กระทู้นี้ผมอยากแชร์ประสบการณ์การท้องเที่ยว รวมถึงสิ่งที่พบเจอบนท้องถนนในจังหวัดต่างๆ ไว้เป็นข้อมูลสำหรับผู้อื่นครับ
โดยทริปนี้ในวันแล้ว กะว่าจะขับรวดเดียวจากกรุงเทพไปเชียงใหม่เลย และเพื่อไม่ให้เหนื่อยเกินไป จึงวางแผนไว้ว่าจะออกตั้งแต่ตี3 จะได้ไม่เจอรถติดครับ
นี้คือแผนที่คราวๆการเดินทางของทริปนี้
วันแรก
ตามแผนตื่นตี2 ออกรถ ตี3 โดยรถที่จะใช้เดินทางในครั้งนี้คือ
Honda City 2014 (เป็นรถของแฟนผม) ซึ่งนี้เป็นครั้งแรกของผมที่ขับรถเล็กเที่ยวไกลขนาดนี้ ปกติเดินทางไกลใช้แต่รถใหญ่เครื่อง 2000cc ขึ้นไปมาโดยตลอด ขับออกมาจากบ้านตอนตี3 รถโล่งมาก ขับขึ้นทางด่วนไม่มีรถเลยสักคันขับยิงยาวทำความเร็วได้ดี คิดในใจว่าถ้าขับได้แบบนี้ตลอดทางถึงเชียงใหม่ไวแน่ๆ
ขับมาเรื่อยๆผ่านอยุธยา เข้าอ่างทองฝนตกถล่มหนักแบบพายุลง แต่ด้วยความตั้งใจที่จะไปถึงเชียงใหม่ก่อนเที่ยงให้ได้ เลยพยายามรักษาความเร็วไม่ให้ต่ำกว่า 100 กม/ชม ได้เทสสมรรถณะของตัวรถและยาง (
Yokohama Advan DB) ทำให้ได้รู้ว่ายางรุ่นนี้นอกจากเกาะถนนสุดๆแล้วยังรีดน้ำดีมาก ขับไปด้วยความั่นใจ แต่ฝนกตกหนักสิ่งที่เจอคือแอ่งน้ำ หลายจังหวะที่ผมไม่ทันเห็นแอ่งน้ำ ขับเหยียบไปเต็มๆยางต่อให้รีดน้ำแค่ไหนก็เหินน้ำได้ทันที โดยแอ่งแรกที่เจอล้อหน้าขวาเหยียบเต็มๆ ในเสี้ยววินาทีรู้สึกได้เลยว่ารถเสียอาการท้ายรถกำลังจะออกไปด้านซ้าย แต่หนึ่งในออฟชั่นของรถก็เข้ามาช่วย นั้นคือ VSA สัญญาไฟบนหน้าปัดกระพริบแวบๆ และมีแรงเบรคที่ล้อด้านซ้ายทำให้รถตั้งตรงวิ่งผ่านแอ่งน้ำไปได้อย่างปลอดภัย
ในตอนแรกก็ยังไม่มั่นใจว่าใช่ VSA หรือเปล่าที่ทำงาน แต่พอเจอแอ่งที่2 3 4 ก็ค่อยสังเกตุใช่เลยมันทำงานชัดเจน นับว่าเป็นระบบที่ดีมาก ตอนแรกนึกว่ามันจะทำงานเฉพาะเวลาหักหลบอะไรแรงๆอย่างเดียวซะอีก
