ยาวหน่อยนะคะ อยากให้เห็นภาพ เพราะปัญหานี้มันสะสมมานาน และตอนนี้เริ่มบานปลายไปกันใหญ่แล้วค่ะ
คือเรามีญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เราเรียกลุง ลุงเป็นคนต่างชาติ เป็นฝรั่ง ที่มาแต่งงานกับป้าของแม่ (งงมั้ยคะ แต่งงานกับพี่สาว ของพ่อ ของแม่เรานะ (ตาเรา) ลุงกับป้าเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ ส่งเงินมาให้ยายทวดบ้าง ซื้อที่-ทำบ้านให้ทวด กลับมาเยี่ยมบ้างนานๆครั้ง จนป้าเราเสีย เขาก็แต่งงานใหม่ หายหน้าไปเกือบสิบปี
จนวันหนึ่งลุงก็กลับมาเที่ยวเมืองไทย เลยแวะมาเยี่ยม ญาติพี่น้องทุกคนก็ต้อนรับเพราะคิดว่ายังไงเขาก็คือญาติ ตอนนั้นเรายังเล็กประมาณ ม.3 เป็นครั้งแรกที่รู้ว่า เฮ้ย..เรามีญาติเป็นฝรั่งด้วย อะไรยังไง เขาก็มาพักที่บ้านน้ากลาง บ้านน้ากลางเป็นที่ดินที่ลุงซื้อกับป้า ให้ยายทวด ตกมาถึงรุ่นตา แล้วก็มาถึงน้ากลาง แม่เราก็มาปลูกบ้านที่นี่เพราะพ่อเราเสีย แม่ก็เห็นว่าน้ากลางเป็นผู้ชาย อยู่ใกล้ๆจะได้ดูแลกัน แต่ไม่นานแม่เราก็แต่งงานใหม่ แยกบ้านออกไปอยู่กับสามีใหม่ เราก็อยู่บ้านของแม่ อยู่กับน้ากลาง น้าสะใภ้ และลูกชายเขา (เราเรียกน้อง) น้ากลางไม่ถูกกับญาติพี่น้องคนอื่นๆ เพราะเขาค่อนข้างจะหัวดื้อ มั่นใจในตัวเองสูง ไม่ฟังใคร อาจจะเพราะเขาเป็นผู้ชายคนเดียวในบรรดาพี่น้องสามคน (แม่เราคนโต น้ากลาง และน้าเล็ก มีกัน 3 คน)
ตอนแรกลุงก็มีความสุขดีค่ะ ขับรถไปไหนมาไหนเอง อยากไปไหนก็ไป เสาร์-อาทิตย์ เรากับน้องก็จะติดสอยห้อยตามไปทุกที่ ผ่านไปสิบกว่าปี ลุงแก่ตัวมากขึ้น เริ่มขับรถเองไม่ได้ ก็ไม่ได้ไปไหน เพราะเราย้ายออกมาเรียนในเมือง น้ากลางกับน้าสะใภ้ก็ทำงานเปิดร้านขายของ ลุงก็ได้แต่อยู่บ้าน รอเสาร์-อาทิตย์เราว่างก็ไปรับบ้าง แต่ตอนนั้นเรายังไม่มีรถ ขับรถก็ไม่ได้ เลยพาลุงไปไหนมาไหนไม่ได้ ก็ได้แต่อยู่บ้านกับเขา จนหนักๆเข้า ลุงเขาป่วย มีโรคประจำตัว อยู่บ้านคนเดียวแล้วเหงา ไม่มีใครอยู่ที่บ้าน เวลาเขาหน้ามืด เขาไม่สบายไม่มีใครเห็นเลย น้ากลางกับน้าสะใภ้ไปทำงาน เรากับน้องไปเรียนในเมือง ลุงอยู่บ้านกับหมา ประกอบกับบ้านเรามีปัญหาครอบครัว น้ากลางกับน้าสะใภ้ทะเลาะกันบ่อย เพราะน้ากลางเจ้าชู้ ลุงเลยหายหน้าไป สักสามปีได้ ไม่มาเที่ยวเมืองไทยเลย ปกติจะมาทุกปี – สองปีครั้ง ครั้งละสามเดือน
