อัพ Part ที่เหลือแล้วนะคะ ^^
ขับรถกินลมชมวิว EP. # 2 Fukuoka - Hakata - Karatsu - Saga Part #2
http://ppantip.com/topic/34321947
ขับรถกินลมชมวิว EP. # 2 Fukuoka - Hakata - Karatsu - Saga Part #3
http://ppantip.com/topic/34809765
คราวนี้เป็นการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งที่ 4 ของปีนี้ โดยสายการบิน Jet Star โปรโมชั่นซื้อ 2 จ่าย 1 ประหยัดค่าเดินทางลงได้ครึ่งหนึ่งที่ออกมาเมื่อเดือน ก.พ. เลยวางแผนว่าออกเดินทางคืนวันศุกร์ กลับวันจันทร์ ลางานแค่ 1 วัน
เราก็จองตั๋วไปตามนั้น ได้เวลามาคือ วันศุกร์ที่ 2 ต.ค เวลา 02:15 น.
ก่อนออกเดินทาง 1 วัน คือวันพฤหัสที่ 1 ต.ค. ตอนเที่ยงเราก็เข้าเวบเช็กอินล่วงหน้าตามปกติ เพราะขาไปไม่มีโหลดกระเป๋า
แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจ เราไปคลิ๊กกลับหน้า Home อีกครั้ง ก็ได้เหลือบไปมองเห็น Travel Duration มันขึ้นว่าเหลือเวลาอีก 15 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง ก็ยังงงๆอยู่ เงยหน้ามองนาฬิกาที่ผนัง เริ่มนับเข็มไปอีก 15 ชั่วโมง ก็เท่ากับเวลาตี 2 ของวันนี้!!!
เฮ้ยยังไงกันเนี่ย ก็จำได้ว่าตอนคลิ๊กเลือกวันที่จองในปฏิทิน ก็กดเลือกวันศุกร์ที่ 2 นี่นา ทำไมออกเดินทางวันพฤหัสล่ะเนี่ย
ยังมีสงสัยว่าคอมฯมันคำนวณอะไรผิดพลาดรึเปล่า รีบยกหูโทรศัพท์โทรไป Call Center ด่วนจี๋
เรา : booking No.XXXX อยากทราบวันออกเดินทางไปสนามบินว่าเป็นวันไหนกันแน่คะ
จนท.: ต้องไปสนามบินคืนนี้ค่ะ
เรา : งานเข้าแล้วไง น่าจะเป็นด้วยความรีบตอนที่กดจองตั๋วกลัวที่นั่งหมด เลยไม่ทันนึกว่าเวลาที่ว่านี่ต้องออกเดินทางไปสนามบินตั้งแต่คืนวันพฤหัส หลังเที่ยงคืน เค้าก็ขึ้นวันใหม่นับเป็นวันศุกร์แล้ว ง่าวววจริง ว่าแล้วก็รีบโทรหาที่รัก
เรา : นี่เธอแย่แล้วๆๆๆ มีข่าวร้ายจะบอก ชั้นเข้าใจผิดอ่ะเรื่องที่จองตั๋วไปคิวชู ที่ว่าออกเดินทางคืนวันศุกร์อ่ะ เค้าเพิ่งเช็กเมื่อกี้นี้ ปรากฎว่าต้องไปสนามบินคืนนี้อ่ะ ทำไงดีๆ ไม่ได้ลางานพรุ่งนี้ด้วย งานเธอเป็นไง จะไปได้ป่ะ
ที่รัก : ใจเย็นๆ เธอแน่ใจแล้วเหรอ เช็กดูดีรึยัง
เรา : แน่ใจ โทรถาม Call Center แล้ว เค้ายืนยันว่าต้องออกคืนนี้
ที่ยัง : ไปคืนนี้ก็คืนนี้ ชั้นน่าจะเช็กดูให้ละเอียดตั้งแต่ที่เธอจองแล้ว แต่ก็ไม่ได้เช็ก
เรา : โรงแรมล่ะ ต้องจองเพิ่มอีกคืนใช่ป่ะ จะมีห้องมั้ยเนี่ย
