วันเสาร์ที่ผ่านมา (10/10/58) ได้รับโอกาสไปMeeting กับกลุ่ม Onitsuka Tiger FanClub ร่วมทานข้าวและฟังบรรยายจากทีมงานของ Onitsuka Tiger Thailand และเยี่ยมชมสาขาใหม่ที่ Fashion Island ได้ความรู้ดีๆมากมาย เลยอยากแบ่งปันให้เพื่อนๆบ้างครับ
1. ชื่อ Onitsuka มาจากชื่อตระกูลของ Kihachiro Onitsuka ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Onitsuka นั่นเอง
2. ลวดลายบนรองเท้าโอนิซึกะ เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1965 ได้เริ่มทำการออกแบบลวดลายที่จะใช้วางลงบนรองเท้าที่จะใช้ในการแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศเม็กซิโกในปี ค.ศ. 1966 โดยที่ลวดลายที่เกิดขึ้น ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก “เกลียวคลื่นจากมหาสมุทรผสมกลมกลืนไปกับรูปภาพของเมืองโกเบ” (ผมเดาว่านายโอนิซึกะต้องมีความเกี่ยวข้องอะไรซักอย่างกับเมืองโกเบ เพราะตอนที่เริ่มทำรองเท้าใหม่ๆ ก็ให้ชมรมบาสเก็ตบอลของโรงเรียนมัธยมโกเบทดลองใส่ครับ)
3. รุ่น MEXICO66 ก็เกิดขึ้นจากการแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศเม็กซิโกในปี ค.ศ. 1966 เพราะนักกีฬาใส่แข่งแล้วชนะเยอะ เลยดังเลย
4. รองเท้าโอนิซึกะโด่งดังมาจากการเป็นรองเท้ากีฬาที่นักกีฬาใช้ใส่แข่งขัน แต่ปัจจุบันเป็นเพียงรองเท้าแฟชั่นที่ใช้รูปทรงและลวดลายของรุ่นนั้นๆเท่านั้น จะมีเพียงบางรุ่นที่ใช้เล่นกีฬาได้ (MEXICO66 อันโด่งดังไม่เหมาะกับกีฬาแน่ๆ) แต่ถ้าเน้นกีฬาจริงๆ จะเป็นแบรนด์ ASICS ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของโอนิซึกะ ซึ่งจะมีเทคโนโลยี GEL (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าดียังไง) เป็นจุดเด่น เมืองไทยอาจจะไม่ค่อยดัง แต่ญี่ปุ่นนี่ขายเกลื่อน หาง่ายกว่าโอนิซึกะเยอะ
5. รองเท้าโอนิซึกะหลายๆรุ่น ทำแล้วไม่ผลิตซ้ำ เพราะฉะนั้นถ้าเก็บรักษาดีๆ เก็บกล่องไว้ด้วย เอาไปขายต่อนี่อัพราคาได้อีก แต่บางรุ่นก็ผลิตซ้ำเรื่อยๆ เช่นรุ่น โดมพลอย, Kill Bill
6. รุ่นในหนัง Kill Bill คือรุ่น Tai Chi แต่ที่ขายอยู่ทั่วๆไปที่คนเรียกกันว่ารุ่น Kill Bill จะเป็นรุ่น Mecixo 66 (สังเกตง่ายๆตรงหัวคับ) ซึ่ง Tai Chi-Kill Bill นี้ เลิกผลิตไปแล้วนะฮะ
7. รุ่น CURREO จะไม่ผลิตแล้ว เพราะมันคล้ายๆกับรุ่น X-CALIBER (แปลว่าCURREOทุกตัวจะกลายเป็น Limited Edition ใครมีก็รักษากันให้ดีๆนะฮะ)
8. รุ่น FENCING ซึ่งมาจากรองเท้าฟันดาบ จะมีเอกลักษณ์ที่มีลายคลื่นข้างเดียว และรูปทรงจะเรียวยาว ซึ่งคนไทยส่วนมากเท้าไม่ได้เรียวยาว แปลว่าไม่ค่อยเพราะกับเท้าคนไทยนั่นเอง จะใส่รุ่นนี้ควรลองก่อนนะฮะ
9. รุ่น NIPPON MADE จะผลิตที่ญี่ปุ่นเท่านั้น และจะใช้หนังจิงโจ้หรือหนังแกะเท่านั้น ซึ่งจะให้ความนุ่มสบายกว่าและทนมาก ว่ากันว่าใครได้ลองซื้อใส่ จะไม่อยากกลับไปใส่รุ่นธรรมดาอีก แต่เป็นผมคงกลับไปใส่อีก เพราะไม่มีปัญญาซื้อคู่ละหมื่นหลายๆคู่ครับ แหะๆ ^^”
10. Onitsuka ในหลายๆประเทศจะมีรุ่นของประเทศตัวเอง ไม่มีขายในประเทศอื่นนะคับ เช่นรุ่นนี้ก็จะมีเฉพาะ South Africa
ปล. การเลือกซื้อรองเท้าที่มีเฉพาะประเทศนั้นๆ ต้องระวังนิดนึงครับ เพราะเค้าออกแบบมาให้เหมาะกับเท้าของคนในประเทศนั้นๆด้วย อาจจะไม่เหมาะกับเท้าของคุณก็ได้ครับ
จบแล้ว 10 ข้อ จริงๆยังมีความรู้อีกมากมายที่ได้จาก meeting นี้ แต่ผมคัดมาแค่ 10 ข้อ เพราะกลัวจะยาวไป บวกกับไม่มั่นใจว่าจำข้อมูลมาถูกต้องรึเปล่า สุดท้ายนี้ฝากเพื่อนๆที่ชอบโอนิซึกะเหมือนกันมาเข้าแก๊งกันครับ
https://www.facebook.com/OnitsukaTigerFanClub
ปิดท้ายด้วยภาพ meeting เล็กน้อย ขอบคุณที่สละเวลาอ่านกระทู้นี้ครับ
10 เรื่องน่ารู้ของรองเท้า Onitsuka ที่ได้รับจากงาน Meeting Onitsuka Tiger FanClub
1. ชื่อ Onitsuka มาจากชื่อตระกูลของ Kihachiro Onitsuka ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Onitsuka นั่นเอง
2. ลวดลายบนรองเท้าโอนิซึกะ เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1965 ได้เริ่มทำการออกแบบลวดลายที่จะใช้วางลงบนรองเท้าที่จะใช้ในการแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศเม็กซิโกในปี ค.ศ. 1966 โดยที่ลวดลายที่เกิดขึ้น ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก “เกลียวคลื่นจากมหาสมุทรผสมกลมกลืนไปกับรูปภาพของเมืองโกเบ” (ผมเดาว่านายโอนิซึกะต้องมีความเกี่ยวข้องอะไรซักอย่างกับเมืองโกเบ เพราะตอนที่เริ่มทำรองเท้าใหม่ๆ ก็ให้ชมรมบาสเก็ตบอลของโรงเรียนมัธยมโกเบทดลองใส่ครับ)
3. รุ่น MEXICO66 ก็เกิดขึ้นจากการแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศเม็กซิโกในปี ค.ศ. 1966 เพราะนักกีฬาใส่แข่งแล้วชนะเยอะ เลยดังเลย
