*************************************คำเตือน*********************************************
**********นี่ไม่ใช่กระทู้โชว์รูป ไม่ใช่กระทู้รีวิว ไม่ใช่กระทู้บันทึกการเดินทาง แต่เป็นกระทู้บันทึกการเดินเล่น**********
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
ผมเป็นคนลพบุรีครับ เป็นมา 20 กว่าปีแล้ว
สายแก่ๆ ของวันหยุดที่ผ่านมา
ระหว่างที่ ผมเปิด Facebook ดูความเป็นไปของเพื่อนๆ
ผมเห็นเพื่อนๆเช็คอินตามสถานที่ยอดฮิตต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ,บางกระเจ้า , สิงคโปร์ , ปีนัง
, เกาะล้าน , ภูทับเบิก (เพื่อนคนท้ายนี้ มีการบอกอีกด้วยว่า ไปเที่ยวโดยไม่ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว !)
ผมทึ่งในความสามารถของเพื่อนคนนี้มาก ทุกวันนี้ผมยังเสียดายที่ปฏิเสธคำชวนของเพื่อนคนนั้นไป
เพื่อนบางคนก็เช็คอินพร้อมรูปถ่าย สีซีด โทนคลีน สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมแคปชั่นสั้นๆลอยๆ
เห็นแล้วรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้เก๋ชะมัด
อยู่ดีๆ ผมก็รู้สึกอิจฉาและรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองอย่างบอกไม่ถูก
หัวใจนักผจญภัยของผม มันกลับมาเต้นอีกครั้ง จริงๆมันไม่เคยหยุดนิ่ง เพราะชีวิตคือการเดินทาง
ผมคิดว่าผมต้องออกไปเที่ยว ต้องออกไปถ่ายรูปที่ไหนซักที่แล้ว
ผมเลือกที่จะเที่ยวลพบุรี เพราะอยู่ลพบุรีมาตั้งนาน ผมไม่ค่อยได้ออกไปเดินเล่นที่ลพบุรีเท่าไหร่เลย
ครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดี ที่จะออกไปเดินเล่นถ่ายรูปที่บ้านเกิดซะที
เพราะ ไม่ว่าเราอยู่ที่ไหน ถ้าเรามีหัวใจแห่งนักผจญภัย เราก็สามารถออกไปเจออะไรใหม่ๆได้เหมือนกัน
(เหอะ ทำเป็นเท่ห์นักนะ เจ้าของกระทู้ !)
จริงๆคือ ผมไม่มีเวลา และไม่มีตังค์ ผมจึงออกไปเที่ยวสถานที่สุดฮิตแบบเพื่อนๆไม่ได้
ถ้าผมอยากเที่ยว ตัวเลือกเดียวของผม ณ ตอนนี้ คือ ลพบุรี ...
แต่ใครเค้าจะมาเที่ยวลพบุรีกันว้ะ ? (ผมพรึมพรำคนเดียว เหมือนพระเอกละครไทย)
นาทีนั้นผมก็นึกขึ้นได้ว่า มีคนมาเที่ยวลพบุรีอยู่นิ !
