เก็บเงินเเต่งงานกับแฟนเอง แต่แม่แฟนไม่อนุญาตให้เราเเต่งงานกัน ขอความคิดเห็นค่ะ

ขอเริ่มเรื่องเลยนะคะ   ไม่อยากให้ขี้เกียจอ่านกันเลย     ยาวหน่อยแต่อยากขอความเห็นของทุกคน    ยอมรับฟังทุกความคิดเห็นเพราะไม่สามารถปรึกษาใครได้จริงๆ
  



เราอายุ  30  ปี   แฟนอายุไล่เลี่ยกัน  29  เข้า  30   

พื้นเพบ้านแฟนฐานะปานกลาง  เป็นลูกชายคนที่ 2  มีพี่น้อง  3  คน  แฟนทำงานได้เงินเดือน  35,000  มีภาระผ่อนบ้านให้ที่บ้าน (ไม่ได้อยู่เองให้แม่อยู่)เดือนละ  10,000  

มีรถที่ผ่อนหมดแล้ว 1 คัน      ที่ผ่านมาก่อนคบกัน แฟนไม่เคยมีเงินเก็บ   จนคิดอยากจะแต่งงานจึงเริ่มเก็บเงินด้วยกัน  

เราครอบครัวฐานะปานกลาง  เราเป็นเสาหลัก     ได้รายได้รวมหลังหักค่าต่างๆ  37,000  

มีภาระให้เงินเดือนที่บ้าน  7,000  - 8,000   มีรถที่ผ่อนหมดแล้วเช่นกัน   แต่เรามีเงินเก็บ

ต้นปีที่ผ่านมาเราวางแผนเก็บเงินกัน     เพื่อแต่งงาน  เราเห็นว่าเราอายุเยอะแล้ว   แต่ได้ตกลงกันแล้วว่าจะไม่มีลูกเราไม่อยากมีภาระ

อีกอย่างอยากไปเที่ยวที่ไหนกัน  หรือเวลาแฟนมานอนบ้านก็สามารถอยู่ด้วยกันได้แบบเป็นส่วนตัว  ปกติต้องนั่งรวมกับพี่ๆน้องๆข้างล่าง

และส่วนหนึ่งคือญาติพี่น้องชอบถามมาทางพ่อแม่เวลาไปต่างจังหวัด

แม้พ่อแม่ไม่ซีเรียสและไม่เคยเร่ง   แต่เราอยากให้เค้าพูดได้ว่าเราแต่งงานแล้วหรือปล่อยให้เราไปไหนมาไหนกับแฟนได้โดยไม่ต้องคอยตอบคำถาม








ส่วนตัวแล้วไม่เคยคิดว่าทุกอย่างต้องพร้อม 100% ถึงจะแต่งงานได้  

ไม่ต้องมีเงินสำรองหลายๆแสน      เพราะคิดว่าค่อยๆสร้างไปด้วยกันหลังจากแต่งงาน

เวลาผ่านจนเกือบจะสิ้นปี   เราเก็บเงินได้  1  ก้อน  ซึ่งปลายปีจะเอาโบนัสมารวมนิดหน่อย   เพื่อใช้เป็นสินสอดและจัดงานเพียงพอแน่นอน  

เราได้พูดกับแม่มาตรงๆตลอดว่า   เงินที่จะมาจัดงานแต่งทั้งหมดคือเงินของหนูกับแฟนช่วยกันเก็บ     ครั้งแรกแม่ทัดทานเพราะไม่อยากให้เราแยกครอบครัว

เพราะกลัวว่า  ความรักแบบสามี ภรรยามีแต่ความเบื่อหน่าย  และเห็นว่าทุกวันนี้เรากับแฟนก็รักกันดีอยู่แล้ว   เราก็อธิบายว่าเราอยากทำให้ถูกต้อง   

แม่ก็บอกว่าตามใจ   ถ้าเก็บเงินกันมา   ก็ลำบากด้วยกันขนาดนี้แม่เอาเงินไม่ลงหรอก   

แม้เราจะบอกว่าจบงานแล้วจะให้แม่เก็บไว้นิดหน่อยแม่เรา ก็ยังยืนยันว่าไม่เอา  

เพราะทุกเดือนเราให้เงินเดือนที่บ้าน ทุกเดือนอยู่แล้ว   และโบนัสออกก็ให้ถ้าเป็นแบบนี้ไปตลอดถือว่ามีค่ากว่าสินสอด







เรื่องได้เกิดขึ้นจากการที่แฟนได้ไปบอกแม่แฟนว่าจะแต่งงาน   เพราะเรากำหนดว่าจะแต่งไม่เกินกลางปีหน้า

ถึงเวลานั้นเราจะคบกับแฟนมา 3  ปีแล้ว    แม่แฟนได้ถามแฟนถึงเงินที่จะใช้ในการจัดงาน

แฟนก็ได้อธิบายไปว่าช่วยกันเก็บไม่รบกวนเงินพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย   แค่ขอให้ไปช่วยเจรจาว่าจะแต่งงาน  

อย่างที่บอกไปว่า  เราอธิบายกับแม่เราไปแล้ว  ว่าเงินที่ใช้ในงานแต่งและสินสอดจะมีจำนวนเท่า นี้ๆ  แม่เราก็ตามใจเรา

