สวัสดี ทริป "ตะกุก ตะกัก" เลื่อนแล้วเลื่อนอีก เลื่อนออกไปอีก ตื่นสายตกรถอีก จะอะไรกันนักหนา
ทริปนี้เราจะไปเที่ยวทะเลที่มีน้ำใสแถมเดินทางไม่ไกล เนื้อหาอาจไม่ละเอียดมากแต่อยากเน้นรูปและอยากให้เพื่อนๆได้ไปเที่ยวและสัมผัสและเห็นด้วยตาตัวเอง เพราะภาพถ่ายคงเป็นสิ่งบันทึกบันทึกความทรงจำแต่ไม่สามารถซึมซับบรรยากาศได้ด้วยตัวเราเอง ทริปนี้ถ่ายจากกล้อง Sony@6000 และ GoproHero4รูป รูปถ่ายอาจดูธรรมดาทั่วไปนะคะ การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางในช่วง Green Season คือช่วง มี.ค. – ต.ค. เพื่อนๆต้องทำใจหน่อย อาจจะมีฝนบ้างแต่บางทีก็ท้องฟ้าแจ่มใสเราก็ดูภาพติดตามข่าวสารจากเพจนี้
https://www.facebook.com/Kohmak-Cococape-147083485330747/ แต่ข้อดีของช่วง Green Season คือค่าที่พักถูกลงเกือบครึ่งเลยก็ว่าได้ ก็เลือกไปต้นๆ มี.ค. กลับ ปลายๆ ต.ค. ซึ่งทริปนี้เราเดินทางช่วง วันที่ 9 – 10 ตุลาคม 58 ซึ่งข่าวดี ”พายุมูจีแก” กำลังจะหมด แต่ไม่ทันไรข่าวร้ายคือ มรสุมเข้าช่วงที่เราไปพอดี หัวเราะดังๆ ปลอบใจตัวเองและบอกว่าฝนก็ฝน เพราะตั้งใจจะไปนอนพักผ่อนอยู่แล้ว
ทริปนี้เราเลือกพักที่ Cococape Resort เป็นรีสอร์ทระดับ 3 ดาว เราก็ทำการจองกับ
http://www.agoda.com/ เป็นรีสอร์ทที่มีสะพานทอดยาวไปในทะเล แถมมีบาร์เหล้าที่ปลายสะพาน สามารถทำกิจกรรมตกหมึก พายเรือคายัก และ ดำสน็อกเกิ้ลได้อีกด้วย เราก็เตรียมตัวไปจองตั๋ว รถทัวร์ล่วงหน้า แบบ ไป – กลับ ที่สถานีคนส่งเอกมัย ราคาประมาณ 236 บาท : เที่ยว ถ้าใครนั่งรถทัวร์ก็ใช้เวลาประมาณ 6 ชม. แต่เที่ยวขากลับเราอาจจะยังไม่ต้องแจ้งเวลาก็ได้ สะดวกเวลาไหนค่อยโทรแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน โดยเจ้าหน้าที่จะให้เบอร์โทรและตารางเที่ยวรถมาตอนซื้อตั๋วคะ โดยเราจองขาไปรอบเช้าสุดตี 05.00 น. เพราะจะไปถึงท่ารถที่ตราดประมาณ 11.00 น. โดยประมาณ เวลาจะได้ไม่กระชั้นชิดมาก เพราะจองเรือรอบ 12.30 น. ไว้ ( แต่ถ้าตกรถแบบเราก็ไปรอบ 6 โมงยังทัน ฮ่า......แต่เวลานี่เฉียดฉิวสุดๆ แต่ต้องโทรไปเลื่อนเวลาก่อนรถออกนะคะจะได้ไม่ต้องซื้อตั๋วใหม่เหมือนเรา 5555
ส่วนการจองเรือไปเกาะหมากเราจองจาก Agency
http://www.ilovekohmak.com/ โดยจองล่วงหน้า 1 อาทิตย์ โดยเรือที่ไปเกาะหมากจะมี 2 เจ้า คือ เรือปาหนัน กับ ลีลาวดี ราคา เที่ยวละ 450 บาท เวลาก็ขึ้นอยู่กับแผลนที่เราวางไว้
โดยวันแรกเราก็ถึงท่ารถ บขส. ตราด ประมาณ 11.45 รีบเดินไปหารถที่ไปเกาะหมากทันที ถึงท่าเรือแหลมงอบ 12.20 เห้ออออ..... โล่งอกยังทันขึ้นเรือ ใช้เวลาเดินทางไปเกาะหมากประมาณ 45 นาที – 1 ชม. ถึงท่าเรือที่เกาะหมาก ประมาณเกือบ 14.00 น. ก็จะมีรถของแต่ละรีสอร์ทมารอรับ พนักงานที่ Cococape ให้การต้อนรับด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เป็นกันเอง ง่ายๆ Check-in เสร็จก็เดินเข้าที่พักหน้าตาห้องพักของเรา คือห้อง Twin Orchid ซึ่งเป็นห้องที่ทางพนักงานบอกว่า เป็นห้องที่ถือว่าวิวดีที่สุด เมื่อเปิดประตูห้องนอนมาก็คือทะเล เกือบจะ 180 องศาก็ว่าได้ เป็นห้องที่เห็นสะพานทอดยาวไปในทะเล และไม่มีอะไรมาบังทัศนียภาพเลยก็ว่าได้