ฝรั่งไง ฝรั่งชอบมาเที่ยวลพบุรี ฝรั่งชอบมาดูลิง ใครๆเค้าก็รู้กัน
แต่ฝรั่งมาเพื่อดูลิงแค่นั้นจริงๆหรอว้ะ มันน่าจะต้องมีอะไรมากกว่านั้นซิ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากชิมกาแฟดิป และอ่านหนังสือสร้างแรงบรรดาลใจเสร็จแล้ว
ผมรีบคว้ากล้องอย่างว่องไว ปั่นจักรยานเสือหมอบอย่างช้าๆ
ออกไปเที่ยวเหมือนฝรั่งที่มาเที่ยว ออกไปถ่ายรูปเล่นในตัวเมืองลพบุรี
ออกไปหาคำตอบจากฝรั่งและคนในพื้นที่ ว่า
“ ทำไมฝรั่งชอบมาเที่ยวลพบุรีกัน ? “
เผื่อคำตอบเหล่านั้น จะทำให้ความสงสัยในใจของผมน้อยลงไปบ้าง
และนี่คือจุดเริ่มต้นของกระทู้นี้ครับ
(ณ จุดๆนี้ ผมรู้สึกได้ว่า ตัวเองเริ่มเป็นคนมีสาระพอตัวเลยล่ะครับ)
ด้วยความอยากจะตามรอยนักท่องเที่ยว
จุดแรกที่ผมไป ก็ต้องเป็น สถานีรถไฟ
ผมรีบตรงไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Tourist Helper) ทันที
“ สวัสดีครับ พี่ยุ่งอยู่ไหมครับ ? “
“ ไม่อยู่ครับ “
“ ... “
ผมล้อเล่นครับ จริงๆพี่เค้าไม่ได้กวนหรืออะไรเลยครับ
แค่ผมเข้าไปถามพี่เค้าก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลแล้ว พี่รีบหยิบแผนที่ พร้อมชี้เส้นทางที่ฝรั่งชอบไปเที่ยว
และยังหยิบแบบสำรวจของนักท่องเที่ยวให้ผมดูด้วยครับ ประทับใจเลย
-ส่วนมากจะเป็นชาวฝรั่งเศส , เยอรมัน , เดนมาร์ก , สเปน และชาวยุโรปทั้งหลาย
-มาดูลิงนั่นแหละ
-แต่ไม่ได้มาดูแค่ลิง (เอ้า) แต่มาดูโบราณสถาน มาดูประวัติศาสตร์ด้วย
-ชาวยุโรปชอบที่นี่มาก
-ส่วนมากจะมาแวะอยุธยาก่อน และค่อยมาที่ลพบุรี
-ส่วนมากจะมาพักแค่ 1 – 2 วัน และจะไปจังหวัดอื่นต่อ
ในแบบสอบถามมีอยู่คำตอบหนึง ที่ผมเห็นแล้วชอบมาก คำถามคือ
“ How do you know Lopburi ? “ (คุณรู้จักลพบุรีได้อย่างไร ? )
“ No , don’t know “ (ไม่ครับ ไม่รู้)
อืม เซอร์มาก
ตอนนี้ผมมีเส้นทางที่ฝรั่งชอบไปกันแล้ว
ผมพร้อมที่จะออกเดินตามล่าพวกเขาแล้วครับ
ตอนนี้ผมเดินมาถึง วันพระศรีรัตนมหาธาตุ
นักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงลพบุรี ส่วนใหญ่จะมาเดินชมที่นี่กันเป็นอันดับแรก
(เพราะที่นี่อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเลย)
ผมเดินถ่ายรูปเล่นมาซักพัก ก็นึกได้ว่า ตั้งแต่เดินเข้ามา ผมยังไม่เห็นฝรั่งซักคนเลย
ถ้าจะให้ถูกต้องเป็น ผมยังไม่เห็นสิ่งมีชีวิตชนิดไหนเลย นอกจากตัวผมเองกับป้าเก็บตังค์หน้าทางเข้า
ผมได้แต่เดินต่อไป ด้วยความหวังว่าจะฝรั่งซักคน ซักคนก็ยังดี
ผ่านมา 15 นาทีแล้ว ก็ยังไม่มีสิ่งมีชีวิตใด เข้ามาในระยะสายตาเลย
ผมรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง ผมเริ่มถอดใจ ตอนนี้ผมเข้าใจอารมณ์ของโบราณสถาน
ที่นานๆทีจะมีคนแวะเข้ามาหาแล้ว มันเป็นอย่างงี้เองซินะ
(พร่ำเพ้ออะไรของ)
ผมเดินถ่ายรูปเล่นจนมาถึงอีกฝากหนึ่ง และผมก็ได้ค้นพบว่า มีคนอยู่เต็มเลย ...
มีชาวต่างชาติด้วย ที่อุตส่าห์พร่ำเพ้อดราม่าเมื่อกี้ ไม่มีความหมายอีกต่อไป
ณ ตอนนี้นายพรานเจอเหยื่อของเค้าแล้ว อยู่ทางด้านขวามือ
ดูจากทรงแล้ว เป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นอย่างแน่นอน
นายพรานไม่มีความลังเลที่จะพุ่งเข้าไปหาเหยื่อทันที
“ Ohayou gozaimasu “ (แปลว่า อรุณสวัสดิ์ ในภาษาญี่ปุ่น)
“ … “ (ทั้งคู่ทำหน้างง)
“ … “ (เห้ย หรือเค้าไม่ใช่คนญี่ปุ่นว้ะ)
“ Hello “
“ Hi “
“ Are you hurry ? “
“ No no “
“ Where are you come from ? “
“ K … Korea “ (จังหวะนี้ยอมรับว่าหน้าแตกมากครับ)
“ Why do you come to Lopburi ? “
“ To see flowers ! “
“ … “ (ห้ะ ดอกไม้อะไรกัน)
“…”
“What , Not Monkeys ? “
“ Monkeys too !”
