[CR][SR] [รีวิวบ้านๆ] ผจญภัยต่างแดน SINGAPORT ครั้งแรก ! ที่ไปเมืองนอก [รูปประกอบอาจไม่เยอะเด้อ แต่น่าจะเข้าใจฟีลของการผจญภัย55*]

เด่วนะ ขอดึงสติแป๊บบ ..
คือพิมพ์ไว้ตั้งแต่เมื่อวานเว่ย ละแบบ มือไปเผลอกด back นิดเดียว หายหมด ><" ละเราพิมพ์ในนี้เลยไง ไม่ได้แปะโน้ต เฮ้อ เสียจาย TT

รีวิวแรก โอ่ยย..  พิมพ์ไปตื่นเต้นไป -0- ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยนะคะ
หัวข้อก็ผิด แก้ไงอ่าาา  เกิน ชม.แล้วด้วย พึ่งเห็น(มีพี่เขาเม้นท์บอก) รีบมากไง 55555 มั่วไปหม๊ดด!

ขอเกริ่นก่อนว่า เรากับเพื่อน ผู้หญิงสองคน ฝันอยากไปต่างประเทศ "สักครั้งในชีวิต"
คือจริงๆ เราอยากไปเมกา ตั้งแต่เรียนจบแล้วเว่ย ละแบบ .. ติดนู่นนี่นั่น สรุป ไม่ได้ไปจ้า
ละที่ได้ไป สิงคโปร์ ก็เพราะนางเลย เพื่อนเป็นคนชวน ตอนแรกนางก็ไปชวนเพื่อนคนอื่นละ แต่เขาติด ลางานไม่ได้ .. .
ทีแรกเราก็แบบ .. ไม่ไปดีกว่าเทอ ถ้าไปมันต้องเสียเงินเยอะ ใช่มั้ยล่ะ เงินก็ไม่ค่อยมีงี้ ก็เลยแคนเซิลไป จบ
ละอยู่ๆ ผ่านไปเดือนสองเดือน นางก็มาชวนอีก เราก็แบบ คิด .. ละช่วงนั้นเบื่อๆ ก็เลยโอเค ไปก็ไปว่ะ
นางก็บอกทะยอยจ่าย จองตั๋วเดือนนี้ ละเดือนหน้าค่อยจ่าย เรื่อยๆ ซึ่งมันมีโปรถูกด้วย
(แต่มาคุยกับเพื่อนที่เคยไป ราคานี้ยังแพงจร้า 555 แต่ช่างมันเนอะ)

สรุปให้ก่อนจะอ่าน (เผื่อใครขี้เกียจอ่านที่เราบรรยายภาพทุกช้อตๆ อาจไม่อิน  >< ขอโทดด 5555)
เอกสาร
1.passport ติดตัวตลอด อย่างน้อย ช๊อปเกิน 100$ ก็ใช้สิทธิ์ Tax Refund ได้
2.ใบที่กรอกทั้งขาไปและกลับ ทุกใบ ใช้หมด เก็บไว้ให้ดี (จะมีใบนึงที่ ตม.ตรวจเสร็จ แล้วเหลือเสี้ยวนึงไว้ ใบนั้นก็ได้ใช้นะ ขากลับ)
3.Tax Refund ที่ได้มา เก็บไว้ให้ดี ใช้ตอนมาถึงสนามบิน

สิ่งจำเป็น
1.ไปถึงอันดับแรก หาซื้อซิมเลย สำหรับเรา เราคิดว่าจำเป็นมาก โดยเฉพาะตอนหลงทาง
2.ยาแก้ปวด (ถ้าแพลนเดินเยอะเตรียมเลย เรากิน GoFen กับเพื่อนทุกวัน จนกลายเป็นยาประจำตัวที่นั่น 55) ยาแก้แพ้ประจำตัว สำคัญ!
3.ปลั๊กสามตา (ถ้ามีอุปกรณ์เยอะ เช่น กล้อง มือถือ power bank) ส่วนมากพัก Hostel จะมีแค่ 2 รู แต่ถ้าโรงแรมน่าจะเยอะ
4.ถ้าคิดว่าจะได้ช๊อปแน่ๆ เตรียมกระเป๋าไปสองใบ หรือสะดวกขนกลับมาก็ได้เหมือนกัน แต่ด่านภาษีบ้านเรา จะขอตรวจนิสนึง
ถ้าไม่น่าเกลียดก็ผ่าน เรากับเพื่อนได้รองเท้าคนละ 3 คู่ โดนถาม แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร

อาหาร (เราไม่ค่อยลองอาหาร เพราะแพงเกิ๊นน เสียดายตัง 55)
ร้านข้าวมันไก่ ที่แนะนำ คือร้าน Tian Tian อยู่ฟู๊ดคอร์ทที่ Maxwell อย่าพลาด! ร้านจะอยู่ซอยข้างใน มันมี 3 ซอย เดินไปข้างในสุด

ความเป็นอยู่
1.บ้านเมืองเขาไม่วุ่นวายเหมือนบ้านเรา เดินกลางคืนได้สบายใจ จะมีบางย่าน เช่น ย่านคนแขก แถว Mustafa ที่วุ่นวายสุดละ (สำหรับเรา)
2.หน้าตาคนส่วนมากเหมือนบ้านเรา ต่างชาติจะน้อย แต่คนไทยจะเยอะมากกก เดินไปไหนเจอแต่คนไทย อิอิ
3.ทิชชู่ไม่มีบริการเหมือนที่บ้านเรา เตรียมไปเลย น้ำก็เช่นกัน
4.อาหารแพง น้ำแพง ทุกอย่างแพง !  สมกับขึ้นชื่อเรื่องแพงๆ ><

ปล.นึกได้อีก จะสรุปเพิ่มให้น๊าา อิอิ


พวกเราก็ทำการบ้านเยอะพอสมควร เพราะเป็นการไปเมืองนอกครั้งแรก แล้วไปกันเอง
ซึ่งคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีก็คือเพื่อนของเรา นางก็จัดทริปเล็กๆ ว่าแต่ละวัน ไปนั่นไปนี่
เราก็โอเคตามนางไป เพราะเราง่ายๆ ไปไหนก็ได้ ไปได้หมด อยากไปที่ไหนเพิ่มเติมก็เสนอนางไป นางก็จัดให้ !!

Day 1
เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลย .. เราจองตั๋ว วันที่ 10 ตุลาคม 2558 เวลา 10.40 น. จากไทย ไปถึงสิงก็น่าจะประมาณ 14.00 น.
เวลาบ้านเขา (ขอนอกเรื่อง ที่อาจสำคัญนิสนึง! คือตอนอยู่ไทย เราเอา powerbank ใส่กระเป๋าโหลดเว่ย ก็โหลดผ่านนะ
แต่พอมาฝั่งขาออกประเทศ เครื่องโหลดจะไม่ให้ใส่ powerbank ไปด้วย ต้องถือขึ้นเครื่องเท่านั้น !! ถ้าใครไม่อยากรื้อก็พกไปเลยน๊าา)  
พอไปถึง check in อะไรเสร็จปุ๊บ เขาก็จะให้กรอกบัตรขาเข้า และขาออกมา เราก็กรอกๆ ไป ตามตัวอย่างเด้อ
(ขาเข้าต้องเก็บไว้ส่งตอนขากลับ ถ้าทำหายจริงๆ บนเครื่องขากลับมีแจกนะ)  

พอกรอกเสร็จ เพื่อนก็ไปถาม จนท. ว่าไปช่องไหนต่อ เขาก็บอกว่า โซนนี้ แล้ว .. มันมีเครื่องอัตโนมัติ สำหรับคนไทย
จะอยู่ข้างในสุด ฝั่งขวามือ (สังเกตุดู) เดินไปต่อแถวตรงนั้นเลย เราไม่ต้องผ่าน ตม.บ้านเรา มี จนท.พาทำตามขั้นตอน
คือดีอ่ะแกรร เราก็พึ่งเคยไปเราก็แบบ เกร๋ดีเนาะ มีงี้ด้วย ><" พอผ่านปุ๊บ ก็เขาไป เริ่มมี Duty free มีช้อปนู่นนี่ตั้งแต่เดินไปละ
ละข้างในจะมีพวกร้านอาหาร Fuji , S&P , Mcdonald อะไรบ้างแหละ หลายอย่าง เราก็ยังไม่กินข้าวเช้ากัน ก็เลยแวะหาไรกิน
สักพักก็ขึ้นเครื่อง เดินตาม Gate ที่เขาบอก ละนั่งรถเมล์ไปขึ้นเครื่องอีกทีนึง

