ไม่เข้าใจ พวกช่างติรถ(คนอื่น) ยิ่งถ้าไม่ได้ยี่ห้อเดียวกับตัวเองนี่ติจัง จริงๆอยากได้แบบไหน ก็อันเชิญไปซื้อแบบนั้นเลย
รถหนึ่งคัน เราไม่ได้คิดแค่สองสามวันแล้วซื้อนะ ดูแล้วดูอีก เอาอันที่ชอบ ที่คุ้มที่สุดเลือกแล้วเลือกอีกกว่าจะตัดสินใจจ่ายเงิน
เราซื้อมาสด้า2 1.3 ท๊อป มาขับ ช่วงเย็นเลิกงาน มีเพื่อนเข้ามานั่ง ติตั้งแต่หน้ารถ ยันก้าวขาเข้ามานั่ง
บ่นบอกว่าหน้าเหมือนปลาบู่ ข้างในแคบมาก ขาติดคอนโซนหน้า (ก็หล่อนอ้วนไง...)
จอไม่สวย ทำไมไม่อยู่ตรงกลาง เหมือนเอาอะไรไปตั้งโด่ๆ แล้วจอ Hub ขับไม่ปวดตาหรอ
แล้วทำไมไม่ซื้อ city จะได้ขายต่อง่าย เครื่องก็ใหญ่กว่า ข้างในก็กว้างกว่า ศูนย์เยอะกว่า เสียดายเนอะ.... (จ๊ะ)
แล้วนางก็ลุกออกไป บ่นกะเพื่อนๆที่มาดูรถ ว่าแคบมากกกก ไม่โอเลยอะแก
ส่วนตัวเค้าสนใจ Civic คุยกะเซลล์ไปๆ มา ๆ บอกเพื่อนที่ทำงานว่าไม่มีคนเชียร์เลย
เลยจะไปออก city รุ่น V+ / SV วันนี้เอาเอกสารไฟแนนซ์ไปยื่นพร้อมจองรถเลย คงออกให้ได้ภายในสองสัปดาห์ ทุกคนงงมาก
เพราะยังขับรถไม่เป็น ไม่มีใบขับขี่ แต่อยากได้รถ ขับยังไม่เป็น...แล้วดูมาวิจารณ์รถคนอื่น
-------------------------
ถ้าถามว่าทำไมเราไม่ซื้อ city ทั้งๆที่ได้เครื่อง 1.5 รุ่น V+ ส่วนต่างจากตัวท๊อป 1.3 แค่ 30,000
เป็นเพราะว่าเราเบื่อ มองไปทางไหนก้อมีเต็มไปหมด
อีกอย่างลองขับแล้วไม่ค่อยชอบ ชอบช่วงล่างมาสด้ามากกว่า วัสดุเราว่าดีกว่าซิตี้ ไม่สนเรื่องแคบเพราะเราใช้รถคนเดียว
ออฟชั่นภายในที่ให้มาครบมากๆ
เช่น ไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าพร้อมเสียงเตือน ( city อยู่รุ่น SV+ -..-‘)
ไฟตัดหมอก เบาะพับ 60:40 กระจกมองข้างพับไฟฟ้า ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า (รุ่น SV) ทั้งๆ ที่มาสด้าให้มาเลย
ซึ่งถ้าเราเอา V+ เราจะไม่มีของพวกนี้ รวมถึงระบบเบรกด้วย แต่ก็ไม่ได้ตอบเพื่อนไปหรอก พูดไปก็เท่านั้น
คหสต.เราไปนั่งรถใครไม่ชอบตรงไหน เราว่าก็ไม่ควรติ เพราะเงินเค้า ความชอบเค้า เค้าซื้อมาแล้ว ติไปเสียความรู้สึกกันเปล่า ๆ
ไม่ได้ออกรถตลาดก็ไม่แปลว่าโง่ แต่ความคิดคนไม่เหมือนกัน
การให้ความสำคัญแตกต่างกัน บางคนอยากได้เพราะสวย เพราะเราก็มีรถ(เหมือนกันนะ)
เราซื้อมาใช้ 5-6 ปี ก็กะว่าจะขายเหมือนกันค่ะ แต่ช่วงเวลาที่ใช้รถ ก็อยากใช้อย่างมีความสุข และปลอดภัย
บางครั้งก็อยากให้พวกที่บ้าเห่อรถตลาด เปลี่ยนความคิดซะบ้าง เอะอะก็อ้างศูนย์บริการเยอะๆ ไม่ดูว่าเทคโนโลยีคนอื่นเค้าไปถึงไหนกันแล้ว
ไม่ได้ซื้อรถตลาด ก็ไม่ได้แปลว่าโง่
รถหนึ่งคัน เราไม่ได้คิดแค่สองสามวันแล้วซื้อนะ ดูแล้วดูอีก เอาอันที่ชอบ ที่คุ้มที่สุดเลือกแล้วเลือกอีกกว่าจะตัดสินใจจ่ายเงิน
เราซื้อมาสด้า2 1.3 ท๊อป มาขับ ช่วงเย็นเลิกงาน มีเพื่อนเข้ามานั่ง ติตั้งแต่หน้ารถ ยันก้าวขาเข้ามานั่ง
บ่นบอกว่าหน้าเหมือนปลาบู่ ข้างในแคบมาก ขาติดคอนโซนหน้า (ก็หล่อนอ้วนไง...)