ที่รัก : ถ้าไม่มีก็นอนที่สถานีไง
เรา : 'ไรว้า อย่าโมโหดิ เค้าขอโทษ เค้าไม่ได้ดูให้ดีๆ เวลามันขึ้นตี 2 เค้าก็คิดว่ามันตี 2 ของวันที่จองคือวันศุกร์อ่ะ ใครจะไปรู้ล่ะเว่าสายการบินเค้านับกันแบบนี้
ที่รัก : มันก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น ใครๆเค้าก็รู้กัน
เรา : เค้าขอโทษนะ
สรุปต้องลางานเพิ่มอีกวันนึง แล้วก็ต้องรีบจัดกระเป๋าด้วย กว่าที่รักจะจัดการงานเสร็จกลับมาถึงบ้านได้ก็เกือบ 4 ทุ่มแล้ว อาบน้ำกินข้าวรีบบึ่งไปสนามบิน
นี่ถ้าไม่ทำเวบเช็กอินก็คงไม่รู้ว่าต้องมาสนามบินวันนี้ ถ้ามาคืนพรุ่งนี้แล้วไม่ได้บินคงจะช๊อคยิ่งกว่านี้ ใครจองตั๋วของ Jet Star ก็ดูกันให้ดีๆ นะคะ
เวลา 9 โมงกว่าก็มาถึงสนามบิน Fukuoka อากาศแจ่มใส ไม่มีเมฆหมอก เย็นสบายกำลังดี เนื่องจากต้องเดินทางก่อนแผนกระทันหัน 1 วัน
รถเช่าที่จองไว้ต้องมารับวันพรุ่งนี้ เพราะไม่มีเวลาไปยกเลิกอันเก่าแล้วจองอันใหม่ วันแรกก็เลยว่าจะไปพักแถวๆ Hakata เที่ยวเล่นฆ่าเวลาแถวนั้นแทน
นั่ง shuttle bus ออกมาที่ Domestic Terminal แล้วลงไปต่อรถไฟใต้ดินมาที่ Hakata ตอนซื้อตั๋วรถไฟก็ซื้อแบบเป็นเที่ยว แต่พอเดินออกมา
ที่รักเหลือบไปเห็บป้ายราคาตั๋วแบบ 1 day นั่งกี่ครั้งก็ได้ราคา600กว่าเยน แค่ขึ้นลงรถ 3 รอบ ก็คุ้มแล้ว ฮีเจ็บใจมากว่าทำไมไม่เห็นป้ายก่อนนะ
จะได้ซื้ออันนี้ เราเลยสะกิดที่รักแล้วบอกให้เค้าไปถามนายสถานีว่าขอคืนตั๋วแล้วซื้อตั๋วใหม่ได้มั้ย พอลองถามดูปรากฎว่าคืนได้ค่ะ
ให้เอาไปเสียบคืนที่ตู้ที่เรากดซื้อตั๋วออกมา ก็จะมีเงินคืนออกมาให้ค่ะ เครื่องขายตั๋วสุดยอดเลยอ่ะ ขนาดที่รักยังไม่รู้มาก่อนว่าเครื่องมันทำแบบนี้ได้ด้วยอ่ะ
รึว่าฮีไม่ใช่คนญี่ปุ่นจริงๆ
เสียบตั๋วเข้าไปในช่องต้องที่มีป้ายสีเหลืองๆ ซ้ายมือด้านล่างตามรูปเลยค่ะ
ปกติจะเป็นช่องที่ตั๋วออกมาเวลาที่เราซื้อ เวลาจะคืนก็เสียบคืนกลับไปที่ช่องเดิม โดยหงายหน้าตั๋วขึ้นข้างบน จะคืนกี่ใบก็เสียบเข้าไปทีละใบค่ะ
โดยจะคืนได้เฉพาะตั๋วที่ซื้อในวันนั้น ซื้อที่สถานีไหนก็ต้องคืนที่สถานีนั้นค่ะ ทีนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่ากดซื้อตั๋วผิด จะทำไงดีแล้วนะคะ
สามารถคืนตั๋วแล้วซื้อใหม่ได้เองง่ายๆ สะดวกสบายมากค่ะ
ที่พักคืนแรก พักที่โรงแรม Toyo ใกล้ๆ สถานี Hakata เดินมาประมาณ 3 นาทีก็ถึง