ละบนเครื่อง ระหว่างทาง จะมีใบแจกให้กรอก มันเป็นใบตรวจคนเข้าเมือง ของประเทศเขา กรอกตามตัวอย่างนี้เลยจร้า
ปล.ขออนุญาตยืมรูปจาก เว็บนี้ด้วยนะคะ // กรอกเสร็จ เก็บไว้ยื่นตอนเข้าไปถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง


ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมง แต่พอดีว่าเครื่องไปถึงเร็ว ปกติประมาณบ่ายสอง แต่แบบถึง 13.40 น. รัยงี้ ก็เลยคิดว่า
เออ พอดีเลย จะได้ไปเลาะดูเมืองเขาด้วย พอไปถึง Singapor Changi Airport ก็เดินไปตาม Arrival ไปเรื่อยๆ ๆ เส้นทางจะยาวพอสมควร
แต่เป็นบันไดเลื่อนแบบเรียบ ไม่ต้องเดินยาวๆ ไป ไปตามป้ายเรื่อยๆ ตึกที่เราไปถึงอยู่ Terminal 1 (บ้านเขาจะมี 3 ตึก T1, T2, T3)
แต่ช่วงนี้ ถ้าใครไปจากที่ไทย จะอยู่ T1 พอเดินไปสักพัก ก็จะเจอบันไดเลื่อนลงยาว ๆ มองลงไป เจอด่าน ตม. ด้วยเพื่อนพาเตรียมตัวมาดีไง
ก็ศึกษามาว่า เขาจะถามนู่นนี่นั่น เยอะแยะ เตรียมคำตอบไว้นะ ว่าพักไหน กี่วัน บลาบลาบลา  .. สรุป ไปถึง ยื่น passport
และใบที่กรอกบนเครื่อง ถามแค่คุณชื่อ .. .  ใช่มั้ยคับ ? เราก็ตอบ ใช่ไป จบ ผ่านจร้าา ไม่ถามไรอีกเลย ว่ามากี่วัน พักไหน รัยงี้ ที่กูเตรียมมาคือเอิ่มม ไม่มีเลยย 555 จร้าา แต่ก็แอบดีใจ มองหน้าเพื่อนละแบบ เย้! กูผ่านล้าววว 55555555

แล้วหลังจากผ่าน ตม. ก็มองดูจอ มันจะมีจอแสดงไฟท์ กับสายการบินที่เรามา ว่ากระเป๋าเราจะอยู่ช่องไหน เราก็มองดู
ละไปตามช่องนั้น ๆ ได้กระเป๋าละก็เดินตามป้ายไป Sky train เพื่อหาทางไปต่อ ต้องนั่ง Sky train T1 เพื่อไปยัง T2 ละค่อยไปต่อ MRT
เดินตามป้ายไปเรื่อย ๆ ไปถึงบันไดเลื่อนลงไป จะเจอ MRT ละเราก็ไปต่อแถวรอซื้อ ez-link พวกเราซื้อ 20$ แต่ต้องเสียค่าบัตร 5$
เงินในบัตรถ้าเหลือแลกคืนได้ แต่ถ้าไม่พอก็สามารถเติมในเครื่องอัตโนมัติได้เหมือนกัน (พวกเราก็ใช้ไม่พอ ต้องเติมเพิ่ม 10$
เพราะขั้นต่ำที่เติมบัตรได้ต้อง 10$++) บัตรนี้ใช้ได้ทั้งรถไฟฟ้าและรถเมล์ ง่ายๆ คือบัตรเดียวเอาอยู่ รวมถึงเข้า sentosa express ด้วย

