มีความรู้สึกว่าอยากจริงจังในการเขียนบทความอวยเพลงนี้มานานแล้ว ครั้งแรกที่ได้ฟังก็คิดว่าทำนองเพราะเนอะ มันดูน่ารักมุ้งมิ้งดี ความหมายก็คงดีตามไปด้วยแหละมั้ง ด้วยความที่ไร้ซี่งความรู้ในภาษาญี่ปุ่น ก็เลยไปรบเร้า อ้อนวอน ขอร้องพี่สาวผู้ใจดีJokerizM ให้ช่วยแปลเนื้อเป็นภาษาไทยค่ะ พอแปลออกมาเท่านั้นแหละ จากที่ชอบระดับ 10 กลายเป็นชอบระดับ 100 อะไรมันจะน่ารักมุ้งมิ้งขนาดนั้น
เกริ่นเข้าเพลงเล็กน้อยค่ะ เพลง 4U คือเพลงจังหวะน่ารักๆ ขัดกับอิมเมจคัตตุนมากๆ - - ปกติเพลงของคัตตุนจะอยู่ในแนวป๊อปร๊อค เช่น Real Face , One drop , Don’t you ever stop อารมณ์นี้ค่ะ แนวเพลงจะหนักๆ เอาไว้โยก เอาไว้ว๊าก - - ช่วงเดบิ้วใหม่ๆ ( 9 ปีที่แล้ว) เวลาคาเมะร้องเพลงหนักๆ ฮีจะกรี๊ด จะว๊าก ตอนนั้นแบบ รำคาญมากค่ะบอกตรงๆ - - จะกรี๊ดทำเพื่อ? 555 แต่พอมีโอกาสได้ไปดูคอนจริงๆเท่านั้นแหละ กรี๊ดอีกสิ ว๊ากอีกสิ - - มันกลายเป็นอารมณ์ร่วมซะงั้น 5555 เพลง 4U อยู่ใน Mini-Album KUSABI (วางขายปลายปี 2013) ช่วงที่วางขายมันดราม่ามากค่ะคุณ TT คือช่วงนั้นเป็นช่วงดาวน์สุดๆของคัตตุนเลยค่ะ ย้อนกลับไปน้านนาน … . อย่างที่ทุกคนทราบดี อาเจ๊ติ่งรุ่นเดอะคงคุ้นเคยกับคัตตุน เพราะพวกฮีเคยมาไทยยุค J-Pop รุ่งเรืองพร้อมเฮียและซ้อ ตอนนั้นกระแสทักกี้แอนด์เดอะแก๊งค์มาแรงมาก ไม่มีใครไม่รู้จัก ทุกคนกรี๊ดคู่จิ้น พระเอกฟิคและนายเอกฟิคในตำนาน จินคาเมะ กันเป็นแถว ช่วงนั้นดังพลุแตกเปรี๊ยงปร๊างมาก พวกฮีเต้นพร้อม ร้องดี บีทบ๊อคเยี่ยม แรพได้ด้วย โคตระเริ่ดบอกเลย พวกฮีมีคอนเป็นของตัวเองก่อนที่จะได้เดบิวต์ พอมาช่วงปี 2006 พวกฮีก็ได้เดบิวต์สักที กรี๊ดดดดดดดดด ดังมากเว่อ ขายได้เป็นล้านๆแผ่น ตอนนั้นที่ญี่ปุ่นไม่มีใครไม่รู้จักเพลง Real Face
คัตตุนพีคมากถึงมากที่สุด มีคอน มีซิง มีอัลบัมติดต่อกันออกมาเรียกเงินในกระเป๋าแฟนๆทุกเดือน คิดดูดิว่าดังขนาดไหน!!! (ตอนนั้นเด็กมาก ค่าเงินเยนก็แพง สั่งแผ่นจากญี่ปุ่นมาแล้วโกหกที่บ้านว่า 199 - - หนูๆอย่าทำตามป้านะคะ 5555) ช่วงที่ดังที่สุด คืออัลบัม 4 และคอน Break The Records จัดติดกันที่โตเกียวโดม 10 กว่าวัน แล้วฮีก็ได้ลงกินเนสบุ๊ค วู้วววววววว ดังดีจริงๆใช่ไหมคะ? แล้วก็เงียบหายไปสักแป๊บฮีก็ประกาศคอนอีก แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้สมาชิกวงหายไปคนนึง จาก 6 ก็เหลือแค่ 5 คน ฮรืออออออ แฟนๆก็เริ่มหายไปทีละเล็กทีละน้อย พวกฮีก็ทำวงกันต่อไป เดินหน้า มุ่งหน้า ประคับประคองกันไป ทั้งศิลปิน ทั้งแฟนคลับ คัตตุนเรียกแฟนคลับว่า HYPHEN ค่ะ มันคือขีดตรงกลางคำว่า KAT-TUN หมายถึงแฟนคลับทุกคนเชื่อมพวกเราให้เป็นหนึ่งเดียว เพราะชื่อวงมาจากตัวอักษรแรกของนามสกุลทุกคนในวง HYPHEN เองก็เปรียบเหมือนสมาชิกคนนึงของพวกเราเหมือนกัน (ซับน้ำตาแป๊บ) ตอนนั้นมีข่าวว่าจะมีคอน 5 World Big Tour 2010 จะมาไทยด้วยนะยะ แต่โดนกิจกรรมการเมืองสกัดดาวรุ่งก่อน แป่วไปตามระเบียบ พอจบคอน 5 ก็มีคอน 6 CHAIN ต่อ ช่วงนั้นเริ่มทรงๆแล้วค่ะ แฟนคลับอาจจะไม่เพิ่ม แต่ก็ยังพอมีอยู่ (นับยอดแฟนคลับจากการสมัครเมม) เหมือนพวกฮีก็รู้ตัวเนอะ ว่ามันไม่ดังได้เท่าเดิมอีกแล้ว แต่ยังไงก็ยังอยากให้แฟนๆที่เหลืออยู่มีความสุขที่สุด ไม่อยากให้เสียใจที่มาชอบพวกฮี (เริ่มเห็นแฟนคลับเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำให้มันหายไป) คือจะว่าพึ่งมาเห็นก็ไม่ใช่นะ แต่ก่อนหน้านี้มันไม่ค่อยแสดงออกเท่าไหร่ พึ่งจะมาแสดงออกช่วงนี้แหละค่ะ จบทัวร์คอนนี้ไปคัตตุนก็ไม่มีงานเลยค่ะ หายไปนานมาก หายไปเกือบครึ่งปี คนที่งานเยอะสุดคือคาเมะ แล้วดูเหมือนจะเอ็นจอยกับงานเบสบอลด้วย มันเงียบมาก จนสมาชิกอีกคนในวงก็หายไป เหลือ 4 คนแล้วค่ะ (รายละเอียดที่เราเกริ่นมาด้านบนนี้ เป็นการลำดับเหตุการณ์ก่อนที่จะเกิดการแต่งเพลง 4U เราไม่อยากลงรายละเอียดดีเทลให้มันเยอะจนขี้เกรียจอ่าน เลยย่อๆให้เห็นภาพว่า ทำไมเพลงนี้ถึงเป็นสารจากคัตตุนถึงแฟนคลับทุกคน)
กลับมาที่เพลง 4U อย่างจริงจัง 555 เพลงนี้โปรดิวส์โดยคุณ Steven Lee โปรดิวส์เซอร์คนนี้ปกติจะแต่งเพลงซิงเกิ้ลหลัก ซึ่งฮีแต่งทำนอง Givme luv , Fire and Ice ให้คัตตุนเช่นกัน ถ้าใครที่เป็นติ่งเกาหลีด้วยจะคุ้นชื่อฮีมากค่ะ เพราะฮีเป็นลูกครึ่งเกาหลีอเมกา ผลงานแต่งเพลง / ทำนอง K-Pop ให้ศิลปินเช่น SS501 , Super Junior , SNSD และวงดังๆอีกหลายวง ส่วนใหญ่แนวเพลงของฮีจะป๊อบร๊อคหนัก ฟังแล้วติดหู ซึ่งเพลงนี้สวนกระแสเพลงแนวถนัดของฮีมาก เราลองไปดูเนื้อกันดีกว่า เหมือนว่าคนที่แต่งเนื้อร้องจะใช้นามปากกาว่า 25→graffiti นะคะ หลังจากนี้เราจะเอาเนื้อเพลงที่แปลออกมาแล้ว มาวิเคราะห์ทีละบรรทัด * คือบทวิเคราะห์นะคะ
4U (four you) > ผู้ชาย 4 คนของเธอ , 4U (For You) > แด่เธอ , เพื่อเธอ
ลางสังหรณ์เกิดขึ้น ณ วันนั้น ที่แห่งนั้น วินาทีนั้น ประสาทสัมผัสทั้ง 5 รับรู้ถึงโชคชะตาที่พาให้มาพบเจอ เธอและฉัน เปรียบดั่งพระจันทร์และพระอาทิตย์ เพราะมีเธอที่เป็นเธอ มันถึงได้ส่องประกายเจิดจรัส
- * ข่าวคราวมากมายที่เกิดขึ้นมันทำให้แฟนคลับหายไป แต่แฟนคลับที่อยู่ตรงนี้และสนับสนุนคัตตุนตั้งแต่เริ่มพบเจอและรักกัน เปรียบเหมือนพระจันทร์และพระอาทิตย์ (ไฮเฟ่นเป็นพระจันทร์ คัตตุนเป็นพระอาทิตย์)
- พระอาทิตย์คือความสว่างไสว เป็นพลังงาน จุดสนใจ เปร่งประกายเจิดจ้าในที่ที่มองเห็น (พูดง่ายๆก็คือการเป็นศิลปินของคัตตุนในตอนนี้)
- พระจันทร์สว่างสดใสในตอนกลางคืนได้เพราะพระอาทิตย์ กล่าวคือ ไฮเฟ่นมีความสุขได้ เพราะคัตตุนจริงไหม เราได้รับความสุขและแสงสว่างจากคัตตุน มันทำให้ไฮเฟ่นสว่างสดใสส่องประกายเจิดจ้า
