คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ND คือ ND .. ไม่ใช่ PL
PL คือ PL ไม่ใช่ ND
PL "ลดแสง" ลงได้ เพราะระนาบแสงมันมีหลายระนาบ
ระนาบไหนที่ไม่ตรงกับระนาบของ PL ก็โดนบล็อกออก
แสงที่ผ่านจึงน้อยลง
CPL เพิ่มสิ่งที่เรียกว่า quarter-wave retarder เข้าไป
เพื่อทำให้ electric vector มีการ "บิด"ตัว
ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็น circular polarized light
vari ND ใช้ PL วางตัดองศากับ CPL
จึงสามารถตัดปริมาณแสงเปลี่ยนแปลงไปตามองศาการตัดกัน
แต่เพราะ QWR ทำงานเจาะจงกับแสงเดี่ยวๆ (single wavelength)
ระนาบ PL ที่ตัดกัน ยิ่งเข้าใกล้มุมฉากเท่าไหร่ จะทำให้ผลของ vector rotation ลดลง
อยากได้คำตอบแบบ เชิงวิทยาศาสตร์ และอธิบายซักนิด ครับ
คำตอบเชิงวิทยาศาสตร์
ไม่แน่ใจว่า อ่านแล้วรู้เรื่อง-เข้าใจ
PL คือ PL ไม่ใช่ ND
PL "ลดแสง" ลงได้ เพราะระนาบแสงมันมีหลายระนาบ
ระนาบไหนที่ไม่ตรงกับระนาบของ PL ก็โดนบล็อกออก
แสงที่ผ่านจึงน้อยลง
CPL เพิ่มสิ่งที่เรียกว่า quarter-wave retarder เข้าไป
เพื่อทำให้ electric vector มีการ "บิด"ตัว
ผลลัพธ์ที่ได้จึงเป็น circular polarized light
vari ND ใช้ PL วางตัดองศากับ CPL
จึงสามารถตัดปริมาณแสงเปลี่ยนแปลงไปตามองศาการตัดกัน
แต่เพราะ QWR ทำงานเจาะจงกับแสงเดี่ยวๆ (single wavelength)
ระนาบ PL ที่ตัดกัน ยิ่งเข้าใกล้มุมฉากเท่าไหร่ จะทำให้ผลของ vector rotation ลดลง
อยากได้คำตอบแบบ เชิงวิทยาศาสตร์ และอธิบายซักนิด ครับ
คำตอบ
ไม่แน่ใจว่า อ่านแล้วรู้เรื่อง-เข้าใจ
แสดงความคิดเห็น
ถามเกี่ยวกับ ความแตกต่างระหว่าง ND Filter กับ CPL Filter ครับ
และ ND Filter คือ Natural Density Filter ทำให้มืดขึ้น
Variable ND Filter ใช้หลักการของ Polarized Glass [เหมือนCPL]เพื่อการปรับให้มัน มืดลงได้ด้วยการหมุน
แต่ผมเดาว่า เป็นการใช้ แบบ Linear Polarized Glass เมื่อปรับตรงกันแล้วจะมืดสนิท เหมือนที่ใช้ในจอ LCD และ แว่นกันแดดแบบ polarized ที่น่าจะให้ผลลัพธ์ที่เหมือนๆกับ Circular Polarized Glass
คำถามอยู่ตรงนี้ครับ ถ้า ND Filter เป็น Polarized เหมือนกัน แล้วทำไมถึงไม่ใช้ ND Filter แทน CPL ไปเลยครับ?
ก็จะได้ท้องฟ้าที่ฟ้ามากขึ้น และ ทะลุเงาสะท้อนน้ำได้ รึเปล่า...?
อยากได้คำตอบแบบ เชิงวิทยาศาสตร์ และอธิบายซักนิด ครับ