พอแลกเสร็จปุ๊บ ก็เข้ามาเลยจร้า จุดมุ่งหมายของเราอยู่ที่ สายสีน้ำเงิน Chinatown ซึ่งก่อนที่จะไปน้ำเงินได้ ต้องผ่านสายสีเขียวก่อน
แล้วจุดพีคมันอยู่ตรงนี้ค่ะท่านผู้ช๊มมมมมม 55555 ขอขำก่อนเริ่ม นึกทีไรก็ขำไม่หยุด ว่าจะไม่เล่าละ แต่ไหนๆ ก็เล่าละ เล่าไปเลย
เก็บไว้เป็นประสบการณ์ ฮ่าๆ เราต้องนั่งจาก Changi Airport เพื่อไปที่ Tanah Merah แล้วต่อไปยังสถานีปลายทางที่ชื่อ Joo Koon  
คือตรง Tanah เราเรียกมันสั้นๆ ว่า ทาน่า ตรงทาน่า มันเป็นจุดเชื่อม ที่แตกย่อยไปยัง Simei และ กลับมาที่ Changi
พอมาถึง ทาน่า ก็ลง ละมองดูว่าจะไปสายไหนต่อดี เพื่อไปสาย Joo Koon เห็นป้ายชี้ไป เท่านั้นแหละ รีบขึ้นกันเลย คือป้าย ตรงนั้น
มันชี้ให้เห็นว่า ขึ้นสายนี้ เพื่อไปตรงนี้ ละขึ้นอีกสาย เพื่อไปตรงนั้น ละมันงงไงแกรร คือแบบ งง ลองขึ้นไปก่อน ผิดค่อยกลับมาใหม่
ก็ขึ้นไป สรุป ผิดจริงจ้าา กลับมาที่ Expo รอบแรก ผ่านไป นั่งกลับมา อีทาน่าอีก ลงจากทาน่า ก็ลองขึ้นอีกที ก็ยังผิดอีก ไปฝั่ง Simei
แล้วผิดประมาณ 3 รอบอ่ะ ก็เลยมาสังเกตุดี ๆ ถ้าไป Joo Koon จริงๆ ให้สังเกตุคำว่า To city แล้วเขียนว่า สถานี Joo Koon
อันนั้นแหละใช่ คือพวกเราวนเวียนกันอยู่งั้น เป็นชั่วโมง ทีแรก ขำกันไม่หยุด ละหลังๆ แบบ เห้ยย มันจะถึงไหนปะวะเนี้ย เริ่มเครียด ..
พอถูกละก็แบบ เออโล่ง (ถ้าจะสังเกตุง่ายๆ จริงๆ ดูที่ไฟสีเขียวในรถไฟฟ้า มันจะไปสายไหนต่อไปจะขึ้นสีเขียว ถ้าผิดเส้นทางรีบกระโดดลงมาเลย 555 ไม่งั้นจะวนไปมาเหมือนพวกเรา ><" อายจุง)

ละพอถูกสายเสร็จ ก็นั่งไปเรื่อยๆ ละไปลงที่สถานี Bugis เพื่อไปต่อสายสีน้ำเงิน (เราพักที่ Beary Best Hostel ย่าน Chinatown
ก็เลยเลือกที่จะไปรถไฟฟ้า สะดวกสบายสุดละ คือที่พักดีอ่ะแกรร อยู่ตรงข้าม MRT เลยย เกร๋มากก ฉันชอบ 555)

พอไปถึง Bugis ก็มองหาป้ายสีน้ำเงิน เพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยัง Chinatown อันนี้ดูสายที่จะไปเป็น เพราะมันไม่จุดเชื่อม เหมือนอีทาน่า
ง่ายๆ เหมือนขึ้นที่บ้านเรา พอมาถึง Chinatown ก็มองหาทางออก F ซึ่งจะหายากหน่อย ถ้าจำไม่ผิดน่าจะต่อจาก D
เราก็เดินตาม D มาก่อนละค่อย ไปเจอป้ายทางออก F เดินโผล่ออกมา เจอที่พักพอดี ^^  ดีใจจ มาถึงที่หมายละหนึ่งที่
ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงอ่ะแกร จาก Changi Airport

