มูลนิธิเอดส์ฯ จวก สปส. ทำผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีขาดยา เหตุระบบจัดซื้อมีปัญหา แถมวงในลือหึ่ง! สปส.ค้างเงินยาอภ.300 ล.

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม  นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า ขณะนี้เกิดปัญหาในระบบการสั่งซื้อยาไวรัสตับอักเสบซีชนิดฉีดของกองทุนสิทธิประกันสังคม ของสำนักงานประกันสังคม(สปส.)  โดยพบว่ามีการสั่งซื้อยาล่าช้าไปกว่า 4 เดือนแล้ว ทำให้ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีไม่ได้รับยาอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่ผู้ป่วยแต่ละรายจะต้องได้รับการฉีดยาต่อคอร์สการรักษาถึง 48 เข็ม และต้องให้อย่างต่อเนื่อง ห้ามขาด เพราะหากขาดจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ที่สำคัญยังส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการรักษา เนื่องจากผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีหากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะมีโอกาสหายขาดได้  

“จากปัญหาดังกล่าวส่งผลให้รพ.เอกชนที่เป็นคู่สัญญากับประกันสังคมต้องไปซื้อยาเอง โดยสำรองจ่ายไปก่อน และค่อยไปเบิกกับประกันสังคม ปัญหาคือ รพ.บางแห่งไม่ทำเช่นนั้น ซึ่งล่าสุดทราบว่ามีผู้ป่วยในสิทธิจำนวน 2 รายที่ไม่ได้รับยาชนิดนี้ และน่าจะมีอีก เพียงแต่ไม่มีการร้องมาอย่างเป็นทางการ เรื่องนี้จึงอยากให้ประกันสังคมเร่งปรับปรุงเรื่องการสั่งซื้อยาให้เป็นระบบมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นก็จะกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย” นายนิมิตร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การสั่งซื้อยาของประกันสังคมที่ล่าช้าเพราะอะไร นายนิมิตร์ กล่าวว่า จากการสอบถามเบื้องต้นทราบเพียงว่า มีปัญหาในเรื่องกระบวนการสั่งซื้อ โดยงบประมาณน่าจะเกินจากระเบียบข้อกำหนด  แต่เหตุผลชัดเจนเป็นอย่างไรคงต้องไปสอบถามทางประกันสังคม

แหล่งข่าวแวดวงสุขภาพ กล่าวว่า ปัญหาจากประกันสังคมน่าจะมาจากขั้นตอนการบริหารของสปส. เอง โดยมีการรวมงบบริหารจัดการไปอยู่ในงบการซื้อยาชนิดนี้ ทำให้งบเกิน ล่าสุดมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า จากปัญหาการจัดซื้อ แต่เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาไวรัสตับอักเสบซีนั้น สปส.มีการยืมยากับองค์การเภสัชกรรม(อภ.) เพื่อให้ผู้ป่วยก่อน แต่ยังค้างจ่ายกับอภ.ถึง 300 ล้านบาท

แหล่งข่าวสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำหรับปัญหาดังกล่าวมีการแก้ไขมาตลอด ส่วนเรื่องการค้างเงินไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาไม่มีใบทวงหนี้เลย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก มติชนออนไลน์

Report by LIV Capsule
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่