เพิ่งจะกลับมาจากโอซากา มีข้อให้พิจารณานะครับ
- ผมมาถึงวันศุกร์ ว่าจะไปเกียวโต วันเสาร์ เขาบอกว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์ นักท่องเที่ยวจะแน่นมาก เลยเปลี่ยนใจ อยู่เที่ยว Osaka เสาร์อาทิตย์ และวันจันทร์ ถึงไปเกียวโต
- ที่พัก หาที่พักที่ใกล้กับสถานีรถไฟ Shin-Immamiya Station อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Dobutsuen-mae Station ผมเลือกพักที่ Toyo Hotel ใกล้กับ Dobutsuen-mae Station ที่พักก็ OK ห้องเดี่ยวพัดลม ราคาไม่แพง Wifi ห้องน้ำ อาบน้ำใช้ร่วมกัน ผมอยู่ 3 คืน แล้วไปเกียวโต แล้วกลับมาอีก กลับมาแถวเดิมพักที่ใหม่ที่ Hotel Diamond ( ไม่แนะนำครับ ถึงแม้จะถูกแต่ไม่น่าพักเลย ห้องกับฟูกที่นอนเท่ากันเลย Wifi ใช้ได้เฉพาะชั้นล่าง อึดอัด กลิ่นบุหรี่เต็มไปหมด )
- การเดินทางจากสนามบิน ออกจาก ตม.แล้ว มาที่ ช่องจำหน่ายตั๋วรถไฟของ Jr สีน้ำเงิน ซื้อ ICOCA การ์ด 2,000 เยน เพื่อใช้ขึ้นรถไฟโดยเฉพาะ เวลาเติมเงินก็ไม่ยาก มีทุกสถานนีทั้งทางเข้าและออก แล้วลงบมาที่ชั้นล่างของอาคาร Tourist Information Center เพื่อซื้อ Osaka Amazing Pass แบบ 2 วัน 3000 เยน Pass นี้คุ้มจริงๆ เมื่อเสร็จแล้ว นั่งรถไฟสาย Kansai Line Express นะครับ โดยใช้ ICOCA นี่แหละ ไม่ต้องไปกดตู้ซื้อตั๋วให้ปวดหัว ถึง Shin-Immamiya Station ใช้เวลา 40 นาที นั่งรถไฟฟ้ารู้สึกกังวล มีแต่ภาษาญี่ปุ่น ฟังอุๆอะๆ ไม่เข้าใจ เลยเอา Tablet ออกมาเปิดแผนที่ Google เปิด GPS นำทางไปเรื่อยๆ ถึงรู้ว่าถึงสถานนีไหนแล้ว (สำคัญมากนะครับ ผมใช้ตลอดทริปเลย ไม่งั้นหน้ามึดแน่ ) เมื่อถึงสถานนี Shin-Immamiya Station แล้วก็ใช้ GPS นี้แหละชี้ทางไปโรงแรม หันทิศให้ดีแล้วเดินตาม GPS ผมเลือกพักที่ Toyo Hotel เพราะแค่ 80 เมตรก็ถึงทางลงสถานนีรถไฟฟ้าใต้ดิน Dobutsuen-mae Station แล้ว สถานนีนี้ จะใช้ตลอดทริปของการท่องเที่ยวใน Osaka ผมเริ่มใช้ Osaka Amazing Pass ในวันที่ 2 ครับ เพราะวันแรกถึงที่พักก็มึดพอดี
- การเดินทางท่องเที่ยวผมจะใช้ แผนที่รถไฟฟ้าที่ได้จากการซื้อ Osaka Amazing Pass เป็นหลักนะครับ+GPS จาก Tablet เป็นหลัก