มิมิน และเพื่อนของเธอ น่ารักมากครับ
เอาจริงๆทุกวันนี้ ผมก็ยังไม่รู้ว่า Flowers ที่มิมินอยากไปดู คือที่ไหนเลย
เพราะลพบุรี ช่วงนี้ (ตุลาคม) ไม่มีดอกไม้ที่ไหนให้ชมเลยครับ หรือผมอาจจะไม่รู้เองก็เป็นได้
จะอีเมลล์ไปถามเค้าก็กลัวจะโดนด่าว่า จะยุ่งอะไรกับกูอีกล่ะ เลยคิดว่าเก็บความสงสัยนี้ไว้ดีกว่า
เสียงสัญญาณรถไฟดังอีกครั้ง รถไฟอีกขบวนคงมาถึงแล้ว
ผมใช้เวลากับที่นี้ไปเกือบ 1 ชม. สัมภาษณ์นักท่องเที่ยวไป 5 นาที (คุ้มค่าสุดๆ)
เวลาที่เหลือใช้ไปกับการเดินเหงาอยู่คนเดียวซะส่วนใหญ่
ผมคิดว่าได้เวลาแล้วที่ผมควรออกเดินทางต่อ
รู้สึกไม่ผิดหวังเลยครับ ที่ออกมาแถวสถานีรถไฟ ผมเจอนักท่องเที่ยวผู้ใหญ่ 2 คน
เพิ่งเดินออกมาจากสถานีรถไฟ กำลังมุ่งหน้าไปที่ไหนซักที่
หลังจาก ทักทาย ผมก็รู้ว่าผู้หญิงทางด้านขวา เธอชื่อเจน มาจากสวีเดน
กะมาพักอยู่ที่ลพบุรีแค่ 5 ชม.แล้วจะเดินทางไปสุโขทัยต่อ
ผมไม่อยากให้พวกเธอเสียเวลาเดินเล่น ผมรีบถามคำถามของผม
“ พวกเราแวะมาดูแค่ลิงเฉยๆแหละ ” พวกเธอตอบอย่างว่องไว แล้วรีบตอนจากไป
ลพบุรีจะมีร้านอาหารที่ชาวต่างชาติชอบมานั่งกินอาหารอยู่บ่อยๆ
สืบทราบมาว่า ถ้าอยากจะได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับชาวต่างชาติ ต้องไปหาเจ้าของร้านนี้เลย ข้อมูลเค้าแน่นจริงๆ
ตอนนี้ ผมเดินเล่นมาถึงร้านนี้แล้ว แต่เจ้าของร้านไม่อยู่ ...
หลังจากปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไรเนอะ
ก็เข้าไปทักทายฝรั่งคู่หนึง เทอชื่อ แมรรี่อิน กับ สตีเฟน มาจากสเปน
ทั้งคู่บอกว่า ก็มาดูลิงนี่แหละ มาเที่ยวลพบุรีได้อาทิตย์หนึงแล้ว
ชอบเมืองลพบุรีเพราะว่าเป็นเมืองที่ดูเงียบๆและสงบ อยู่แล้วไม่วุ่นวายดี
ตอนนี้ ผมเดินเล่นมาถึงโบราณสถานที่ดังที่สุดของลพบุรีครับ
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ แต่คนลพบุรีจะเรียกกันสั้นๆว่า วัง
ที่นี่เป็นแลนมาร์กของลพบุรีที่นักท่องเที่ยว ต้องมาเยี่ยมชมซักครั้ง ไม่งั ....