- ความรักของพวกเราที่มีให้กัน มันแยกจากกันไม่ได้ เพราะมีคัตตุนจึงมีไฮเฟ่น เพราะมีไฮเฟ่น จึงมีคัตตุน
- อีกนัยนะคะ >> พระอาทิตย์ทำหน้าที่เปร่งประกายแสงในตอนกลางวัน (ผลงาน ชื่อเสียง) ในขณะที่พระจันทร์ทำหน้าที่แทนพระอาทิตย์ในตอนกลางคืน ซึ่งแสงที่พระจันทร์ได้รับ เป็นแสงที่เปร่งประกายออกมากจากพระอาทิตย์ (คนที่คอยซับพอร์ท คนที่คอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างหลังผลงาน และชื่อเสียงเหล่านั้น คนที่คอยเป็นแรงผลักดันต่างๆ)
ความฝันถูกแต่งแต้มสีสันเอ่อล้นเต็มเมือง ส่งถึงเธอที่มอบความหวัง และความอ่อนโยนให้กับฉันไม่เคยขาด ความทรงจำที่ไม่อาจลบเลือน ยิ่งกว่าคำพูดหนึ่งที่เคยสัมผัส ฉันอยากจะส่งไปถึงเธอ จากใจกลางของโลกใบนี้ ที่รักของฉัน เธอที่แสนหวาน เธอจะเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายของฉัน คนๆนั้นคือเธอ
- * ตรงตัวเลยค่ะ ความหวัง ความผัน มีมากมายจากไฮเฟ่นที่ยังรักคัตตุนอยู่ในทุกๆที่ทั่วโลก ความรักที่มอบให้ไม่เคยจางหาย ความทรงจำที่มีร่วมกันมากมาย (ในทีนี้คิดว่าตั้งแต่เริ่มทำวงเลย) มันมากมายกับความรักที่ได้รับ มันไม่สามารถพูดออกไปแต่อยากให้ทุกคนใช้ใจสัมผัส ให้มันสื่อไปถึงไฮเฟ่นทุกคน จากใจกลางของโลกใบนี้
ฉันเคยเรียกร้องหาเพียงสิ่งที่เป็นรูปธรรม แต่ความทรงจำที่ไม่เคยสะท้อนในแววตานั้นมากกว่า ที่กลับจุดขึ้นจนสว่างจ้า จากนี้ไป ขอเพียงเธอกับฉันได้มีชีวิตอยู่ ด้วยทั้งหมดที่เชื่อมโยงเราสองเข้าไว้ด้วยกัน
- * คัตตุนเคยคิดแต่เรื่องการทำวง ทำคอน (ตามความคิดเราคือการทำหน้าที่ดารา หน้าที่นะคะ มันคือหน้าที่ คืออาชีพ ที่พวกเค้าต้องทำ) โดยที่ไม่เคยคิดถึงความรู้สึก และความรัก ความทรงจำต่างๆของไฮเฟ่นมาก่อน ลืมไปว่ามันคือของล้ำค่า แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น มันกลับเป็นจุดที่ทำให้คัตตุนคิดได้ และคิดว่านี่คือสิ่งล้ำค่ามากกว่าการทำงานเพื่อหน้าที่ หรืออาชีพ จากนี้ไป ขอแค่มีเรา คัตตุนกับไฮเฟ่น คนที่คอยเชื่อมพวกเราไว้ ก็เพียงพอ
เมื่อฝนซา เราเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เห็นแสงแดดลอดผ่านกลีบเมฆ มันเป็นแสงสว่าง เป็นความคิดถึง ที่ยังคงส่งไปถึงเธอ ไม่มีที่สิ้นสุด ท่ามกลางเมืองๆนี้ที่ไม่มีอะไรแน่นอน กลับเต็มไปด้วยหนึ่งสายสัมพันธ์ที่ยังคงอยู่ นอกจากนั้น ฉันก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ขอบคุณเธอจริงๆ ที่รักของฉัน เธอจะเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายของฉัน คนๆนั้นคือเธอ
