ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่านี่คือรีวิวแรก แต่อยากให้ทุกคนได้อ่านและลองไปกันดู เทศกาลกินเจช่วงวันที่ 13-21 ตุลาคม ถ้ามีใครอยากไปเดินเล่น ไหว้พระไหว้เจ้า หาของอร่อยๆกิน อยากให้ลองไปเดินที่ชุมชนตลาดน้อยดู ใกล้นิดเดียวเอง
หลายๆคนในกรุงเทพฯ คงนึกถึงเยาวราช China town ที่เต็มไปด้วยผู้คนชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีน ออกมาจับจ่ายหาซื้อวัตถุดิบ หรือหาอาหารเจที่หลากหลาย ซึ่งนอกจากจะมาหาของกินกันแล้ว ก็ยังได้เดินดูถนนที่ครึกครื้นมากๆในยามค่ำคืนอีกด้วย แต่ยังมีสถานที่ใกล้ๆที่ไม่ต้องรอให้ถึงช่วงเวลาเย็น ก็สามารถไปแวะเวียน เดินชมอาคารบ้านเรือนก่าๆ วิถีชีวิตของชาวไทยเชื้อสายจีนได้ นั่นก็คือ ชุมชนย่านตลาดน้อย
การเดินทางมายังตลาดน้อย ไม่ใช่เรื่องยาก หากกลัวว่าจะไม่สามารถหาที่จอดรถได้ เราแนะนำให้ขึ้นรถไฟใต้ดินมาถึงสถานีปลายทาง “หัวลำโพง” ออกมาทางออกที่ 1 จากนั้นเดินข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ตัดไปทางถนนข้าวหลาม และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจริญกรุง ก่อนถึงซอยเจริญกรุง 22 ก็จะมีซอยเล็กๆให้เดินเข้าไปในย่านตลาด รวมระยะทางในการเดินยังไม่ถึง 1 กิโลเมตรเลย แต่ถ้าเดินมาจนถึงซอย 22 แล้วก็สามารถเดินทะลุเข้าไปได้เช่นกัน ในย่านนนี้ถนนอาจจะแคบไปซักหน่อย เหมือนถนนคนเดิน แต่ว่ารถยนต์ก็ยังสามารถผ่านได้อยู่
[มุ่งหน้าไปสถานีหัวลำโพง]
[ออกทางออกที่ 1 เดินตาม ถนน มหาพฤฒาราม]
จุดหมายแรกของวันนี้คือ ศาลเจ้าโจวซือกง แต่ว่าตลอดสองฝั่งทางเข้าศาลเจ้า ก็มีทั้งอาหาร ของกินเล่น และขนมมากมาย ทั้งยุคใหม่ ยุคเก่า เมื่อมาถึงที่ศาลเจ้าโจวซือกงแล้ว ผู้คนที่มาสักการะกันอย่างคับคั่ง แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้แต่งชุดขาวมา ก็ยืนไหว้ด้านหน้าศาลแทนไป ตรงซุ้มประตูทางเข้าศาล จะมีอาคารเก่าๆที่ถูกจัดเป็นนิทรรศกาลย่อมๆให้คนได้เข้าไปดู สวยงามตั้งแต่ภายนอกอาคาร บ้านไม้เก่าๆที่ดูคลาสสิก
[ซุ้มทางเข้าศาลเจ้าโจวซือกง]
[ระหว่างทางเดินไปศาลเจ้า ก็ยังมีศาลเจ้าให้ไหว้สักการะอีก]
[บ้านไม้เก่าแก่ที่ยังสวยมาก ด้านในเป็นนิทรรศการของศาลเจ้ากับชาวชุมชน]
ที่ซุ้มทางเข้าศาลก็มีขนมที่หากินได้ยากอยู่หนึ่งอย่าง ขนมไหมฟ้า เจ้าของก็ใจดีค่อยสอนวิธีการทำ เป็นขนมที่ไม่หวานมากอย่างที่คิด หอมมันจากถั่วที่คั่วใหม่ๆ ใครที่มาสักการะองค์เทพเจ้าก็อย่าลืมแวะชิมขนมไหมฟ้าได้
[เจ้าของร้านใจดีสอนให้ดูทีละขั้นตอนเลย ฝีมือล้วนๆ]
[เส้นไหมน้ำผึ้งบางเบา นุ่มนวล และไม่หวานจนเกินไป กับความหอมของถั่วคั่วใหม่ๆ เข้ากันสุดๆ]
เดินออกมาจากศาลเจ้า ก็จะเจอกับร้าน อิ่วก้วย ที่มีทั้งไส้คาว และไส้หวานให้เอกซื้อเลือกกิน