เราก็ติดต่อลุงผ่านเฟสบุ๊ค คุยกันตลอดว่าเป็นอย่างไรสบายดีมั้ย จะมาเที่ยวมั้ย เราก็เข้าใจว่าเขาไม่อยากมาเพราะอะไร เราก็เลยเสนอว่ามาอยู่โรงแรมในเมืองมั้ย อยากเดินเล่นเดินเที่ยวก็ได้ เหนื่อยก็กลับมาพัก ตอนเย็นเราก็มาหา เพราะตอนนี้เราก็ทำงานในเมือง อยากไปไหนก็ไปรับไปส่งได้ แฟนเรามีรถ เขาก็เลยมาเที่ยว แต่อยู่ที่โรงแรมในเมืองแทน ไม่ไปอยู่บ้านน้ากลางที่บ้านนอกแล้ว
ครั้งแรกที่ลุงมาเที่ยวหลังจากหายไปนาน..เราดีใจมาก โทรบอกญาติพี่น้องทุกคน รวมถึงน้ากลางกับน้าสะใภ้ด้วย บอกว่าอยู่โรงแรมไหน ห้องไหน จนลุงมาบอกกับเรา ว่า “น้าสะใภ้มารับไปเที่ยว พร้อมกับลูกชายเขา (เราขอเรียกน้อง) แต่ไม่ให้บอกเรา ว่าน้องเรามาด้วย และก็ถามว่าไม่กลับไปบ้านเหรอ ทำไมไม่พักที่บ้าน พยายามจะพากลับบ้าน” ลุงก็บอกเหตุผลไป ลุงก็ไม่กลับไปนะคะ แล้วลุงก็เครียดมาก เพราะเห็นว่าเหมือนเราจะมีปัญหาอะไรกัน ซึ่งมันก็มีจริงนะคะ น้ากลางกับน้าสะใภ้เห็นเราเรียนจบ ก็พยายามให้เรากลับบ้าน ไปทำงานที่บ้านนอก ไปช่วยเขาขายของ คือเราไม่อยากไป ไม่อยากทำ บ้านไม่ได้มีความอบอุ่น ปัญหาน้ากลางเจ้าชู้ น้าสะใภ้ตามจับแล้วกลับมาทะเลาะกันที่บ้าน มันเป็น วัฎจักรเดิมๆที่เราไม่อยากเจอ เขาก็บอกว่าถ้าไม่กลับบ้าน เขาจะทุบบ้านที่แม่เราปลูกไว้ทิ้งไป เพราะไม่มีคนอยู่ บ้านรกผีจะมาอยู่ แต่เราก็ปล่อยผ่านไป ไม่สนใจเขาเลย รวมถึงน้องเราด้วย เราไม่คุยกันเลย จากที่เมื่อก่อนเราสนิทกันมาก เราเคยนั่งกอดกันสองคนพี่น้อง มองดูน้างกลางกับน้าสะใภ้ทะเลาะกัน จนวันนี้เรากลายเป็นไม่คุยกัน เขาก็ไม่บอกอะไรเรา ว่าอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่ เราก็เหนื่อยที่จะตามง้อ เคยมีเหตุการณ์ตอนเรียนเขาอยู่กับเราที่บ้านเช่า แต่อยู่ดีๆก็ย้ายออกไม่บอกเราสักคำ เดือนนั้นทั้งเดือนเราต้องจ่ายค่าเช่าสองคนกับแฟน เพราะไม่มีคนหารด้วย จนตอนน้องเป็นทหาร เราก็พยายามไปเยี่ยม เอาข้าวไปให้ เอาน้ำไปส่ง...อยู่ดีๆ เขาก็หายไปเลย เพราะสอบนายสิบ ไม่บอกเราว่าสอบได้แล้วนะ อยู่ที่ไหนยังไง..ก็หายไปเลย เราเลยขี้เกียจจะตาม แล้วน้ากลางก็ทุบบ้านเราทิ้ง แม่เราไปเห็น แม่โกรธมาก แต่เราก็บอกว่าเป็นความสบายใจของคนอยู่ เมื่อเราไม่อยู่ เขาก็ทุบ บ้านมันก็เก่าโทรม แม่ก็ไปขนประตูขนไม้อะไรมาก็แล้วกัน เราเสียใจค่ะ แต่ก็ไม่ติดใจ คิดว่าจะไม่อะไรด้วยแล้ว ปล่อยไปเลยแล้วกัน