- เที่ยววันที่ 1 จาก Dobutsuen-mae Station ผมเริ่มใช้ Osaka Amazing Pass มีสถานที่ให้เราไป 28 แห่ง ใช้ไม่หมดหลอกครับ เลือกแต่ที่เราอยากจะไป เช้าวันแรกผมไปที่ Tempozan ก่อน ไปนั่งชิงช้าTempozan Giant Ferris Wheel นั่งเรือ Santa Maria แต่หากจะเที่ยว Osaka Aquarium Kaikuya ต้องเสียเงินค่าเข้าชมแต่มีส่วนลดให้ แล้วนั่งรถไฟต่ออีก 1 สถานี เพื่อไป Cosmo Tower แค่นี้ก็เกือบบ่าย 2 โมงแล้ว กลับมาที่พัก 5 โมงเย็นออกไปที่ Namba เพื่อไปย่านถนน Dotombori ดูป้ายกูลิโกะ นั้งเรือ Tombori River Cruise แค่นี้ก็ 1 วันแล้ว เที่ยวแบบสบายๆ หาอะไรกินเล่นๆ เดินจนเมื่อย
- เที่ยววันที่ 2 จาก Dobutsuen-mae Station ไปเที่ยววัด Shitennoji Temple (เดินพอสมควร) แล้วต่อไปเที่ยวที่ Osaka Museum of History (น่าเที่ยวชมนะครับ) แล้วเดินต่อไปที่ Osaka Castle ช่วงเย็นไปต่อที่ย่าน Umeda นั่งชิงช้าสวรรค์ ที่ HEP FIVE ทั้งค่ารถไฟค่าเข้าชม ผมใช้บริการของ Osaka Amazing Pass แค่นี้ก็ปวดเมื่อยไปหมดแล้ว
- เที่ยววันที่ 3 ไปเกียวโต Osaka Amazing Pass ก็หมดอายุแล้ว คราวนี้ใช้ ICOCA การ์ด แทน UP เงินอีก 2000 เยนเพื่อใช้สำหรับการเดินทางจาก Dobutsuen-mae Station ไปยังเกียวโต สถานนี Gion-Shijo Station พักที่โรงแรม Jam Hostel ใกล้กับสถานนีนะครับ ติดแม่น้ำเลย การไปเกียวโตควรจะไป 2 วันครับ ออกจากที่พักใช้ Kyoto City Bus ราคา 500 เยน ซื้อได้จากคนขับรถเลย ขึ้นรถก่อน เวลาลงลงด้านหน้าประตูรถ ขอซื้อจากคนขับรถได้เลย ที่พักผม ไม่ไกลกับวัดคิโยมิซึ นั่งรถเบอร์ 207 แล้วเดินไต่เขาขึ้นวัดไปเรื่อยๆ เพลินดี น่าจะ 1 กม. แล้วกลับที่พักเย็นก็เดินเล่นที่ถนน Kawaramachi สบายๆ
- เที่ยววันที่ 4 จาก สถานนี Kawaramachi ใกล้กับที่พักประมาณ 200 เมตร ไปยัง Arashima Station ร่างกายเริ่มล้า เช่าจักรยานหน้าสถานี 500 เยน เที่ยวที่วัดเทนเรียวจิ ชมวัด ชมป่าไผ่ ร่มเย็นดี ใช้เวลาครึ่งวันกลับมาที่พัก จะไปต่อวัดคินคะคุจิ (วัดทอง) รู้สึกหลง และล้ามาก เลยไม่ได้เที่ยวเพราะเย็นมากแล้วเลยกลับ กลางคืนเดินเที่ยวย่าน GION ก็ร้านเหล้านั้นแหละ จะมีผู้หญิงแต่งตัวเป็นเกอิชา เดินขวักไขว่กันไปหมด เรางบน้อยไม่เข้าไปหลอกแค่เดินดู แล้วมาซื้อเบียร์ที่โรงแรมกินแทน
- เที่ยววันที่ 5 กลับไปที่ Osaka ครับ จาก Gion-Shijo Station มาที่ Dobutsuen-mae Station ออกประตู 8 มาที่พัก Diamond Hotel ตอนบ่าย ไปย่าน Umeda ช๊อปปิ้งครับ สบายๆ
- เที่ยววันที่ 6 จากสถานนี Shin-Immamiya Station ไปเมืองนารา ไปตั้งแต่ 5.57 ถึง Nara Station 6 โมงกว่าๆ เดินทาง 40 นาที ที่ Nara Station จะมีศูนย์ท่องเที่ยว ขอแผนที่ท่องเที่ยว พร้อมสายรถเมย์ ไปที่ศาลเจ้าคาสุกะ ไทชะ แล้วมาวัด โทไดจิ ยอดเยี่ยมมากครับ ตอนแรกนึกว่าจะไม่ไป เพราะล้ามาก ไปแค่ 2 แห่งครับ เย็นกลับ Osaka เที่ยวที่ Namba ย่าน Dotombori หาซื้อของฝาก กินปลาดิบ