พอเถอะครับประโยคสูตรอะไรพวกนั้น เก่าแล้ว
แค่เดินเข้ามาก็รู้สึกเย็นเลย อาจเป็นเพราะในนี้มีต้นไม้เยอะ
ผสมกับโบราณสถานเก่าๆ บรรยากาศที่นี่เลยดูเงียบสงบอย่างบอกไม่ถูก
อีก 5-6 ภาพต่อไปนี้ จะไม่มีการพิมพ์แทรกใดๆทั้งสิ้นนะครับ
จะเป็นการลงรูปรัวๆ เพื่อเป็นการแชร์ความสงบ ที่ผมได้รับในวันนั้นครับ
จริงๆคือ ผมคิดว่า บางทีผมอาจจะพิมพ์มากเกินไปแล้ว
จนกลัวคุณผู้อ่านจะบ่นในใจว่า ชั้นจะดูรูปโว้ย เอ็งจะพิมพ์อะไรหนักหนาเนี่ยไอ้เจ้าของกระทู้
อย่างเช่นตอนนี้ เพิ่งบอกว่าจะไม่พิมพ์แล้ว เอ็งก็ยังพิมพ์อยู่
โอเคครับ เข้าสู่ช่วงสงบกันครับ
และข้างล่างนี้ เป็นภาพของคุณลุ ... (ล้อเล่นครับ ไม่พิมพ์แล้วครับ)
โอเคครับ หมดฃ่วงสงบแล้ว
ระหว่างที่ผมเดินก้มหน้าก้มตาดูรูปในกล้อง
ผมก็เจอชาวต่างชาติเดาว่าน่าจะเป็นชาวรัสเซีย เดินผ่านผมไป
ผมทักทายเบาๆว่า “ Hello Can you speak English ? “
.
.
.
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากนักท่องเที่ยงชาวต่างชาติคู่นี้
โอเคครับ ไม่เป็นไร
“ Have a nice day “ ผมตะโกนไปหาหนุ่มสาวชาวรัสเซีย ก่อนรีบวิ่งหนีออกมา
ผมใช้เวลาอยู่ที่วังนารายณ์นานพอสมควรครับ ที่นี่มีความเก่าและคลาสสิคโดยไม่ต้องประดิษฐ์อะไรเพิ่มเติม
เหมาะกับการเดินถ่ายรูปเล่นเป็นอย่างมาก มีมุมเล็กมุมน้อยให้เราเก็บภาพตลอดเวลา
และโทนสีของที่นี่ยังเหมาะกับการใส่ฟิลเตอร์ VSCO ตามแบบฉบับวัยรุ่นร่วมสมัยเป็นอย่างมากครับ
ที่สำคัญคืออากาศไม่ค่อยร้อนด้วยครับ
ตอนนี้ผมกำลังเดินต่อไปยัง พระปรางค์สามยอด ครับ
ระหว่างทางจะมีโบราณสถานเก่าแก่อยู่ครับ
ซึ่งปัจจุบันที่นี่กลายเป็นที่วิ่งเล่นของลิงไปแล้วครับ
เพราะ ความขี้เล่น , ดื้อ , ซน , ชอบแย่งของ เป็นธรรมชาติของลิง
ดังนั้น ในลพบุรี เวลาเราถืออะไรไว้ในมือ
เมื่อเดินผ่านลิง เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
เพราะเวลาลิงเห็นว่าเรามีของอยู่ในมือ ลิงจะพยายามแย่งสิ่งนั้นจากมือเรา
และถ้าแย่งไม่สำเร็จ ด้วยความที่ลิงเป็นสัตว์ที่มีความสามัคคีเป็นเลิศ
ลิงจะเรียกพวกมารุม ... ผมหมายถึงรุมจริงๆครับ
รุมที่ตัวเราเลยครับ ทั้งไต่แขน ไต่ขา ไต่หัว ดึงผม
และช่วยกันงัดแงะเอาทุกอย่างจากมือเราไป ถ้าเรายังไม่ยอมให้ ลิงจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ลิงจะยิ้มแรง(ผมหมายถึงแยกเขี้ยวใส่) และทำท่าจะกัดเราครับ
ซึ่งบางทีเราก็ไม่อยากให้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องจำยอมให้มันไปอยู่ดีครับ เพราะการเจอลิงกัดคงไม่สนุกเท่าไหร่
คิดไปคิดมา นี่มันคือการขู่กรรโชกทรัพย์กันชัดๆ
อ่านต่อได้ที่ข้างล่าง
“ ทำไมฝรั่งถึงมาเที่ยวลพบุรี ? ” บันทึกการเดินเล่นของชายหนุ่มขี้สงสัย
**********นี่ไม่ใช่กระทู้โชว์รูป ไม่ใช่กระทู้รีวิว ไม่ใช่กระทู้บันทึกการเดินทาง แต่เป็นกระทู้บันทึกการเดินเล่น**********
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
ผมเป็นคนลพบุรีครับ เป็นมา 20 กว่าปีแล้ว
สายแก่ๆ ของวันหยุดที่ผ่านมา
ระหว่างที่ ผมเปิด Facebook ดูความเป็นไปของเพื่อนๆ
ผมเห็นเพื่อนๆเช็คอินตามสถานที่ยอดฮิตต่างๆ เช่น เชียงใหม่ ,บางกระเจ้า , สิงคโปร์ , ปีนัง
, เกาะล้าน , ภูทับเบิก (เพื่อนคนท้ายนี้ มีการบอกอีกด้วยว่า ไปเที่ยวโดยไม่ใช้เงินแม้แต่บาทเดียว !)
