ทำงาน ไม่ตรงสายที่เรียนมา

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา อยากถามเพื่อนๆ มีใครที่เรียนจบมา ทำงานไม่ตรงสายบ้าง เราเรียนจบ ศศบ.ดนตรีสากลมา แต่ตอนนี้เราทำงานอ๊อฟฟิส งานเอกสาร ในหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง เมื่อก่อน เราก็เล่นดนตรีกลางคืน และก็สอนพิเศษดนตรีบ้าง แต่2ปีหลังมา เรารู้สึกหมดไฟท้อแท้เบื่อหน่ายในการทำงานเกี่ยวกับด้านนี้มากๆ เราเริ่มวางมือทีละอย่าง2อย่าง จากที่เมื่อก่อน เราเล่นดนตรีเป็นอาชีพ(คือ ไม่ใช่มืออาชีพ แต่ใช้ดนตรีเลี้ยงชีพ และส่งตัวเองเรียนจบ ใช้ชีวิตเอง และส่งเงินให้ครอบครัวได้) ตอนนี้ เราทิ้งงานทั้งหมดเกี่ยวกับดนตรีออกไปหมด ด้วยปัญหาหลายๆอย่าง เรื่องแฟนที่เลิกกันไป (เมื่อก่อน เล่นอยู่วงเดียวกัน พอเลิกกัน เราก็อยากเลิกเล่นดนตรีด้วย อยากหลุดจากวงการนี้ ไม่อยากเจอกันอีกว่างั้น) เรื่องเพื่อน เรื่องการใช้ชีวิตที่มันผิดปกติ นอนกลางวันตื่นกลางคืน เรารู้สึก สุขภาพเราไม่ค่อยดี และที่บ้านเราก็เป็นห่วง ในเรื่องของการเป็นผู้หญิง เดินทางคนเดียวกลางคืน อยากให้เราเลิกทำเป็นอาชีพ โดยหันไปทำอย่างอื่นแทน ซึ่งเราก็เห็นด้วยกับครอบครัว และก็ไม่ได้ฝืนใจอะไร ที่จะต้องไปลองทำอย่างอื่นบ้าง
แล้วปัญหามันก็เกิด เราได้งานใหม่ เป็นลูกจ้างของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ที่นั่น มีแต่งานเอกสารล้วนๆ เราพยามปรับตัว โปรแกรมที่ใช้งานเกี่ยวกับอ้อฟฟิส เครื่องใช้สำนักงาน งานบัญชี งานธุรการ ติดต่อประสานงาน และอีกหลายๆอย่าง ที่เราไม่เคยเรียน ไม่มีความรู้เลย เราเรียนแต่ดนตรี ไมโครซอฟท์เอ็กเซล เราก็ไม่เคยเรียนเลย เคยเรียนสมัยมัธยม งูๆปลาๆ แรกๆ ก็ท้อนะ รู้สึกชีวิตมันยากจัง เหมือนติดกระดุมเสื้อผิด เริ่มต้นผิด คิดได้เมมื่อสาย อะไรประมาณนั้น เจ้านาย หรือพี่ๆที่ทำงาน พอรู้ว่าเราจบดนตรีมา ก็ชอบถาม ว่าทำไม เราไม่อยากเป็นนักดนตรีหรอ ไม่อยากเป็นครูหรอ เราก็ตอบเขาได้ไม่เต็มปากนะ ว่ามันอยากหรือไม่อยาก ทำให้ตอนนี้ เราเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าเราวางตัวเองผิดที่ผิดทางไปรึเปล่า จริงๆแล้ว มันจำเป็นมั้ย ที่คนๆ จะเรียนจบอะไรมา ก็ควรจะไปทำงานนั้นๆ เพื่อให้มันเกิดประสิทธิภาพ เนื่องจากได้ศึกษาและร่ำเรียนมา บางที เด็กอายุ18 ในตอนนั้น อาจจะยังสับสนลังเล ในการเลือกคณะเรียนมหาลัย สิ่งที่ตัดสินใจไปตอนนั้น อาจเกิดจากความคิดที่ไม่ใช่บทสรุปสุดท้ายของชีวิตก็ได้ ว่าจริงๆแล้ว จบไป เราต้องการจะเป็นแบบนั้นจริงๆ มันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดก็ได้
เจ้านายยังเคยถามเราว่า แล้วเราจะฝืนใจทำงานแบบนี้ได้หรอ เจ้านายบอก เราเป็นนักเนตรี คนเป็นนักดนตรี เป็นพวกติสแตก ความอดทนน้อย ทำอะไรอยู่ในกรอบในกฏอะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก เราก็ยอมรับนะ เราก็ตอบเจ้านายไปว่า เราไม่ได้รังเกียจงานแบบนี้ แต่เราก็ไม่ได้ชอบนะ คือ ทำได้ ไม่ได้รู้สึก ฝืนใจอะไร เจ้านายเขาก็เลยบอก ให้เราไปทำสิ่งที่รักดีกว่ามั้ย เราก็ ได้แต่ยิ้มอ่อนๆกลับไป ไม่ได้ตอบอะไร เพราะเรื่องจริงคือ เรายังหาตัวเองไม่เจอ ว่าจริงๆ เราชอบ และรักที่จะทำอะไร เราจึงขอเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆก่อน ศึกษาอะไรใหม่ๆ บางที เราอาจจะรักงานแบบนี้ก็ได้
สุดท้าย เราไม่ได้รังเกียจอาชีพดนตรี หรือคิดจะเลิกเล่นดนตรี เพียงแต่ เราเลิกทำเป็นอาชีพเท่านั้น ทุกวันนี้ เราก็ยังเล่นดนตรีบ้าง ถ้ามีเวลาว่าง แต่เล่นจรรโลงจิตใจตัวเองเท่านั้น
เลยอยากถามเพื่อนๆ และอาจจะได้มีกำลังใจหรือข้อแนะนำดีๆ จากคนที่ประสบปัญหาเดียวกันบ้าง ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่