เขียน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2558
การเดินทางที่จะมาเล่าต่อไปนี้เป็นการเดินทางคนเดียวครั้งแรกของเราย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว ขอสวัสดีทุกคนอย่างเป็นทางการค่ะ แนะนำตัวสั้นๆก่อนแล้วกัน เราชื่อ แพร เป็นสาวเมืองตรังเด็กบ้านๆเลย ตอนนี้24ปี อีก8วันก็ 25ปีบริบูรณ์ (จะร่ายยาวทำไม ฮ่าๆๆๆ) จริงๆอยากจะแบ่งปันแเลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางแบบนี้มานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ลงมือทำสักที และคงไม่ได้เป็นรีวิวที่ละเอียดอะไร ขอเรียกว่าบันทึกการเดินทางดีกว่าเนอะ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีโอกาสไปเที่ยวพัทยา-เกาะล้าน แบบโดนทิ้งโดยไม่ทันตั้งตัว แล้วมันก็เกิดความคิดแว๊บขึ้นมาในหัวตอนวันจะกลับแล้วว่า เฮ้ย..อยากลองเขียนเล่าเรื่องราวดูบ้าง แต่คิดได้ก็สายไปเพราะภาพที่ถ่ายมามีแต่รูปตัวเองไม่อยากใส่ไปให้เสียอัถรสในการรับชม 555 กระทู้นี้ก็เช่นกัน จึงไม่ค่อยมีวิวสวยๆให้ชมสักเท่าไหร่นัก ^^ ไว้ขอโอกาสแก้ไขในทริปต่อๆไปนะคะ ...
มาถึงกระทู้นี้ ขอย้อนไปเมื่อ2ปีที่แล้วที่ยังมีสถานะภาพเป็นนิสิต เป็นเด็กคนนึงที่ตอนแอดมิชชั่นมีความคิดว่า เฮ้ยย...เรียนมหาลัยคงมีเวลาว่างได้ไปเที่ยวบ่อยแน่ๆ (สงสัยดูหนังมากไป^^) แต่ความเป็นจริงคือ มหาลัย/คณะ/ภาควิชาที่เราเรียนมีกิจกรรมเยอะมาก และยิ่ง2ปีแรกเราเรียน นศท.ปี4-5ด้วย ไม่ต้องพูดถึงเลย ทุกอาทิตย์ต้องตื่นตี4นั่งรถจากกำแพงแสนเข้าไปเรียนที่ศูนย์ใหญ่วิภาวดี ลุก หมอบ กลิ้ง คลาน แบกอาวุธ (๐-๐” ) หมดกันความฝันชั้นนนน!! แต่ๆๆๆ..มันยังมีหวังค่ะคุณผู้ชม พอปี3เทอม1 มีแฟน เฮ้ยยย มีแฟน 555 และไม่ต้องไปเรียน นศท.ด้วยแล้ว ตอนแรกๆก็ดีนะ เรานี้เป็นตัวชวนไปเที่ยวเลย มีที่ไหนน่าไปคือเราเอามานำเสนอหมด แต่คำตอบที่ได้กลับมาทุกครั้งคือ อืมมมมม ...... ไว้ค่อยไปกัน น นนนน !!!! เวลาล่วงเลยผ่านไปจนเรียนจบป.ตรี เมื่อปี 57 ก็ยังไม่ได้ไปไหนสักที ประกอบกับหลังเรียนจบต่างก็แยกย้าย และอยู่กันคนละภาคเลย ห่างกันความสัมพันธ์มันก็ไม่ค่อยดี (เพราะนิสัยส่วนตัว ผช. อันนี้ขอข้าม น่าจะรู้ๆกัน) และก็จบ เราก็ได้แต่ปล่อยวาง ทำยังไงได้ละใจคนมันเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ตอนนั้นอยากไปไหนก็ได้สักที่ ที่ไกลๆไม่มีคนรู้จัก ไปในที่สงบๆไม่วุ่นวาย
ลองขอแม่ดูเล่นๆ.....