- * ฝนเปรียบเหมือนปัญหาและอุปสรรค์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น (หมายถึงการถอนตัวออกจากวง จากสมาชิก 5 คนเหลือเพียง 4 คน) กล่าวคือ เมื่อมองไปที่ปัญหา มองไปที่อุปสรรค์ สิ่งที่คัตตุนคิดถึงเป็นอย่างแรกคือไฮเฟ่น ไฮเฟ่นคือแสงสว่างของคัตตุน คือสิ่งแรกที่เค้าเห็นว่า เราเองจะเจ็บปวด จะเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากที่สุด ต่อจากนี้ ไม่มีอะไรแน่นอน เราไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่เราอยากรักษาสายสัมพันธ์นี้ไว้ ให้มันคงอยู่ ให้มันเชื่อมกันไว้ และเราไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
ขอบคุณเธอจริงๆ ที่รักของฉัน ในวันนั้น โลกใบนี้เคยมืดหม่น แต่ในวันพรุ่งนี้ที่มันสว่างขึ้น ฉันจะจุมพิตเธอ
- * ในวันนี้ปัญหาและอุปสรรค์มันยังคงมีอยู่ แต่ในวันต่อๆไป มันจะค่อยๆคลี่คลายลง เพราะไฮเฟ่น
นี่คือเนื้อและบทวิเคราะห์เพลงค่ะ โดยปกติเพลงญี่ปุ่นจะชอบแต่งโดยใช้สัญลักษณ์ทางธรรมชาติต่างๆมาเปรียบเทียบให้เกิดความรู้สึกอ่อนไหวอยู่แล้ว เราคิดว่าถ้าเป็นคนญี่ปุ่นจริงๆ เค้าก็จะฟังแล้วเข้าใจได้ทันทีว่าเพลงนี้แต่งให้แฟนคลับแน่ๆ เพราะเพลงนี้ร้องครั้งแรกในคอนเคาท์ดาวน์ 2013 - 2014 เลย แล้วร้องอีกทีคือเพลงสุดท้ายของงานแฟนมีตติ้ง Shin Shun Katsu Mode ช่วงดราม่าสมาชิกวง หลังจากนั้นก็ร้องเรื่อยๆ อย่างในคอน Com
รอบสุดท้ายของการแสดงที่โยโกฮาม่าอารีน่า และโยโยหงิก็ร้อง รวมไปถึงอังกอร์รอบสุดท้ายของเคาท์ดาวน์ 2014 – 2015 หรือคอนล่าสุด 9uarter เช่นกัน
คัตตุนพูดในคอนทุกคอนเสมอหลังจากที่มีสมาชิกหายไปถึง 2 คนว่า ทุกครั้งที่เกิดปัญหาหรือเกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมากมาย สิ่งที่เราไม่อยากเสียไปที่สุดคือแฟนๆของพวกเรา อยากให้ทุกคนรัก และเข้มแข็ง อยากให้ทุกคนมีความสุข และเลือกไม่ผิดที่รักพวกเค้า เมื่อพวกเค้ามองกลับมา แล้วยังเห็นพวกเราที่เป็นแฟนคลับ คอยมอบความรัก เค้าก็จะมุ่งมั่นและตั้งใจในการทำงานมากขึ้น ทุกครั้งที่คอนจบ วีดีโอจากในคอนจะขึ้น Special Thanks to Hyphen ทุกครั้ง บางทีนัยยะต่างๆที่พวกเค้าใส่ลงไปในคอน ก็เพื่อที่จะบอกว่า พวกเค้าแคร์เรา แคร์แฟนคลับที่มีกันอยู่เท่านี้ เค้ารักเรา เหมือนที่เรารักเค้านั้นแหละค่ะ อย่างที่ทุกๆคนรู้ว่าคัตตุนเป็นวงที่นั้งกำกับการทำคอนเองด้วยซ้ำ แม้พวกเค้าจะมีความเป็นตัวของตัวเองมากกกกกกกกกกกก ก็ตาม 555 (ชอบพูดเรื่องทะลึ่งในคอน ใช่คำหยาบคายกับแฟนคลับ แซวแฟนคลับแรงๆ แต่ก็ไม่มีแฟนคนไหนโกรธ เพราะมันดูใกล้ชิดและเข้าถึงความเป็นตัวตนของคัตตุนมากกว่าเมื่อก่อน) บางโชว์อยากจะทำ จะขอเปลี่ยน พวกฮีก็ทำกันเลย ยังไงก็อย่าพึ่งทิ้งพวกฮีไปไหนนะคะ อยู่จนแก่ไปพร้อมๆกัน ขอบคุณที่อ่านจบค่ะ ^^
ลองกดเข้าไปดูรูปนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://twitter.com/Mykattun/status/645194373110460416
https://twitter.com/Mykattun/status/645197280786542592
Special Thanks to คีย์บอร์ด ไฟฟ้า อินเตอร์เนต เพลง 4U และคนอ่านทุกคนค่ะ ^^
