เจอทางเข้าสองด่านใหญ่มากๆ แล้วตัวอาคารจะใหญ่ขนาดไหน หืมมมม อลังการงานสร้าง ตื่นตามากค่ะ ต้องมาดูด้วยตัวเองนะคะ
จบทริป Day 2 In Nara เราก็ไปหาที่พักต่อค่ะ Hotel YamaKyu ซึ่งเราจองไว้แถวUmeda จากbooking.com ตอนแรกคิดว่าแถวนั้นในเมืองมากๆ แต่ก็ในเมืองจริงๆค่ะ พักที่นี่ควรมากับแฟนค่ะ เพราะมีแคตาล็อกของเล่น 18+ขายด้วย5555 สองชะนีมโนมากค่ะจุดนี้5555 | พักที่นี่ 2 คืน ค่ะ
Day 3. 20 Oct 2015
วันนี้เรามีโปรแกรมไป Wakayama ไปเที่ยวสถานีแมวเหมียวค่ะ การเดินทางจาก Osaka station(platform 1) > นั่งตู้ที่5-8 >Tenoji>Wakayama ถึงแล้วต่อรถไฟท้องถิ่น (platform 9) ไป Kishi station หรือสถานี TAMA (แบบเหมารายวัน 730¥)
รถไฟที่เราจะไป kishi station ค่ะ น่าร้ากกกก
ถึงแล้วค่ะ สถานี TAMA ตามหานายสถานีน้องแมวซะหน่อย
แอบผิดหวังเล็กๆ เค้าเอาโชว์แค่ในตู้ค่ะ แล้วแมวก็ไม่ใส่ชุดนายสถานีเหมือนตอนเราดูในหนังสือก่อนไปอ่ะค่ะ
ภายในสถานีมีคาเฟ่ของทามะ น่ารักดีค่ะ เดินชมในสถานีมีร้านขายของ มีชุดนายสถานีให้ใส่ถ่ายรูปเล่นได้
หลังออกมาจากสถานีTAMAก็เป็นรถไฟอีกคัน So Cuteeeee
หลังจากเที่ยวสถานีแมวเหมียวเสร็จเราก็กลับมาเก็บใจกลางโอซาก้าค่ะ
ย่าน Shinsaibashi แหล่งช็อปปิ้งและอาหารการกินมากมายของที่นี่ค่ะ ว่าไปแล้วหาอะไรกินซักหน่อย
เย็นนี้เราจัดหลายร้านมากค่ะ เริ่มต้นร้านปูแดง ที่มีป้ายขนาดใหญ่ล่อซะขนาดนี้ จัดไป!!!!
กินร้านปูแดงเสร็จเดินเล่นสักพัก เห็น sushi หน้าร้านหนึ่ง ไม่รอช้าเข้าไปลอง หืมมมม สุโค่ยยยย ร้านนี้ภูมิใจนำเสนอเลย
พิกัดเดินจากdotonboriมา Shinsaibashi ที่แถวเราเดินช้อปกัน ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ มีโมเดลซูชิเต็มหน้าตู้ค่ะ
Dotonbori ป้ายกูลิโกะขนาดยักษ์ ถือเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้า
รูปอีกมุมหนึ่งซึ่งแสงสีสวยงามไม่แพ้กัน
และปิดท้ายก่อนนอนคืนนี้สักนิดสักหน่อย
✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿
Day 4. 21 Oct 2015 >>>> Tokyo
เราเดินทางไปโตเกียว สายการบินPeach โดยจองออนไลน์ล่วงหน้าค่ะ ราคาก็พอๆกับสายการบินภายในประเทศของบ้านเรา วิธีโหลดกระเป๋าเค้าไม่คิดเป็นกก.แต่จะตามจำนวน1 ใบ 2 ใบ รวมราคาไปกลับคนละ 3พันกว่าบาท เราว่าคุ้มกว่าชินคันเซนมากๆ ถ้าใครวางแผนก่อน ไปขาเดียวยิ่งถูกแค่พันกว่าบาทเอง โอมากๆ แต่เราวางแผนไม่ดีเท่าไหร่น่าจะไปโอซาก้า-โตเกียวแล้วค่อยกลับไทย เราเลยไปๆมาๆ5555 วันนี้ออกเดินทางเที่ยงวันค่ะ ตรงนี้ทำให้เราเสียเวลาเที่ยวไป 1 วัน เพราะบินถึงนาริตะก็บ่ายโมง กว่านาริตะเข้าโตเกียวอีกชั่วโมงครึ่ง แล้วก็หาที่พักกันค่ะ