- เที่ยววันที่ 7 เช้าเดินทางไปสนามบิน Kansai จาก Shin-Immamiya Station นะครับ การเดินทางพักหลังจากหมด Osaka Amazing Pass ก็ใช้ ICOCA การ์ด แทนทั้งหมด เติมเงินเรื่อยๆ ที่ร้าน 7-11 ก็ได้ เงินเหลือมาแลกคืนที่สถานนี Kansai International Airport มีค่าธรรมเนียมนิดหน่ย แต่สะดวกโยธิน
- ศึกษาก่อนเดินทาง แผนที่รถไฟฟ้าให้พร้อม วางแผนการท่องเที่ยว ผมใช้ Tablet ใหญ่หน่อย save ข้อมูลการท่องเที่ยวไว้หมด แม้แต่เส้นทางการเดินทาง แผนที่จาก Google + GPS เป็นหลัก
- คนญี่ปุ่น ไม่พูดภาษาอังกฤษ ครับ ถามเขาเขาบอกไม่จำเป็น เราเพิ่งจะคิดได้คิดว่าฝรั่งดี ฉลาด แต่ผมว่าคนญี่ปุ่นฉลาดกว่า
- ถ้าอยากชมธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรม KYOTO ต้อง 2 วันครับ NARA 2 วัน ครับ สบายๆ ผมไม่ได้ขึ้นหอคอย Osaka หรือ ที่ Kyoto เลย เพราะไม่มีเวลา เราขึ้นชิงช้าสวรรค์ 2 แห่ง กับตึก Cosmo Tower ที่สูงกว่าก็น่าจะพอ
เมื่อยมากๆ แต่คุ้มค่า เกียวโต วันหยุดอย่าไปเลย คนเยอะมาก วันธรรมดาก็เยอะแล้ว วางแผนให้ดี จะดูคนหรือไปเที่ยว
โอซาก้า เกียวโต นารา 7 วัน
- ผมมาถึงวันศุกร์ ว่าจะไปเกียวโต วันเสาร์ เขาบอกว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์ นักท่องเที่ยวจะแน่นมาก เลยเปลี่ยนใจ อยู่เที่ยว Osaka เสาร์อาทิตย์ และวันจันทร์ ถึงไปเกียวโต
- ที่พัก หาที่พักที่ใกล้กับสถานีรถไฟ Shin-Immamiya Station อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Dobutsuen-mae Station ผมเลือกพักที่ Toyo Hotel ใกล้กับ Dobutsuen-mae Station ที่พักก็ OK ห้องเดี่ยวพัดลม ราคาไม่แพง Wifi ห้องน้ำ อาบน้ำใช้ร่วมกัน ผมอยู่ 3 คืน แล้วไปเกียวโต แล้วกลับมาอีก กลับมาแถวเดิมพักที่ใหม่ที่ Hotel Diamond ( ไม่แนะนำครับ ถึงแม้จะถูกแต่ไม่น่าพักเลย ห้องกับฟูกที่นอนเท่ากันเลย Wifi ใช้ได้เฉพาะชั้นล่าง อึดอัด กลิ่นบุหรี่เต็มไปหมด )
- การเดินทางจากสนามบิน ออกจาก ตม.