เรา : แม่ขอไปเที่ยวสะพานมอญได้ป่ะ?
แม่ : มันอยู่ที่ไหนละ? เรา : สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
แม่ : แล้วไปกับใคร? เรา : ไปคนเดียว!!!!
แม่ : ก็ไปซิ.... เรา : (อึ๊งงงงแปป ขอเล่นๆแม่ให้จริงทำไงละทีนี้ 555) ให้ไปจริงดิ!!!!
แม่ : อืมมมม...ให้ไปถือว่าไปพักผ่อนหลังเรียนจบก็แล้วกัน เพราะตอนเรียนทำตัวดีรับผิดชอบตัวเองจนเรียนจบได้ ไม่ไปตอนนี้จะรอไปตอนแก่รึไง!!!! (อิอิ น่ารักที่สู๊ดดดดดด)
ได้ยินเสียงสวรรค์แบบนี้ก็ไม่รอช้าสิคะ รีบหาข้อมูลเลย ทั้งอากู เว็บไซต์ต่างๆ และมาเจอกระทู้ของ High on dreams เป็นตัวจุดประกายอย่างแรง
หาที่พักคร่าวๆแต่ยังไม่ได้จองไว้ เค้าบอกให้ Walk-in ได้เลย หลังข้อมูลทุกอย่างพร้อม โอเค สบายใจนอนหลับ
พอใกล้ถึงวันเดินทางเท่านั้นแหละ!!!! ความกลัว ความกังวล ทุกอย่างมันเข้ามา นอนไม่หลับ จะไปดีไม่ไปดี ไปแล้วจะต้องทำยังไง แม้ว่าจะโดนส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ และอยู่หอมาตั้งแต่ ม.1จนถึงป.ตรี ก็เถอะมันก็หวั่นไหวกันบ้างงงงง 5555 เป็นไงเป็นกันว๊ะ... ไม่ลองครั้งนี้ แล้วจะรออีกเมื่อไหร่ ไม่มีก้าวแรกมันก็ไม่มีก้าวต่อไป
และแล้ว 11 พฤศจิกายน 2557 เวลา9:00น. ตอนนั้นยังอยู่แถวปิ่นเกล้า เลยไปขึ้นรถตู้วินแฮปปี้ (อยู่เลยโลตัสปิ่นเกล้า ไปนิดเดียว จะมีโต๊ะขายตั๋วอยู่ในอาคารด้านหน้าเลย) นั่งรถกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี (ค่ารถ100฿) ใช้เวลา2ชั่วโมงนิดๆ เกือบเที่ยงก็ไปถึงบขส.กาญจนบุรี
**วินแฮปปี้**
และเปลี่ยนไปขึ้นรถตู้ของเอเชียไทรโยคเดินรถ (ที่ขายตั๋วอยู่เป็นอาคารห้องแถวด้านข้าง บขส.มองไปจะเป็นที่รถบัสจอดเยอะๆมองข้ามรถบัสไปก็จะเจอคิวรถตู้ เป็นรถกาญ-สังขละบุรี (ราคา175฿) ใช้เวลาเกือบ4ชั่วโมง
คนก็เริ่มลงกลางทางกันเกือบหมดแล้ว พอถึงตรงทางแยกทองผาภูมิ กับสังขละบุรี เหลือผู้โดยสาร2คนในรถ(มีเรากับทอมอีก1คน) ทีนี้....(เพิ่งมารู้สึกตัว พูดในใจ ความคิดนี้มาอีกแล้ว)>> “เฮ้ยยยยย...กรูทำอะไรลงไปเนี่ย มาทำอะไรที่นี่ เมิงมาไกลแล้วนะ เมิงจะไปต่อแน่นะ เมิงจะกลับตอนนี้ยังได้ คนนั้นจะทำอะไรเรามั้ย (ความสับสนตีกันอลหม่านในหัว ไปคนเดียวฟุ้งซ่านต้องตั้งสตินะคะ 555) คิดไปเรื่อยจนหลับ << ระหว่างทางฝนก็ตก หยุด ตก สลับกันเป็นช่วงๆ ถนนสวนเลนส์กัน ได้แต่มองผ่านหน้าต่างรถตู้