ผมทึ่งในความสามารถของเพื่อนคนนี้มาก ทุกวันนี้ผมยังเสียดายที่ปฏิเสธคำชวนของเพื่อนคนนั้นไป
เพื่อนบางคนก็เช็คอินพร้อมรูปถ่าย สีซีด โทนคลีน สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมแคปชั่นสั้นๆลอยๆ
เห็นแล้วรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้เก๋ชะมัด
อยู่ดีๆ ผมก็รู้สึกอิจฉาและรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองอย่างบอกไม่ถูก
หัวใจนักผจญภัยของผม มันกลับมาเต้นอีกครั้ง จริงๆมันไม่เคยหยุดนิ่ง เพราะชีวิตคือการเดินทาง
ผมคิดว่าผมต้องออกไปเที่ยว ต้องออกไปถ่ายรูปที่ไหนซักที่แล้ว
ผมเลือกที่จะเที่ยวลพบุรี เพราะอยู่ลพบุรีมาตั้งนาน ผมไม่ค่อยได้ออกไปเดินเล่นที่ลพบุรีเท่าไหร่เลย
ครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดี ที่จะออกไปเดินเล่นถ่ายรูปที่บ้านเกิดซะที
เพราะ ไม่ว่าเราอยู่ที่ไหน ถ้าเรามีหัวใจแห่งนักผจญภัย เราก็สามารถออกไปเจออะไรใหม่ๆได้เหมือนกัน
(เหอะ ทำเป็นเท่ห์นักนะ เจ้าของกระทู้ !)
จริงๆคือ ผมไม่มีเวลา และไม่มีตังค์ ผมจึงออกไปเที่ยวสถานที่สุดฮิตแบบเพื่อนๆไม่ได้
ถ้าผมอยากเที่ยว ตัวเลือกเดียวของผม ณ ตอนนี้ คือ ลพบุรี ...
แต่ใครเค้าจะมาเที่ยวลพบุรีกันว้ะ ? (ผมพรึมพรำคนเดียว เหมือนพระเอกละครไทย)
นาทีนั้นผมก็นึกขึ้นได้ว่า มีคนมาเที่ยวลพบุรีอยู่นิ !