เย็นนี้เราเลยเก็บที่ท่องเที่ยวยามเย็นคือ ฮาราจุกุ กับชิบูย่า ใจกลางแหล่งช้อปปิ้งและแฟชั่นของที่นี่จ้า โดยเราเลือกไปฮาราจุกุก่อนนะคะที่นี่ปิดเร็วค่ะ สัก1 ทุ่มคนก็ไม่ค่อยมีแล้วค่ะ การเดินทาง นั่งรถไฟ Yamanote Line ลงสถานี Harajuku ได้เลยค่ะ ซึ่งห่างสถานี Shibuya แค่สถานีเดียวเอง
ที่ฮาราจุกุ ร้านนี้ชอบมากกกก เป็นสไตล์ฮิปๆแต่เป็นโทนชมพู ม่วง ฟ้า หวานๆแนวๆ ชอบสุดๆ ไปทีไรหมดตัวกับร้านนี้ทุกทีเลย
ร้านอยู่ไม่ไกลทางซ้ายมือจากทางเข้านะคะ ลืมถ่ายย่านฮาราจุกุ แต่เดี๋ยวมีรูปไว้ลงกระทู้ โตเกียวทริปที่ 1 นะคะ
มีร้านเครปแนะนำที่ฮาราจุกุค่ะ คนต่อคิวเยอะมาก ตรงไปสุดซอยฮาราจุกุร้านจะอยู่ขวามือนะคะ
เสร็จแล้วเราก็ไปแหล่งตุ๊กตาโมเดลใกล้แถวนี้ค่ะ ชื่อร้าน Kiddy Land ร้านใหญ่พอสมควร มีของเล่นเยอะมาก
เสียดายลืมถ่ายรูปหน้าร้านในร้านมัวแต่ตื่นเต้น เหมือนตกอยู่ในห้วงอะไรสักอย่าง คือเราชอบพวกนี้มากค่ะ ฟินนนน5555
ญี่ปุ่นนี้แต่งตัวเก๋ๆกันจริงๆ
เที่ยวฮาราจุกุเสร็จนั่งรถไฟมาชิบูย่า 1 สถานี แต่พอดีมันดึกแล้วเราเลยแค่ไปหาอะไรกินแล้วก็กลับที่พักค่ะ
ที่โตเกียว เราพักโฮสเทลที่นี่ค่ะ 3 คืนเลย (Airbnb)
✣ รายงานสด Japan Trip by ครูจิ๊บ (งบ 19,999 บ.ตั๋ว+ที่พัก8คืน)
Day 1 18 Oct 2015
พิกัดตรงชั้น2 ด้านขวามือของร้านLAWSON เงียบดีค่ะ เห็นเขาว่ามีห้องอาบน้ำด้วย แต่เรายังหาไม่เจอ คืนนี้ติดไว้ก่อนละกันค่ะพรุ่งนี้เช้าค่อยหาใหม่55555
✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿
Day 2 19 oct 2015.
วันนี้เรามีโปรแกรมไปเมืองนารา โดยออกจากสนามบินคันไซ 7.30>ลงสถานี Tennoji >เปลี่ยนเป็น JR Nara Line เมื่อถึงเราเอากระเป๋าใส่ล็อคเกอร์หยอดเหรียญค่ะ
สถานีJR Nara
จากนั้นเราตั้งใจจะไปวัด Todaiji แต่ไปผิดอีกเช่นเคยค่ะ นั่งรถบัสผิดเป็นวัด Toshodaiji แหมเราก็นึกว่าอันเดียวกัน แต่ไหนๆก็นั่งมาแล้ว ลองไปดู ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ วัดเงียบสงบคนไม่เยอะ คือเราอยู่วัดนี้กันนานมากค่ะ การเดินทาง ออกจากสถานี JR Nara รอที่ป้ายรถเมล์หมายเลข 6 ค่ะ
เป็นมอสที่ขึ้นสวยมากจริงๆ รูปอาจจะไม่ค่อยสวยนะคะ
เนื่องจากเราสองคนหลงเลยมีป้าใจดี ช่วยเป็นไกด์พาเราเที่ยว แถมยังพูดอังกฤษชัดมากกกใจดีมากกก พาพวกเราไปเลี้ยงข้าวอีก โดยพาไปกินร้านอาหารที่ขึ้นชื่อเรื่องการนำKuzuมาเป็นเครื่องปรุงใส่อาหารซึ่งร้านนี้ถือว่ามีชื่อเสียงที่สุดในนารา ถ้ามาต้องมาร้านนี้ค่ะ