มาถึงที่พักก็โอเคร เห็นรีวิวในพันทิปเยอะ ก็เลยตามมเนี่ยแหละ 5555 ไปถึงก็แจ้งชื่อเข้าพัก check in เลย เพราะเราจองนอนที่นี่ 3 วัน
ขี้เกียจย้ายไปมา แล้วเขาก็ให้จ่ายค่าส่วนต่างที่เหลือ ละมัดจำคนละ 15$ จะได้คืนตอน check out เราก็โอเคร จบไป แล้วเราก็แอบส่อง
ห้องนั่งเล่น คือห้องมันน่ารัก อบอุ่นมาเลยแกรรร เราชอบบ อยากกลับไปทำแบบนี้ที่ไทย เรามองเห็นน้ำในตู้ ก็เลยถามเขาว่า ขวดเท่าไหร่
ก็เห็นเล่าลือกันเหลือเกินว่าน้ำที่นี่แพงงง แล้วมันก็แพงจริงง แต่ในที่พักน่าจะถูกสุดละ  0.8$ แต่ไม่จร้าา ไปเห็นอยู่ mustafa มี 0.5$ ก็มี
แต่มันก็ไกลล ซื้อกินที่พักนี่แหละ ข้างนอกส่วนมาก 1.5$ ถ้าย่านคนเยอะๆ 2.5$ รัยงี้ บร้าไปแล้วว ขนาดขวดเท่าขวดละ 7 บาท บ้านเราอ่ะ
บ่นนนน 555555 ละพอเช็คอะไรเสร็จ เราก็ขึ้นไปเก็บของในห้องจะมีล็อคเกอร์คนละช่อง (ใส่กระเป๋าเดินทางไม่ได้) กุญแจล็อคไม่มีให้
ถ้ากลัวของหายต้องเตรียมไปเอง เรากับเพื่อนได้เตียงชิดประตู พอดีเลยเหมาะเจาะ เข้าออกสะดวก อ่อลืมบอก เราพักชั้นสอง ชั้นที่เราอยู่มี
ประมาณ 4-5 ห้อง ห้องที่เราอยู่มี 4 เตียงนอนได้ 8 คน เป็นเตียงสองชั้น อ่าา พอเก็บของเสร็จก็ชวนกันไปนั่งพักที่ห้องนั่งเล่น

พอหายเหนื่อย ก็ไปเดินหาร้านขายซิมก่อนเลยจร้า ไปเจอร้านแรก เป็นคนจีน พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยชัด ฟังยากมากก ละแบบ มีแต่ซิม Singtel แล้วขนาดซิมยังใหญ่เหมือนซิมรุ่นเก่าอ่ะไม่มี micro sim เราก็เลยไม่ได้จากร้านนั้น ละเดินไปที่ย่านตลาด (พักแถว Chinatown นะ)
เดินไปก็ดูราคาอาหารไปด้วย ทำไม มันช่างแพงงงงง!! เยี่ยงนี้ ก็เดินไปเรื่อย ๆ ไปเจอแม็ค ทีแรกว่าจะกินแม็ค แต่มองดูคนในร้าน
เยอะมากกก ละเมนูก็มีแต่เบอเกอร์ ฉันไม่ชอบอ่ะแกรรร ก็เลยไม่กิน เดินหาซิมต่อ ไปเจอซิม M1 เน็ต 100GB 15$ ก็เลย ไปถามๆๆ
ได้ความเสร็จ ก็จัดเลย (แต่กว่าจะคุยรู้เรื่องนะ มีถามด้วยว่า Where r u come from? ไอคัมฟอมไทยแลนด์แล้วทำมายยยย
คือเทอก็คุยไม่รู้เรื่องด้วยป่ะว๊าา เช้อะ!)  บอกนางสมัครเน็ตให้ ใช้แต่เน็ตไม่ใช้โทร นางก็โทรสมัครให้ โอเคร เรียบร้อย ได้ซิมแล้วว รอดด !!
ตอนแรกจะไม่ซื้อ กะมาเล่น Wifi อยู่ที่พัก แต่แบบ เผื่อเวลาหลงทาง ไปนั่นนี่ไม่ถูกไงแกรร ไม่ซื้อคงลำบากอ่ะ ก็เลยซื้อละแชร์เน็ตเล่นกันสองคน ถูกด้วย 555

ปล.เดี๋ยวมาต่อน๊าาาา ง่วงมากเลยง่า >< จิงๆ พิมเสร็จไปวันนึงละ นี่ต้องมานั่งพิมพ์ใหม่ 555 5 สงสารตัวเองจุง
ปล2.ละเดี๋ยวนะ เดี๋ยวๆๆ ข้างล่างที่ติ๊ก มีสปอนเซอร์ หรือไม่มีนี่เอาออกไม่ได้ละใช่ม่ะ พึ่งเคยตั้ง ติ๊กมั่วไปหมด ไม่ทันอ่าน 555
คือเอาเป็นว่า เรารีวิวเอง เสียค่าตั๋วต่างๆทุกอย่างเอง รีวิวไม่ได้อะไรนะ .. บอกเล่าเพื่อแชร์ประสบการณ์เฉย ๆ OK ยิ้ม
ชื่อสินค้า:   สิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่