พอเลยนครสวรรค์ฝนก็หยุดตกแล้ว แต่ก็ทำความเร็วไม่ได้อยู่ดี เพราะเส้นกำแพงเพชรถึงตากมีทำถนนตลอดทางขับเร็วไม่ได้เลย จนพอเข้าลำปางถนนดีมากขับยางถึงเชียงใหม่ตอน11โมงเช้าพอดี (ขับรถจากกรุงเทพมาเชียงใหม่ 8 ชั่วโมงตามที่วางแผนไว้) พอถึงตัวเมืองเชียงใหม่ก็ยังไม่รู้สึกเหนื่อยอะไรเลยขับขึ้นดอยสุเทพทันที
โดยที่แรกที่เที่ยวคือ
"พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์" ตอนไปถึงเป็นเวลาประมาณ 11.30น. บรรยาการดีมากๆ อุณหภูมิประมาณ 20 องศา มีหมอกลงให้เห้นสวยงาม
หลังจากนั้นก็ขับลงดอยสุเทพเข้าเมือง เริ่มหิวแล้ว ไปหาอะไรกิน ลืมบอกไปทางขึ้นลงดอยสุเทพนั้นดีมาก ถนนดีสุดๆ ขับขึ้นลงง่ายมากๆ
ได้ถ่ายคลิปให้ดูการขับรถขึ้นลงดอยสุเทพไว้ด้วย
*คำเตือนคลิปยาวมาก
หาข้อมูลร้านอาหารในเน็ตเจอร้านชื่อ
"ก๊วยเตี๋ยวหลุดโลก" ชื่อแปลกดีหลุดโลกยังไงไปลองซะหน่อย ถึงร้านสั่งเลยก๊วยเตี๋ยวหลุดโลกเอามาลองดิ๊
เมนู ก๊วยเตี๋ยวหลุดโลก ราคา 150 บาท อยากบอกว่าชามจริงที่กินนี้เยอะมาก ถ่ายรูปมาอาจดูไม่ออก ชามใหญ่กว่าชามก๊วยเตี๋ยวทั่วไป ที่สำคัญ กุ้ง หอย ปลาหมึก ปลา หมู เครื่องต่างๆมาเต็มมาก เคยกินแบบนี้ที่กรุงเทพนี้ราคา 200 บาทอัพ รสชาติอร่อยใช่ได้ ใครไปเชียงใหม่แนะนำให้ไปลอง เมนูทั่วไปอยุ่ที่ประมาณ 50 บาทครับ
วันที่ 2
ตื่นแต่เช้าเดินทางไปม่อนแจ่ม ไปถึงประมาณ 8 โมงครึ่ง ทางขึ้นยากว่าดอยสุเทพเล็กน้อย แต่ก็ไม่ยากเกินเท่าไหร่ขึ้นมาเกียร์ D อย่างเดียวยาวๆ มาถึงคนไม่เยอะมาก อากาศกำลังดี ประมาณ 20 องศา มีหมอกให้เห็นแต่ไกลๆ เดินเล่นสักพักหิว เลยสั่งข้าวกินอาหารบนนี้แพงมาก ข้าวไข่เจียวหมูสับ 80 บาท แต่หิวแล้วก็เลยต้องกินครับ
บนนั่นอากาศดีมาก นั่งชิวกันนานไปหน่อยเลยมาบ่าย2 แล้ว ขับรถมากินข้าวต่อที่บ้านม่อนม่วน ตอนนี้รีบสั่งรีบกินทำเวลาเพราะจะไปดอยอินทนนท์ต่อเลยไม่ได้ถ่ายรูป อาหารที่นี้อร่อยดี ราคารับได้ เมนูแนะนำสั่งได้ทุกอย่างเลยครับไม่ผิดหวัง