ฝรั่งไง ฝรั่งชอบมาเที่ยวลพบุรี ฝรั่งชอบมาดูลิง ใครๆเค้าก็รู้กัน
แต่ฝรั่งมาเพื่อดูลิงแค่นั้นจริงๆหรอว้ะ มันน่าจะต้องมีอะไรมากกว่านั้นซิ
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากชิมกาแฟดิป และอ่านหนังสือสร้างแรงบรรดาลใจเสร็จแล้ว
ผมรีบคว้ากล้องอย่างว่องไว ปั่นจักรยานเสือหมอบอย่างช้าๆ
ออกไปเที่ยวเหมือนฝรั่งที่มาเที่ยว ออกไปถ่ายรูปเล่นในตัวเมืองลพบุรี
ออกไปหาคำตอบจากฝรั่งและคนในพื้นที่ ว่า
“ ทำไมฝรั่งชอบมาเที่ยวลพบุรีกัน ? “
เผื่อคำตอบเหล่านั้น จะทำให้ความสงสัยในใจของผมน้อยลงไปบ้าง
และนี่คือจุดเริ่มต้นของกระทู้นี้ครับ
(ณ จุดๆนี้ ผมรู้สึกได้ว่า ตัวเองเริ่มเป็นคนมีสาระพอตัวเลยล่ะครับ)
ด้วยความอยากจะตามรอยนักท่องเที่ยว
จุดแรกที่ผมไป ก็ต้องเป็น สถานีรถไฟ
ผมรีบตรงไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Tourist Helper) ทันที
“ สวัสดีครับ พี่ยุ่งอยู่ไหมครับ ? “
“ ไม่อยู่ครับ “
“ ... “
ผมล้อเล่นครับ จริงๆพี่เค้าไม่ได้กวนหรืออะไรเลยครับ
แค่ผมเข้าไปถามพี่เค้าก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลแล้ว พี่รีบหยิบแผนที่ พร้อมชี้เส้นทางที่ฝรั่งชอบไปเที่ยว
และยังหยิบแบบสำรวจของนักท่องเที่ยวให้ผมดูด้วยครับ ประทับใจเลย
-ส่วนมากจะเป็นชาวฝรั่งเศส , เยอรมัน , เดนมาร์ก , สเปน และชาวยุโรปทั้งหลาย
-มาดูลิงนั่นแหละ
-แต่ไม่ได้มาดูแค่ลิง (เอ้า) แต่มาดูโบราณสถาน มาดูประวัติศาสตร์ด้วย
-ชาวยุโรปชอบที่นี่มาก
-ส่วนมากจะมาแวะอยุธยาก่อน และค่อยมาที่ลพบุรี
-ส่วนมากจะมาพักแค่ 1 – 2 วัน และจะไปจังหวัดอื่นต่อ
ในแบบสอบถามมีอยู่คำตอบหนึง ที่ผมเห็นแล้วชอบมาก คำถามคือ
“ How do you know Lopburi ? “ (คุณรู้จักลพบุรีได้อย่างไร ? )
“ No , don’t know “ (ไม่ครับ ไม่รู้)
อืม เซอร์มาก
ตอนนี้ผมมีเส้นทางที่ฝรั่งชอบไปกันแล้ว
ผมพร้อมที่จะออกเดินตามล่าพวกเขาแล้วครับ
ตอนนี้ผมเดินมาถึง วันพระศรีรัตนมหาธาตุ
นักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงลพบุรี ส่วนใหญ่จะมาเดินชมที่นี่กันเป็นอันดับแรก
(เพราะที่นี่อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟเลย)
ผมเดินถ่ายรูปเล่นมาซักพัก ก็นึกได้ว่า ตั้งแต่เดินเข้ามา ผมยังไม่เห็นฝรั่งซักคนเลย
ถ้าจะให้ถูกต้องเป็น ผมยังไม่เห็นสิ่งมีชีวิตชนิดไหนเลย นอกจากตัวผมเองกับป้าเก็บตังค์หน้าทางเข้า
ผมได้แต่เดินต่อไป ด้วยความหวังว่าจะฝรั่งซักคน ซักคนก็ยังดี
ผ่านมา 15 นาทีแล้ว ก็ยังไม่มีสิ่งมีชีวิตใด เข้ามาในระยะสายตาเลย
ผมรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง ผมเริ่มถอดใจ ตอนนี้ผมเข้าใจอารมณ์ของโบราณสถาน
ที่นานๆทีจะมีคนแวะเข้ามาหาแล้ว มันเป็นอย่างงี้เองซินะ
(พร่ำเพ้ออะไรของ)
ผมเดินถ่ายรูปเล่นจนมาถึงอีกฝากหนึ่ง และผมก็ได้ค้นพบว่า มีคนอยู่เต็มเลย ...
มีชาวต่างชาติด้วย ที่อุตส่าห์พร่ำเพ้อดราม่าเมื่อกี้ ไม่มีความหมายอีกต่อไป
ณ ตอนนี้นายพรานเจอเหยื่อของเค้าแล้ว อยู่ทางด้านขวามือ
ดูจากทรงแล้ว เป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นอย่างแน่นอน
นายพรานไม่มีความลังเลที่จะพุ่งเข้าไปหาเหยื่อทันที
“ Ohayou gozaimasu “ (แปลว่า อรุณสวัสดิ์ ในภาษาญี่ปุ่น)
“ … “ (ทั้งคู่ทำหน้างง)
“ … “ (เห้ย หรือเค้าไม่ใช่คนญี่ปุ่นว้ะ)
“ Hello “
“ Hi “
“ Are you hurry ? “
“ No no “
“ Where are you come from ? “
“ K … Korea “ (จังหวะนี้ยอมรับว่าหน้าแตกมากครับ)
“ Why do you come to Lopburi ? “
“ To see flowers ! “
“ … “ (ห้ะ ดอกไม้อะไรกัน)
“…”
“What , Not Monkeys ? “
“ Monkeys too !”