แล้ว มาที่ ช่องจำหน่ายตั๋วรถไฟของ Jr สีน้ำเงิน ซื้อ ICOCA การ์ด 2,000 เยน เพื่อใช้ขึ้นรถไฟโดยเฉพาะ เวลาเติมเงินก็ไม่ยาก มีทุกสถานนีทั้งทางเข้าและออก แล้วลงบมาที่ชั้นล่างของอาคาร Tourist Information Center เพื่อซื้อ Osaka Amazing Pass แบบ 2 วัน 3000 เยน Pass นี้คุ้มจริงๆ เมื่อเสร็จแล้ว นั่งรถไฟสาย Kansai Line Express นะครับ โดยใช้ ICOCA นี่แหละ ไม่ต้องไปกดตู้ซื้อตั๋วให้ปวดหัว ถึง Shin-Immamiya Station ใช้เวลา 40 นาที นั่งรถไฟฟ้ารู้สึกกังวล มีแต่ภาษาญี่ปุ่น ฟังอุๆอะๆ ไม่เข้าใจ เลยเอา Tablet ออกมาเปิดแผนที่ Google เปิด GPS นำทางไปเรื่อยๆ ถึงรู้ว่าถึงสถานนีไหนแล้ว (สำคัญมากนะครับ ผมใช้ตลอดทริปเลย ไม่งั้นหน้ามึดแน่ ) เมื่อถึงสถานนี Shin-Immamiya Station แล้วก็ใช้ GPS นี้แหละชี้ทางไปโรงแรม หันทิศให้ดีแล้วเดินตาม GPS ผมเลือกพักที่ Toyo Hotel เพราะแค่ 80 เมตรก็ถึงทางลงสถานนีรถไฟฟ้าใต้ดิน Dobutsuen-mae Station แล้ว สถานนีนี้ จะใช้ตลอดทริปของการท่องเที่ยวใน Osaka ผมเริ่มใช้ Osaka Amazing Pass ในวันที่ 2 ครับ เพราะวันแรกถึงที่พักก็มึดพอดี
- การเดินทางท่องเที่ยวผมจะใช้ แผนที่รถไฟฟ้าที่ได้จากการซื้อ Osaka Amazing Pass เป็นหลักนะครับ+GPS จาก Tablet เป็นหลัก
- เที่ยววันที่ 1 จาก Dobutsuen-mae Station ผมเริ่มใช้ Osaka Amazing Pass มีสถานที่ให้เราไป 28 แห่ง ใช้ไม่หมดหลอกครับ เลือกแต่ที่เราอยากจะไป เช้าวันแรกผมไปที่ Tempozan ก่อน ไปนั่งชิงช้าTempozan Giant Ferris Wheel นั่งเรือ Santa Maria แต่หากจะเที่ยว Osaka Aquarium Kaikuya ต้องเสียเงินค่าเข้าชมแต่มีส่วนลดให้ แล้วนั่งรถไฟต่ออีก 1 สถานี เพื่อไป Cosmo Tower แค่นี้ก็เกือบบ่าย 2 โมงแล้ว กลับมาที่พัก 5 โมงเย็นออกไปที่ Namba เพื่อไปย่านถนน Dotombori ดูป้ายกูลิโกะ นั้งเรือ Tombori River Cruise แค่นี้ก็ 1 วันแล้ว เที่ยวแบบสบายๆ หาอะไรกินเล่นๆ เดินจนเมื่อย
- เที่ยววันที่ 2 จาก Dobutsuen-mae Station ไปเที่ยววัด Shitennoji Temple (เดินพอสมควร) แล้วต่อไปเที่ยวที่ Osaka Museum of History (น่าเที่ยวชมนะครับ) แล้วเดินต่อไปที่ Osaka Castle ช่วงเย็นไปต่อที่ย่าน Umeda นั่งชิงช้าสวรรค์ ที่ HEP FIVE ทั้งค่ารถไฟค่าเข้าชม ผมใช้บริการของ Osaka Amazing Pass แค่นี้ก็ปวดเมื่อยไปหมดแล้ว
- เที่ยววันที่ 3 ไปเกียวโต Osaka Amazing Pass ก็หมดอายุแล้ว คราวนี้ใช้ ICOCA การ์ด แทน UP เงินอีก 2000 เยนเพื่อใช้สำหรับการเดินทางจาก Dobutsuen-mae Station ไปยังเกียวโต สถานนี Gion-Shijo Station พักที่โรงแรม Jam Hostel ใกล้กับสถานนีนะครับ ติดแม่น้ำเลย การไปเกียวโตควรจะไป 2 วันครับ ออกจากที่พักใช้ Kyoto City Bus ราคา 500 เยน ซื้อได้จากคนขับรถเลย ขึ้นรถก่อน เวลาลงลงด้านหน้าประตูรถ ขอซื้อจากคนขับรถได้เลย ที่พักผม ไม่ไกลกับวัดคิโยมิซึ นั่งรถเบอร์ 207 แล้วเดินไต่เขาขึ้นวัดไปเรื่อยๆ เพลินดี น่าจะ 1 กม. แล้วกลับที่พักเย็นก็เดินเล่นที่ถนน Kawaramachi สบายๆ