กินเสร็จรีบขับรถไปดอยอินทนนท์พอจะเข้าเมืองรถติดมาก ดูนาฬิกาแล้วไปไม่ทันแน่ๆ เลยตัดสินใจขึ้นดอยสุเทพอีกรอบ ไปไหว้
"พระธาตุดอยสุเทพ" พอขึ้นไปถึงอากาศเย็นหมอกลงเยอะ อากาศดีมาก ด้านบนจะมีจุดให้ชมวิวด้วยไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่วิวดีมากมองไปเห็นสนามบินเชียงใหม่ด้วย
เสร็จจากดอยสุเทพ หาข้อมูลมาว่าวันเสาร์จะมี "ถนนคนเดินวัวลาย" ชื่อแปลกดีไปดูซะหน่อย พอไปถึงที่จอดรถหายากสุดๆ พอเข้าไปเดินซื้อของคนเยอะมาก ร้านขายของก็เยอะ เดินยังไงก็ไม่ทั่ว แต่ของที่นี้ราคาไม่แพง ใครจะหาซื้อของฝากลองมาเดินที่นี้ดูครับ
วันที่ 3
ออกเดินทางแต่เช้ามุ่งหน้าไปพักต่อที่เขาค้อ อยากรู้ที่เค้าบอก "นอนเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี" เป็นยังไง ระหว่างทางแวะทานอาหารเช้าที่ร้าน
"ข้าวซอยโอมา" เมนูแนะนำอะไรสั่งมาให้หมด มากัน 2 คน เจ้าของร้านถามกินหมดแน่นะ ฮาๆ
อาหารรสชาติโอเค ที่สำคัญราคาไม่แพงเลย
กินเสร็จเดินทางต่อ ถนนตั้งแต่ลำปางจนถึงเขาค้อนั้นดีมากๆ ดีกว่าขาขึ้นเชียงใหม่เยอะเลย พอถึงเขาค้อฝนตกหมอกลงจัดถนนบางช่วงหมอกแทบไม่เห็นเลย ทำให้ถ่ายรูปไม่ได้เยอะ เพราะถ่ายไปไม่เห็นอะไรเลย แต่ถ่ายคลิปสั้นๆมานิดหน่อยครับ
เที่ยวเขาค้อสักพักอากาศไม่เป็นใจให้ชมวิวสวยๆเลย เลยตัดสินใจขึ้นภูทับเบิก พอขับรถไปถึงภูทับเบิกก็ต้องผิดหวัง ฝนตกหมอกลงจัดมาก อากาศหนาวสุดๆ 11-14 องศา ถ่ายรูปมาก็ไม่เห็นอะไรเหมือนเดิม
ขับรถลงเขาท่ามกลางความมืดและหมอกลงจัด ตอนแรกๆก็กลัว แต่ขับๆไปมันก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด กลับไปถึงที่พักเขาค้ออย่างปลอดภัย
วันสุดท้าย
ตื่นแต่เช้ากะไปดูหมอก ขับรถไปทุกจุดชมวิวของเขาค้อไม่เจอหมอกเลย ฟ้าเปิดสดใสไร้หมอก เลยขับรถกะไปหากาแฟกินชิวๆบรรยากาศดีๆ หาข้อมูลเค้าแนะนำร้าน "Route12" ขับไปถึงร้านไม่เปิดครับ อดกิน เลยนั่งชมวิวถ่ายรูปเล่นแทน
จบทริปแล้วขับรถกลับกรุงเทพ...