Credit MYKAT-TUN , jokerizm.blog138
[J-POP] 4U สารจาก KAT-TUN ถึง HYPHEN เพราะฉันคือพระอาทิตย์ และเธอคือพระจันทร์
มีความรู้สึกว่าอยากจริงจังในการเขียนบทความอวยเพลงนี้มานานแล้ว ครั้งแรกที่ได้ฟังก็คิดว่าทำนองเพราะเนอะ มันดูน่ารักมุ้งมิ้งดี ความหมายก็คงดีตามไปด้วยแหละมั้ง ด้วยความที่ไร้ซี่งความรู้ในภาษาญี่ปุ่น ก็เลยไปรบเร้า อ้อนวอน ขอร้องพี่สาวผู้ใจดีJokerizM ให้ช่วยแปลเนื้อเป็นภาษาไทยค่ะ พอแปลออกมาเท่านั้นแหละ จากที่ชอบระดับ 10 กลายเป็นชอบระดับ 100 อะไรมันจะน่ารักมุ้งมิ้งขนาดนั้น
เกริ่นเข้าเพลงเล็กน้อยค่ะ เพลง 4U คือเพลงจังหวะน่ารักๆ ขัดกับอิมเมจคัตตุนมากๆ - - ปกติเพลงของคัตตุนจะอยู่ในแนวป๊อปร๊อค เช่น Real Face , One drop , Don’t you ever stop อารมณ์นี้ค่ะ แนวเพลงจะหนักๆ เอาไว้โยก เอาไว้ว๊าก - - ช่วงเดบิ้วใหม่ๆ ( 9 ปีที่แล้ว) เวลาคาเมะร้องเพลงหนักๆ ฮีจะกรี๊ด จะว๊าก ตอนนั้นแบบ รำคาญมากค่ะบอกตรงๆ - - จะกรี๊ดทำเพื่อ? 555 แต่พอมีโอกาสได้ไปดูคอนจริงๆเท่านั้นแหละ กรี๊ดอีกสิ ว๊ากอีกสิ - - มันกลายเป็นอารมณ์ร่วมซะงั้น 5555 เพลง 4U อยู่ใน Mini-Album KUSABI (วางขายปลายปี 2013) ช่วงที่วางขายมันดราม่ามากค่ะคุณ TT คือช่วงนั้นเป็นช่วงดาวน์สุดๆของคัตตุนเลยค่ะ ย้อนกลับไปน้านนาน … . อย่างที่ทุกคนทราบดี อาเจ๊ติ่งรุ่นเดอะคงคุ้นเคยกับคัตตุน เพราะพวกฮีเคยมาไทยยุค J-Pop รุ่งเรืองพร้อมเฮียและซ้อ ตอนนั้นกระแสทักกี้แอนด์เดอะแก๊งค์มาแรงมาก ไม่มีใครไม่รู้จัก ทุกคนกรี๊ดคู่จิ้น พระเอกฟิคและนายเอกฟิคในตำนาน จินคาเมะ กันเป็นแถว ช่วงนั้นดังพลุแตกเปรี๊ยงปร๊างมาก พวกฮีเต้นพร้อม ร้องดี บีทบ๊อคเยี่ยม แรพได้ด้วย โคตระเริ่ดบอกเลย พวกฮีมีคอนเป็นของตัวเองก่อนที่จะได้เดบิวต์ พอมาช่วงปี 2006 พวกฮีก็ได้เดบิวต์สักที กรี๊ดดดดดดดดด ดังมากเว่อ ขายได้เป็นล้านๆแผ่น ตอนนั้นที่ญี่ปุ่นไม่มีใครไม่รู้จักเพลง Real Face
คัตตุนพีคมากถึงมากที่สุด มีคอน มีซิง มีอัลบัมติดต่อกันออกมาเรียกเงินในกระเป๋าแฟนๆทุกเดือน คิดดูดิว่าดังขนาดไหน!!! (ตอนนั้นเด็กมาก ค่าเงินเยนก็แพง สั่งแผ่นจากญี่ปุ่นมาแล้วโกหกที่บ้านว่า 199 - - หนูๆอย่าทำตามป้านะคะ 5555) ช่วงที่ดังที่สุด คืออัลบัม 4 และคอน Break The Records จัดติดกันที่โตเกียวโดม 10 กว่าวัน แล้วฮีก็ได้ลงกินเนสบุ๊ค วู้วววววววว ดังดีจริงๆใช่ไหมคะ? แล้วก็เงียบหายไปสักแป๊บฮีก็ประกาศคอนอีก แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้สมาชิกวงหายไปคนนึง จาก 6 ก็เหลือแค่ 5 คน ฮรืออออออ แฟนๆก็เริ่มหายไปทีละเล็กทีละน้อย พวกฮีก็ทำวงกันต่อไป เดินหน้า มุ่งหน้า ประคับประคองกันไป ทั้งศิลปิน ทั้งแฟนคลับ คัตตุนเรียกแฟนคลับว่า HYPHEN ค่ะ มันคือขีดตรงกลางคำว่า KAT-TUN หมายถึงแฟนคลับทุกคนเชื่อมพวกเราให้เป็นหนึ่งเดียว