จอไม่สวย ทำไมไม่อยู่ตรงกลาง เหมือนเอาอะไรไปตั้งโด่ๆ แล้วจอ Hub ขับไม่ปวดตาหรอ
แล้วทำไมไม่ซื้อ city จะได้ขายต่อง่าย เครื่องก็ใหญ่กว่า ข้างในก็กว้างกว่า ศูนย์เยอะกว่า เสียดายเนอะ.... (จ๊ะ)
แล้วนางก็ลุกออกไป บ่นกะเพื่อนๆที่มาดูรถ ว่าแคบมากกกก ไม่โอเลยอะแก
ส่วนตัวเค้าสนใจ Civic คุยกะเซลล์ไปๆ มา ๆ บอกเพื่อนที่ทำงานว่าไม่มีคนเชียร์เลย
เลยจะไปออก city รุ่น V+ / SV วันนี้เอาเอกสารไฟแนนซ์ไปยื่นพร้อมจองรถเลย คงออกให้ได้ภายในสองสัปดาห์ ทุกคนงงมาก
เพราะยังขับรถไม่เป็น ไม่มีใบขับขี่ แต่อยากได้รถ ขับยังไม่เป็น...แล้วดูมาวิจารณ์รถคนอื่น
-------------------------
ถ้าถามว่าทำไมเราไม่ซื้อ city ทั้งๆที่ได้เครื่อง 1.5 รุ่น V+ ส่วนต่างจากตัวท๊อป 1.3 แค่ 30,000
เป็นเพราะว่าเราเบื่อ มองไปทางไหนก้อมีเต็มไปหมด
อีกอย่างลองขับแล้วไม่ค่อยชอบ ชอบช่วงล่างมาสด้ามากกว่า วัสดุเราว่าดีกว่าซิตี้ ไม่สนเรื่องแคบเพราะเราใช้รถคนเดียว
ออฟชั่นภายในที่ให้มาครบมากๆ
เช่น ไฟเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าพร้อมเสียงเตือน ( city อยู่รุ่น SV+ -..-‘)
ไฟตัดหมอก เบาะพับ 60:40 กระจกมองข้างพับไฟฟ้า ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า (รุ่น SV) ทั้งๆ ที่มาสด้าให้มาเลย
ซึ่งถ้าเราเอา V+ เราจะไม่มีของพวกนี้ รวมถึงระบบเบรกด้วย แต่ก็ไม่ได้ตอบเพื่อนไปหรอก พูดไปก็เท่านั้น
คหสต.เราไปนั่งรถใครไม่ชอบตรงไหน เราว่าก็ไม่ควรติ เพราะเงินเค้า ความชอบเค้า เค้าซื้อมาแล้ว ติไปเสียความรู้สึกกันเปล่า ๆ
ไม่ได้ออกรถตลาดก็ไม่แปลว่าโง่ แต่ความคิดคนไม่เหมือนกัน
การให้ความสำคัญแตกต่างกัน บางคนอยากได้เพราะสวย เพราะเราก็มีรถ(เหมือนกันนะ)
เราซื้อมาใช้ 5-6 ปี ก็กะว่าจะขายเหมือนกันค่ะ แต่ช่วงเวลาที่ใช้รถ ก็อยากใช้อย่างมีความสุข และปลอดภัย
บางครั้งก็อยากให้พวกที่บ้าเห่อรถตลาด เปลี่ยนความคิดซะบ้าง เอะอะก็อ้างศูนย์บริการเยอะๆ ไม่ดูว่าเทคโนโลยีคนอื่นเค้าไปถึงไหนกันแล้ว