ในที่สุดเวลา ประมาณบ่าย3 เราก็มาถึงสังขละบุรีแล้วว ว ว ว ววววว ลุงคนขับ ขับดีมากไม่สวี๊ดสว๊าด ^^ ขอบคุณลุงเสร็จเราก็เอ๋ออีกตามเคย เพิ่งตื่น งงๆ มึนๆไปหมด 5555 (รถจอดไม่ไกลกับตลาดมากนัก ) เราเดินมาเรื่อยๆ เข้า 7-11ก่อนเลย (ขอตั้งหลักแป๊บบบบบ ระหว่างนั้นก็เปิดแผนที่โฮสเทลดู เอิ่มมมมม...มันไม่ได้บอกละเอียดเลย
Cr.ภาพจากกูเกิล
เราเลือกพี่ที่ “OH Dee Hostel” ห่างจากสะพานมอญประมาณ 2กิโลเมตร ถ้าออกจาก7-11 ให้เลี้ยวขวาเดินตรงไปเรื่อยๆจะเจอ3แยก ให้เลี้ยวซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆไม่ไกลที่พักอยู่ซ้ายมือ ตรงข้ามไปรษณีย์ (แต่ตอนนั้นเราเดินมั่ว ไปวนอยู่ซอยแถวนั้นอยู่แล้วเจอคุณป้ามากวาดหน้าบ้านพอดี เลยแวะถาม ป้าบอกหลังถัดไปนี้เองจ๊ะหนู 555 ฮาก๊ากกกเลย ^^) เอาละเดินเข้ามาเช็คอิน มีพี่จิมกับพี่แอ๊น(เจ้าของ) อยู่ตรงเคาน์เตอร์พอดี เราพักห้องDorm 2คืน (ห้องรวม เตียง2ชั้น2เตียง ห้องแอร์ มีล๊อคเกอร์ไว้เก็บกระเป๋า มีอาหารเช้าเป็นกาแฟกับขนมปังปิ้ง ราคาคืนละ 590฿ อ้อ..มีจักรยานให้ยืมด้วยฟรี)พี่ทั้ง2ก็ย้ำนะว่า เป็นห้องน้ำรวมนะ แจ้งให้ทราบก่อนเพราะลูกค้าบางคนเค้าไม่โอเค (สำหรับเรา คือ สบายๆมาก ขอยืนยันนอนยันว่า ห้องน้ำที่นี้สะอาดโคตรๆ หอมด้วย พนักงานมาดูแลบ่อยมาก ความสะอาดห้องน้ำให้10เต็ม แม้จะเป็นห้องน้ำรวมก็เถอะ) และที่สำคัญห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณที่พักนะจ๊ะ!!!!!!
Cr. FB Oh Dee Hostel
วันที่เราไปเป็นวันธรรมดาและช่วง Low season นักท่องเที่ยวน้อยมาก ทำให้ห้องนั้น เรานอนคนเดียวไปเลย 5555 จัดแจงเก็บของให้เข้าที่ เอาโทรศัพท์มาชาร์จแบต หลับสักตื่น พอ5โมงเย็นปั่นจักรยานไปเดินเล่นสะพานมอญ อากาศช่วงนั้นกำลังดีไม่ร้อน และมีลมเย็นๆพัดตลอด ออกจากที่พักให้เลี้ยวซ้าย แล้วจะเจอทางแยก ไปสามประสบรีสอร์ท ให้เลี้ยวขวา ไปจนสุดทางจะเป็น สามประสบรีสอร์ท ให้เลี้ยวขวาไปทางด้านข้างเพื่อลงไปยังสะพาน
***แต่ทางลาดชันมาก แนะนำให้เดินจูงจักรยานลงไป เพราะอาจเบรกไม่ทัน 5555 ตอนกลับก็จูงขึ้นนะ ด้วยความหวังดี เพราะอาจหมดแรงกลางทางในระยะประมาณ100เมตรได้***
บรรยากาศชิวๆสบายๆระหว่างทาง
แพริมน้ำ
นั้นไง...สิ่งที่ตามหา
เด็กๆกระโดดน้ำเล่นกันสนุกสนาน เรานี่อยากไปกระโดดด้วยเลย^^
วันที่1ยังเหงา....
