ตัดสินใจไปพักผ่อนวันเสาร์อาทิตย์ใกล้ๆที่พัทยา ในวันที่ 10-11 ตุลาคม มีสามี และลูกเล็กอีก 2 คน ก็อยากจะไปแบบสบายๆ เนื่องจากไม่ได้จองล่วงหน้าตัดสินใจกันเช้าวันนั้นเลย แล้วก็เดินทางไปเลย เลือกที่พักที่เป็นชายหาดส่วนตัว โทรเช็คแล้วยังพอมีห้องติดทะเลอยู่ ก็เลยตรงไปยังที่พักนั้นเลย พอไปถึง ทางฟร้อนท์แจ้งว่ามีห้องเหลือ 2 ห้อง ห้องที่เป็นวิวสวน 4,000 บาท ห้องที่ติดทะเล 5,000 บาท ก็ตกลงเลือกว่า เอาห้องติดทะเล 5,000 บาทแล้วกัน ถามว่าราคาแพงมั้ย ถือว่าแพงมากพอสมควรกับสภาพห้องพัก แต่ถ้าเทียบกับทำเลก็ถือว่าดีที่เดียว เพราะเป็นเหมือนกระท่อมติดทะเลเลย (ตอนหลังเรามาถามเพื่อนๆคนอื่น มีแต่คนช็อคในราคาว่าห้าพันนี่ไปพักร.ร.ห้าดาวอื่นๆได้เลยนะ ทำไมต้องไปพักที่นี่ เราก็ตอบไปว่า คือไม่รู้จักที่อื่น ไม่ได้แพลนด้วย เคยไปครั้งนึงแล้วสามีชอบทำเลนี้ ก็เลยไปอีก ไม่อยากไปตระเวณหาที่พักที่อื่นอีก)
ส่วนของห้องพักที่เราได้ อยู่ไม่ห่างจากฟร้อนท์และห้องอาหารมากนัก คืนนั้น เราก็ปิดไฟนอนกับลูกๆตั้งแต่ประมาณสองทุ่มกว่า ซักพักก็ได้ยินเสียงคนร้องเพลงชัดและดังมากๆ โดยเฉพาะเสียงเบสจะดัง ตึมๆๆๆ จนกระท่อมแทบสะเทือน คำร้องคาราโอเกะของคนที่ร้องได้ยินชัดทุกคำพูด แต่เราก็คิดว่า ทนซักแป๊บละกัน ชายหาดส่วนตัว เด๋วเค้าก็เลิกกันแล้ว มันคงจะดังลั่นทั้งรีสอร์ทแหละ คนอื่นเค้าก็ต้องอยู่สภาพเดียวกับเราแหละ ก็ทนๆๆๆ นอนไม่หลับ จนกระทั่ง สี่ทุ่มเราก็เริ่มทนไม่ไหว เพราะเหนื่อยมาก อยากจะนอนพัก แต่นอนไม่ได้ ส่วนแฟนอยากจะเปิดประตูไปนั่งพักริมทะเลก็แทบจะไม่ไหว เพราะเสียงมันลั่นกระหึ่มไปหมด เราก็เลยโทรไปแจ้งทางฟร้อนท์ว่า ไม่ไหวแล้วทนมาหลายชม.แล้ว เมื่อไหร่จะเลิกกัน เรามีลูกเล็กด้วย เราอยากจะนอนแล้ว ฟร้อนท์บอกว่า ทำอะไรไม่ได้ เค้าจะร้องกันจนกว่าสี่ทุ่มครึ่ง เราเลยขอต่อรองว่างั้นช่วยหรี่เสียงลำโพง เสียงเบสหน่อยได้ไหม มันลั่นจนกระท่อมสะเทือนแล้ว หายไปซักสิบนาทีได้ ก็รู้สึกว่าเค้าไปหรี่เสียงให้นิดนึง แล้วพอสี่ทุ่มครึ่งเค้าก็เลิก เราเครียดๆคืนนั้นก็เลยนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่
ไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องแอร์ในห้อง มีรีโมทเปิดปิดที่บอกตัวเลขอุณหภูมิ เรานอนหนาวมากๆ เราก็เลยปรับเป็น 27 ก็ยังหนาวสั่น ก็เลยปรับเป็น 28 ก็ยังหนาว จนเช้าทนไม่ไหว ปิดแอร์ไปเลย พอช่วงสายๆก็ลองเปิดใหม่ ก็หนาวอีก ทั้งๆที่เป็นเวลากลางวัน เราก็เลยลองตั้งอุณหภูมิที่ 30 ไปเลย ลองดูซิจะหนาวอีกมั้ย ปรากฏว่าหนาวเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง เราก็เลยต้องคอยปิดแอร์ตอนหนาวมากๆ แล้วพอร้อน ก็เปิดแอร์อีกรอบ
ขากลับพอเรา check out เราก็เลยไปแจ้งทางฟร้อนท์เค้าว่าเราผิดหวังมากๆเลยนะ เรายอมจ่ายค่าห้องห้าพัน รวมค่าอาหารเช้าเด็กอีกเป็น 5,300 แต่เรามาเจอแบบนี้ เราผิดหวังกับที่นี่มากๆ มันเป็นชายหาดส่วนตัวไม่ใช่เหรอ ป้ายหน้าฟร้อนท์ยังมีแปะไว้เลยว่า ห้ามส่งเสียงรบกวน แล้วเรามาเจอเรื่องคาราโอเกะ ดังลั่น กับเรื่อง แอร์หนาวสั่นแบบนี้ ทางฟร้อนท์ตอบเราว่า เมื่อคืนไม่มีใครร้องเพลงนี่ค่ะ ไม่เห็นได้ยิน เราแทบจะกรี๊ด เราบอกว่าไม่ได้ยินได้ไง ก็เราเนี่ย โทรมาแจ้งฟร้อนท์เองตอนสี่ทุ่ม ว่าไม่ไหวแล้ว เค้าก็เลยหายไปเช็คกับคนของเค้าด้านหลังแล้วกลับมาว่า อ๋อใช่ค่ะๆ มีร้องเพลง เพราะมีกรุ๊ปมาลง ก็เลยให้ร้องถึงสี่ทุ่มครึ่ง เราก็บอกว่า นี่มันชายหาดส่วนตัวไม่ใช่เหรอ ทำไมเป็นแบบนี้ หรือทำไม่แจ้งเราก่อน เรามาพักผ่อนกับครอบครัวคืนเดียว เราเสียความรู้สึกสุดๆ เค้าก็ขอโทษๆ แต่เราไม่ค่อยโอเคกับคำขอโทษเค้านัก อีกอย่างแฟนเรามาดูตอนเช้า เค้าบอกว่า เห็นลำโพงเหมือนจะหันมาทางห้องเรา ห้องเราใกล้ห้องอาหารมากที่สุด และโซนที่เราพักมันจะมีแค่ 3 หลังเท่านั้น เราเลยยิ่งรู้สึกแย่ลงไปอีก เป็นไปได้ว่าคนอื่นในรีสอร์ทอาจจะไม่ได้ยินมากนัก แต่ห้องเรารับไปเต็มๆ ส่วนเรื่องแอร์ ฟร้อนท์บอกเราว่า ไม่สามารถปรับอุณหภูมิในห้องได้ ช่างตั้งมาเอาไว้แล้ว เราก็อ้าว.. ก็รีโมทเหมือนรีโมทตามบ้านธรรมดา ที่นห้าปัดมีกดเลือกโหมดได้ เลือกอุณหภูมิได้ ใช้ไม่ได้เลยหรอ ให้แค่กดเปิดปิดเนี่ยนะ เค้าบอกใช่ค่ะ เราก็ยิ่งรู้สึกแย่ไปเรื่อยๆ