จนครั้งที่สอง ลุงก็กลับมาเที่ยวอีก หลังจากผ่านครั้งแรกไปได้สักปีกว่าๆ แต่คราวนี้ลุงก็ไม่บอกน้ากลางกับน้าสะใภ้ค่ะ ไม่บอกน้องเราด้วยเพราะเขาติดต่อไม่ได้ ไม่เห็นน้องเรามีความเคลื่อนไหวอะไรในเฟส เขาคิดว่าอยู่ไกล คงไม่ได้เจอ ก็เลยไม่ได้บอกใคร แต่ลุงก็กลับบ้านไปหาญาติคนอื่นๆตามปกติค่ะ โดยมีเราไปส่ง ไปหาแม่เรา ไปหาน้าเล็ก ไปหาญาติ พี่น้องลูกหลานคนอื่นๆ ก็ปาร์ตี้กินข้าวกัน น้าสะใภ้ได้ข่าว ก็เลยโทรมาหาป้าเรา ถามว่าลุงมาเหรอ? ป้าเราก็ตอบว่าใช่ ลุงมา แต่ลุงอยู่ที่ไหนยังไงนี่ไม่ทราบ (ความจริงทราบ แต่ลุงไม่ให้บอก) เขาก็เงียบไป เรากับลุงกลับไปหาญาติๆ ปกติเกือบจะทุกอาทิตย์ เขาก็ไม่ติดต่อเรานะคะ แต่เราก็บอกแม่เรา ว่าให้บอกน้ากลางสิ เขาก็โทรคุยกัน แล้วรับทราบแค่นั้น แต่พอลุงกลับ น้าสะใภ้เราไลน์มาหาเราเลยค่ะ ว่าลุงมาทำไมไม่บอก คิดอะไรอยู่ ... เรางงมาก ก็เห็นโทรถามป้าอยู่ คือตัวเองก็รู้อยู่แล้ว ไม่โทรหาเรา ไม่ถามเรา แล้วมาว่าว่าเรากีดกันไม่ให้เจอลุง
จนมาครั้งที่สาม ครั้งนี้..และตอนนี้ แต่คราวนี้ลุงบอกน้องเราด้วยค่ะ ลุงบอกว่าอยากเจอน้องเรา ลุงมีเวลาว่าง 5 ชม. รอต่อเครื่อง อยากให้น้องเราไปหา เราเลยส่งข้อความไปในเฟสเขา บอกรายละเอียด บอกความต้องการ น้องเราเลยตอบมา ขอเบอร์โทรเรา เราก็ให้ไปแล้วคุยกัน เขาก็คุยดีนะคะ ตกลงกันว่า “เดือนหน้า (เราโทรบอกล่วงหน้า) ถ้าลุงมาแล้วว่างวันไหนก็บอก จะได้จองตั๋วเครื่องบินไว้ให้ ให้บินกลับมาหาลุง” แล้วก็เงียบไป เราก็คิดว่าไม่มีไรละ เราคุยกันปกติแล้ว จนมีเหตุการณ์หนึ่ง เราโทรไปหาเขาด้วยความเป็นห่วง กลัวเขาจะได้รับอันตรายอะไรรึเปล่า วันแรกไม่รับ ไม่ว่า..คิดว่าคงยุ่ง วันที่สองก็โทรหาน้องอีก ... ก็ไม่รับ ทั้งเช้าสายบ่ายเย็น ไม่โทรกลับด้วย เราเลยคิดว่าอ่อ..