ข้อมูลเพิ่มเติมที่อยากจะบอก
เวลาขับรถขึ้นเขาระวังรถใหญ่พวกฟอร์จูเนอร์ปาเจโร่ หากต้องขับตามเขาให้ทิ้งระยะห่างเยอะๆ รถพวกนี้ส่วนใหญ่ขับขึ้นเขาช้าโคตรๆ หากเราขับตามจะเสียจังหวะได้ ส่วนเวลาลงเขาก็เช่นกันอยู่ห่างๆพวกรถใหญ่ไว้เพราะเค้าลงช้ามากๆเช่นกัน แถมบางคันใช้เกียร์ไม่เป็นใช้เบรคอย่างเดียว กลิ่นไหม้นี้มาเต็มมาก แนะนำให้เราเปิดกระจกไว้ด้วย ไว้ดมกลิ่นเบรครถตัวเองหรือรถคันอื่นๆครับ
EDIT คำผิดครับ
4 วัน 3 คืน กับ 1,800 กิโลเมตร กรุงเทพ-เชียงใหม่-ดอยสุเทพ-ม่อนแจ่ม-เขาค้อ-ภูทับเบิก-กรุงเทพ
โดยทริปนี้ในวันแล้ว กะว่าจะขับรวดเดียวจากกรุงเทพไปเชียงใหม่เลย และเพื่อไม่ให้เหนื่อยเกินไป จึงวางแผนไว้ว่าจะออกตั้งแต่ตี3 จะได้ไม่เจอรถติดครับ
นี้คือแผนที่คราวๆการเดินทางของทริปนี้
วันแรก
ตามแผนตื่นตี2 ออกรถ ตี3 โดยรถที่จะใช้เดินทางในครั้งนี้คือ Honda City 2014 (เป็นรถของแฟนผม) ซึ่งนี้เป็นครั้งแรกของผมที่ขับรถเล็กเที่ยวไกลขนาดนี้ ปกติเดินทางไกลใช้แต่รถใหญ่เครื่อง 2000cc ขึ้นไปมาโดยตลอด ขับออกมาจากบ้านตอนตี3 รถโล่งมาก ขับขึ้นทางด่วนไม่มีรถเลยสักคันขับยิงยาวทำความเร็วได้ดี คิดในใจว่าถ้าขับได้แบบนี้ตลอดทางถึงเชียงใหม่ไวแน่ๆ
ขับมาเรื่อยๆผ่านอยุธยา เข้าอ่างทองฝนตกถล่มหนักแบบพายุลง แต่ด้วยความตั้งใจที่จะไปถึงเชียงใหม่ก่อนเที่ยงให้ได้ เลยพยายามรักษาความเร็วไม่ให้ต่ำกว่า 100 กม/ชม ได้เทสสมรรถณะของตัวรถและยาง (Yokohama Advan DB) ทำให้ได้รู้ว่ายางรุ่นนี้นอกจากเกาะถนนสุดๆแล้วยังรีดน้ำดีมาก ขับไปด้วยความั่นใจ แต่ฝนกตกหนักสิ่งที่เจอคือแอ่งน้ำ หลายจังหวะที่ผมไม่ทันเห็นแอ่งน้ำ ขับเหยียบไปเต็มๆยางต่อให้รีดน้ำแค่ไหนก็เหินน้ำได้ทันที โดยแอ่งแรกที่เจอล้อหน้าขวาเหยียบเต็มๆ ในเสี้ยววินาทีรู้สึกได้เลยว่ารถเสียอาการท้ายรถกำลังจะออกไปด้านซ้าย แต่หนึ่งในออฟชั่นของรถก็เข้ามาช่วย นั้นคือ VSA สัญญาไฟบนหน้าปัดกระพริบแวบๆ และมีแรงเบรคที่ล้อด้านซ้ายทำให้รถตั้งตรงวิ่งผ่านแอ่งน้ำไปได้อย่างปลอดภัย
ในตอนแรกก็ยังไม่มั่นใจว่าใช่ VSA หรือเปล่าที่ทำงาน แต่พอเจอแอ่งที่2 3 4 ก็ค่อยสังเกตุใช่เลยมันทำงานชัดเจน นับว่าเป็นระบบที่ดีมาก ตอนแรกนึกว่ามันจะทำงานเฉพาะเวลาหักหลบอะไรแรงๆอย่างเดียวซะอีก
