ แต่สำหรับความพยายามโบมั่นใจว่ามีเยอะ"



เรื่องนี้ค่อนข้างเซ็กซี่?

โบ - "ค่ะ ตอนนี้กลายเป็นว่าสิ่งที่กลัวมากกว่าซีนอารมณ์คือซีนเซ็กซี่ เพราะโบไม่ใช่คนเซ็กซี่เลย โบเป็นคนเฉิ่ม เพื่อนทุกคนในกลุ่มจะเรียกอีป้า พอต้องเล่นซีนเซ็กซี่ ไม่ว่าจะเป็นสายตาท่าทางทุกอย่างต้องมั่นใจ ปกติเวลาซ้อมจะไปแอบซ้อมในห้องน้ำ ดูคนเดียว แต่เวลาเล่นจริง ไมค์-ภัทรเดช ต้องเห็น พี่ตั้ว (ศรัณยู) ผู้กำกับฯ ช่างกล้องต้องเห็น ก็แอบเขิน พอเข้าฉากก็คิดซะว่าไม่ใช่ตัวเรา เป็นพักตรา ทำไปให้ดีที่สุดจะได้ไม่ต้องเล่นซ้ำ โบคิดว่าพักตราเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ ได้ทำหลายอย่างมาก โมโหคือโมโหแบบสุดๆ ดีใจแบบสุดๆ ยิ้มสุด หวานสุด เซ็กซี่สุด ทำทุกอย่างจริงๆ ได้เล่นเป็นคนบ้าด้วย ท้องแล้วแท้ง ได้ทำหลายอย่าง คุ้มมากกับตัวละครตัวนี้"



เข้าฉากกับไมค์-ภัทรเดช เป็นอย่างไรบ้าง?

โบ - "เข้าฉากกับไมค์เยอะที่สุด ถามว่าเปลืองตัวไหม จริงๆ ภาพที่เห็นอาจจะเป็นลักษณะยั่วยวน เซ็กซี่มาก แต่พี่ตั้วเป็นผู้กำกับฯ ที่เคารพและให้เกียรตินักแสดงมาก แล้วตัวไมค์ก็เป็นสุภาพบุรุษมาก อะไรที่เซฟได้พี่ตั้วเซฟค่ะ อย่างฉากโชว์แผ่นหลัง จริงๆ แผ่นหลังนั้นไม่ใช่ของโบ อันไหนใช้สแตนด์อินได้พี่ตั้วให้ใช้ รวมไปถึงการจูบด้วย พี่ตั้วถามตรงๆ ว่าจูบจริงได้ไหม โบเลยบอกว่าอันไหนเลี่ยงได้ขอเลี่ยง กลายเป็นว่าทั้งเรื่องนี้ไม่มีจูบจริงเลย อะไรที่สามารถเซฟได้ เรายังอยากมีลิมิตของตัวเองหน่อย พี่ตั้วเข้าใจ น่ารัก ใจดีมากๆ ไม่ได้ทำให้ลำบากใจเลยค่ะ"

แฟนๆ ละครมีคอมเมนต์อย่างไรกับพักตรา?

โบ - "ตอนนี้กระแสโซเชี่ยลดีมาก ทวิตเตอร์มีคนแฮชแท็กมาเยอะมาก อินสตาแกรมพื้นที่ส่วนตัวของโบก็ด่ากันเต็มที่ พันทิปกระทู้เยอะมาก แรกๆ ตอนละครออนแอร์คนจะชมว่าเล่นเก่งจัง เล่นแล้ว ดูอินมาก พอเป็นสเต็ปที่สองเริ่มเกลียดพักตรา ทำไมเป็นคนอย่างนี้ สะตอเบอร์รี่ หน้าด้าน แต่รักโบนะยังยิ้มอยู่ หลังๆ มาเกลียดพักตราเกลียดโบด้วย คนเริ่มอินมาก มีตกใจตอนแรกๆ แต่เป็นความตกใจที่ทำให้รู้สึกดีใจ หายเหนื่อย ภูมิใจว่าสิ่งที่เราแสดงถ้าทำให้คนเชื่อได้ มันคือที่สุดของนักแสดงแล้วค่ะ"


เรียกว่ามาถูกทางกับบทร้ายเต็มตัวครั้งแรก ถึงกับมีคนตั้งกระทู้ว่าควรดันเราเป็นนางร้ายเบอร์ 1ของช่อง?

โบ - "ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ โบตั้งใจและพยายามเต็มที่เหมือนเดิม ถามว่าเล่นร้ายแล้วจะกลับมาเป็นนางเอกได้มั้ย โดยส่วนตัวคิดว่าปัจจุบันคนดูเปิดกว้างมากขึ้นกับนักแสดงที่ควรเล่นได้หลาก หลายบทบาท รู้สึกว่าเสน่ห์ของการเป็นนักแสดงคือการที่สามารถทำได้หลากหลาย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นบทอะไรโบยินดีรับค่ะ ตราบใดที่ตัวละครนั้นเป็นตัวที่ทำให้เรื่องนั้นสมบูรณ์ ถามว่าส่วนตัวอยากลองเล่นบทไหน โบอยากเล่นทุกบทเลย แต่ลึกๆ อยากลองเล่นพีเรียดห่มสไบสักครั้ง คอมเมดี้ บู๊ก็อยากเล่น เพราะเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ฟิตหุ่นตัวเอง"



"ตอนนี้โบแฮปปี้กับการแสดงมาก เป็นอาชีพ ที่ทำให้โบเจอสมดุลชีวิตตัวเอง"