พิกัดตรง 4 แยกซ้ายมือก่อนถึงวัดTodaiji
ทีเด็ดค่ะ Kuzu Mochi อร่อยลื้มมมม
เจอทางเข้าสองด่านใหญ่มากๆ แล้วตัวอาคารจะใหญ่ขนาดไหน หืมมมม อลังการงานสร้าง ตื่นตามากค่ะ ต้องมาดูด้วยตัวเองนะคะ
จบทริป Day 2 In Nara เราก็ไปหาที่พักต่อค่ะ Hotel YamaKyu ซึ่งเราจองไว้แถวUmeda จากbooking.com ตอนแรกคิดว่าแถวนั้นในเมืองมากๆ แต่ก็ในเมืองจริงๆค่ะ พักที่นี่ควรมากับแฟนค่ะ เพราะมีแคตาล็อกของเล่น 18+ขายด้วย5555 สองชะนีมโนมากค่ะจุดนี้5555 | พักที่นี่ 2 คืน ค่ะ
✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿
Day 3. 20 Oct 2015
วันนี้เรามีโปรแกรมไป Wakayama ไปเที่ยวสถานีแมวเหมียวค่ะ การเดินทางจาก Osaka station(platform 1) > นั่งตู้ที่5-8 >Tenoji>Wakayama ถึงแล้วต่อรถไฟท้องถิ่น (platform 9) ไป Kishi station หรือสถานี TAMA (แบบเหมารายวัน 730¥)
แอบผิดหวังเล็กๆ เค้าเอาโชว์แค่ในตู้ค่ะ แล้วแมวก็ไม่ใส่ชุดนายสถานีเหมือนตอนเราดูในหนังสือก่อนไปอ่ะค่ะ
ภายในสถานีมีคาเฟ่ของทามะ น่ารักดีค่ะ เดินชมในสถานีมีร้านขายของ มีชุดนายสถานีให้ใส่ถ่ายรูปเล่นได้
หลังออกมาจากสถานีTAMAก็เป็นรถไฟอีกคัน So Cuteeeee
หลังจากเที่ยวสถานีแมวเหมียวเสร็จเราก็กลับมาเก็บใจกลางโอซาก้าค่ะ
ย่าน Shinsaibashi แหล่งช็อปปิ้งและอาหารการกินมากมายของที่นี่ค่ะ ว่าไปแล้วหาอะไรกินซักหน่อย
เย็นนี้เราจัดหลายร้านมากค่ะ เริ่มต้นร้านปูแดง ที่มีป้ายขนาดใหญ่ล่อซะขนาดนี้ จัดไป!!!!
กินร้านปูแดงเสร็จเดินเล่นสักพัก เห็น sushi หน้าร้านหนึ่ง ไม่รอช้าเข้าไปลอง หืมมมม สุโค่ยยยย ร้านนี้ภูมิใจนำเสนอเลย
พิกัดเดินจากdotonboriมา Shinsaibashi ที่แถวเราเดินช้อปกัน ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ มีโมเดลซูชิเต็มหน้าตู้ค่ะ
Dotonbori ป้ายกูลิโกะขนาดยักษ์ ถือเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้า
รูปอีกมุมหนึ่งซึ่งแสงสีสวยงามไม่แพ้กัน
และปิดท้ายก่อนนอนคืนนี้สักนิดสักหน่อย
Day 4. 21 Oct 2015 >>>> Tokyo
เราเดินทางไปโตเกียว สายการบินPeach โดยจองออนไลน์ล่วงหน้าค่ะ ราคาก็พอๆกับสายการบินภายในประเทศของบ้านเรา วิธีโหลดกระเป๋าเค้าไม่คิดเป็นกก.แต่จะตามจำนวน1 ใบ 2 ใบ รวมราคาไปกลับคนละ 3พันกว่าบาท เราว่าคุ้มกว่าชินคันเซนมากๆ ถ้าใครวางแผนก่อน ไปขาเดียวยิ่งถูกแค่พันกว่าบาทเอง โอมากๆ แต่เราวางแผนไม่ดีเท่าไหร่น่าจะไปโอซาก้า-โตเกียวแล้วค่อยกลับไทย เราเลยไปๆมาๆ5555 วันนี้ออกเดินทางเที่ยงวันค่ะ ตรงนี้ทำให้เราเสียเวลาเที่ยวไป 1 วัน เพราะบินถึงนาริตะก็บ่ายโมง กว่านาริตะเข้าโตเกียวอีกชั่วโมงครึ่ง แล้วก็หาที่พักกันค่ะ