4. รองเท้าโอนิซึกะโด่งดังมาจากการเป็นรองเท้ากีฬาที่นักกีฬาใช้ใส่แข่งขัน แต่ปัจจุบันเป็นเพียงรองเท้าแฟชั่นที่ใช้รูปทรงและลวดลายของรุ่นนั้นๆเท่านั้น จะมีเพียงบางรุ่นที่ใช้เล่นกีฬาได้ (MEXICO66 อันโด่งดังไม่เหมาะกับกีฬาแน่ๆ) แต่ถ้าเน้นกีฬาจริงๆ จะเป็นแบรนด์ ASICS ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของโอนิซึกะ ซึ่งจะมีเทคโนโลยี GEL (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าดียังไง) เป็นจุดเด่น เมืองไทยอาจจะไม่ค่อยดัง แต่ญี่ปุ่นนี่ขายเกลื่อน หาง่ายกว่าโอนิซึกะเยอะ
5. รองเท้าโอนิซึกะหลายๆรุ่น ทำแล้วไม่ผลิตซ้ำ เพราะฉะนั้นถ้าเก็บรักษาดีๆ เก็บกล่องไว้ด้วย เอาไปขายต่อนี่อัพราคาได้อีก แต่บางรุ่นก็ผลิตซ้ำเรื่อยๆ เช่นรุ่น โดมพลอย, Kill Bill
6. รุ่นในหนัง Kill Bill คือรุ่น Tai Chi แต่ที่ขายอยู่ทั่วๆไปที่คนเรียกกันว่ารุ่น Kill Bill จะเป็นรุ่น Mecixo 66 (สังเกตง่ายๆตรงหัวคับ) ซึ่ง Tai Chi-Kill Bill นี้ เลิกผลิตไปแล้วนะฮะ
7. รุ่น CURREO จะไม่ผลิตแล้ว เพราะมันคล้ายๆกับรุ่น X-CALIBER (แปลว่าCURREOทุกตัวจะกลายเป็น Limited Edition ใครมีก็รักษากันให้ดีๆนะฮะ)
8. รุ่น FENCING ซึ่งมาจากรองเท้าฟันดาบ จะมีเอกลักษณ์ที่มีลายคลื่นข้างเดียว และรูปทรงจะเรียวยาว ซึ่งคนไทยส่วนมากเท้าไม่ได้เรียวยาว แปลว่าไม่ค่อยเพราะกับเท้าคนไทยนั่นเอง จะใส่รุ่นนี้ควรลองก่อนนะฮะ
9. รุ่น NIPPON MADE จะผลิตที่ญี่ปุ่นเท่านั้น และจะใช้หนังจิงโจ้หรือหนังแกะเท่านั้น ซึ่งจะให้ความนุ่มสบายกว่าและทนมาก ว่ากันว่าใครได้ลองซื้อใส่ จะไม่อยากกลับไปใส่รุ่นธรรมดาอีก แต่เป็นผมคงกลับไปใส่อีก เพราะไม่มีปัญญาซื้อคู่ละหมื่นหลายๆคู่ครับ แหะๆ ^^”
10. Onitsuka ในหลายๆประเทศจะมีรุ่นของประเทศตัวเอง ไม่มีขายในประเทศอื่นนะคับ เช่นรุ่นนี้ก็จะมีเฉพาะ South Africa
ปล. การเลือกซื้อรองเท้าที่มีเฉพาะประเทศนั้นๆ ต้องระวังนิดนึงครับ เพราะเค้าออกแบบมาให้เหมาะกับเท้าของคนในประเทศนั้นๆด้วย อาจจะไม่เหมาะกับเท้าของคุณก็ได้ครับ
จบแล้ว 10 ข้อ จริงๆยังมีความรู้อีกมากมายที่ได้จาก meeting นี้ แต่ผมคัดมาแค่ 10 ข้อ เพราะกลัวจะยาวไป บวกกับไม่มั่นใจว่าจำข้อมูลมาถูกต้องรึเปล่า สุดท้ายนี้ฝากเพื่อนๆที่ชอบโอนิซึกะเหมือนกันมาเข้าแก๊งกันครับ
https://www.facebook.com/OnitsukaTigerFanClub
ปิดท้ายด้วยภาพ meeting เล็กน้อย ขอบคุณที่สละเวลาอ่านกระทู้นี้ครับ