มิมิน และเพื่อนของเธอ น่ารักมากครับ
เอาจริงๆทุกวันนี้ ผมก็ยังไม่รู้ว่า Flowers ที่มิมินอยากไปดู คือที่ไหนเลย
เพราะลพบุรี ช่วงนี้ (ตุลาคม) ไม่มีดอกไม้ที่ไหนให้ชมเลยครับ หรือผมอาจจะไม่รู้เองก็เป็นได้
จะอีเมลล์ไปถามเค้าก็กลัวจะโดนด่าว่า จะยุ่งอะไรกับกูอีกล่ะ เลยคิดว่าเก็บความสงสัยนี้ไว้ดีกว่า
เสียงสัญญาณรถไฟดังอีกครั้ง รถไฟอีกขบวนคงมาถึงแล้ว
ผมใช้เวลากับที่นี้ไปเกือบ 1 ชม. สัมภาษณ์นักท่องเที่ยวไป 5 นาที (คุ้มค่าสุดๆ)
เวลาที่เหลือใช้ไปกับการเดินเหงาอยู่คนเดียวซะส่วนใหญ่
ผมคิดว่าได้เวลาแล้วที่ผมควรออกเดินทางต่อ
รู้สึกไม่ผิดหวังเลยครับ ที่ออกมาแถวสถานีรถไฟ ผมเจอนักท่องเที่ยวผู้ใหญ่ 2 คน
เพิ่งเดินออกมาจากสถานีรถไฟ กำลังมุ่งหน้าไปที่ไหนซักที่
หลังจาก ทักทาย ผมก็รู้ว่าผู้หญิงทางด้านขวา เธอชื่อเจน มาจากสวีเดน
กะมาพักอยู่ที่ลพบุรีแค่ 5 ชม.แล้วจะเดินทางไปสุโขทัยต่อ
ผมไม่อยากให้พวกเธอเสียเวลาเดินเล่น ผมรีบถามคำถามของผม
“ พวกเราแวะมาดูแค่ลิงเฉยๆแหละ ” พวกเธอตอบอย่างว่องไว แล้วรีบตอนจากไป
ลพบุรีจะมีร้านอาหารที่ชาวต่างชาติชอบมานั่งกินอาหารอยู่บ่อยๆ
สืบทราบมาว่า ถ้าอยากจะได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับชาวต่างชาติ ต้องไปหาเจ้าของร้านนี้เลย ข้อมูลเค้าแน่นจริงๆ
ตอนนี้ ผมเดินเล่นมาถึงร้านนี้แล้ว แต่เจ้าของร้านไม่อยู่ ...
หลังจากปลอบใจตัวเองว่า ไม่เป็นไรเนอะ
ก็เข้าไปทักทายฝรั่งคู่หนึง เทอชื่อ แมรรี่อิน กับ สตีเฟน มาจากสเปน
ทั้งคู่บอกว่า ก็มาดูลิงนี่แหละ มาเที่ยวลพบุรีได้อาทิตย์หนึงแล้ว
ชอบเมืองลพบุรีเพราะว่าเป็นเมืองที่ดูเงียบๆและสงบ อยู่แล้วไม่วุ่นวายดี
ตอนนี้ ผมเดินเล่นมาถึงโบราณสถานที่ดังที่สุดของลพบุรีครับ
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ แต่คนลพบุรีจะเรียกกันสั้นๆว่า วัง
ที่นี่เป็นแลนมาร์กของลพบุรีที่นักท่องเที่ยว ต้องมาเยี่ยมชมซักครั้ง ไม่งั ....