ห้องก็แคบๆ ตามสไตล์ business hotel แต่ที่นี่ไม่มี Public Bath (大浴場―Daiyokujou) ก็ต้องอาบในห้องซึ่งจะมีอ่างอาบน้ำเล็กๆให้ ราคาประมาณ 2600 บาท ไม่มีอาหารเช้า สภาพห้องพักก็โอเค สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น (ต้องจองห้องไม่สูบบุหรี่) เตียงdouble bed นอนสองคนได้พอดี
เอากระเป๋าไปฝากไว้ แล้วหาข้าวเช้ากินเสร็จแล้วก็ไปเดินเตร็ดเตร่แถวๆท่าเรือ เดินผ่านสนามแข่งเรือ power boat ด้วย ทำขอบสนามสูงเชียว มองไม่เห็นข้างใน ได้ยินแต่เสียงเรือวิ่ง จะมีการแข่งกันเป็นประจำเป็นการพนันแบบถูกกฎหมายอย่างนึงมั้ง คล้ายๆกับแข่งม้า พนันกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
บรรยากาศท่าเรือตอนสายๆ อากาศดีมาก ลมพัดเย็นสบาย อยากเอาข้าวปั้นมานั่งกินแถวๆนี้จัง
เดินต่อไปที่ท่าขึ้นเรือสำหรับข้ามไปที่ Uminonakanichi ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Marine World การเดินทางสามารถไปได้ทั้งทางเรือ และทางรถไฟ เราเลยจะนั่งเรือไปส่วนขากลับก็นั่งรถไฟ JR กลับมา
ท่าเรือและที่ขายตั๋วก็อยู่ติดๆกัน
ทางเข้าที่ขายตั๋ว
สำหรับการนั่งเรือไปสามารถนั่งได้ 2 เส้นทางให้เลือก ถ้าคนขี้เกียจเดินมากก็เลือกไปลงที่ท่าเรือ Uminonakamichi อยู่ติด marine world เลย แต่ถ้าใครอยากเดินเล่นเลาะชายหาด เก็บบรรยากาศดีๆ ก็ลงที่ท่าเรือ Saitozaki ที่ขายตั๋วเป็นตู้อัตโนมัติ มีภาษาอังกฤษกำกับด้วย
ถ้าจำนวนเงินไม่พอดี ใส่เข้าไปแล้วมีเงินทอนเหลือ อย่าลืมกดที่ปุ่มแถบสีแดง ที่อยู่เหนือช่องหยอดเหรียญที่ เขียนว่า End Transaction ด้วยนะคะ ไม่เงินเงินทอนมันจะไม่ไหลอกมานะคะ
ตะเองเค้าอยากจะนั่งลำนี้ไปอ่ะ ออกทะเลละเพ้อเจ้อนะเธอ
เรือออกแล้วเห็นจุดหมายตึกแบนๆ รูปร่างเหมือนพุดดิ้งอยู่ไม่ไกล
เดินเรื่อยๆ เลียบชายหาดบ้าง เห็น marine world อยู่นั่นไง
ประมาณ 10-15 นาทีก็ถึง marine world
ราคาตั๋วซื้อที่ตู้อัตโนมัติ ถ้าใครดูผ่านเวบมาก่อนจะมีให้โหลดคูปองส่วนลดมาใช้ได้ค่ะ
ตู้นี้ก็เหมือนกันต้องกดปุ่มเงินทอนด้วยนะคะ ไม่งั้นเงินทอนจะไม่ไหลออกมา ปุ่มสี่เหลี่ยนเล็กๆ เหนือช่องที่บัตรออกมาค่ะ เขียนว่า おつり (เงินทอน)
ที่นี่จะมีทั้งตู้ปลาขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เทียบกับ kaiyuukan ที่Osakaแล้วก็ไม่ใหญ่เท่าไหร่ แล้วก็จะมีโชว์ของแมวน้ำ โชว์ของโลมา ด้วย
ก่อนกลับอย่าลืมแวะถ่ายรูปกับ kittyจังขี่โลมาด้วยนะ
kittyน่ารักอ่ะ