สะพานอุตตมานุสรณ์
พอเดินเล่นจนหนำใจแล้ว ท้องไส้กระเพาะอาหารเริ่มทำงาน ใครอยู่ใกล้คือได้ยินเสียงแน่ๆ 555 ... หันไปข้างๆ มีร้านตามสั่งอยู่ ไม่รอช้ารีบเข้าไปเลย เราสั่งข้าวผัดกะเพราหมูสับ ไข่ดาว รสชาติอร่อยใช้ได้ อิ่มไปอีก1มื้อ ได้เวลากลับที่พัก
นี่คือทางขึ้น-ลงที่บอก ชันม๊ากกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว ^_^
ขึ้นมาแล้วก็จะเจอถนนแบบนี้ ตอนแรกก็กลัวนะว่าจะอันตรายมั้ย แต่ถนนมีไฟส่องสว่าง ค่อนข้างโอเค
พอกลับไปที่พักเราถามพี่จิมว่า ถ้าจะซื้อทัวร์แบบไปล่องแพขี่ช้าง ไปเที่ยววัดจมน้ำ ราคาเท่าไหร่คะ พี่เค้าบอกว่า ไม่ต้องซื้อหรอกเดี๋ยวพี่พาไปเอง (ฮูวววววว..ใจดีจังงง อิอิ) พี่จิม บอกอีกว่าไม่แน่พรุ่งนี้เช้าอาจไปข้ามฝั่งไปพม่าด้วยถ้าเพื่อนพี่เค้าไป เราก็ตามน้ำเลยยังไงได้หมด 5555 รีบไปพักผ่อน
ตื่นเช้ามาวันที่2 ปรากฎว่า แป่ววววว....เพื่อนพี่เค้าไม่ได้ไปแล้ว T_T ตอนเช้าเลยฟรีสไตล์ เดี๋ยวตอนบ่ายพี่จะพาไปเที่ยววัดพร้อมแขกอีกคนเป็นชาวมาเลเซีย พี่เค้าแนะนำว่าจะนั่งรถไปเที่ยวด่านเจดีย์สามองค์ก็ได้ มีรถสองแถวไป แต่ด้วยความขี้เกียจ คือเป็นคนที่ถ้าไม่ทำก็คือไม่ทำ เลยยืมจักรยานปั่นไปสะพานอีก ไปชมบรรยากาศตอนเช้า ซึ่งเห็นได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน นี่แหละสิ่งที่เราต้องการ.... ไปนั่งเล่นตรงสะพาน เดินข้ามไปฝั่งมอญ
เด็กน้อยสองคนนี้ ชื่อพลอย และมอส มานั่งคุยเป็นเพื่อนพาไปเดินเที่ยว พอใกล้เที่ยงเราก็ถาม2คนนี้ ว่าหิวรึยัง เด็กๆบอกนิดหน่อย^^ เราถามไปว่าฝั่งโน้นมีอะไรกินบ้าง ไกด์2คนรีบเสนอใหญ่เลย มีขนมจีนหยวกกล้วยค่ะ โอเค ..... ไปกันเล้ยยยยย เลยเลี้ยงขนมจีนไปคนละจาน ^_^
พอกินขนมจีนกันเสร็จแล้ว ก็ไปเดินเล่นกันสักหน่อย
ก่อนกลับที่พักก็เจอพี่ๆกลุ่มนี้มาจากราชบุรี ^^
[CR] :: ทริปปลดแอก... แบกเป้ลุยเดี่ยวสังขละบุรี พักOh Dee Hostel ::
เขียน ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2558