[ชาวบ้านในย่านนั้น ช่วยกันมาออกร้านขายอาหาร นี่คือโอกาสทองที่จะได้ชิมฝีมือคนต้นตำรับ]
ถัดมาอีกนิดหน่อย เป็นร้านขนมตุ๊บตั๊บ ซึ่งแถวยาวเป็นพิเศษ เป็นขนมตุ๊บตั๊บโบราณที่โชว์วิธีการทำให้เห็นกันเลย ตั้งแต่การกวนน้ำตาล การผสมถั่ว การใช้ค้อนทุบสลับกันสองคนตามจังหวะ จนไปถึงการหั่นเป็นชิ้นและบรรจุ เพลิดเพลินกับการดูโชว์ทำขนมโบราณ สนุกกว่าไปดูทำท๊อฟฟี่ลายต่างๆอีก
[ทั้งกวน ทั้งนวด ทั้งทุบ ทั้งบด โชว์ให้ดูกันเพลินเลย]
[มือหั่น หรือจอมยุทธ์ มือเร็วแถมเท่ากันทุกชิ้นเลย] (นี่ขนาดทำกันเร็วแล้วนะ แต่แถวนี่ยาวเหยียดเลย)
ตลอดทั้งสองข้างทางนอกจากจะมีทั้งข้าวแกง อาหารตามสั่ง ของกินเล่นต่างๆมากมาย ให้ได้ชมและชิมกันแล้ว เราก็ยังจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวชุมชนในแถบนี้ ที่นับวันจะเริ่มหายไปจากสังคมเมืองแล้ว แต่ที่มาสะดุดตาอีกอย่างก็คือ ขนมถ้วยโบราณ
ขนมถ้วยโบราณ เจ้านี้ทำสดๆ เรียกว่านึ่งแล้วก็แคะออกจากถ้วยใส่กล่องให้กันเลย หรือใครที่จะกินที่ร้าน ก็มีไม้พายมาให้ลงมือเองได้เลย เรียกว่าหลังจากเดินไปทั่ว มาปิดท้ายด้วยขนมถ้วย ทางร้านบอกว่าขนมถ้วยของที่ร้านเป็นแบบโบราณคือไม่ใส่ใบเตยลงไปที่ชั้นล่าง เลยทำให้ขนมถ้วยร้านนี้มีสีขาวทั้งชั้นบนและชั้นล่าง
[แค่ด้านหน้าร้านก็ขลังมากแล้ว มันต้องเป็นขนมถ้วยโบราณแน่นอน]
[ร้านนี้ก็ใจดี ค่อยๆหยอดให้ดูทีละขั้นตอนเลยเหมือนกัน]
[คุณน้าบอกว่า เดี๋ยวรอนึ่งสุกก็เสร็จละ เรานี่ถือไม้พายรอตั้งแต่ยังไม่ปิดฝาหม้อ]
การเดินเที่ยวย่านชุมชนที่มีเรื่องราวมาอย่างยาวนานอย่างชุมชนย่านตลาดน้อยแห่งนี้นั้น นอกจากจะได้มาชิมอาหารมากมายแล้ว ยังเป็นการได้มาเห็นวิถีชีวิตของชาวไทยเชื้อสายจีน อาคารบ้านเรือนไม้ที่แทบจะหาดูไม่ได้แล้ว อยากแนะนำให้ไปกัน ใกล้แถมไปง่ายด้วย อากาศไม่ได้ร้อนมากด้วยช่วงนี้ เดินสบายๆเลย
[คุณป้าบอกว่า "ซูมเอาสิลูก เดี๋ยวน้ำมันกระเด็นโดนนะ" ป้าให้ถ่ายแถมยังเป็นห่วงอีก]
[ถ่ายอย่างเดียวได้ที่ไหน ทอดเสร็จใหม่ๆ ร้อนๆกรอบๆเลย มันต้องโดน]
[หมี่ผัดผักกระเฉด ชามนี้ 35 บาท ราคามิตรภาพมาก]
[ตบด้วยน้ำมะพร้าวหอมๆ ชื่นใจ..]
[ก๋วยเตี๋ยวหลอดก็อร่อย ร้านนี้ไม่ต้องผู้ช่วย คนเดียวทำทุกอย่าง สุดยอด..]
[หลายร้านที่เป็นรถเข็น แต่ยังคงใช้เตาถ่านอยู่ ย่านนี้นี่อนุรักษ์สไตล์ได้ดีจริงๆ]
[ปิดด้วยรอยยิ้มของชาวชุมชนตลาดน้อย เดินไปกินไปอย่างมีความสุขจริงๆ]
ขอบคุณที่อ่านจนจบ จะพยายามพัฒนางานเขียนไปเรื่อยๆ ยังไงติดตามกันได้ที่นี่ หรือไม่ก็
http://www.facebook.com/pepperupper และ
http://www.pepperupper.co
ตอนนี้มีไปร่วมเขียนให้กับทางเวป
ขอบคุณมากจริงๆ ฝาก follow like & share กันด้วยนะ
พุงพลุ้ย
[CR] กินเจที่ตลาดน้อย ของกินไม่ได้น้อยตามชื่อตลาด!!