ขากลับก็เดินออกไปขึ้นรถไปที่สถานี JR Uminonakamichi ลงเปลี่ยนขบวน 1 หนที่สถานี Kashii ไปลงที่สถานี Hakata
ปิดท้ายด้วยการ shipping ที่ yodobashi hakata ละลายทรัพย์ไปนิดหน่อย
ส่วนมื้อเย็นวันนี้ ขอนำเสนอ motsu nabe(もつ鍋)อาหารขึ้นชื่อของHakata เป็นต้มเครื่องในหมู (ใส้หมู)ใส่กระหล่ำปลี กับใบกุ้ยช่าย มีข้าวสวยกับไข่ดิบ 1ใบ เอาไว้ทำข้าวต้มปิดท้ายด้วย น้ำซุปอร่อยดีแต่ออกมันๆนิดหน่อย คนไม่ชอบของมันๆ ไม่แนะนำเมนูนี้นะคะ อุตส่าห์คาดหวังไว้เยอะว่าต้องอร่อยเด็ด แต่เราว่าต้มแซ่บเครื่องในบ้านเฮาอร่อยกว่าเยอะ
หน้าตาหม้อต้มเครื่องใน
ร้านที่ไปอยู่ตรงข้าม Yodobashi ชื่อร้าน Kantekiya Honten (かんてきや 本店)ค่ะ สั่งมาหม้อเดียวยังไม่เต็มท้องต้องสั่งอย่างอื่นมากินด้วย ทั้งไก่ทอด karaage เกี๊ยวซ่า หอยย่าง เบียร์สด ค่าเสียหายมื้อนี้ รวม 4000 เยน แพงอ่ะ กินยังไม่หนำใจเลย เดินออกมาเจอร้าน takoyaki Gindako (銀だこ)อยู่ข้างประตูทางเข้า Yodobashi เลยต้องจัดซะหน่อย ก่อนกลับไปนอนคืนนี้ Good night
พรุ่งนี้เช้า จะไปเอารถเช่า คราวนี้เราจะพาตะลอนออกไปเที่ยวนอกเมืองกันนะ
ติดตามตอนต่อไปได้ ตามนี้นะคะ
http://ppantip.com/topic/34321947
ขับรถกินลมชมวิว EP. # 2 Fukuoka - Hakata - Karatsu - Saga Part #2
ขับรถกินลมชมวิว EP. # 2 Fukuoka - Hakata - Karatsu - Saga Part #1
ขับรถกินลมชมวิว EP. # 2 Fukuoka - Hakata - Karatsu - Saga Part #2
http://ppantip.com/topic/34321947
ขับรถกินลมชมวิว EP. # 2 Fukuoka - Hakata - Karatsu - Saga Part #3
http://ppantip.com/topic/34809765
คราวนี้เป็นการเดินทางไปญี่ปุ่นครั้งที่ 4 ของปีนี้ โดยสายการบิน Jet Star โปรโมชั่นซื้อ 2 จ่าย 1 ประหยัดค่าเดินทางลงได้ครึ่งหนึ่งที่ออกมาเมื่อเดือน ก.พ. เลยวางแผนว่าออกเดินทางคืนวันศุกร์ กลับวันจันทร์ ลางานแค่ 1 วัน
เราก็จองตั๋วไปตามนั้น ได้เวลามาคือ วันศุกร์ที่ 2 ต.ค เวลา 02:15 น.
ก่อนออกเดินทาง 1 วัน คือวันพฤหัสที่ 1 ต.ค. ตอนเที่ยงเราก็เข้าเวบเช็กอินล่วงหน้าตามปกติ เพราะขาไปไม่มีโหลดกระเป๋า
แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจ เราไปคลิ๊กกลับหน้า Home อีกครั้ง ก็ได้เหลือบไปมองเห็น Travel Duration มันขึ้นว่าเหลือเวลาอีก 15 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง ก็ยังงงๆอยู่ เงยหน้ามองนาฬิกาที่ผนัง เริ่มนับเข็มไปอีก 15 ชั่วโมง ก็เท่ากับเวลาตี 2 ของวันนี้!!!