พอเลยนครสวรรค์ฝนก็หยุดตกแล้ว แต่ก็ทำความเร็วไม่ได้อยู่ดี เพราะเส้นกำแพงเพชรถึงตากมีทำถนนตลอดทางขับเร็วไม่ได้เลย จนพอเข้าลำปางถนนดีมากขับยางถึงเชียงใหม่ตอน11โมงเช้าพอดี (ขับรถจากกรุงเทพมาเชียงใหม่ 8 ชั่วโมงตามที่วางแผนไว้) พอถึงตัวเมืองเชียงใหม่ก็ยังไม่รู้สึกเหนื่อยอะไรเลยขับขึ้นดอยสุเทพทันที
โดยที่แรกที่เที่ยวคือ "พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์" ตอนไปถึงเป็นเวลาประมาณ 11.30น. บรรยาการดีมากๆ อุณหภูมิประมาณ 20 องศา มีหมอกลงให้เห้นสวยงาม
หลังจากนั้นก็ขับลงดอยสุเทพเข้าเมือง เริ่มหิวแล้ว ไปหาอะไรกิน ลืมบอกไปทางขึ้นลงดอยสุเทพนั้นดีมาก ถนนดีสุดๆ ขับขึ้นลงง่ายมากๆ
ได้ถ่ายคลิปให้ดูการขับรถขึ้นลงดอยสุเทพไว้ด้วย
*คำเตือนคลิปยาวมาก
หาข้อมูลร้านอาหารในเน็ตเจอร้านชื่อ "ก๊วยเตี๋ยวหลุดโลก" ชื่อแปลกดีหลุดโลกยังไงไปลองซะหน่อย ถึงร้านสั่งเลยก๊วยเตี๋ยวหลุดโลกเอามาลองดิ๊
เมนู ก๊วยเตี๋ยวหลุดโลก ราคา 150 บาท อยากบอกว่าชามจริงที่กินนี้เยอะมาก ถ่ายรูปมาอาจดูไม่ออก ชามใหญ่กว่าชามก๊วยเตี๋ยวทั่วไป ที่สำคัญ กุ้ง หอย ปลาหมึก ปลา หมู เครื่องต่างๆมาเต็มมาก เคยกินแบบนี้ที่กรุงเทพนี้ราคา 200 บาทอัพ รสชาติอร่อยใช่ได้ ใครไปเชียงใหม่แนะนำให้ไปลอง เมนูทั่วไปอยุ่ที่ประมาณ 50 บาทครับ
วันที่ 2
ตื่นแต่เช้าเดินทางไปม่อนแจ่ม ไปถึงประมาณ 8 โมงครึ่ง ทางขึ้นยากว่าดอยสุเทพเล็กน้อย แต่ก็ไม่ยากเกินเท่าไหร่ขึ้นมาเกียร์ D อย่างเดียวยาวๆ มาถึงคนไม่เยอะมาก อากาศกำลังดี ประมาณ 20 องศา มีหมอกให้เห็นแต่ไกลๆ เดินเล่นสักพักหิว เลยสั่งข้าวกินอาหารบนนี้แพงมาก ข้าวไข่เจียวหมูสับ 80 บาท แต่หิวแล้วก็เลยต้องกินครับ
บนนั่นอากาศดีมาก นั่งชิวกันนานไปหน่อยเลยมาบ่าย2 แล้ว ขับรถมากินข้าวต่อที่บ้านม่อนม่วน ตอนนี้รีบสั่งรีบกินทำเวลาเพราะจะไปดอยอินทนนท์ต่อเลยไม่ได้ถ่ายรูป อาหารที่นี้อร่อยดี ราคารับได้ เมนูแนะนำสั่งได้ทุกอย่างเลยครับไม่ผิดหวัง
กินเสร็จรีบขับรถไปดอยอินทนนท์พอจะเข้าเมืองรถติดมาก ดูนาฬิกาแล้วไปไม่ทันแน่ๆ เลยตัดสินใจขึ้นดอยสุเทพอีกรอบ ไปไหว้ "พระธาตุดอยสุเทพ" พอขึ้นไปถึงอากาศเย็นหมอกลงเยอะ อากาศดีมาก ด้านบนจะมีจุดให้ชมวิวด้วยไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่วิวดีมากมองไปเห็นสนามบินเชียงใหม่ด้วย