การเดินทางที่จะมาเล่าต่อไปนี้เป็นการเดินทางคนเดียวครั้งแรกของเราย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว ขอสวัสดีทุกคนอย่างเป็นทางการค่ะ แนะนำตัวสั้นๆก่อนแล้วกัน เราชื่อ แพร เป็นสาวเมืองตรังเด็กบ้านๆเลย ตอนนี้24ปี อีก8วันก็ 25ปีบริบูรณ์ (จะร่ายยาวทำไม ฮ่าๆๆๆ) จริงๆอยากจะแบ่งปันแเลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางแบบนี้มานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ลงมือทำสักที และคงไม่ได้เป็นรีวิวที่ละเอียดอะไร ขอเรียกว่าบันทึกการเดินทางดีกว่าเนอะ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีโอกาสไปเที่ยวพัทยา-เกาะล้าน แบบโดนทิ้งโดยไม่ทันตั้งตัว แล้วมันก็เกิดความคิดแว๊บขึ้นมาในหัวตอนวันจะกลับแล้วว่า เฮ้ย..อยากลองเขียนเล่าเรื่องราวดูบ้าง แต่คิดได้ก็สายไปเพราะภาพที่ถ่ายมามีแต่รูปตัวเองไม่อยากใส่ไปให้เสียอัถรสในการรับชม 555 กระทู้นี้ก็เช่นกัน จึงไม่ค่อยมีวิวสวยๆให้ชมสักเท่าไหร่นัก ^^ ไว้ขอโอกาสแก้ไขในทริปต่อๆไปนะคะ ...
มาถึงกระทู้นี้ ขอย้อนไปเมื่อ2ปีที่แล้วที่ยังมีสถานะภาพเป็นนิสิต เป็นเด็กคนนึงที่ตอนแอดมิชชั่นมีความคิดว่า เฮ้ยย...เรียนมหาลัยคงมีเวลาว่างได้ไปเที่ยวบ่อยแน่ๆ (สงสัยดูหนังมากไป^^) แต่ความเป็นจริงคือ มหาลัย/คณะ/ภาควิชาที่เราเรียนมีกิจกรรมเยอะมาก และยิ่ง2ปีแรกเราเรียน นศท.ปี4-5ด้วย ไม่ต้องพูดถึงเลย ทุกอาทิตย์ต้องตื่นตี4นั่งรถจากกำแพงแสนเข้าไปเรียนที่ศูนย์ใหญ่วิภาวดี ลุก หมอบ กลิ้ง คลาน แบกอาวุธ (๐-๐” ) หมดกันความฝันชั้นนนน!! แต่ๆๆๆ..มันยังมีหวังค่ะคุณผู้ชม พอปี3เทอม1 มีแฟน เฮ้ยยย มีแฟน 555 และไม่ต้องไปเรียน นศท.ด้วยแล้ว ตอนแรกๆก็ดีนะ เรานี้เป็นตัวชวนไปเที่ยวเลย มีที่ไหนน่าไปคือเราเอามานำเสนอหมด แต่คำตอบที่ได้กลับมาทุกครั้งคือ อืมมมมม ...... ไว้ค่อยไปกัน น นนนน !!!! เวลาล่วงเลยผ่านไปจนเรียนจบป.ตรี เมื่อปี 57 ก็ยังไม่ได้ไปไหนสักที ประกอบกับหลังเรียนจบต่างก็แยกย้าย และอยู่กันคนละภาคเลย ห่างกันความสัมพันธ์มันก็ไม่ค่อยดี (เพราะนิสัยส่วนตัว ผช. อันนี้ขอข้าม น่าจะรู้ๆกัน) และก็จบ เราก็ได้แต่ปล่อยวาง ทำยังไงได้ละใจคนมันเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ตอนนั้นอยากไปไหนก็ได้สักที่ ที่ไกลๆไม่มีคนรู้จัก ไปในที่สงบๆไม่วุ่นวาย
ลองขอแม่ดูเล่นๆ.....