เมื่อเปิดประตูออกก็จะเจอเตียงนอน ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำ
ห้องพักนี้จะอยู่บริเวณด้านหลังห้องพักเรา เป็นห้องพักแบบ Pool Villa
ถัดไปก็จะเป็นโซนสระว่ายน้ำ กว้างขวาง มองเห็นวิวทะเล
โซนบ้านพักที่ถัดจากเรามามองเห็นวิวทะเลเหมือนกัคะ แต่ดูจะหลังเล็กกว่า
โซนนี้จะเป็นโซนห้องพักไม่ติดทะเล แต่บรรยากาศร่มรื่น มีบ่อน้ำใหญ่อยู่ตรงกลางทำให้สบายตาไปอีกแบบ
หลังจากเดินเล่นชมรีสอร์ทไปเรื่อยๆก็มา เดินเล่นที่สะพาน น้ำใสมองเห็น ปลิงทะเล เห็นฝูงปลาเต็มไปหมด เก็บภาพบรรยากาศยามเย็นบริเวณสะพานและหน้าบ้านพักของเรา นั่งเล่นหน้าห้องนอน จิบไวน์ซึมซับบรรยากาศเพลินๆ
อรุณสวัสดิ์ เช้าวันที่ 2 สะดุ้งตัวตื่นตอน 6 โมง คงไม่มีไรมาก เดินไปปิดแอร์ แล้วมาเปิดประตูหน้าห้อง นอนกลิ้งสูดกลิ่นธรรมชาติ ฟังเสียงคลื่น ชมท้องทะเล จากบนเตียง
8 โมงเช้าเราแผลนเช่ามอเตอร์ไซด์ไปขับรถเที่ยวตามรีสอร์ทต่างๆ ซึ่งทุกรีสอร์ทที่เกาะแห่งนี้เขาเปิดให้เข้าไปชมเดินเล่นได้ทุกรีสอร์ทเลยคะ และที่ขาดไม่ได้คงจะต้องไปที่ Cinnamon Art Resort ที่มีอีก 1 สะพานไม้ที่ทอดยาวลงไปในทะเล แต่ผิดแผลนนิดหน่อย ฝนตกหนักประมาณ 2 ชม.ได้ แต่สุดท้ายก็หยุด แล้วก็ได้เวลาตะลุย (ค่าเช่า มอเตอร์ไซด์ 300 บาท:วัน)
รีสอร์ทแรกที่ไปคือ " Seavana Beach Resort KohMak " ที่พักบรรยากาศดี สไตล์โมเดิร์น ทั่วไป แบบ Sea view ก็สามารเปิดประตูมองเห็นทะเล ได้เช่นกัน สามารเดินลงหาดได้เลย ก็ไว้เป็นอีก 1 ตัวเลือกนะคะ
รีสอร์ทต่อมา คือ " Makathanee Resort Koh Mak " ก็จะออกแนวคล้ายๆโรงแรม ที่นี่ก็มีสะพานไม้เล็กๆยื่นไปในทะเลเหมือนกันนะคะแต่ไม่ยาวมากจาก มากะธานี สามารถเดินเลียบชายหาดไปเที่ยวรีสอร์ทต่างๆได้อีกด้วย
และรีสอร์ทสุดท้ายที่ไม่ควรพลาด " Cinnamon Art Resort " จุดท่องเที่ยวที่ถือได้ว่าเป็นจุดสำคัญของเกาะหมากก็คือ สะพานสุ่ฝัน สะพานที่ทอดยาวออกไปในทะเล
หลังจากที่ออกตะลอนรอบเกาะเราก็กลับมานั่งชมวิวที่ห้องพัก ขากลับแวะซื้อ Pizza กลับมากินรสชาติโอเครราคา = กทม.
แล้วเราก็ออกไปเดินเล่นดำสน็อกเกิ้ลที่ปลายสะพาน ค่าเช่าสน็อกเกิ้ลราคาชุดละ 100 บาท สามารถใช้ได้ทั้งวันเลยนะคะ ส่วนใครอยากพายเรือคายักค่าเช่า 1 ชม. 150.- /ครึ่งวัน 400.- /เต็มวัน 600.- บาท เราเลือกดำสน็อกเกิ้ลบริเวณสะพาน เนื่องจากมองจากบนสะพานเห็นปลาเยอะมากดำลงไปก็ไม่ผิดหวังมีหลายปลาให้ดูเลยคะแต่ดอกไม้ทะเลอาจจะน้อย พี่ที่อยู่บาร์บอกว่าต้องไปดำแถวทุ่นซึ่งไกลออกไป เรามาเย็นแล้วเลยขอแถวสะพานพอ แต่ส่วนใครอยากเห็นดอกไม้ทะเลสวยๆก็สามารถไปดำได้ที่เกาะผี ซึ่งพี่เขาคิดราคา 2 คน 1600 บาท แต่ถ้าหาคนมาเพิ่มได้เยอะ ก็จะลดเหลือ แค่ 400+ สน๊อกเกิ้ลอีก 100.- เราเลยคิดว่าพรุ่งนี้ 9.00 โมงจะไปกับคนอื่น
[CR] " Vacation Of Us " @koh Mak Cococape Resort
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น