นี่จะคุยกันแค่เรื่องลุง? เราเลยเงียบไป จนลุงมาเราก็ไปรับ (น้าสะใภ้ไปเม้นถามลุงว่ามาเมื่อไหร่ ให้น้าสะใภ้ไปรับมั้ย ลุงก็บอกว่ามาวันนี้ๆ แล้วเราไปรับ น้าสะใภ้ก็เงียบไปเลย) ก็แท็กหน้าเฟส กินข้าว ไปเที่ยวกันตามปกติ จนน้องเห็น และติดต่อมาเมื่อวาน เราก็ถามว่าว่างวันไหน น้องก็บ่ายเบี่ยง ไม่ระบุวัน แต่ถามที่อยู่โรงแรมกับเบอร์โทรศัพท์ลุงให้ไปในอินบ๊อกซ์ค่ะ ซึ่งความจริง ข้อมูลนี้ ลุงก็ให้กับน้องไปด้วย ตอนที่เราจะมา เขาจะส่งข้อความมาบอกในอินบ๊อกซ์ ว่าบินมาเมื่อไหร่ ไฟลท์ไหนกี่โมง พักที่ไหนด้วย เราก็คุยกับลุงตลอดว่าให้บอกน้องด้วย
คือ เราคิดมากไปหรือเปล่าคะ หรือเราทำอะไรผิดมั้ย? เราไม่อยากเจอน้อง ยอมรับว่าโกรธ ไม่อยากเจอน้าสะใภ้เลย แต่สงสารลุงมาก เพราะลุงอยากเจอน้อง ลุงก็อยากเจอน้องจริงๆ แต่ไม่อยากเจอน้าสะใภ้เลย เพราะน้าสะใภ้ไม่เข้าใจลุง อยากพาลุงกลับบ้านแล้วก็ไม่อยากให้ไปเจอญาติคนอื่นๆ เพราะเขาไม่ถูกกันกับญาติคนอื่น งี้อะค่ะ น้องเราก็งี่เง่ามาก โตจนป่านนี้ละยังคิดอะไรไม่ได้ ไม่ยอมรับความจริงอะ เราจะทำยังไงดีคะเนี๊ยะ ปวดหัว...
ยาวมาก ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
ขัดแย้งกับญาติ สาเหตุจากญาติผู้ใหญ่เข้าหาเรามากกว่า ทำยังไงคะ
คือเรามีญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เราเรียกลุง ลุงเป็นคนต่างชาติ เป็นฝรั่ง ที่มาแต่งงานกับป้าของแม่ (งงมั้ยคะ แต่งงานกับพี่สาว ของพ่อ ของแม่เรานะ (ตาเรา) ลุงกับป้าเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ ส่งเงินมาให้ยายทวดบ้าง ซื้อที่-ทำบ้านให้ทวด กลับมาเยี่ยมบ้างนานๆครั้ง จนป้าเราเสีย เขาก็แต่งงานใหม่ หายหน้าไปเกือบสิบปี
จนวันหนึ่งลุงก็กลับมาเที่ยวเมืองไทย เลยแวะมาเยี่ยม ญาติพี่น้องทุกคนก็ต้อนรับเพราะคิดว่ายังไงเขาก็คือญาติ ตอนนั้นเรายังเล็กประมาณ ม.3 เป็นครั้งแรกที่รู้ว่า เฮ้ย..เรามีญาติเป็นฝรั่งด้วย อะไรยังไง เขาก็มาพักที่บ้านน้ากลาง บ้านน้ากลางเป็นที่ดินที่ลุงซื้อกับป้า ให้ยายทวด ตกมาถึงรุ่นตา แล้วก็มาถึงน้ากลาง แม่เราก็มาปลูกบ้านที่นี่เพราะพ่อเราเสีย แม่ก็เห็นว่าน้ากลางเป็นผู้ชาย อยู่ใกล้ๆจะได้ดูแลกัน แต่ไม่นานแม่เราก็แต่งงานใหม่ แยกบ้านออกไปอยู่กับสามีใหม่ เราก็อยู่บ้านของแม่ อยู่กับน้ากลาง น้าสะใภ้ และลูกชายเขา (เราเรียกน้อง) น้ากลางไม่ถูกกับญาติพี่น้องคนอื่นๆ เพราะเขาค่อนข้างจะหัวดื้อ มั่นใจในตัวเองสูง ไม่ฟังใคร อาจจะเพราะเขาเป็นผู้ชายคนเดียวในบรรดาพี่น้องสามคน (แม่เราคนโต น้ากลาง และน้าเล็ก มีกัน 3 คน)