พอเถอะครับประโยคสูตรอะไรพวกนั้น เก่าแล้ว
แค่เดินเข้ามาก็รู้สึกเย็นเลย อาจเป็นเพราะในนี้มีต้นไม้เยอะ
ผสมกับโบราณสถานเก่าๆ บรรยากาศที่นี่เลยดูเงียบสงบอย่างบอกไม่ถูก
อีก 5-6 ภาพต่อไปนี้ จะไม่มีการพิมพ์แทรกใดๆทั้งสิ้นนะครับ
จะเป็นการลงรูปรัวๆ เพื่อเป็นการแชร์ความสงบ ที่ผมได้รับในวันนั้นครับ
จริงๆคือ ผมคิดว่า บางทีผมอาจจะพิมพ์มากเกินไปแล้ว
จนกลัวคุณผู้อ่านจะบ่นในใจว่า ชั้นจะดูรูปโว้ย เอ็งจะพิมพ์อะไรหนักหนาเนี่ยไอ้เจ้าของกระทู้
อย่างเช่นตอนนี้ เพิ่งบอกว่าจะไม่พิมพ์แล้ว เอ็งก็ยังพิมพ์อยู่
โอเคครับ เข้าสู่ช่วงสงบกันครับ
และข้างล่างนี้ เป็นภาพของคุณลุ ... (ล้อเล่นครับ ไม่พิมพ์แล้วครับ)
โอเคครับ หมดฃ่วงสงบแล้ว
ระหว่างที่ผมเดินก้มหน้าก้มตาดูรูปในกล้อง
ผมก็เจอชาวต่างชาติเดาว่าน่าจะเป็นชาวรัสเซีย เดินผ่านผมไป
ผมทักทายเบาๆว่า “ Hello Can you speak English ? “
.
.
.
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากนักท่องเที่ยงชาวต่างชาติคู่นี้
โอเคครับ ไม่เป็นไร
“ Have a nice day “ ผมตะโกนไปหาหนุ่มสาวชาวรัสเซีย ก่อนรีบวิ่งหนีออกมา
ผมใช้เวลาอยู่ที่วังนารายณ์นานพอสมควรครับ ที่นี่มีความเก่าและคลาสสิคโดยไม่ต้องประดิษฐ์อะไรเพิ่มเติม
เหมาะกับการเดินถ่ายรูปเล่นเป็นอย่างมาก มีมุมเล็กมุมน้อยให้เราเก็บภาพตลอดเวลา
และโทนสีของที่นี่ยังเหมาะกับการใส่ฟิลเตอร์ VSCO ตามแบบฉบับวัยรุ่นร่วมสมัยเป็นอย่างมากครับ
ที่สำคัญคืออากาศไม่ค่อยร้อนด้วยครับ
ตอนนี้ผมกำลังเดินต่อไปยัง พระปรางค์สามยอด ครับ
ระหว่างทางจะมีโบราณสถานเก่าแก่อยู่ครับ
ซึ่งปัจจุบันที่นี่กลายเป็นที่วิ่งเล่นของลิงไปแล้วครับ
เพราะ ความขี้เล่น , ดื้อ , ซน , ชอบแย่งของ เป็นธรรมชาติของลิง
ดังนั้น ในลพบุรี เวลาเราถืออะไรไว้ในมือ
เมื่อเดินผ่านลิง เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
เพราะเวลาลิงเห็นว่าเรามีของอยู่ในมือ ลิงจะพยายามแย่งสิ่งนั้นจากมือเรา
และถ้าแย่งไม่สำเร็จ ด้วยความที่ลิงเป็นสัตว์ที่มีความสามัคคีเป็นเลิศ
ลิงจะเรียกพวกมารุม ... ผมหมายถึงรุมจริงๆครับ
รุมที่ตัวเราเลยครับ ทั้งไต่แขน ไต่ขา ไต่หัว ดึงผม
และช่วยกันงัดแงะเอาทุกอย่างจากมือเราไป ถ้าเรายังไม่ยอมให้ ลิงจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ลิงจะยิ้มแรง(ผมหมายถึงแยกเขี้ยวใส่) และทำท่าจะกัดเราครับ
ซึ่งบางทีเราก็ไม่อยากให้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องจำยอมให้มันไปอยู่ดีครับ เพราะการเจอลิงกัดคงไม่สนุกเท่าไหร่
คิดไปคิดมา นี่มันคือการขู่กรรโชกทรัพย์กันชัดๆ
อ่านต่อได้ที่ข้างล่าง