เย็นนี้เราเลยเก็บที่ท่องเที่ยวยามเย็นคือ ฮาราจุกุ กับชิบูย่า ใจกลางแหล่งช้อปปิ้งและแฟชั่นของที่นี่จ้า โดยเราเลือกไปฮาราจุกุก่อนนะคะที่นี่ปิดเร็วค่ะ สัก1 ทุ่มคนก็ไม่ค่อยมีแล้วค่ะ การเดินทาง นั่งรถไฟ Yamanote Line ลงสถานี Harajuku ได้เลยค่ะ ซึ่งห่างสถานี Shibuya แค่สถานีเดียวเอง
ที่ฮาราจุกุ ร้านนี้ชอบมากกกก เป็นสไตล์ฮิปๆแต่เป็นโทนชมพู ม่วง ฟ้า หวานๆแนวๆ ชอบสุดๆ ไปทีไรหมดตัวกับร้านนี้ทุกทีเลย
ร้านอยู่ไม่ไกลทางซ้ายมือจากทางเข้านะคะ ลืมถ่ายย่านฮาราจุกุ แต่เดี๋ยวมีรูปไว้ลงกระทู้ โตเกียวทริปที่ 1 นะคะ
มีร้านเครปแนะนำที่ฮาราจุกุค่ะ คนต่อคิวเยอะมาก ตรงไปสุดซอยฮาราจุกุร้านจะอยู่ขวามือนะคะ
เสร็จแล้วเราก็ไปแหล่งตุ๊กตาโมเดลใกล้แถวนี้ค่ะ ชื่อร้าน Kiddy Land ร้านใหญ่พอสมควร มีของเล่นเยอะมาก
เสียดายลืมถ่ายรูปหน้าร้านในร้านมัวแต่ตื่นเต้น เหมือนตกอยู่ในห้วงอะไรสักอย่าง คือเราชอบพวกนี้มากค่ะ ฟินนนน5555
ญี่ปุ่นนี้แต่งตัวเก๋ๆกันจริงๆ
เที่ยวฮาราจุกุเสร็จนั่งรถไฟมาชิบูย่า 1 สถานี แต่พอดีมันดึกแล้วเราเลยแค่ไปหาอะไรกินแล้วก็กลับที่พักค่ะ
ที่โตเกียว เราพักโฮสเทลที่นี่ค่ะ 3 คืนเลย (Airbnb)
Day 5. 22 Oct 2015 เช้ามาเราก็เข้าวัดกันค่ะ วัด Senso-ji ที่ Asakusa มาโตเกียวไม่มาวัดนี้ถือว่ามาไม่ถึงญี่ปุ่นนะคะ
ทางเข้าค่ะ คนเยอะมาก มีแต่คนถ่ายกับโคมแดงยักษ์ตรงกลางค่ะ
ระหว่างเข้าไปก็มีร้านขายของที่ระลึกและของกินเพียบเลย แต่ถ้าซื้อของกินต้องกินหน้าร้านเค้าให้หมดก่อนนะคะ ห้ามเดินไปกินไป
จบวัดsenso-ji เดินออกตามรูปจิ๊บเลยไปตามถนนจะเห็น Tokyo skytree ค่ะ เราจะไปที่นั่นกันต่อ
เดินเตร่กันไปสักพัก เลยนั่งรถไฟไป Tokyo Skytree ซะเลย ข้างในเป็นเหมือนห้างสรรพสินค้า มีร้านต่างๆ มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และอื่นๆนะคะ
เราไม่ได้แวะที่นี่นานเลยดูไม่หมด
แต่เอ๊ะ บังเอิญคุ้นหน้าคุ้นตาร้านนึง นางกำลังดังนี่หน่า Gudetama จาก sanrio น่าร๊ากกกกก
จากTokyo skytree ประมาณบ่ายโมงนิดๆ เราจะไปชมทุ่งโคเคีย ที่ Hitachi seaside Park เมืองฮิตาชิค่ะ
ซึ่งเรากะว่าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วกว่าๆ ที่ไหนได้ เดินทาง 3 ชั่วโมงค่ะจาก asakusa st. ที่สำคัญสวนปิด 17.00 น. นั่นคือเราเหลือเวลาน้อยมาก สวนจะปิดมั้ย พระอาทิตย์จะตกมั้ยแต่เราก็เสี่ยงไปค่ะ