เฮ้ยยังไงกันเนี่ย ก็จำได้ว่าตอนคลิ๊กเลือกวันที่จองในปฏิทิน ก็กดเลือกวันศุกร์ที่ 2 นี่นา ทำไมออกเดินทางวันพฤหัสล่ะเนี่ย
ยังมีสงสัยว่าคอมฯมันคำนวณอะไรผิดพลาดรึเปล่า รีบยกหูโทรศัพท์โทรไป Call Center ด่วนจี๋
เรา : booking No.XXXX อยากทราบวันออกเดินทางไปสนามบินว่าเป็นวันไหนกันแน่คะ
จนท.: ต้องไปสนามบินคืนนี้ค่ะ
เรา : งานเข้าแล้วไง น่าจะเป็นด้วยความรีบตอนที่กดจองตั๋วกลัวที่นั่งหมด เลยไม่ทันนึกว่าเวลาที่ว่านี่ต้องออกเดินทางไปสนามบินตั้งแต่คืนวันพฤหัส หลังเที่ยงคืน เค้าก็ขึ้นวันใหม่นับเป็นวันศุกร์แล้ว ง่าวววจริง ว่าแล้วก็รีบโทรหาที่รัก
เรา : นี่เธอแย่แล้วๆๆๆ มีข่าวร้ายจะบอก ชั้นเข้าใจผิดอ่ะเรื่องที่จองตั๋วไปคิวชู ที่ว่าออกเดินทางคืนวันศุกร์อ่ะ เค้าเพิ่งเช็กเมื่อกี้นี้ ปรากฎว่าต้องไปสนามบินคืนนี้อ่ะ ทำไงดีๆ ไม่ได้ลางานพรุ่งนี้ด้วย งานเธอเป็นไง จะไปได้ป่ะ
ที่รัก : ใจเย็นๆ เธอแน่ใจแล้วเหรอ เช็กดูดีรึยัง
เรา : แน่ใจ โทรถาม Call Center แล้ว เค้ายืนยันว่าต้องออกคืนนี้
ที่ยัง : ไปคืนนี้ก็คืนนี้ ชั้นน่าจะเช็กดูให้ละเอียดตั้งแต่ที่เธอจองแล้ว แต่ก็ไม่ได้เช็ก
เรา : โรงแรมล่ะ ต้องจองเพิ่มอีกคืนใช่ป่ะ จะมีห้องมั้ยเนี่ย
ที่รัก : ถ้าไม่มีก็นอนที่สถานีไง
เรา : 'ไรว้า อย่าโมโหดิ เค้าขอโทษ เค้าไม่ได้ดูให้ดีๆ เวลามันขึ้นตี 2 เค้าก็คิดว่ามันตี 2 ของวันที่จองคือวันศุกร์อ่ะ ใครจะไปรู้ล่ะเว่าสายการบินเค้านับกันแบบนี้
ที่รัก : มันก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น ใครๆเค้าก็รู้กัน
เรา : เค้าขอโทษนะ
สรุปต้องลางานเพิ่มอีกวันนึง แล้วก็ต้องรีบจัดกระเป๋าด้วย กว่าที่รักจะจัดการงานเสร็จกลับมาถึงบ้านได้ก็เกือบ 4 ทุ่มแล้ว อาบน้ำกินข้าวรีบบึ่งไปสนามบิน
นี่ถ้าไม่ทำเวบเช็กอินก็คงไม่รู้ว่าต้องมาสนามบินวันนี้ ถ้ามาคืนพรุ่งนี้แล้วไม่ได้บินคงจะช๊อคยิ่งกว่านี้ ใครจองตั๋วของ Jet Star ก็ดูกันให้ดีๆ นะคะ
เวลา 9 โมงกว่าก็มาถึงสนามบิน Fukuoka อากาศแจ่มใส ไม่มีเมฆหมอก เย็นสบายกำลังดี เนื่องจากต้องเดินทางก่อนแผนกระทันหัน 1 วัน
รถเช่าที่จองไว้ต้องมารับวันพรุ่งนี้ เพราะไม่มีเวลาไปยกเลิกอันเก่าแล้วจองอันใหม่ วันแรกก็เลยว่าจะไปพักแถวๆ Hakata เที่ยวเล่นฆ่าเวลาแถวนั้นแทน
นั่ง shuttle bus ออกมาที่ Domestic Terminal แล้วลงไปต่อรถไฟใต้ดินมาที่ Hakata ตอนซื้อตั๋วรถไฟก็ซื้อแบบเป็นเที่ยว แต่พอเดินออกมา