- เที่ยววันที่ 4 จาก สถานนี Kawaramachi ใกล้กับที่พักประมาณ 200 เมตร ไปยัง Arashima Station ร่างกายเริ่มล้า เช่าจักรยานหน้าสถานี 500 เยน เที่ยวที่วัดเทนเรียวจิ ชมวัด ชมป่าไผ่ ร่มเย็นดี ใช้เวลาครึ่งวันกลับมาที่พัก จะไปต่อวัดคินคะคุจิ (วัดทอง) รู้สึกหลง และล้ามาก เลยไม่ได้เที่ยวเพราะเย็นมากแล้วเลยกลับ กลางคืนเดินเที่ยวย่าน GION ก็ร้านเหล้านั้นแหละ จะมีผู้หญิงแต่งตัวเป็นเกอิชา เดินขวักไขว่กันไปหมด เรางบน้อยไม่เข้าไปหลอกแค่เดินดู แล้วมาซื้อเบียร์ที่โรงแรมกินแทน
- เที่ยววันที่ 5 กลับไปที่ Osaka ครับ จาก Gion-Shijo Station มาที่ Dobutsuen-mae Station ออกประตู 8 มาที่พัก Diamond Hotel ตอนบ่าย ไปย่าน Umeda ช๊อปปิ้งครับ สบายๆ
- เที่ยววันที่ 6 จากสถานนี Shin-Immamiya Station ไปเมืองนารา ไปตั้งแต่ 5.57 ถึง Nara Station 6 โมงกว่าๆ เดินทาง 40 นาที ที่ Nara Station จะมีศูนย์ท่องเที่ยว ขอแผนที่ท่องเที่ยว พร้อมสายรถเมย์ ไปที่ศาลเจ้าคาสุกะ ไทชะ แล้วมาวัด โทไดจิ ยอดเยี่ยมมากครับ ตอนแรกนึกว่าจะไม่ไป เพราะล้ามาก ไปแค่ 2 แห่งครับ เย็นกลับ Osaka เที่ยวที่ Namba ย่าน Dotombori หาซื้อของฝาก กินปลาดิบ
- เที่ยววันที่ 7 เช้าเดินทางไปสนามบิน Kansai จาก Shin-Immamiya Station นะครับ การเดินทางพักหลังจากหมด Osaka Amazing Pass ก็ใช้ ICOCA การ์ด แทนทั้งหมด เติมเงินเรื่อยๆ ที่ร้าน 7-11 ก็ได้ เงินเหลือมาแลกคืนที่สถานนี Kansai International Airport มีค่าธรรมเนียมนิดหน่ย แต่สะดวกโยธิน
- ศึกษาก่อนเดินทาง แผนที่รถไฟฟ้าให้พร้อม วางแผนการท่องเที่ยว ผมใช้ Tablet ใหญ่หน่อย save ข้อมูลการท่องเที่ยวไว้หมด แม้แต่เส้นทางการเดินทาง แผนที่จาก Google + GPS เป็นหลัก
- คนญี่ปุ่น ไม่พูดภาษาอังกฤษ ครับ ถามเขาเขาบอกไม่จำเป็น เราเพิ่งจะคิดได้คิดว่าฝรั่งดี ฉลาด แต่ผมว่าคนญี่ปุ่นฉลาดกว่า
- ถ้าอยากชมธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรม KYOTO ต้อง 2 วันครับ NARA 2 วัน ครับ สบายๆ ผมไม่ได้ขึ้นหอคอย Osaka หรือ ที่ Kyoto เลย เพราะไม่มีเวลา เราขึ้นชิงช้าสวรรค์ 2 แห่ง กับตึก Cosmo Tower ที่สูงกว่าก็น่าจะพอ
เมื่อยมากๆ แต่คุ้มค่า เกียวโต วันหยุดอย่าไปเลย คนเยอะมาก วันธรรมดาก็เยอะแล้ว วางแผนให้ดี จะดูคนหรือไปเที่ยว