การเดินทางของสาวๆเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เราไปวังเวียงกันมาก็รู้สึกติดใจการ backpack แบบหญิงล้วน จะพูดจะคุย
จะทำอะไรก็สนุกสนานตามสไตล์สาวๆ (
http://ppantip.com/topic/33031769 ฝากกระทู้วังเวียงด้วยนะคะ) ครั้งนี้ก็เหมือนกับครั้งที่แล้วค่ะ จขกท.ติดสอยห้อยตามไปกับแก๊งค์เพื่อนๆของพี่สาวรวมทั้งหมด 7 คน เดินทางกันวันที่ 10-13 กค.ที่ผ่านมา ลางานกันเรียบร้อย เงินพร้อม ตั๋วพร้อม ออกเดินทางกันเลยยย~~
Day 1 : 10/07/2015
ทริปนี้เป็นการไปสิงคโปร์ครั้งแรกของ จขกท. ส่วนพี่ๆในกลุ่มบางคนเคยไปมาแล้ว เราก็จะไม่เอ่ยถึงในส่วนนี้นะคะ 555 // เราออกเดินทางกันแต่เช้าม้ากกกก ตั้งแต่มีแอร์พอร์ตลิ้งค์ก็สามารถกะเวลาเดินทางไปสนามบินได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวตกเครื่อง พวกเราเลือกเที่ยวบินขาไปเช้าๆและขากลับเป็นเที่ยวเย็น จะได้ใช้เวลาที่สิงคโปร์ให้เต็มที่ ครั้งนี้บินกับ Tiger Air ค่ะ ค่าตั๋วไป-กลับ ราคาอยู่ที่ 3762 บาท แบกเป้ลากกระเป๋ากันคนละใบ แล้วก็โหลดใบใหญ่ไว้ใส่ของช้อปขากลับรวมกัน
Changi Airport ได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก สะอาด ใหญ่โต ร้านรวงก็เยอะ ชอบมากกก >< แต่ตอนที่ต่อคิวตรง immigration รอนานมากกก เพราะคนเยอะมากๆๆ หลังจากผ่านจุดนี้ได้แล้วเราก็เริ่มต้นการเดินทางในสิงคโปร์ด้วยการไปซื้อบัตร E-Z link ราคา 12 SGD และเติมเงินเพิ่มอีก 10 SGD (สำหรับพวกเรา อยู่รอด 4 วันโดยไม่ต้องเติมอีก)
นั่งรถไฟฟ้าเพื่อไปหาที่พักที่เราจองไว้ ที่พักของเราชื่อ Burrow Hostel อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ (แนะนำสำหรับใครที่หาที่พักอยู่นะคะ ย่านนี้เวิร์คสุด ของกินของฝากมีให้เลือกเยอะมาก เดินทางก็สะดวก) เราจองห้องแบบ private มา 7 คน เหมา 8 เตียง เป็นเตียงสองชั้น ในห้องจะมีล็อคเกอร์ของใครของมัน ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ในส่วนนั่งเล่น ก็จะมีทีวี โน้ตบุ๊ค หนังสือ เกมกระดานให้เล่น ถัดมาใกล้ๆกันก็จะเป็นห้องครัว มีตู้เย็น ไมโครเวฟ โต๊ะกินข้าว มีถ้วยจานให้พร้อม กินอะไรแล้วก็ต้องล้างด้วยนะจ๊ะ ทุกเช้าเค้าก็จะมีอาหารเช้าให้คือพวกคอร์นเฟลค ขนมปัง ช็อคโกแลตร้อน กาแฟ พวกเราก็กินกันเต็มที่และคุ้มค่ามากกกก
หลังจากเช็คอิน เก็บสัมภาระ เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ออกไปสำรวจย่านไชน่าทาวน์ หามื้อเย็นกินกัน นอกจากข้าวมันไก่จะเป็นของขึ้นชื่อของสิงคโปร์แล้ว ของกินอีกอย่างที่ขึ้นชื่อไม่แพ้กันคือฟิชบอลหรือลูกชิ้นปลานั่นเอง (เคยดูรายการ food war แล้วเค้าบอกมาน่ะ 555) ลูกใหญ่นุ่มนิ่มมากๆๆ // ตรงนี้เค้าก็จะมีร้านอาหารเยอะมาก อารมณ์ฟู้ดคอร์ท ซื้อแล้วก็มาหาโต๊ะนั่งทานตามสบาย เสร็จแล้วก็ยกไปให้คุณลุงเก็บจานด้วยนะคะ