ที่รักเหลือบไปเห็บป้ายราคาตั๋วแบบ 1 day นั่งกี่ครั้งก็ได้ราคา600กว่าเยน แค่ขึ้นลงรถ 3 รอบ ก็คุ้มแล้ว ฮีเจ็บใจมากว่าทำไมไม่เห็นป้ายก่อนนะ
จะได้ซื้ออันนี้ เราเลยสะกิดที่รักแล้วบอกให้เค้าไปถามนายสถานีว่าขอคืนตั๋วแล้วซื้อตั๋วใหม่ได้มั้ย พอลองถามดูปรากฎว่าคืนได้ค่ะ
ให้เอาไปเสียบคืนที่ตู้ที่เรากดซื้อตั๋วออกมา ก็จะมีเงินคืนออกมาให้ค่ะ เครื่องขายตั๋วสุดยอดเลยอ่ะ ขนาดที่รักยังไม่รู้มาก่อนว่าเครื่องมันทำแบบนี้ได้ด้วยอ่ะ
รึว่าฮีไม่ใช่คนญี่ปุ่นจริงๆ
เสียบตั๋วเข้าไปในช่องต้องที่มีป้ายสีเหลืองๆ ซ้ายมือด้านล่างตามรูปเลยค่ะ
ปกติจะเป็นช่องที่ตั๋วออกมาเวลาที่เราซื้อ เวลาจะคืนก็เสียบคืนกลับไปที่ช่องเดิม โดยหงายหน้าตั๋วขึ้นข้างบน จะคืนกี่ใบก็เสียบเข้าไปทีละใบค่ะ
โดยจะคืนได้เฉพาะตั๋วที่ซื้อในวันนั้น ซื้อที่สถานีไหนก็ต้องคืนที่สถานีนั้นค่ะ ทีนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่ากดซื้อตั๋วผิด จะทำไงดีแล้วนะคะ
สามารถคืนตั๋วแล้วซื้อใหม่ได้เองง่ายๆ สะดวกสบายมากค่ะ
ที่พักคืนแรก พักที่โรงแรม Toyo ใกล้ๆ สถานี Hakata เดินมาประมาณ 3 นาทีก็ถึง
ห้องก็แคบๆ ตามสไตล์ business hotel แต่ที่นี่ไม่มี Public Bath (大浴場―Daiyokujou) ก็ต้องอาบในห้องซึ่งจะมีอ่างอาบน้ำเล็กๆให้ ราคาประมาณ 2600 บาท ไม่มีอาหารเช้า สภาพห้องพักก็โอเค สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น (ต้องจองห้องไม่สูบบุหรี่) เตียงdouble bed นอนสองคนได้พอดี
เอากระเป๋าไปฝากไว้ แล้วหาข้าวเช้ากินเสร็จแล้วก็ไปเดินเตร็ดเตร่แถวๆท่าเรือ เดินผ่านสนามแข่งเรือ power boat ด้วย ทำขอบสนามสูงเชียว มองไม่เห็นข้างใน ได้ยินแต่เสียงเรือวิ่ง จะมีการแข่งกันเป็นประจำเป็นการพนันแบบถูกกฎหมายอย่างนึงมั้ง คล้ายๆกับแข่งม้า พนันกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
บรรยากาศท่าเรือตอนสายๆ อากาศดีมาก ลมพัดเย็นสบาย อยากเอาข้าวปั้นมานั่งกินแถวๆนี้จัง
เดินต่อไปที่ท่าขึ้นเรือสำหรับข้ามไปที่ Uminonakanichi ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Marine World การเดินทางสามารถไปได้ทั้งทางเรือ และทางรถไฟ เราเลยจะนั่งเรือไปส่วนขากลับก็นั่งรถไฟ JR กลับมา
ท่าเรือและที่ขายตั๋วก็อยู่ติดๆกัน
ทางเข้าที่ขายตั๋ว
สำหรับการนั่งเรือไปสามารถนั่งได้ 2 เส้นทางให้เลือก ถ้าคนขี้เกียจเดินมากก็เลือกไปลงที่ท่าเรือ Uminonakamichi อยู่ติด marine world เลย แต่ถ้าใครอยากเดินเล่นเลาะชายหาด เก็บบรรยากาศดีๆ ก็ลงที่ท่าเรือ Saitozaki ที่ขายตั๋วเป็นตู้อัตโนมัติ มีภาษาอังกฤษกำกับด้วย
