นี่เป็นหนังไทยที่ผมชอบ เรื่องที่สองของปี ต่อจาก ฟรีแลนซ์ฯ
-ที่เห็นจากตัวอย่าง เป็นแค่เรื่องราว 30% ของตัวหนังจริง สิ่งที่เราคาดเดาจากพฤติกรรมของคาแรคเตอร์เณร
ที่แน๊ค ชาลีแสดง เป็นแค่ขิง ปาท่องโก๋ ในชามโจ๊ก คุณต้องเอาช้อนตักลงไปถึงจะเจอหมู เครื่องใน ที่ซ่อนอยู่
มันคือแกนในของเรื่อง ที่มีฉากหลังเป็นเรื่องราวซับซ้อน พันพัว น่ากลัวของคนใน "วัด" ซึ่งมีกรรมต่อกันมา
-ฉากน่ากลัว แบบหนังผี มีไม่มากแต่ก็สยองพองาม มีที่อยากติคือ การทำเสียงประกอบและดนตรีประกอบที่ค่อนข้างเชย
ซาวด์ดังๆที่โผล่มาแบบกระแทกหูตอนผีมา กลับทำให้หนังดูเก่าเหมือนหนังผีไทยเมื่อ 4-5 ปีก่อน ที่จริง ถ้าปล่อยให้ความเงียบ
ครอบคลุมบรรยากาศในวัด ที่มีเสียง Ambience เป็นเสียงธรรมชาติในป่า อาจจะน่าขนลุกกว่าก็ได้
-นักแสดง ทำหน้าที่ได้ดีกันทุกคน แน๊ค ชาลี จะทำได้ดีกับบทเณรเจ้าปัญหา ซึ่งเป็นตัวเดินเรื่อง ถือว่าเป็นหนังที่ แคสติ้ง ได้ลงตัว
กับทุกๆคาแรคเตอร์ กิก ดนัยกับการแสดงหนังครั้งแรก และเป็นกุญแจสำคัญเมื่อเฉลยตัวตนออกมา ก็ทำหน้าที่ได้ดี ส่วน หนุ่ม อรรถพร
กับ สรพงษ์ ชาตรี ถือว่าบทที่ได้ สบายๆอยู่แล้ว
-บทภาพยนตร์ เป็นหัวใจที่แข็งแรงของหนัง ทุกเงื่อนปม เส้นทางการดำเนินเรื่อง ดูพอเหมาะพอดี ไม่มียัดเยียดหรือจงใจ มากเกินไป
ผู้กำกับเล่าเรื่องของคนกลุ่มเล็กๆได้อย่างน่าติดตาม ไม่น่าเบื่อ มีนิดเดียวตรงที่เณรซันมาบอกลาฝ้าย ว่าจะสึก แล้วน้องฝ้ายถึงกับร้องไห้
อาจจะมากเกินไปนิด เพราะผมยังไม่ร็สึกว่าสองคนนี้สนิท ผูกพันกันมากขนาดนั้น (ไม่แน่ใจว่ามีเนื้อหาตรงนี้เป็นฉากที่ถูกตัดออกหรือเปล่า)
-ถ้าคุณอยากดูหนังผี หรือหวังจะเห็นผีเปรต ผีหน้าเละ ออกมาหลอกหลอนกันจนขวัญกระเจิง คุณอาจผิดหวัง แต่สิ่งที่คุณจะได้จากหนังเรื่องนี้แน่ๆ
คือการถามตัวเองเมื่อดูจบ คือเราได้ไปทำกรรม อะไรกับใครเอาไว้หรือเปล่า ถ้าเราทำ เราได้ยอมรับและสำนึกต่อบาปแล้วหรือยัง
ไม่ว่าเราจะเป็นใคร พระ หมอ ครู ฯลฯ อยู่ในสถานะไหน เราก็ทำผิดต่อผู้อื่นได้ทั้งนั้น
-ฝากบอกถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการคิดจะแบนหนังเรื่องนี้ เปลี่ยนเถอะ คนที่เป็นคณะกรรมการน่ะ มันแสดงให้เห็นเลยว่าพวกคุณมันมือสมัครเล่น ดูหนังไม่แตก ตีความไม่เป็น ความรู้พวกคุณมันแค่เปลือก ได้เป็นกรรมการด้วยอะไรก็แล้วแต่ ขอเถอะ อย่าก่อกรรมกับคนทำหนังและคนดูหนังไทยอีกเลย...สาธุ