หลังจากอิ่มท้องแล้วก็ออกสำรวจต่อ จุดมุ่งหมายอีกอย่างในเวลานั้นก็คือการหาซื้ออินเตอร์เน็ต เราเลยเดินสำรวจเมืองกันไปเรื่อยๆ แวะเซเว่นทุกสาขาที่เดินผ่าน สิงคโปร์เป็นเมืองที่สะอาดและทุกอย่างดูเป็นระเบียบไปหมด สิ่งที่โดดเด่นที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนพูดถึงก็คือ"สถาปัตยกรรม"
Day 2 : 11/07/2015
วันนี้ทั้งวัน พวกเราทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับ " Universal Studio " เพราะถือเป็นไฮไลท์ของการเดินทางครั้งนี้เลย เราได้ตั๋วค่าเข้ามาในราคา 62 SGD หรือประมาณหนึ่งพันห้าร้อยกว่าบาท ซื้อที่ร้านซึ่งเราก็จำชื่อไม่ได้ น่าจะเป็นเกสเฮ้าส์ที่อยู่เยื้องๆกับวัดจีนในย่านไชน่าทาวน์ เจ้าของเป็นคนเกาหลี ตอนที่รับตั๋วมาอยู่ในมือ รู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่ครั้งแรกที่จับ 555 อาจจะฟังดูเวอร์ๆแต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่เราได้ไปสวนสนุกต่างประเทศ : )
มาถึงแล้ววววววว ยูนิเวอแซลลลล วันที่เราไปเป็นวันเสาร์ อากาศอบอ้าวและคนเยอะมากกกกกก จะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายอะไรก็รู้สึกเหมือนจะเสียเวลานิดๆ 555 เราต้องรีบทำเวลา เพราะเครื่องเล่นแต่ละอย่างต้องต่อแถวไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง
มาถึงแล้วก็ถ่ายรูปกับลูกโลกกันซะหน่อย จุดนี้พลาดไม่ได้ ถ้าไม่ได้ถ่ายก็เหมือนมาไม่ถึง ฮ่าๆๆ
ใกล้ๆลูกโลกก็จะมีร้าน Hershey's มาล่อตาล่อใจ และล่อเงินในกระเป๋าเรา 555
เดินเข้ามาถัดจากลูกโลก ก็จะเจอร้านขายของที่ระลึกก่อนเลย ชื่อ Universal Studio Store อยู่ในโซน Hollywood มีแต่ของน่ารักๆเต็มไปหมด แต่ที่ทุกคนดูจะตื่นเต้นมากคือ Minion Mart สาวกมินเนี่ยนเข้าไปแล้วแทบจะไม่อยากออกมาเลย ^^ เราก็เดินถ่ายรูปเล่นกันไปเรื่อยๆ ยังไม่ได้คิดจะซื้ออะไร เอาไว้แวะขากลับก็แล้วกัน : )
เราเริ่มต้นกันที่ฝั่งซ้าย โซนมาดากัสการ์ เล่นอะไรเบาๆชิวๆก่อน (ซึ่งไม่ได้ถ่ายรูปมา กลัวกล้องเปียก -"- ) เป็นเครื่องเล่นที่คล้ายๆเรือท่อนซุง ให้เราล่องเข้าไปในถ้ำ แล้วก็จะเจอกับตัวละครจากมาดากัสการ์เต็มไปหมด น่ารักดี เหมาะกับเด็กๆ ^^~
จากนั้นก็เดินย้อนกลับทางเดิม ไปทางฝั่งขวาแทน ผ่านโซน New York ไปที่ Sci-Fi City พุ่งตรงไปที่เครื่องเล่นที่หลายคนพูดถึงกันเยอะมากๆ คือ Transformers ต่อคิวนานมากกกกกกกก สำหรับคนชอบพวก 4D ก็คงจะฟินกันไป เพราะเค้าทำออกมาได้ดีจริงๆ แต่สำหรับเราขอบอกว่าเวียนหัวมาก 555
มาถึงโซน Ancient Egypt เรามาใช้ส่วนลดค่าอาหารที่ติดมากับตั๋วเข้าสวนสนุกกันที่นี่ เป็นครั้งแรกที่กินอาหารอินเดีย บรรยายไม่ถูกเลยทีเดียว... ส่วนของหวาน...ถึงจะฟรี แต่ก็...ไม่มีใครแตะเลย คิดว่าคงไม่ค่อยถูกปากคนไทยเท่าไหร่