เรา : แม่ขอไปเที่ยวสะพานมอญได้ป่ะ?
แม่ : มันอยู่ที่ไหนละ? เรา : สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
แม่ : แล้วไปกับใคร? เรา : ไปคนเดียว!!!!
แม่ : ก็ไปซิ.... เรา : (อึ๊งงงงแปป ขอเล่นๆแม่ให้จริงทำไงละทีนี้ 555) ให้ไปจริงดิ!!!!
แม่ : อืมมมม...ให้ไปถือว่าไปพักผ่อนหลังเรียนจบก็แล้วกัน เพราะตอนเรียนทำตัวดีรับผิดชอบตัวเองจนเรียนจบได้ ไม่ไปตอนนี้จะรอไปตอนแก่รึไง!!!! (อิอิ น่ารักที่สู๊ดดดดดด)
ได้ยินเสียงสวรรค์แบบนี้ก็ไม่รอช้าสิคะ รีบหาข้อมูลเลย ทั้งอากู เว็บไซต์ต่างๆ และมาเจอกระทู้ของ High on dreams เป็นตัวจุดประกายอย่างแรง
หาที่พักคร่าวๆแต่ยังไม่ได้จองไว้ เค้าบอกให้ Walk-in ได้เลย หลังข้อมูลทุกอย่างพร้อม โอเค สบายใจนอนหลับ
พอใกล้ถึงวันเดินทางเท่านั้นแหละ!!!! ความกลัว ความกังวล ทุกอย่างมันเข้ามา นอนไม่หลับ จะไปดีไม่ไปดี ไปแล้วจะต้องทำยังไง แม้ว่าจะโดนส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ และอยู่หอมาตั้งแต่ ม.1จนถึงป.ตรี ก็เถอะมันก็หวั่นไหวกันบ้างงงงง 5555 เป็นไงเป็นกันว๊ะ... ไม่ลองครั้งนี้ แล้วจะรออีกเมื่อไหร่ ไม่มีก้าวแรกมันก็ไม่มีก้าวต่อไป
และแล้ว 11 พฤศจิกายน 2557 เวลา9:00น. ตอนนั้นยังอยู่แถวปิ่นเกล้า เลยไปขึ้นรถตู้วินแฮปปี้ (อยู่เลยโลตัสปิ่นเกล้า ไปนิดเดียว จะมีโต๊ะขายตั๋วอยู่ในอาคารด้านหน้าเลย) นั่งรถกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี (ค่ารถ100฿) ใช้เวลา2ชั่วโมงนิดๆ เกือบเที่ยงก็ไปถึงบขส.กาญจนบุรี
และเปลี่ยนไปขึ้นรถตู้ของเอเชียไทรโยคเดินรถ (ที่ขายตั๋วอยู่เป็นอาคารห้องแถวด้านข้าง บขส.มองไปจะเป็นที่รถบัสจอดเยอะๆมองข้ามรถบัสไปก็จะเจอคิวรถตู้ เป็นรถกาญ-สังขละบุรี (ราคา175฿) ใช้เวลาเกือบ4ชั่วโมง
คนก็เริ่มลงกลางทางกันเกือบหมดแล้ว พอถึงตรงทางแยกทองผาภูมิ กับสังขละบุรี เหลือผู้โดยสาร2คนในรถ(มีเรากับทอมอีก1คน) ทีนี้....(เพิ่งมารู้สึกตัว พูดในใจ ความคิดนี้มาอีกแล้ว)>> “เฮ้ยยยยย...กรูทำอะไรลงไปเนี่ย มาทำอะไรที่นี่ เมิงมาไกลแล้วนะ เมิงจะไปต่อแน่นะ เมิงจะกลับตอนนี้ยังได้ คนนั้นจะทำอะไรเรามั้ย (ความสับสนตีกันอลหม่านในหัว ไปคนเดียวฟุ้งซ่านต้องตั้งสตินะคะ 555) คิดไปเรื่อยจนหลับ << ระหว่างทางฝนก็ตก หยุด ตก สลับกันเป็นช่วงๆ ถนนสวนเลนส์กัน ได้แต่มองผ่านหน้าต่างรถตู้