หลายๆคนในกรุงเทพฯ คงนึกถึงเยาวราช China town ที่เต็มไปด้วยผู้คนชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีน ออกมาจับจ่ายหาซื้อวัตถุดิบ หรือหาอาหารเจที่หลากหลาย ซึ่งนอกจากจะมาหาของกินกันแล้ว ก็ยังได้เดินดูถนนที่ครึกครื้นมากๆในยามค่ำคืนอีกด้วย แต่ยังมีสถานที่ใกล้ๆที่ไม่ต้องรอให้ถึงช่วงเวลาเย็น ก็สามารถไปแวะเวียน เดินชมอาคารบ้านเรือนก่าๆ วิถีชีวิตของชาวไทยเชื้อสายจีนได้ นั่นก็คือ ชุมชนย่านตลาดน้อย
การเดินทางมายังตลาดน้อย ไม่ใช่เรื่องยาก หากกลัวว่าจะไม่สามารถหาที่จอดรถได้ เราแนะนำให้ขึ้นรถไฟใต้ดินมาถึงสถานีปลายทาง “หัวลำโพง” ออกมาทางออกที่ 1 จากนั้นเดินข้ามคลองผดุงกรุงเกษม ตัดไปทางถนนข้าวหลาม และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจริญกรุง ก่อนถึงซอยเจริญกรุง 22 ก็จะมีซอยเล็กๆให้เดินเข้าไปในย่านตลาด รวมระยะทางในการเดินยังไม่ถึง 1 กิโลเมตรเลย แต่ถ้าเดินมาจนถึงซอย 22 แล้วก็สามารถเดินทะลุเข้าไปได้เช่นกัน ในย่านนนี้ถนนอาจจะแคบไปซักหน่อย เหมือนถนนคนเดิน แต่ว่ารถยนต์ก็ยังสามารถผ่านได้อยู่
[มุ่งหน้าไปสถานีหัวลำโพง]
[ออกทางออกที่ 1 เดินตาม ถนน มหาพฤฒาราม]
จุดหมายแรกของวันนี้คือ ศาลเจ้าโจวซือกง แต่ว่าตลอดสองฝั่งทางเข้าศาลเจ้า ก็มีทั้งอาหาร ของกินเล่น และขนมมากมาย ทั้งยุคใหม่ ยุคเก่า เมื่อมาถึงที่ศาลเจ้าโจวซือกงแล้ว ผู้คนที่มาสักการะกันอย่างคับคั่ง แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้แต่งชุดขาวมา ก็ยืนไหว้ด้านหน้าศาลแทนไป ตรงซุ้มประตูทางเข้าศาล จะมีอาคารเก่าๆที่ถูกจัดเป็นนิทรรศกาลย่อมๆให้คนได้เข้าไปดู สวยงามตั้งแต่ภายนอกอาคาร บ้านไม้เก่าๆที่ดูคลาสสิก
[ซุ้มทางเข้าศาลเจ้าโจวซือกง]
[ระหว่างทางเดินไปศาลเจ้า ก็ยังมีศาลเจ้าให้ไหว้สักการะอีก]
[บ้านไม้เก่าแก่ที่ยังสวยมาก ด้านในเป็นนิทรรศการของศาลเจ้ากับชาวชุมชน]
ที่ซุ้มทางเข้าศาลก็มีขนมที่หากินได้ยากอยู่หนึ่งอย่าง ขนมไหมฟ้า เจ้าของก็ใจดีค่อยสอนวิธีการทำ เป็นขนมที่ไม่หวานมากอย่างที่คิด หอมมันจากถั่วที่คั่วใหม่ๆ ใครที่มาสักการะองค์เทพเจ้าก็อย่าลืมแวะชิมขนมไหมฟ้าได้
[เจ้าของร้านใจดีสอนให้ดูทีละขั้นตอนเลย ฝีมือล้วนๆ]
[เส้นไหมน้ำผึ้งบางเบา นุ่มนวล และไม่หวานจนเกินไป กับความหอมของถั่วคั่วใหม่ๆ เข้ากันสุดๆ]
เดินออกมาจากศาลเจ้า ก็จะเจอกับร้าน อิ่วก้วย ที่มีทั้งไส้คาว และไส้หวานให้เอกซื้อเลือกกิน
[ชาวบ้านในย่านนั้น ช่วยกันมาออกร้านขายอาหาร นี่คือโอกาสทองที่จะได้ชิมฝีมือคนต้นตำรับ]