เพราะชื่อวงมาจากตัวอักษรแรกของนามสกุลทุกคนในวง HYPHEN เองก็เปรียบเหมือนสมาชิกคนนึงของพวกเราเหมือนกัน (ซับน้ำตาแป๊บ) ตอนนั้นมีข่าวว่าจะมีคอน 5 World Big Tour 2010 จะมาไทยด้วยนะยะ แต่โดนกิจกรรมการเมืองสกัดดาวรุ่งก่อน แป่วไปตามระเบียบ พอจบคอน 5 ก็มีคอน 6 CHAIN ต่อ ช่วงนั้นเริ่มทรงๆแล้วค่ะ แฟนคลับอาจจะไม่เพิ่ม แต่ก็ยังพอมีอยู่ (นับยอดแฟนคลับจากการสมัครเมม) เหมือนพวกฮีก็รู้ตัวเนอะ ว่ามันไม่ดังได้เท่าเดิมอีกแล้ว แต่ยังไงก็ยังอยากให้แฟนๆที่เหลืออยู่มีความสุขที่สุด ไม่อยากให้เสียใจที่มาชอบพวกฮี (เริ่มเห็นแฟนคลับเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำให้มันหายไป) คือจะว่าพึ่งมาเห็นก็ไม่ใช่นะ แต่ก่อนหน้านี้มันไม่ค่อยแสดงออกเท่าไหร่ พึ่งจะมาแสดงออกช่วงนี้แหละค่ะ จบทัวร์คอนนี้ไปคัตตุนก็ไม่มีงานเลยค่ะ หายไปนานมาก หายไปเกือบครึ่งปี คนที่งานเยอะสุดคือคาเมะ แล้วดูเหมือนจะเอ็นจอยกับงานเบสบอลด้วย มันเงียบมาก จนสมาชิกอีกคนในวงก็หายไป เหลือ 4 คนแล้วค่ะ (รายละเอียดที่เราเกริ่นมาด้านบนนี้ เป็นการลำดับเหตุการณ์ก่อนที่จะเกิดการแต่งเพลง 4U เราไม่อยากลงรายละเอียดดีเทลให้มันเยอะจนขี้เกรียจอ่าน เลยย่อๆให้เห็นภาพว่า ทำไมเพลงนี้ถึงเป็นสารจากคัตตุนถึงแฟนคลับทุกคน)
กลับมาที่เพลง 4U อย่างจริงจัง 555 เพลงนี้โปรดิวส์โดยคุณ Steven Lee โปรดิวส์เซอร์คนนี้ปกติจะแต่งเพลงซิงเกิ้ลหลัก ซึ่งฮีแต่งทำนอง Givme luv , Fire and Ice ให้คัตตุนเช่นกัน ถ้าใครที่เป็นติ่งเกาหลีด้วยจะคุ้นชื่อฮีมากค่ะ เพราะฮีเป็นลูกครึ่งเกาหลีอเมกา ผลงานแต่งเพลง / ทำนอง K-Pop ให้ศิลปินเช่น SS501 , Super Junior , SNSD และวงดังๆอีกหลายวง ส่วนใหญ่แนวเพลงของฮีจะป๊อบร๊อคหนัก ฟังแล้วติดหู ซึ่งเพลงนี้สวนกระแสเพลงแนวถนัดของฮีมาก เราลองไปดูเนื้อกันดีกว่า เหมือนว่าคนที่แต่งเนื้อร้องจะใช้นามปากกาว่า 25→graffiti นะคะ หลังจากนี้เราจะเอาเนื้อเพลงที่แปลออกมาแล้ว มาวิเคราะห์ทีละบรรทัด * คือบทวิเคราะห์นะคะ
ลางสังหรณ์เกิดขึ้น ณ วันนั้น ที่แห่งนั้น วินาทีนั้น ประสาทสัมผัสทั้ง 5 รับรู้ถึงโชคชะตาที่พาให้มาพบเจอ เธอและฉัน เปรียบดั่งพระจันทร์และพระอาทิตย์ เพราะมีเธอที่เป็นเธอ มันถึงได้ส่องประกายเจิดจรัส
- * ข่าวคราวมากมายที่เกิดขึ้นมันทำให้แฟนคลับหายไป แต่แฟนคลับที่อยู่ตรงนี้และสนับสนุนคัตตุนตั้งแต่เริ่มพบเจอและรักกัน เปรียบเหมือนพระจันทร์และพระอาทิตย์ (ไฮเฟ่นเป็นพระจันทร์ คัตตุนเป็นพระอาทิตย์)
- พระอาทิตย์คือความสว่างไสว เป็นพลังงาน จุดสนใจ เปร่งประกายเจิดจ้าในที่ที่มองเห็น (พูดง่ายๆก็คือการเป็นศิลปินของคัตตุนในตอนนี้)
- พระจันทร์สว่างสดใสในตอนกลางคืนได้เพราะพระอาทิตย์ กล่าวคือ ไฮเฟ่นมีความสุขได้ เพราะคัตตุนจริงไหม เราได้รับความสุขและแสงสว่างจากคัตตุน มันทำให้ไฮเฟ่นสว่างสดใสส่องประกายเจิดจ้า