หลังจากอิ่มท้องก็เดินหน้าลุยต่อ เครื่องเล่นต่อไปที่เราเล่นคือ Revenge of the Mummy เอาทุกอย่างฝากไว้ในล็อคเกอร์ แล้วก็เข้าไปเล่นกันได้เลย ที่นี่ก็ต่อคิวนานแต่น้อยกว่า Transformer นิดนึง ฮ่าๆๆ ตอนแรกเราก็คิดว่าเป็นเครื่องเล่นเบาๆเหมือนมาดากัสการ์ แต่พอต่อคิวไปจนจะถึงคิวเล่น เราก็เห็นที่จอว่า high speed roller coaster ... ขุ่นพระ ตอนนั้นใจเต้นมาก เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย แต่มาแล้วถอยหลังกลับไม่ได้ ฮือออออ T^T เรานั่งแถวหลังสุดกับพี่ๆ มือจับที่ล็อคไว้แน่นมาก มันก็ค่อยๆเคลื่อนตัวไปตามสเต็ปรถไฟเหาะ พอถึงจุดๆนึงเรารู้ว่ามันเตรียมจะพุ่งละเราก็หลับตาปี๋ ขุ่นพระ(ครั้งที่สอง)...มันพุ่งถอยหลัง! ใจตกไปอยู่ตาตุ่มเลย T T แต่ถึงจะกลัวที่สุดก็ถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่เราประทับใจที่สุดเลยก็ว่าได้
เดินกันต่อ ไปที่โซน The Lost World โซนนี้เราก็ชอบมากกก อินกับจูราสสิคสุดๆ 555 ตั้งใจไปเล่น Rapids Adventure อารมณ์แบบล่องแก่งดรีมเวิลล์ ต่อคิวนานม้ากกกกก พวกเราเตรียมเสื้อกันฝนไปเองด้วยจะได้ไม่ต้องไปเสียเงินเช่า เปียกนิดหน่อย เย็นสบายดี ^^
โซนสุดท้าย คือ Far Far Away ฟินกันไปสำหรับสาวๆ เหมือนอยู่ในเทพนิยาย มีปราสาท มีรถม้า ฟรุ้งฟริ้งมากกกก โซนนี้เราเข้าไปดู Shrek 4D Adventure หลงเข้าไปแบบงงๆแต่ก็ชอบนะ เป็นโรงหนังขนาดใหญ่ ดูเพลินๆได้นั่งพักให้หายปวดขาด้วย
ปิดท้ายด้วยเครื่องเล่นที่เราอยากเล่นม้ากกกก Puss in Boots Giant Journey ต่อคิวสักพักไม่นานก็ได้เล่น เป็นรถไฟเหาะแบบที่เด็กตัวเล็กๆก็นั่งได้ ขึ้นไปนั่งพักให้หายปวดขาได้อีก 555 ตกแต่งน่ารัก จำลองเหมือนเราขึ้นไปบนบ้านยักษ์เลย แต่เสียดายว่าช่วงมันสั้นไปนิด ได้เล่นแป๊บเดียว (เดี๋ยวมาต่อนะคะ)
[CR] [Singapore 2015] ~ Singapore first time ~ [4 days 3 nights]
จะทำอะไรก็สนุกสนานตามสไตล์สาวๆ (http://ppantip.com/topic/33031769 ฝากกระทู้วังเวียงด้วยนะคะ) ครั้งนี้ก็เหมือนกับครั้งที่แล้วค่ะ จขกท.ติดสอยห้อยตามไปกับแก๊งค์เพื่อนๆของพี่สาวรวมทั้งหมด 7 คน เดินทางกันวันที่ 10-13 กค.ที่ผ่านมา ลางานกันเรียบร้อย เงินพร้อม ตั๋วพร้อม ออกเดินทางกันเลยยย~~
Changi Airport ได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก สะอาด ใหญ่โต ร้านรวงก็เยอะ ชอบมากกก >< แต่ตอนที่ต่อคิวตรง immigration รอนานมากกก เพราะคนเยอะมากๆๆ หลังจากผ่านจุดนี้ได้แล้วเราก็เริ่มต้นการเดินทางในสิงคโปร์ด้วยการไปซื้อบัตร E-Z link ราคา 12 SGD และเติมเงินเพิ่มอีก 10 SGD (สำหรับพวกเรา อยู่รอด 4 วันโดยไม่ต้องเติมอีก)
จากนั้นก็เดินย้อนกลับทางเดิม ไปทางฝั่งขวาแทน ผ่านโซน New York ไปที่ Sci-Fi City พุ่งตรงไปที่เครื่องเล่นที่หลายคนพูดถึงกันเยอะมากๆ คือ Transformers ต่อคิวนานมากกกกกกกก สำหรับคนชอบพวก 4D ก็คงจะฟินกันไป เพราะเค้าทำออกมาได้ดีจริงๆ แต่สำหรับเราขอบอกว่าเวียนหัวมาก 555