ในที่สุดเวลา ประมาณบ่าย3 เราก็มาถึงสังขละบุรีแล้วว ว ว ว ววววว ลุงคนขับ ขับดีมากไม่สวี๊ดสว๊าด ^^ ขอบคุณลุงเสร็จเราก็เอ๋ออีกตามเคย เพิ่งตื่น งงๆ มึนๆไปหมด 5555 (รถจอดไม่ไกลกับตลาดมากนัก ) เราเดินมาเรื่อยๆ เข้า 7-11ก่อนเลย (ขอตั้งหลักแป๊บบบบบ ระหว่างนั้นก็เปิดแผนที่โฮสเทลดู เอิ่มมมมม...มันไม่ได้บอกละเอียดเลย
Cr.ภาพจากกูเกิล
เราเลือกพี่ที่ “OH Dee Hostel” ห่างจากสะพานมอญประมาณ 2กิโลเมตร ถ้าออกจาก7-11 ให้เลี้ยวขวาเดินตรงไปเรื่อยๆจะเจอ3แยก ให้เลี้ยวซ้าย เดินตรงไปเรื่อยๆไม่ไกลที่พักอยู่ซ้ายมือ ตรงข้ามไปรษณีย์ (แต่ตอนนั้นเราเดินมั่ว ไปวนอยู่ซอยแถวนั้นอยู่แล้วเจอคุณป้ามากวาดหน้าบ้านพอดี เลยแวะถาม ป้าบอกหลังถัดไปนี้เองจ๊ะหนู 555 ฮาก๊ากกกเลย ^^) เอาละเดินเข้ามาเช็คอิน มีพี่จิมกับพี่แอ๊น(เจ้าของ) อยู่ตรงเคาน์เตอร์พอดี เราพักห้องDorm 2คืน (ห้องรวม เตียง2ชั้น2เตียง ห้องแอร์ มีล๊อคเกอร์ไว้เก็บกระเป๋า มีอาหารเช้าเป็นกาแฟกับขนมปังปิ้ง ราคาคืนละ 590฿ อ้อ..มีจักรยานให้ยืมด้วยฟรี)พี่ทั้ง2ก็ย้ำนะว่า เป็นห้องน้ำรวมนะ แจ้งให้ทราบก่อนเพราะลูกค้าบางคนเค้าไม่โอเค (สำหรับเรา คือ สบายๆมาก ขอยืนยันนอนยันว่า ห้องน้ำที่นี้สะอาดโคตรๆ หอมด้วย พนักงานมาดูแลบ่อยมาก ความสะอาดห้องน้ำให้10เต็ม แม้จะเป็นห้องน้ำรวมก็เถอะ) และที่สำคัญห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณที่พักนะจ๊ะ!!!!!!
Cr. FB Oh Dee Hostel
วันที่เราไปเป็นวันธรรมดาและช่วง Low season นักท่องเที่ยวน้อยมาก ทำให้ห้องนั้น เรานอนคนเดียวไปเลย 5555 จัดแจงเก็บของให้เข้าที่ เอาโทรศัพท์มาชาร์จแบต หลับสักตื่น พอ5โมงเย็นปั่นจักรยานไปเดินเล่นสะพานมอญ อากาศช่วงนั้นกำลังดีไม่ร้อน และมีลมเย็นๆพัดตลอด ออกจากที่พักให้เลี้ยวซ้าย แล้วจะเจอทางแยก ไปสามประสบรีสอร์ท ให้เลี้ยวขวา ไปจนสุดทางจะเป็น สามประสบรีสอร์ท ให้เลี้ยวขวาไปทางด้านข้างเพื่อลงไปยังสะพาน
***แต่ทางลาดชันมาก แนะนำให้เดินจูงจักรยานลงไป เพราะอาจเบรกไม่ทัน 5555 ตอนกลับก็จูงขึ้นนะ ด้วยความหวังดี เพราะอาจหมดแรงกลางทางในระยะประมาณ100เมตรได้***
บรรยากาศชิวๆสบายๆระหว่างทาง
แพริมน้ำ
นั้นไง...สิ่งที่ตามหา
เด็กๆกระโดดน้ำเล่นกันสนุกสนาน เรานี่อยากไปกระโดดด้วยเลย^^
วันที่1ยังเหงา....
