สวัสดีค่ะเพื่อนแอบซุ้มหาข้อมูลมานาน ถึงเวลาที่ตัวเองจะพาลูกรักทั้ง 3 ชิ้น มาอวดบ้างแล้ว ขอบอกก่อนว่าเราลองจริง ใช้จริงทุกตัว ได้รับเสียงตอบรับอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว หลายคนทักว่าหน้าสว่าง กระจ่างใสขึ้น ผิวดูมีน้ำมีนวลขึ้น ปลื้มเวอร์ บอกเลย ส่วนหนึ่งต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ในห้องแป้งทุกคนที่ทำให้เรามีวันนี้นะคะ
สวยเสกได้ด้วยมือเราแบบง่ายไม่ต้องพึ่งทางการแพทย์ ย้อนกลับไปที่ก่อนหน้านี้เราเป็นคนผิวค่อนข้างบาง แพ้ง่ายใช้อะไรก็แพ้ไปหมด เนื่องจากสภาพผิวของเราค่อนข้างแห้ง พอตกบ่ายหน้าก็จะมันช่วงทีโซน ปัญหาที่เราไม่รู้จะแก้ยังไงคือ ผิวไม่เนียน หน้าหมอง ผิวแห้งกร้าน หน้าเป็นขุยๆเวลาทาครีม แต่งหน้าก็ไม่ค่อยติดพอช่วงกลางวันหน้าเริ่มกลับมาเป็นสภาพเดิมก่อนแต่ง บางทีก้มันเยิ้มหนักกว่าก่อนแต่งหน้าอีก ไม่พอเพื่อชอบทักว่าหน้าตาเหมือนคนป่วย ดูผิวไม่มีชีวิตชีวา เวลามีคนมาทักแบบนี้มันเสียเซลฟ์บอกเลย ยิ่งหนุ่มๆมาทักนะ โหยยยย ยิ่งอาการหนัก
ทุกวันนั้นมัวแต่นั่งคิด จนคิดได้ว่าปัญหาขนาดนี้ หาหมอไหม? 555 จะได้จบๆ พอมีคนแนะนำเราก็เดินเข้าออกคลินิกรักษาอยู่หลายปี ช่วงปีหลังๆ มานี้ขี้เกียจและไม่มีเวลาเพราะทั้งเรียนทั้งทำงาน เราจึงตัดสินใจลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผลง่ายๆ เบื่อยาหมอแต่ไม่เคยเบื่อหมอ ตอนนั้นคิดแค่ว่า หากยังยึดคติว่าไม่กล้าที่จะเสี่ยงแล้วจะพบของที่ดีกว่าได้ยังไงกัน หากหน้าพังก็กลับไปให้หมอรักษาใหม่ นับหนึ่งใหม่แค่นั้น คิดง่ายเนอะ 555
จนเพื่อนๆ ในนี้แหละบอกว่า อยากมีสภาพผิวหน้าดี การดูแลตัวเองกินของดีมีประโยชย์ช่วยได้ 50% ที่เหลืออีก 50% จงฝากความหวังไว้กับครีมที่ใช้ เราเริ่มหาข้อมูลแล้วไปเจอว่าคนที่ผิวแพ้ง่ายอาจเป็นเพราะผิวขาดน้ำ ไม่ชุ่มชื่น เออหรือจะจริงเพราะเราก็หน้าแห้งเป็นขุยจิง ๆ เลยไปหาข้อมูลการเติมน้ำให้ผิว นั่นไงไปเจอของเด็ด Sleeping Mask ที่กำลังฮอตฮิต พอลองค้นไปก็เจอไม่กี่ตัวที่มีคุณสมบัติเจ๋งๆ ที่ว่ากันว่าใช้แล้วดี เพียงทาแล้วหลับไปตื่นมาหน้าใสราวตูดเด็กเลยทีเดียว และยังช่วยอุ่มน้ำบนผิวหน้าให้ชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าไม่แห้งกร้าน เป็นการบำรุงจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริงด้วยนะดีเวอร์ คือข้อมูลทั้งหมดที่อ่านไม่ ถามหน่อยนะ ใครไม่อยากลองบ้าง ฮ่า
เราทดลองใช้จริงๆมาทั้งหมด 3 ตัวเลย แต่ว่าไม่ได้ลองพร้อมกันนะ อารมณ์ประมาณว่าครัวคุณต๋อย ชิวทีละร้านทีละจาน อันนี้ก็เหมือนกัน เราค่อยๆทดลองใช้ทีละตัวๆ จะได้รู้ว่าตัวไหนดีกว่ากัน เพราะบางทีเชื่อคนนั้นคนนี้ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่ากับทดลองใช้ด้วยตัวเอง ว่ามั้ยยย ???