เสร็จจากดอยสุเทพ หาข้อมูลมาว่าวันเสาร์จะมี "ถนนคนเดินวัวลาย" ชื่อแปลกดีไปดูซะหน่อย พอไปถึงที่จอดรถหายากสุดๆ พอเข้าไปเดินซื้อของคนเยอะมาก ร้านขายของก็เยอะ เดินยังไงก็ไม่ทั่ว แต่ของที่นี้ราคาไม่แพง ใครจะหาซื้อของฝากลองมาเดินที่นี้ดูครับ
วันที่ 3
ออกเดินทางแต่เช้ามุ่งหน้าไปพักต่อที่เขาค้อ อยากรู้ที่เค้าบอก "นอนเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี" เป็นยังไง ระหว่างทางแวะทานอาหารเช้าที่ร้าน "ข้าวซอยโอมา" เมนูแนะนำอะไรสั่งมาให้หมด มากัน 2 คน เจ้าของร้านถามกินหมดแน่นะ ฮาๆ
อาหารรสชาติโอเค ที่สำคัญราคาไม่แพงเลย
กินเสร็จเดินทางต่อ ถนนตั้งแต่ลำปางจนถึงเขาค้อนั้นดีมากๆ ดีกว่าขาขึ้นเชียงใหม่เยอะเลย พอถึงเขาค้อฝนตกหมอกลงจัดถนนบางช่วงหมอกแทบไม่เห็นเลย ทำให้ถ่ายรูปไม่ได้เยอะ เพราะถ่ายไปไม่เห็นอะไรเลย แต่ถ่ายคลิปสั้นๆมานิดหน่อยครับ
เที่ยวเขาค้อสักพักอากาศไม่เป็นใจให้ชมวิวสวยๆเลย เลยตัดสินใจขึ้นภูทับเบิก พอขับรถไปถึงภูทับเบิกก็ต้องผิดหวัง ฝนตกหมอกลงจัดมาก อากาศหนาวสุดๆ 11-14 องศา ถ่ายรูปมาก็ไม่เห็นอะไรเหมือนเดิม
ขับรถลงเขาท่ามกลางความมืดและหมอกลงจัด ตอนแรกๆก็กลัว แต่ขับๆไปมันก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด กลับไปถึงที่พักเขาค้ออย่างปลอดภัย
วันสุดท้าย
ตื่นแต่เช้ากะไปดูหมอก ขับรถไปทุกจุดชมวิวของเขาค้อไม่เจอหมอกเลย ฟ้าเปิดสดใสไร้หมอก เลยขับรถกะไปหากาแฟกินชิวๆบรรยากาศดีๆ หาข้อมูลเค้าแนะนำร้าน "Route12" ขับไปถึงร้านไม่เปิดครับ อดกิน เลยนั่งชมวิวถ่ายรูปเล่นแทน
จบทริปแล้วขับรถกลับกรุงเทพ...
ข้อมูลเพิ่มเติมที่อยากจะบอก
เวลาขับรถขึ้นเขาระวังรถใหญ่พวกฟอร์จูเนอร์ปาเจโร่ หากต้องขับตามเขาให้ทิ้งระยะห่างเยอะๆ รถพวกนี้ส่วนใหญ่ขับขึ้นเขาช้าโคตรๆ หากเราขับตามจะเสียจังหวะได้ ส่วนเวลาลงเขาก็เช่นกันอยู่ห่างๆพวกรถใหญ่ไว้เพราะเค้าลงช้ามากๆเช่นกัน แถมบางคันใช้เกียร์ไม่เป็นใช้เบรคอย่างเดียว กลิ่นไหม้นี้มาเต็มมาก แนะนำให้เราเปิดกระจกไว้ด้วย ไว้ดมกลิ่นเบรครถตัวเองหรือรถคันอื่นๆครับ
EDIT คำผิดครับ