ด้วยความที่เราโกรธสุดๆ เราก็เลยบอกเค้าว่างั้นเราขอพบผู้จัดการ ขอร้องเรียนอย่างเป็นทางการแล้วกัน เค้าบอกผู้จัดการไม่อยู่ เราก็เลยเขียนกรอกแบบฟอร์มเอาไว้ เค้าแจ้งว่าจะเอาเข้าบอร์ดวันอังคาร และจะให้ผู้จัดการติดต่อกลับ เราก็รอๆๆๆ จนวันพฤหัสที่ผ่านมา เราโทรไปตามเค้าว่า ไม่เห็นมีใครติดต่อเรากลับมาเลย เค้าแจ้งว่า ได้เอาเรื่องเข้าบอร์ดแล้ว แล้วผู้จัดการก็ทรายแล้ว ตอนนี้ยุ่งอยู่ ไว้ว่างจะติดต่อกลับ เราก็รอๆๆ อีก จนวันนี้วันเสาร์แล้วยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ เราก็เลยโทรไปถามเค้าว่า ตกลงผู้จัดการไม่ติดต่อมาแล้วเหรอคะ ไม่สนใจเรื่องร้องเรียนที่ส่งไปใช่ไหม เค้าก็บอกว่า ตอนนี้ผู้จัดการไปต่างประเทศแล้ว กลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไว้กลับมาจะรีบแจ้งให้ผู้จัดการติดต่อกลับแล้วกัน เราก็ยิ่งโมโหทวีคูณค่ะ เพราะขนาดวันพฤหัสที่โทรไปเค้ายังอยู่เมืองไทย ยังไม่ติดต่อเราเลย นี่บินไปต่างประเทศแล้ว ถ้าเค้ากลับมา เค้าคงไม่คิดจะโทรกลับหาเราแล้วล่ะค่ะ
ก็เข้าใจค่ะ ว่าเป็นแค่ลูกค้าเล็กๆคนนึง เคยชอบทำเลที่นี่ (แม้ที่พักจะไม่ค่อยดีนัก) เลยกลับมาพักอีกครั้ง ยอมจ่ายเงินห้าพัน ที่แพงมากจนไปพักร.ร. 5 ดาวใหญ่ๆได้ เค้าคงจะไม่แคร์ รับทราบและน้อมรับแล้ว ว่าลูกค้าที่ร้องเรียนแบบเรา ไม่ได้สำคัญหรอก อย่างมากก็ได้แค่บอกปากต่อปากกับคนรู้จักว่าเราเจออะไรมาแค่นั้นเอง
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและฟังเราบ่นนะคะ
ไปพัทยาชายหาดส่วนตัวกับครอบครัวคืนละ 5,000 เจอเสียงลำโพงคาราโอเกะจนห้องสั่นตึงๆยันสี่ทุ่มครึ่ง กับแอร์หนาวสั่น
ส่วนของห้องพักที่เราได้ อยู่ไม่ห่างจากฟร้อนท์และห้องอาหารมากนัก คืนนั้น เราก็ปิดไฟนอนกับลูกๆตั้งแต่ประมาณสองทุ่มกว่า ซักพักก็ได้ยินเสียงคนร้องเพลงชัดและดังมากๆ โดยเฉพาะเสียงเบสจะดัง ตึมๆๆๆ จนกระท่อมแทบสะเทือน คำร้องคาราโอเกะของคนที่ร้องได้ยินชัดทุกคำพูด แต่เราก็คิดว่า ทนซักแป๊บละกัน ชายหาดส่วนตัว เด๋วเค้าก็เลิกกันแล้ว มันคงจะดังลั่นทั้งรีสอร์ทแหละ คนอื่นเค้าก็ต้องอยู่สภาพเดียวกับเราแหละ ก็ทนๆๆๆ นอนไม่หลับ จนกระทั่ง สี่ทุ่มเราก็เริ่มทนไม่ไหว เพราะเหนื่อยมาก อยากจะนอนพัก แต่นอนไม่ได้ ส่วนแฟนอยากจะเปิดประตูไปนั่งพักริมทะเลก็แทบจะไม่ไหว เพราะเสียงมันลั่นกระหึ่มไปหมด เราก็เลยโทรไปแจ้งทางฟร้อนท์ว่า ไม่ไหวแล้วทนมาหลายชม.