พร้อมแล้วมาลุยกันเลยยยย !!
มาเริ่มที่ตัวแรก
Laneige Sleeping Maskผู้โด่งดัง
ราคา 1,100 บาท
ขนาด 70 มล.
ตัวนี้เปิดตัวมาเป็นเจ้าแรกกันเลย เพราะช่วงนั้นที่หามาส์กบำรุง ตัวนี้เค้ากำลังมาแรง เพราะจริงๆก็มีเพื่อนใช้อยู่เหมือนกัน นางบอกว่าดีแนะนำเรามา เราก็เลยไปลองมาใช้ เป็นครีมมาส์กตัวแรกเลยนะที่เราได้ลอง
ความประทับใจ: เป็นตัวที่มีคุณสมบัติค่อนข้างใช้ได้เลย ช่วยให้หน้าอิดโรยกลับมาเต่งตึงได้ หลังลองใช้สิ่งที่เราชอบคือ เนื้อครีมเป็นเจลบางเบาสีฟ้าใส รู้สึกเย็นๆเวลาทาลงไปที่หน้า และยังให้ความชุ่มชื่นกับผิวแด้วย เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวค่อยๆ ขาวขึ้น แต่ตรงนี้ต้องใช้เวลาพอสมควรเหมือนกันนะ เราใช้ประมาณ 2 เดือนเกือบ 3 เดือนถึงจะเริ่มมีคนทักว่าหน้าขาวขึ้น อีกอย่างคือเราชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ ของอโรมา ช่วยทำให้หลับสบายมากขึ้น เราว่าครีมประเภทนี้เหมาะกับคนนอนน้อยมากๆ วันไหนนอนแค่ 3-4 ชม. แต่อยากให้หน้าเด้ง ไม่เหนื่อยล้า ใช้ตัวนี้แล้วหน้าจะไม่อิดโรยเท่าไหร่ ชนะใจตรงนี้แหละ แต่เรื่องขนาด ทำให้เจ็บๆ คันๆ นิดๆ เมื่อเทียบกับราคา ถือว่ารับได้ไม่ขี้เหล่เท่าไหร่ ซื้อต่อแน่ๆ
มาดูเนื้อครีมกันชัดๆ เนื้อครีมค่อนข้างบางเบา ทาแล้วไม่เหนอะหนะเลย เวลาทาจะรู้สึกเย็นๆ ซึมง่ายอีกด้วยนะ ปกติเราก็เป็นคนขาวอยู่แล้ว ใช้แล้วเลยไม่ค่อยเห็นความแตกต่างในเรื่องของความขาว ส่วมากเพื่อนจะทักว่าผิวใส ดูชุ่มชื่นขึ้นมากกว่า
เคล็ดลับการใช้: อาจด้วยตัวครีมมีลักษณะเป็นน้ำ เวลาทาลงผิวเนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวค่อนข้างเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ สังเกตก่อนทาเนื้อครีมจะเป็นสีฟ้าเจลใสๆ แต่พอทาไปแล้วใสกลืนไปกับผิวมาก เพื่อความสบายผิวเราชอบเอาครีมไปแช่ตู้เย็น 10-15 นาที ก่อนค่อยนำมาทาให้ทั่วใบหน้า ตื่นเช้ามาจะรู้สึกได้ทันทีว่าผิวอิ่มน้ำมากๆ และนุ่มเด้งสุดๆ เหมาะกับคนที่ชอบอะไรเบาๆ ไม่หนัก เราแนะนำตัวนี้เลย
มาต่อกันที่ตัวที่ 2 กันเลย
Vichy Aqualia Thermal Night Spa
ราคา: 1,100 บาท
ขนาด: 75 มล.