- ความรักของพวกเราที่มีให้กัน มันแยกจากกันไม่ได้ เพราะมีคัตตุนจึงมีไฮเฟ่น เพราะมีไฮเฟ่น จึงมีคัตตุน
- อีกนัยนะคะ >> พระอาทิตย์ทำหน้าที่เปร่งประกายแสงในตอนกลางวัน (ผลงาน ชื่อเสียง) ในขณะที่พระจันทร์ทำหน้าที่แทนพระอาทิตย์ในตอนกลางคืน ซึ่งแสงที่พระจันทร์ได้รับ เป็นแสงที่เปร่งประกายออกมากจากพระอาทิตย์ (คนที่คอยซับพอร์ท คนที่คอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างหลังผลงาน และชื่อเสียงเหล่านั้น คนที่คอยเป็นแรงผลักดันต่างๆ)
ความฝันถูกแต่งแต้มสีสันเอ่อล้นเต็มเมือง ส่งถึงเธอที่มอบความหวัง และความอ่อนโยนให้กับฉันไม่เคยขาด ความทรงจำที่ไม่อาจลบเลือน ยิ่งกว่าคำพูดหนึ่งที่เคยสัมผัส ฉันอยากจะส่งไปถึงเธอ จากใจกลางของโลกใบนี้ ที่รักของฉัน เธอที่แสนหวาน เธอจะเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายของฉัน คนๆนั้นคือเธอ
- * ตรงตัวเลยค่ะ ความหวัง ความผัน มีมากมายจากไฮเฟ่นที่ยังรักคัตตุนอยู่ในทุกๆที่ทั่วโลก ความรักที่มอบให้ไม่เคยจางหาย ความทรงจำที่มีร่วมกันมากมาย (ในทีนี้คิดว่าตั้งแต่เริ่มทำวงเลย) มันมากมายกับความรักที่ได้รับ มันไม่สามารถพูดออกไปแต่อยากให้ทุกคนใช้ใจสัมผัส ให้มันสื่อไปถึงไฮเฟ่นทุกคน จากใจกลางของโลกใบนี้
ฉันเคยเรียกร้องหาเพียงสิ่งที่เป็นรูปธรรม แต่ความทรงจำที่ไม่เคยสะท้อนในแววตานั้นมากกว่า ที่กลับจุดขึ้นจนสว่างจ้า จากนี้ไป ขอเพียงเธอกับฉันได้มีชีวิตอยู่ ด้วยทั้งหมดที่เชื่อมโยงเราสองเข้าไว้ด้วยกัน
- * คัตตุนเคยคิดแต่เรื่องการทำวง ทำคอน (ตามความคิดเราคือการทำหน้าที่ดารา หน้าที่นะคะ มันคือหน้าที่ คืออาชีพ ที่พวกเค้าต้องทำ) โดยที่ไม่เคยคิดถึงความรู้สึก และความรัก ความทรงจำต่างๆของไฮเฟ่นมาก่อน ลืมไปว่ามันคือของล้ำค่า แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น มันกลับเป็นจุดที่ทำให้คัตตุนคิดได้ และคิดว่านี่คือสิ่งล้ำค่ามากกว่าการทำงานเพื่อหน้าที่ หรืออาชีพ จากนี้ไป ขอแค่มีเรา คัตตุนกับไฮเฟ่น คนที่คอยเชื่อมพวกเราไว้ ก็เพียงพอ
เมื่อฝนซา เราเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เห็นแสงแดดลอดผ่านกลีบเมฆ มันเป็นแสงสว่าง เป็นความคิดถึง ที่ยังคงส่งไปถึงเธอ ไม่มีที่สิ้นสุด ท่ามกลางเมืองๆนี้ที่ไม่มีอะไรแน่นอน กลับเต็มไปด้วยหนึ่งสายสัมพันธ์ที่ยังคงอยู่ นอกจากนั้น ฉันก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ขอบคุณเธอจริงๆ ที่รักของฉัน เธอจะเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายของฉัน คนๆนั้นคือเธอ