สะพานอุตตมานุสรณ์
พอเดินเล่นจนหนำใจแล้ว ท้องไส้กระเพาะอาหารเริ่มทำงาน ใครอยู่ใกล้คือได้ยินเสียงแน่ๆ 555 ... หันไปข้างๆ มีร้านตามสั่งอยู่ ไม่รอช้ารีบเข้าไปเลย เราสั่งข้าวผัดกะเพราหมูสับ ไข่ดาว รสชาติอร่อยใช้ได้ อิ่มไปอีก1มื้อ ได้เวลากลับที่พัก
นี่คือทางขึ้น-ลงที่บอก ชันม๊ากกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว ^_^
ขึ้นมาแล้วก็จะเจอถนนแบบนี้ ตอนแรกก็กลัวนะว่าจะอันตรายมั้ย แต่ถนนมีไฟส่องสว่าง ค่อนข้างโอเค
พอกลับไปที่พักเราถามพี่จิมว่า ถ้าจะซื้อทัวร์แบบไปล่องแพขี่ช้าง ไปเที่ยววัดจมน้ำ ราคาเท่าไหร่คะ พี่เค้าบอกว่า ไม่ต้องซื้อหรอกเดี๋ยวพี่พาไปเอง (ฮูวววววว..ใจดีจังงง อิอิ) พี่จิม บอกอีกว่าไม่แน่พรุ่งนี้เช้าอาจไปข้ามฝั่งไปพม่าด้วยถ้าเพื่อนพี่เค้าไป เราก็ตามน้ำเลยยังไงได้หมด 5555 รีบไปพักผ่อน
ตื่นเช้ามาวันที่2 ปรากฎว่า แป่ววววว....เพื่อนพี่เค้าไม่ได้ไปแล้ว T_T ตอนเช้าเลยฟรีสไตล์ เดี๋ยวตอนบ่ายพี่จะพาไปเที่ยววัดพร้อมแขกอีกคนเป็นชาวมาเลเซีย พี่เค้าแนะนำว่าจะนั่งรถไปเที่ยวด่านเจดีย์สามองค์ก็ได้ มีรถสองแถวไป แต่ด้วยความขี้เกียจ คือเป็นคนที่ถ้าไม่ทำก็คือไม่ทำ เลยยืมจักรยานปั่นไปสะพานอีก ไปชมบรรยากาศตอนเช้า ซึ่งเห็นได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน นี่แหละสิ่งที่เราต้องการ.... ไปนั่งเล่นตรงสะพาน เดินข้ามไปฝั่งมอญ
เด็กน้อยสองคนนี้ ชื่อพลอย และมอส มานั่งคุยเป็นเพื่อนพาไปเดินเที่ยว พอใกล้เที่ยงเราก็ถาม2คนนี้ ว่าหิวรึยัง เด็กๆบอกนิดหน่อย^^ เราถามไปว่าฝั่งโน้นมีอะไรกินบ้าง ไกด์2คนรีบเสนอใหญ่เลย มีขนมจีนหยวกกล้วยค่ะ โอเค ..... ไปกันเล้ยยยยย เลยเลี้ยงขนมจีนไปคนละจาน ^_^
พอกินขนมจีนกันเสร็จแล้ว ก็ไปเดินเล่นกันสักหน่อย
ก่อนกลับที่พักก็เจอพี่ๆกลุ่มนี้มาจากราชบุรี ^^