ถัดมาอีกนิดหน่อย เป็นร้านขนมตุ๊บตั๊บ ซึ่งแถวยาวเป็นพิเศษ เป็นขนมตุ๊บตั๊บโบราณที่โชว์วิธีการทำให้เห็นกันเลย ตั้งแต่การกวนน้ำตาล การผสมถั่ว การใช้ค้อนทุบสลับกันสองคนตามจังหวะ จนไปถึงการหั่นเป็นชิ้นและบรรจุ เพลิดเพลินกับการดูโชว์ทำขนมโบราณ สนุกกว่าไปดูทำท๊อฟฟี่ลายต่างๆอีก
[ทั้งกวน ทั้งนวด ทั้งทุบ ทั้งบด โชว์ให้ดูกันเพลินเลย]
[มือหั่น หรือจอมยุทธ์ มือเร็วแถมเท่ากันทุกชิ้นเลย] (นี่ขนาดทำกันเร็วแล้วนะ แต่แถวนี่ยาวเหยียดเลย)
ตลอดทั้งสองข้างทางนอกจากจะมีทั้งข้าวแกง อาหารตามสั่ง ของกินเล่นต่างๆมากมาย ให้ได้ชมและชิมกันแล้ว เราก็ยังจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวชุมชนในแถบนี้ ที่นับวันจะเริ่มหายไปจากสังคมเมืองแล้ว แต่ที่มาสะดุดตาอีกอย่างก็คือ ขนมถ้วยโบราณ
ขนมถ้วยโบราณ เจ้านี้ทำสดๆ เรียกว่านึ่งแล้วก็แคะออกจากถ้วยใส่กล่องให้กันเลย หรือใครที่จะกินที่ร้าน ก็มีไม้พายมาให้ลงมือเองได้เลย เรียกว่าหลังจากเดินไปทั่ว มาปิดท้ายด้วยขนมถ้วย ทางร้านบอกว่าขนมถ้วยของที่ร้านเป็นแบบโบราณคือไม่ใส่ใบเตยลงไปที่ชั้นล่าง เลยทำให้ขนมถ้วยร้านนี้มีสีขาวทั้งชั้นบนและชั้นล่าง
[แค่ด้านหน้าร้านก็ขลังมากแล้ว มันต้องเป็นขนมถ้วยโบราณแน่นอน]
[ร้านนี้ก็ใจดี ค่อยๆหยอดให้ดูทีละขั้นตอนเลยเหมือนกัน]
[คุณน้าบอกว่า เดี๋ยวรอนึ่งสุกก็เสร็จละ เรานี่ถือไม้พายรอตั้งแต่ยังไม่ปิดฝาหม้อ]
การเดินเที่ยวย่านชุมชนที่มีเรื่องราวมาอย่างยาวนานอย่างชุมชนย่านตลาดน้อยแห่งนี้นั้น นอกจากจะได้มาชิมอาหารมากมายแล้ว ยังเป็นการได้มาเห็นวิถีชีวิตของชาวไทยเชื้อสายจีน อาคารบ้านเรือนไม้ที่แทบจะหาดูไม่ได้แล้ว อยากแนะนำให้ไปกัน ใกล้แถมไปง่ายด้วย อากาศไม่ได้ร้อนมากด้วยช่วงนี้ เดินสบายๆเลย
[คุณป้าบอกว่า "ซูมเอาสิลูก เดี๋ยวน้ำมันกระเด็นโดนนะ" ป้าให้ถ่ายแถมยังเป็นห่วงอีก]
[ถ่ายอย่างเดียวได้ที่ไหน ทอดเสร็จใหม่ๆ ร้อนๆกรอบๆเลย มันต้องโดน]
[หมี่ผัดผักกระเฉด ชามนี้ 35 บาท ราคามิตรภาพมาก]
[ตบด้วยน้ำมะพร้าวหอมๆ ชื่นใจ..]
[ก๋วยเตี๋ยวหลอดก็อร่อย ร้านนี้ไม่ต้องผู้ช่วย คนเดียวทำทุกอย่าง สุดยอด..]
[หลายร้านที่เป็นรถเข็น แต่ยังคงใช้เตาถ่านอยู่ ย่านนี้นี่อนุรักษ์สไตล์ได้ดีจริงๆ]
[ปิดด้วยรอยยิ้มของชาวชุมชนตลาดน้อย เดินไปกินไปอย่างมีความสุขจริงๆ]
ขอบคุณที่อ่านจนจบ จะพยายามพัฒนางานเขียนไปเรื่อยๆ ยังไงติดตามกันได้ที่นี่ หรือไม่ก็
http://www.facebook.com/pepperupper และ
http://www.pepperupper.co
ตอนนี้มีไปร่วมเขียนให้กับทางเวป
ขอบคุณมากจริงๆ ฝาก follow like & share กันด้วยนะ
พุงพลุ้ย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น