- * ฝนเปรียบเหมือนปัญหาและอุปสรรค์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น (หมายถึงการถอนตัวออกจากวง จากสมาชิก 5 คนเหลือเพียง 4 คน) กล่าวคือ เมื่อมองไปที่ปัญหา มองไปที่อุปสรรค์ สิ่งที่คัตตุนคิดถึงเป็นอย่างแรกคือไฮเฟ่น ไฮเฟ่นคือแสงสว่างของคัตตุน คือสิ่งแรกที่เค้าเห็นว่า เราเองจะเจ็บปวด จะเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากที่สุด ต่อจากนี้ ไม่มีอะไรแน่นอน เราไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่เราอยากรักษาสายสัมพันธ์นี้ไว้ ให้มันคงอยู่ ให้มันเชื่อมกันไว้ และเราไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
ขอบคุณเธอจริงๆ ที่รักของฉัน ในวันนั้น โลกใบนี้เคยมืดหม่น แต่ในวันพรุ่งนี้ที่มันสว่างขึ้น ฉันจะจุมพิตเธอ
- * ในวันนี้ปัญหาและอุปสรรค์มันยังคงมีอยู่ แต่ในวันต่อๆไป มันจะค่อยๆคลี่คลายลง เพราะไฮเฟ่น
นี่คือเนื้อและบทวิเคราะห์เพลงค่ะ โดยปกติเพลงญี่ปุ่นจะชอบแต่งโดยใช้สัญลักษณ์ทางธรรมชาติต่างๆมาเปรียบเทียบให้เกิดความรู้สึกอ่อนไหวอยู่แล้ว เราคิดว่าถ้าเป็นคนญี่ปุ่นจริงๆ เค้าก็จะฟังแล้วเข้าใจได้ทันทีว่าเพลงนี้แต่งให้แฟนคลับแน่ๆ เพราะเพลงนี้ร้องครั้งแรกในคอนเคาท์ดาวน์ 2013 - 2014 เลย แล้วร้องอีกทีคือเพลงสุดท้ายของงานแฟนมีตติ้ง Shin Shun Katsu Mode ช่วงดราม่าสมาชิกวง หลังจากนั้นก็ร้องเรื่อยๆ อย่างในคอน Com รอบสุดท้ายของการแสดงที่โยโกฮาม่าอารีน่า และโยโยหงิก็ร้อง รวมไปถึงอังกอร์รอบสุดท้ายของเคาท์ดาวน์ 2014 – 2015 หรือคอนล่าสุด 9uarter เช่นกัน
คัตตุนพูดในคอนทุกคอนเสมอหลังจากที่มีสมาชิกหายไปถึง 2 คนว่า ทุกครั้งที่เกิดปัญหาหรือเกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมากมาย สิ่งที่เราไม่อยากเสียไปที่สุดคือแฟนๆของพวกเรา อยากให้ทุกคนรัก และเข้มแข็ง อยากให้ทุกคนมีความสุข และเลือกไม่ผิดที่รักพวกเค้า เมื่อพวกเค้ามองกลับมา แล้วยังเห็นพวกเราที่เป็นแฟนคลับ คอยมอบความรัก เค้าก็จะมุ่งมั่นและตั้งใจในการทำงานมากขึ้น ทุกครั้งที่คอนจบ วีดีโอจากในคอนจะขึ้น Special Thanks to Hyphen ทุกครั้ง บางทีนัยยะต่างๆที่พวกเค้าใส่ลงไปในคอน ก็เพื่อที่จะบอกว่า พวกเค้าแคร์เรา แคร์แฟนคลับที่มีกันอยู่เท่านี้ เค้ารักเรา เหมือนที่เรารักเค้านั้นแหละค่ะ อย่างที่ทุกๆคนรู้ว่าคัตตุนเป็นวงที่นั้งกำกับการทำคอนเองด้วยซ้ำ แม้พวกเค้าจะมีความเป็นตัวของตัวเองมากกกกกกกกกกกก ก็ตาม 555 (ชอบพูดเรื่องทะลึ่งในคอน ใช่คำหยาบคายกับแฟนคลับ แซวแฟนคลับแรงๆ แต่ก็ไม่มีแฟนคนไหนโกรธ เพราะมันดูใกล้ชิดและเข้าถึงความเป็นตัวตนของคัตตุนมากกว่าเมื่อก่อน) บางโชว์อยากจะทำ จะขอเปลี่ยน พวกฮีก็ทำกันเลย ยังไงก็อย่าพึ่งทิ้งพวกฮีไปไหนนะคะ อยู่จนแก่ไปพร้อมๆกัน ขอบคุณที่อ่านจบค่ะ ^^
ลองกดเข้าไปดูรูปนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Special Thanks to คีย์บอร์ด ไฟฟ้า อินเตอร์เนต เพลง 4U และคนอ่านทุกคนค่ะ ^^
Credit MYKAT-TUN , jokerizm.blog138