แล้ว เมื่อไหร่จะเลิกกัน เรามีลูกเล็กด้วย เราอยากจะนอนแล้ว ฟร้อนท์บอกว่า ทำอะไรไม่ได้ เค้าจะร้องกันจนกว่าสี่ทุ่มครึ่ง เราเลยขอต่อรองว่างั้นช่วยหรี่เสียงลำโพง เสียงเบสหน่อยได้ไหม มันลั่นจนกระท่อมสะเทือนแล้ว หายไปซักสิบนาทีได้ ก็รู้สึกว่าเค้าไปหรี่เสียงให้นิดนึง แล้วพอสี่ทุ่มครึ่งเค้าก็เลิก เราเครียดๆคืนนั้นก็เลยนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่
ไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องแอร์ในห้อง มีรีโมทเปิดปิดที่บอกตัวเลขอุณหภูมิ เรานอนหนาวมากๆ เราก็เลยปรับเป็น 27 ก็ยังหนาวสั่น ก็เลยปรับเป็น 28 ก็ยังหนาว จนเช้าทนไม่ไหว ปิดแอร์ไปเลย พอช่วงสายๆก็ลองเปิดใหม่ ก็หนาวอีก ทั้งๆที่เป็นเวลากลางวัน เราก็เลยลองตั้งอุณหภูมิที่ 30 ไปเลย ลองดูซิจะหนาวอีกมั้ย ปรากฏว่าหนาวเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง เราก็เลยต้องคอยปิดแอร์ตอนหนาวมากๆ แล้วพอร้อน ก็เปิดแอร์อีกรอบ
ขากลับพอเรา check out เราก็เลยไปแจ้งทางฟร้อนท์เค้าว่าเราผิดหวังมากๆเลยนะ เรายอมจ่ายค่าห้องห้าพัน รวมค่าอาหารเช้าเด็กอีกเป็น 5,300 แต่เรามาเจอแบบนี้ เราผิดหวังกับที่นี่มากๆ มันเป็นชายหาดส่วนตัวไม่ใช่เหรอ ป้ายหน้าฟร้อนท์ยังมีแปะไว้เลยว่า ห้ามส่งเสียงรบกวน แล้วเรามาเจอเรื่องคาราโอเกะ ดังลั่น กับเรื่อง แอร์หนาวสั่นแบบนี้ ทางฟร้อนท์ตอบเราว่า เมื่อคืนไม่มีใครร้องเพลงนี่ค่ะ ไม่เห็นได้ยิน เราแทบจะกรี๊ด เราบอกว่าไม่ได้ยินได้ไง ก็เราเนี่ย โทรมาแจ้งฟร้อนท์เองตอนสี่ทุ่ม ว่าไม่ไหวแล้ว เค้าก็เลยหายไปเช็คกับคนของเค้าด้านหลังแล้วกลับมาว่า อ๋อใช่ค่ะๆ มีร้องเพลง เพราะมีกรุ๊ปมาลง ก็เลยให้ร้องถึงสี่ทุ่มครึ่ง เราก็บอกว่า นี่มันชายหาดส่วนตัวไม่ใช่เหรอ ทำไมเป็นแบบนี้ หรือทำไม่แจ้งเราก่อน เรามาพักผ่อนกับครอบครัวคืนเดียว เราเสียความรู้สึกสุดๆ เค้าก็ขอโทษๆ แต่เราไม่ค่อยโอเคกับคำขอโทษเค้านัก