ถ้าจำนวนเงินไม่พอดี ใส่เข้าไปแล้วมีเงินทอนเหลือ อย่าลืมกดที่ปุ่มแถบสีแดง ที่อยู่เหนือช่องหยอดเหรียญที่ เขียนว่า End Transaction ด้วยนะคะ ไม่เงินเงินทอนมันจะไม่ไหลอกมานะคะ
ตะเองเค้าอยากจะนั่งลำนี้ไปอ่ะ ออกทะเลละเพ้อเจ้อนะเธอ
เรือออกแล้วเห็นจุดหมายตึกแบนๆ รูปร่างเหมือนพุดดิ้งอยู่ไม่ไกล
เดินเรื่อยๆ เลียบชายหาดบ้าง เห็น marine world อยู่นั่นไง
ประมาณ 10-15 นาทีก็ถึง marine world
ราคาตั๋วซื้อที่ตู้อัตโนมัติ ถ้าใครดูผ่านเวบมาก่อนจะมีให้โหลดคูปองส่วนลดมาใช้ได้ค่ะ
ตู้นี้ก็เหมือนกันต้องกดปุ่มเงินทอนด้วยนะคะ ไม่งั้นเงินทอนจะไม่ไหลออกมา ปุ่มสี่เหลี่ยนเล็กๆ เหนือช่องที่บัตรออกมาค่ะ เขียนว่า おつり (เงินทอน)
ที่นี่จะมีทั้งตู้ปลาขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เทียบกับ kaiyuukan ที่Osakaแล้วก็ไม่ใหญ่เท่าไหร่ แล้วก็จะมีโชว์ของแมวน้ำ โชว์ของโลมา ด้วย
ก่อนกลับอย่าลืมแวะถ่ายรูปกับ kittyจังขี่โลมาด้วยนะ
kittyน่ารักอ่ะ
ขากลับก็เดินออกไปขึ้นรถไปที่สถานี JR Uminonakamichi ลงเปลี่ยนขบวน 1 หนที่สถานี Kashii ไปลงที่สถานี Hakata
ปิดท้ายด้วยการ shipping ที่ yodobashi hakata ละลายทรัพย์ไปนิดหน่อย
ส่วนมื้อเย็นวันนี้ ขอนำเสนอ motsu nabe(もつ鍋)อาหารขึ้นชื่อของHakata เป็นต้มเครื่องในหมู (ใส้หมู)ใส่กระหล่ำปลี กับใบกุ้ยช่าย มีข้าวสวยกับไข่ดิบ 1ใบ เอาไว้ทำข้าวต้มปิดท้ายด้วย น้ำซุปอร่อยดีแต่ออกมันๆนิดหน่อย คนไม่ชอบของมันๆ ไม่แนะนำเมนูนี้นะคะ อุตส่าห์คาดหวังไว้เยอะว่าต้องอร่อยเด็ด แต่เราว่าต้มแซ่บเครื่องในบ้านเฮาอร่อยกว่าเยอะ
หน้าตาหม้อต้มเครื่องใน
ร้านที่ไปอยู่ตรงข้าม Yodobashi ชื่อร้าน Kantekiya Honten (かんてきや 本店)ค่ะ สั่งมาหม้อเดียวยังไม่เต็มท้องต้องสั่งอย่างอื่นมากินด้วย ทั้งไก่ทอด karaage เกี๊ยวซ่า หอยย่าง เบียร์สด ค่าเสียหายมื้อนี้ รวม 4000 เยน แพงอ่ะ กินยังไม่หนำใจเลย เดินออกมาเจอร้าน takoyaki Gindako (銀だこ)อยู่ข้างประตูทางเข้า Yodobashi เลยต้องจัดซะหน่อย ก่อนกลับไปนอนคืนนี้ Good night
พรุ่งนี้เช้า จะไปเอารถเช่า คราวนี้เราจะพาตะลอนออกไปเที่ยวนอกเมืองกันนะ
ติดตามตอนต่อไปได้ ตามนี้นะคะ
http://ppantip.com/topic/34321947
ขับรถกินลมชมวิว EP. # 2 Fukuoka - Hakata - Karatsu - Saga Part #2