อาบัติ -- นี่หรือหนังที่มีครายไม่รู้บอกว่าจะทำให้ศาสนาเสื่อม (สปอย์ลมาก)
นี่เป็นหนังไทยที่ผมชอบ เรื่องที่สองของปี ต่อจาก ฟรีแลนซ์ฯ
-ที่เห็นจากตัวอย่าง เป็นแค่เรื่องราว 30% ของตัวหนังจริง สิ่งที่เราคาดเดาจากพฤติกรรมของคาแรคเตอร์เณร
ที่แน๊ค ชาลีแสดง เป็นแค่ขิง ปาท่องโก๋ ในชามโจ๊ก คุณต้องเอาช้อนตักลงไปถึงจะเจอหมู เครื่องใน ที่ซ่อนอยู่
มันคือแกนในของเรื่อง ที่มีฉากหลังเป็นเรื่องราวซับซ้อน พันพัว น่ากลัวของคนใน "วัด" ซึ่งมีกรรมต่อกันมา
-ฉากน่ากลัว แบบหนังผี มีไม่มากแต่ก็สยองพองาม มีที่อยากติคือ การทำเสียงประกอบและดนตรีประกอบที่ค่อนข้างเชย
ซาวด์ดังๆที่โผล่มาแบบกระแทกหูตอนผีมา กลับทำให้หนังดูเก่าเหมือนหนังผีไทยเมื่อ 4-5 ปีก่อน ที่จริง ถ้าปล่อยให้ความเงียบ
ครอบคลุมบรรยากาศในวัด ที่มีเสียง Ambience เป็นเสียงธรรมชาติในป่า อาจจะน่าขนลุกกว่าก็ได้
-นักแสดง ทำหน้าที่ได้ดีกันทุกคน แน๊ค ชาลี จะทำได้ดีกับบทเณรเจ้าปัญหา ซึ่งเป็นตัวเดินเรื่อง ถือว่าเป็นหนังที่ แคสติ้ง ได้ลงตัว
กับทุกๆคาแรคเตอร์ กิก ดนัยกับการแสดงหนังครั้งแรก และเป็นกุญแจสำคัญเมื่อเฉลยตัวตนออกมา ก็ทำหน้าที่ได้ดี ส่วน หนุ่ม อรรถพร
กับ สรพงษ์ ชาตรี ถือว่าบทที่ได้ สบายๆอยู่แล้ว
-บทภาพยนตร์ เป็นหัวใจที่แข็งแรงของหนัง ทุกเงื่อนปม เส้นทางการดำเนินเรื่อง ดูพอเหมาะพอดี ไม่มียัดเยียดหรือจงใจ มากเกินไป
ผู้กำกับเล่าเรื่องของคนกลุ่มเล็กๆได้อย่างน่าติดตาม ไม่น่าเบื่อ มีนิดเดียวตรงที่เณรซันมาบอกลาฝ้าย ว่าจะสึก แล้วน้องฝ้ายถึงกับร้องไห้
อาจจะมากเกินไปนิด เพราะผมยังไม่ร็สึกว่าสองคนนี้สนิท ผูกพันกันมากขนาดนั้น (ไม่แน่ใจว่ามีเนื้อหาตรงนี้เป็นฉากที่ถูกตัดออกหรือเปล่า)
-ถ้าคุณอยากดูหนังผี หรือหวังจะเห็นผีเปรต ผีหน้าเละ ออกมาหลอกหลอนกันจนขวัญกระเจิง คุณอาจผิดหวัง แต่สิ่งที่คุณจะได้จากหนังเรื่องนี้แน่ๆ
คือการถามตัวเองเมื่อดูจบ คือเราได้ไปทำกรรม อะไรกับใครเอาไว้หรือเปล่า ถ้าเราทำ เราได้ยอมรับและสำนึกต่อบาปแล้วหรือยัง
ไม่ว่าเราจะเป็นใคร พระ หมอ ครู ฯลฯ อยู่ในสถานะไหน เราก็ทำผิดต่อผู้อื่นได้ทั้งนั้น
-ฝากบอกถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการคิดจะแบนหนังเรื่องนี้ เปลี่ยนเถอะ คนที่เป็นคณะกรรมการน่ะ มันแสดงให้เห็นเลยว่าพวกคุณมันมือสมัครเล่น ดูหนังไม่แตก ตีความไม่เป็น ความรู้พวกคุณมันแค่เปลือก ได้เป็นกรรมการด้วยอะไรก็แล้วแต่ ขอเถอะ อย่าก่อกรรมกับคนทำหนังและคนดูหนังไทยอีกเลย...สาธุ