รักลงตัว-รอจุดที่ใช่ร่วมกันสร้างครอบครัว

คบกับแฟนหนุ่ม "เอก"ศุภากร ประทีปถิ่นทอง มาได้เกือบ 4 ปีแล้ว แต่ถ้านับว่ารู้จักกันจริงๆ นางเอกสาว "โบ-ธัญญะสุภางค์" บอกประมาณ 6-7 ปีได้

โดย โบเปิดใจถึงการเป็นคู่รักนักแสดงที่เปิดเผยว่า "โบเข้าวงการตอนที่เรียนจบแล้ว มีความรับผิดชอบในชีวิตตัวเอง พี่เอกเป็นคนที่ตั้งใจทำงาน ความรักของเราไม่ใช่เรื่องเสียหาย มันเป็นมิตรภาพที่ดีเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะยังไง ความจริงเป็นสิ่ง ไม่ตาย ถึงแม้โบจะบอกว่าไม่ได้คบ แต่ว่ายังไงก็ตามเวลาไปทานข้าวออกไปข้างนอกคนก็ต้องเห็น อยากให้คนรู้จักโบในสิ่งที่ โบเป็น ได้เห็นโบในตัวตนของโบจริงๆ ค่ะ"

นัก แสดงบางคนอาจจะไม่อยากเปิดเผยความรักเพราะกลัวเรตติ้งตก แต่คู่เราไม่ใช่อย่างนั้น "ภาพลักษณ์คือตัวตนของเราที่เป็นเรา ซึ่งตัวตนของโบไม่ได้เป็นคนที่ทำอะไรเสี่ยงอยู่แล้ว ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ทุกวันนี้ยังไม่เคยไปเที่ยวเมืองนอกกับพี่เอกสองคน ไม่เคยไปต่างจังหวัดกับพี่เอกสองคน ไปกันเป็น กลุ่มก้อนหรือไม่ก็ไปกันเป็นครอบครัวพี่เอกหรือครอบครัวโบ โบไม่ได้ดื่มไม่ได้เที่ยว ไม่ใช่คนใช้ชีวิตโลดโผน เราสองคนไม่ได้ทำอะไรเสียหาย พี่เอกเป็นสุภาพบุรุษมากไม่มีอะไรที่ทำให้โบต้องกังวลใจ พี่เอกเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ค่อนข้างลงตัวมากในชีวิตของโบค่ะ"

ถาม ว่ารู้จักกันได้ยังไง โบเล่าให้ฟังว่า "ที่วัดท่าไม้ค่ะ พี่เอกดูแลหลวงพี่อุเทนอยู่ รู้จักกันสมัยที่โบฝึกงานอยู่สถานทูตไทยที่กรุงโตเกียว โบได้ฝึกงานเป็นผู้ช่วยท่านทูตไทยประจำญี่ปุ่นตอนนั้น ท่านทูตเป็นลูกศิษย์ของหลวงพี่อุเทนก็เลยทำให้เราได้โคจรมาเจอกัน เริ่มจากการเป็นเพื่อนจนโบกลับมาไทยได้มีโอกาสคุยกันมากขึ้น พัฒนาความสัมพันธ์มาเรื่อยๆ สายบุญด้วยกัน พี่เอกอยู่วัดอยู่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างนอกจากจะถูกตีกรอบมาโดยครอบครัวโบครอบครัวพี่เอกแล้วก็ยังมี วัดด้วยที่ทำให้เราต้องรักษาความดีของเราเอาไว้ ความรักครั้งนี้มันทำให้โบอยากเป็นคนที่ดีที่สุดเสมอค่ะ"

มองอนาคต ร่วมกันยังไง นางเอกสาวกล่าวว่า "โบเชื่อว่าคนเราคบกันต้องมองเห็นอนาคต ทุกวันนี้เรามองโลกไม่ต่างกัน เวลาเราคบใครการปรับตัวเข้าหากันต้องมี จุดที่พี่เอกปรับตัวมา จุดที่โบปรับตัวเข้าหาพี่เอกมันเป็นจุดที่สมดุล มันนำสิ่งที่ดีที่สุดในตัวโบออกมา ส่วนที่ดีที่สุดของโบพี่เอกสามารถดึงมันออกมาได้ อยากจะให้เวลาให้โอกาสกับความรักครั้งนี้ให้มันดีที่สุด อนาคตจะเป็นยังไงมันเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้อยู่แล้ว ทุกวันนี้ตั้งใจทำให้ดีที่สุด"

"การแต่งงานไม่ใช่เรื่องของคนสองคน เราสองคนรักกันมากอยู่แล้ว เราให้เกียรติกันในการคบกัน ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิม การแต่งงานมันเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น เป็นเรื่องของครอบครัวผู้ใหญ่คนรอบข้างที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เวลาเราแต่งงานเราไม่ได้แต่งงานกับคนที่เรารัก เราแต่งงานกับคนที่ใช่ ใช่ในที่นี้หมายถึงความรักมันใช่ วุฒิภาวะใช่ สถานะทางการเงินเป็น สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มันต้องโอเคที่เราจะสร้างครอบครัวขึ้นมาได้ ความพร้อมหลายๆ อย่างมันต้องใช่ เราสองคนก็รอจนถึงจุดนั้น แต่ ยังคงตอบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่"

ทุกวันนี้ยังต้องปรับจูนอะไรกันไหม "ไม่ค่ะ เราไม่ค่อยทะเลาะกัน พี่เอกเป็นคนมีความเป็นผู้ใหญ่สูงมากอยู่แล้ว เราไม่มีเรื่องงอนทะเลาะกันเท่าไหร่ ครอบครัวทั้งสองฝ่ายโอเค"

ลงตัวซะขนาดนี้ ข่าวดีคงไม่นานเกินรอ



แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่