วันที่แฟนมาคุยจะ คุยเรื่องรูปแบบงาน  และ วันจัดงานให้รับรู้เท่านั้น    นอกนั้นจะจัดการกันเอง  เพราะเราคิดว่าสร้างครอบครัวของเราเราต้องลงมือเอง   







เมื่อคืนแม่แฟนโทรมาร้องไห้กับเรา  บอกว่ายังไม่พร้อม   เราเลยถามไปตรงๆ  ว่าไม่พร้อมแม่ไม่พร้อมเรื่องไหนคะ  เพราะเรื่องเงินเราไม่รบกวนทางฝั่งบ้านใคร

หนูเก็บกันมาเอง  ต้องการมีพ่อแม่ไปร่วมยินดีกับเราแค่นั้น   เค้าก็บอกว่าตอนนี้แม่ไม่มีเงินซักบาทเลยนะ   ขอเวลาเราอีก 2 ปี  ให้เวลาแม่เก็บเงิน

เราก็ได้บอกไปว่า ก่อนคบแฟน  แฟนทำงานมา  5 ปี  แฟนไม่มีเงินเก็บเลยถ้าจะรอให้แฟนเก็บคนเดียวคงเพิ่มมาไม่มาก

และเงินที่ใช้ในงานตอนนี้ที่วางแผนไว้ก็เพียงพออยู่แล้ว  ขอเหตุผลในการยืดเวลาออกไปด้วยค่ะ

คุยไปเรื่อยๆแม่แฟน จึงบอกว่าพี่ชายคนโตแฟนให้เงินใช้เดือนละ 10,000-15,000  กับน้องชายสองคนก็ไม่พอเลยทุกวันนี้

เราคบกับแฟน  เราเข้าใจฐานะที่บ้านแฟนดีทุกอย่าง   ไปเที่ยวไหนเราหารกัน  แทบจะทุกครั้ง  นอกจากโอกาสพิเศษจริงๆ  เราไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยเพราะแฟนเราเป็นคนดีจริงๆ

เรื่องราววุ่นวายเพิ่มขึ้น   เมื่อพี่ชายแฟนซึ่งเหมือนเป็นใหญ่ในบ้านไม่เห็นด้วยที่เราจะแต่งงานกัน    และบอกแฟนว่าแฟนเรายังดูแลแม่ ดูแลที่บ้านไม่ดีพอ

จะแยกไปมีครอบครัว  แต่ลึกๆแล้ว  เราปะติดปะต่อเรื่องราว   ในคำพูดของแต่ละคน   ประเด็นแฝงคือกลัวว่าถ้าแฟนเราแต่งงานไปแล้วจะไม่รับผิดชอบที่บ้านต่อซึ่งไม่จริงเลย

เราตกลงกับแฟนไปแล้ว   ขอฝากเงินร่วมกันเหมือนเดิม ค่าใช้จ่ายส่วนตัวหรือจะใช่จ่ายกับทางบ้านไม่ขอยุ่ง    เราว่าเราแฟร์มากๆ


ตอนนี้เรารู้สึกด้อยค่ามาก   ช่วยกันเก็บเงินเงินกับผู้ชาย   แต่บ้านผู้ชายไม่ยอมให้แต่งงานด้วย  จะแต่งก็ต้องไปนั่งคุยกับพี่ชายกับแม่เค้าก่อน

แต่คือเราบอกพ่อ แม่ เราไปแล้ว  เพราะเราเห็นว่า  พ่อแม่เค้าจะมาคุยแล้ว   ไม่คิดว่าเรื่องจะมาพลิกภายในสัปดาห์เดียว   ทั้งๆที่แม่เตรียมต้อนรับแม่และพ่อแฟน
   
คิดเห็นยังไงกันบ้างคะ   แฟนพยายามช่วยพูดกับแม่เค้าอย่างเต็มที่    ว่าแผนการใช้เงินจัดงานของเราเป็นไร   เงินซองหลังจากหักค่าใช้จ่าย     ไม่ได้คาดหวังว่ากำไรหรือขาดทุน   

แต่มันจะกลายเป็นเงินเก็บเข้าบัญชีร่วมของเราเหมือนเดิมซึ่งบอกกับแฟนไว้แล้วว่า   หากอยากได้อะไรในช่วงเก็บเงินแต่งงาน  แล้วไม่ได้ซื้อ   แต่งงานเสร็จเราอนุมัติให้ซื้อแน่นอน

ตอนนี้ไม่อยากแต่ง  ไม่ใช่เพราะแฟนไม่แน่ใจว่าจะมีงานแต่งมั๊ยนะคะ    แต่เริ่มไม่มั่นใจในตัวแฟนไม่สามารถตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆเองได้เลย  

แต่หลายๆอย่างได้จายค่ามัดจำไปแล้วเพราะไม่คิดเลยว่าจะมีการเบรคจากแม่ของแฟนน่ะค่ะ

ขอผู้ใหญ่ หรือ ขอความเห็นจากคนนอกด้วยค่ะ     พูดวกวนสับสนไปหน่อยนะคะตอนนี้จิตใจอยากร้องไห้มากๆ   

หรือเราลืมดูตัวเองไปคะ  เรามีข้อบกพร่องตรงไหนชี้แจงให้เราทราบด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่