อีกอย่างแฟนเรามาดูตอนเช้า เค้าบอกว่า เห็นลำโพงเหมือนจะหันมาทางห้องเรา ห้องเราใกล้ห้องอาหารมากที่สุด และโซนที่เราพักมันจะมีแค่ 3 หลังเท่านั้น เราเลยยิ่งรู้สึกแย่ลงไปอีก เป็นไปได้ว่าคนอื่นในรีสอร์ทอาจจะไม่ได้ยินมากนัก แต่ห้องเรารับไปเต็มๆ ส่วนเรื่องแอร์ ฟร้อนท์บอกเราว่า ไม่สามารถปรับอุณหภูมิในห้องได้ ช่างตั้งมาเอาไว้แล้ว เราก็อ้าว.. ก็รีโมทเหมือนรีโมทตามบ้านธรรมดา ที่นห้าปัดมีกดเลือกโหมดได้ เลือกอุณหภูมิได้ ใช้ไม่ได้เลยหรอ ให้แค่กดเปิดปิดเนี่ยนะ เค้าบอกใช่ค่ะ เราก็ยิ่งรู้สึกแย่ไปเรื่อยๆ
ด้วยความที่เราโกรธสุดๆ เราก็เลยบอกเค้าว่างั้นเราขอพบผู้จัดการ ขอร้องเรียนอย่างเป็นทางการแล้วกัน เค้าบอกผู้จัดการไม่อยู่ เราก็เลยเขียนกรอกแบบฟอร์มเอาไว้ เค้าแจ้งว่าจะเอาเข้าบอร์ดวันอังคาร และจะให้ผู้จัดการติดต่อกลับ เราก็รอๆๆๆ จนวันพฤหัสที่ผ่านมา เราโทรไปตามเค้าว่า ไม่เห็นมีใครติดต่อเรากลับมาเลย เค้าแจ้งว่า ได้เอาเรื่องเข้าบอร์ดแล้ว แล้วผู้จัดการก็ทรายแล้ว ตอนนี้ยุ่งอยู่ ไว้ว่างจะติดต่อกลับ เราก็รอๆๆ อีก จนวันนี้วันเสาร์แล้วยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ เราก็เลยโทรไปถามเค้าว่า ตกลงผู้จัดการไม่ติดต่อมาแล้วเหรอคะ ไม่สนใจเรื่องร้องเรียนที่ส่งไปใช่ไหม เค้าก็บอกว่า ตอนนี้ผู้จัดการไปต่างประเทศแล้ว กลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไว้กลับมาจะรีบแจ้งให้ผู้จัดการติดต่อกลับแล้วกัน เราก็ยิ่งโมโหทวีคูณค่ะ เพราะขนาดวันพฤหัสที่โทรไปเค้ายังอยู่เมืองไทย ยังไม่ติดต่อเราเลย นี่บินไปต่างประเทศแล้ว ถ้าเค้ากลับมา เค้าคงไม่คิดจะโทรกลับหาเราแล้วล่ะค่ะ
ก็เข้าใจค่ะ ว่าเป็นแค่ลูกค้าเล็กๆคนนึง เคยชอบทำเลที่นี่ (แม้ที่พักจะไม่ค่อยดีนัก) เลยกลับมาพักอีกครั้ง ยอมจ่ายเงินห้าพัน ที่แพงมากจนไปพักร.ร. 5 ดาวใหญ่ๆได้ เค้าคงจะไม่แคร์ รับทราบและน้อมรับแล้ว ว่าลูกค้าที่ร้องเรียนแบบเรา ไม่ได้สำคัญหรอก อย่างมากก็ได้แค่บอกปากต่อปากกับคนรู้จักว่าเราเจออะไรมาแค่นั้นเอง
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและฟังเราบ่นนะคะ