ตอนแรกลุงก็มีความสุขดีค่ะ ขับรถไปไหนมาไหนเอง อยากไปไหนก็ไป เสาร์-อาทิตย์ เรากับน้องก็จะติดสอยห้อยตามไปทุกที่ ผ่านไปสิบกว่าปี ลุงแก่ตัวมากขึ้น เริ่มขับรถเองไม่ได้ ก็ไม่ได้ไปไหน เพราะเราย้ายออกมาเรียนในเมือง น้ากลางกับน้าสะใภ้ก็ทำงานเปิดร้านขายของ ลุงก็ได้แต่อยู่บ้าน รอเสาร์-อาทิตย์เราว่างก็ไปรับบ้าง แต่ตอนนั้นเรายังไม่มีรถ ขับรถก็ไม่ได้ เลยพาลุงไปไหนมาไหนไม่ได้ ก็ได้แต่อยู่บ้านกับเขา จนหนักๆเข้า ลุงเขาป่วย มีโรคประจำตัว อยู่บ้านคนเดียวแล้วเหงา ไม่มีใครอยู่ที่บ้าน เวลาเขาหน้ามืด เขาไม่สบายไม่มีใครเห็นเลย น้ากลางกับน้าสะใภ้ไปทำงาน เรากับน้องไปเรียนในเมือง ลุงอยู่บ้านกับหมา ประกอบกับบ้านเรามีปัญหาครอบครัว น้ากลางกับน้าสะใภ้ทะเลาะกันบ่อย เพราะน้ากลางเจ้าชู้ ลุงเลยหายหน้าไป สักสามปีได้ ไม่มาเที่ยวเมืองไทยเลย ปกติจะมาทุกปี – สองปีครั้ง ครั้งละสามเดือน
เราก็ติดต่อลุงผ่านเฟสบุ๊ค คุยกันตลอดว่าเป็นอย่างไรสบายดีมั้ย จะมาเที่ยวมั้ย เราก็เข้าใจว่าเขาไม่อยากมาเพราะอะไร เราก็เลยเสนอว่ามาอยู่โรงแรมในเมืองมั้ย อยากเดินเล่นเดินเที่ยวก็ได้ เหนื่อยก็กลับมาพัก ตอนเย็นเราก็มาหา เพราะตอนนี้เราก็ทำงานในเมือง อยากไปไหนก็ไปรับไปส่งได้ แฟนเรามีรถ เขาก็เลยมาเที่ยว แต่อยู่ที่โรงแรมในเมืองแทน ไม่ไปอยู่บ้านน้ากลางที่บ้านนอกแล้ว
ครั้งแรกที่ลุงมาเที่ยวหลังจากหายไปนาน..เราดีใจมาก โทรบอกญาติพี่น้องทุกคน รวมถึงน้ากลางกับน้าสะใภ้ด้วย บอกว่าอยู่โรงแรมไหน ห้องไหน จนลุงมาบอกกับเรา ว่า “น้าสะใภ้มารับไปเที่ยว พร้อมกับลูกชายเขา (เราขอเรียกน้อง) แต่ไม่ให้บอกเรา ว่าน้องเรามาด้วย และก็ถามว่าไม่กลับไปบ้านเหรอ ทำไมไม่พักที่บ้าน พยายามจะพากลับบ้าน” ลุงก็บอกเหตุผลไป ลุงก็ไม่กลับไปนะคะ แล้วลุงก็เครียดมาก เพราะเห็นว่าเหมือนเราจะมีปัญหาอะไรกัน ซึ่งมันก็มีจริงนะคะ น้ากลางกับน้าสะใภ้เห็นเราเรียนจบ ก็พยายามให้เรากลับบ้าน ไปทำงานที่บ้านนอก ไปช่วยเขาขายของ คือเราไม่อยากไป ไม่อยากทำ บ้านไม่ได้มีความอบอุ่น ปัญหาน้ากลางเจ้าชู้ น้าสะใภ้ตามจับแล้วกลับมาทะเลาะกันที่บ้าน มันเป็น วัฎจักรเดิมๆที่เราไม่อยากเจอ เขาก็บอกว่าถ้าไม่กลับบ้าน เขาจะทุบบ้านที่แม่เราปลูกไว้ทิ้งไป เพราะไม่มีคนอยู่ บ้านรกผีจะมาอยู่ แต่เราก็ปล่อยผ่านไป ไม่สนใจเขาเลย รวมถึงน้องเราด้วย เราไม่คุยกันเลย จากที่เมื่อก่อนเราสนิทกันมาก เราเคยนั่งกอดกันสองคนพี่น้อง มองดูน้างกลางกับน้าสะใภ้ทะเลาะกัน จนวันนี้เรากลายเป็นไม่คุยกัน เขาก็ไม่บอกอะไรเรา ว่าอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่ เราก็เหนื่อยที่จะตามง้อ เคยมีเหตุการณ์ตอนเรียนเขาอยู่กับเราที่บ้านเช่า แต่อยู่ดีๆก็ย้ายออกไม่บอกเราสักคำ เดือนนั้นทั้งเดือนเราต้องจ่ายค่าเช่าสองคนกับแฟน เพราะไม่มีคนหารด้วย จนตอนน้องเป็นทหาร เราก็พยายามไปเยี่ยม เอาข้าวไปให้ เอาน้ำไปส่ง...อยู่ดีๆ เขาก็หายไปเลย เพราะสอบนายสิบ ไม่บอกเราว่าสอบได้แล้วนะ อยู่ที่ไหนยังไง..ก็หายไปเลย เราเลยขี้เกียจจะตาม แล้วน้ากลางก็ทุบบ้านเราทิ้ง แม่เราไปเห็น แม่โกรธมาก แต่เราก็บอกว่าเป็นความสบายใจของคนอยู่ เมื่อเราไม่อยู่ เขาก็ทุบ บ้านมันก็เก่าโทรม แม่ก็ไปขนประตูขนไม้อะไรมาก็แล้วกัน เราเสียใจค่ะ แต่ก็ไม่ติดใจ คิดว่าจะไม่อะไรด้วยแล้ว ปล่อยไปเลยแล้วกัน
จนครั้งที่สอง ลุงก็กลับมาเที่ยวอีก หลังจากผ่านครั้งแรกไปได้สักปีกว่าๆ แต่คราวนี้ลุงก็ไม่บอกน้ากลางกับน้าสะใภ้ค่ะ ไม่บอกน้องเราด้วยเพราะเขาติดต่อไม่ได้ ไม่เห็นน้องเรามีความเคลื่อนไหวอะไรในเฟส เขาคิดว่าอยู่ไกล คงไม่ได้เจอ ก็เลยไม่ได้บอกใคร แต่ลุงก็กลับบ้านไปหาญาติคนอื่นๆตามปกติค่ะ โดยมีเราไปส่ง ไปหาแม่เรา ไปหาน้าเล็ก ไปหาญาติ พี่น้องลูกหลานคนอื่นๆ ก็ปาร์ตี้กินข้าวกัน น้าสะใภ้ได้ข่าว ก็เลยโทรมาหาป้าเรา ถามว่าลุงมาเหรอ? ป้าเราก็ตอบว่าใช่ ลุงมา แต่ลุงอยู่ที่ไหนยังไงนี่ไม่ทราบ (ความจริงทราบ แต่ลุงไม่ให้บอก) เขาก็เงียบไป เรากับลุงกลับไปหาญาติๆ ปกติเกือบจะทุกอาทิตย์ เขาก็ไม่ติดต่อเรานะคะ แต่เราก็บอกแม่เรา ว่าให้บอกน้ากลางสิ เขาก็โทรคุยกัน แล้วรับทราบแค่นั้น แต่พอลุงกลับ น้าสะใภ้เราไลน์มาหาเราเลยค่ะ ว่าลุงมาทำไมไม่บอก คิดอะไรอยู่ ... เรางงมาก ก็เห็นโทรถามป้าอยู่ คือตัวเองก็รู้อยู่แล้ว ไม่โทรหาเรา ไม่ถามเรา แล้วมาว่าว่าเรากีดกันไม่ให้เจอลุง
จนมาครั้งที่สาม ครั้งนี้..และตอนนี้ แต่คราวนี้ลุงบอกน้องเราด้วยค่ะ ลุงบอกว่าอยากเจอน้องเรา ลุงมีเวลาว่าง 5 ชม. รอต่อเครื่อง อยากให้น้องเราไปหา เราเลยส่งข้อความไปในเฟสเขา บอกรายละเอียด บอกความต้องการ น้องเราเลยตอบมา ขอเบอร์โทรเรา เราก็ให้ไปแล้วคุยกัน เขาก็คุยดีนะคะ ตกลงกันว่า “เดือนหน้า (เราโทรบอกล่วงหน้า) ถ้าลุงมาแล้วว่างวันไหนก็บอก จะได้จองตั๋วเครื่องบินไว้ให้ ให้บินกลับมาหาลุง” แล้วก็เงียบไป เราก็คิดว่าไม่มีไรละ เราคุยกันปกติแล้ว จนมีเหตุการณ์หนึ่ง เราโทรไปหาเขาด้วยความเป็นห่วง กลัวเขาจะได้รับอันตรายอะไรรึเปล่า วันแรกไม่รับ ไม่ว่า..คิดว่าคงยุ่ง วันที่สองก็โทรหาน้องอีก ... ก็ไม่รับ ทั้งเช้าสายบ่ายเย็น ไม่โทรกลับด้วย เราเลยคิดว่าอ่อ..นี่จะคุยกันแค่เรื่องลุง? เราเลยเงียบไป จนลุงมาเราก็ไปรับ (น้าสะใภ้ไปเม้นถามลุงว่ามาเมื่อไหร่ ให้น้าสะใภ้ไปรับมั้ย ลุงก็บอกว่ามาวันนี้ๆ แล้วเราไปรับ น้าสะใภ้ก็เงียบไปเลย) ก็แท็กหน้าเฟส กินข้าว ไปเที่ยวกันตามปกติ จนน้องเห็น และติดต่อมาเมื่อวาน เราก็ถามว่าว่างวันไหน น้องก็บ่ายเบี่ยง ไม่ระบุวัน แต่ถามที่อยู่โรงแรมกับเบอร์โทรศัพท์ลุงให้ไปในอินบ๊อกซ์ค่ะ ซึ่งความจริง ข้อมูลนี้ ลุงก็ให้กับน้องไปด้วย ตอนที่เราจะมา เขาจะส่งข้อความมาบอกในอินบ๊อกซ์ ว่าบินมาเมื่อไหร่ ไฟลท์ไหนกี่โมง พักที่ไหนด้วย เราก็คุยกับลุงตลอดว่าให้บอกน้องด้วย
คือ เราคิดมากไปหรือเปล่าคะ หรือเราทำอะไรผิดมั้ย? เราไม่อยากเจอน้อง ยอมรับว่าโกรธ ไม่อยากเจอน้าสะใภ้เลย แต่สงสารลุงมาก เพราะลุงอยากเจอน้อง ลุงก็อยากเจอน้องจริงๆ แต่ไม่อยากเจอน้าสะใภ้เลย เพราะน้าสะใภ้ไม่เข้าใจลุง อยากพาลุงกลับบ้านแล้วก็ไม่อยากให้ไปเจอญาติคนอื่นๆ เพราะเขาไม่ถูกกันกับญาติคนอื่น งี้อะค่ะ น้องเราก็งี่เง่ามาก โตจนป่านนี้ละยังคิดอะไรไม่ได้ ไม่ยอมรับความจริงอะ เราจะทำยังไงดีคะเนี๊ยะ ปวดหัว...
ยาวมาก ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