บอกก่อนเลยว่าตัวนี้ปลื้มมาก ปลื้มตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับผิวหน้าเลย ตัวนี้เหตุผลที่ได้ทดลองใช้คือ ไปเดิน Boots แล้วบังเอิญไปเห็น มีน้อง BA มาแนะนำ ใจง่ายมากเรา ฮ่าๆๆ ตัดสินใจเอามาลองที่บ้านเลย
ความประทับใจ: ชอบตัวนี้มากกกกกกก ( ก.ไก่ล้านตัว)เพราะวันไหนที่ทำงานเหนื่อยๆ หน้าล้าๆ โทรมๆ หน้าตาไม่สดชื่น ให้หยิบ Aqualia Night Spa เนื้อเจลครีมสีฟ้ามาใช้ เคล็ดลับอยู่ที่มาส์กตัวนี้แปลงร่างได้ หากอยากให้เป็น Night Cream ก็ทาให้ทั่วใบหน้าเพียงรอบเดียว หากวันไหนคิดว่าไม่ไหวแล้ว ใบหน้าต้องได้รับการบำรุงอย่างเร่งด่วน ก็เปลี่ยนมาทำ มาส์ก แทน สามารถทำได้โดยการเพิ่มปริมาณทาเนื้อครีมให้หน้า ให้หนาขึ้นถึง 2 เท่าจากการทาครีมปกติ โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาและบริเวณริมฝีปากไว้ จากนั้นไปนอนคะ ไม่ต้องรอล้างออก ไม่ต้องยุ่งยาก ตื่นมาแล้วหน้าใสเด้งมาก เห็นผลได้ทันทีตั้งแต่ใช้ครั้งแรก จนต้องตกใจกับผลที่ได้รับเลยทีเดียว พอเราเริ่มใช้ไปสักพักประมาณ 2 สัปดาห์ หน้าเราเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นมาก ผิวหน้าชุ่มชื่นสุดๆ ผิวนุ่มเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น หน้าใสดูเปล่างปลั่ง มีชีวิตชีวา และในตลอดวันหน้าก็ไม่แห้งด้วยนะ แถมแต่งหน้าติดมากขึ้นด้วยนะเทอว์
ขอโชว์เนื้อครีมของตัวโปรดกันบ้าง จริงๆเนื้อครีมก็ไม่ได้ต่างกับ Laneige เท่าไหร่ แต่จะมีความเข้มข้นมากกว่า ลองสังเกตจากภาพที่ 3 ตอนที่กำลังทานั้นเนื้อครีมยังคงความเข้มข้นอยู่เลย แต่พอทาไปสักพักแล้วจะค่อยๆ แห้งซึมไปกับผิว แต่ใช้เวลาไม่นานนะ ถึงเนื้อครีมจะเข้มข้น แต่ว่าซึมเริ่มพอตัวอยู่นะ ไม่แพ้กับ Laneige เหมือนกัน แต่พอหน้าแห้งแล้วสัมผัสอีกครั้ง หน้ายังดูวาวๆนิ่มๆอยู่นะ ไม่ใช่แห้งกร้านไปเลย
เคล็ดลับการใช้ส่วนตัว (เลียนแบบได้ ): ทุกครั้งก่อนใช้แนะนำให้นำไปแช่ตู้เย็นก่อน 10-15 นาที (เราใช้เหมือนกับ Laneige เลย เพราะชอบให้หน้าเย็น มันจะรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเกือบ 80 % จริงๆนะ ) จากนั้นค่อยๆ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางปาดเนื้อครีมขึ้นมา ลักษณะการทาให้ทาครีมเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้า เพื่อให้เนื้อครีมซึมซับเข้าสู้ผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้นกลิ่นหอมอ่อนๆ ของครีม ยังช่วยให้ผ่อนคลายสบายผิวและสดชื่นได้ทันที เราแนะนำหากอยากเนรมิตรเป็นมาส์ก ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะดีนะคะ นอกนั้นก็ใช้เป็น Night Cream ปกติ ดีสมชื่อ Night spa ( แอบอ่านโบรชัวร์ เค้ามาอีกทีว่า เหมือนยกสปาหรูมาไว้ตั้งที่บ้านจริงๆ) ตัวนี้ใช้อยู่และจะไม่เปลี่ยนแปลง ซื้อต่ออีกหลายครั้งแน่นอนค่ะ คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด สามผ่านไปเลยลู๊กกกก
ตอนนี้มาถึงตัวสุดท้าย
Neutrogena Hydro Boots night concentrate
(ไม่รู้ทำไมเห็นครีมแล้วนึกถึงมากี้ตลอดเลอ)
ราคา: 820 บาท
ขนาด: 50 กรัม
ตัวนี้เพิ่งคลอดมา 2 อาทิตย์เอง เพราะเห็นโฆษณามาแรงในช่วงนี้ เลยอยากจะลองใช้ดูว่าจะได้ผลลัพธ์ มาดูกันว่าจะเป็นยังไง
ความประทับใจ: สารภาพว่าซื้อมาเพราะเจอโปรแรง เห็นเค้าเคลมว่า ฟื้นฟูสภาพผิวได้ เทียบเท่ามาส์ก 10 แผ่น นั่น
หมายความว่า ทาเจ้ากระปุกนี้เพียงครั้งเดียว จะได้รับความชุ่มชื่นเหมือนใช้มาส์ก 10 แผ่นเชียวเหรอ อุต๊ะ จิงๆแล้วเรา
ก็เคยลองมาส์กหน้าแบบแผ่นนะ แต่ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ เอาน่ะ ลองดู พอลองแล้ว รู้สึกว่าหน้าชุ่มชื่นทันที วันไหนอยากบำรุงเพิ่มก็จัดตัวนี้โบ๊ะหน้าก่อนนอน จุดเด่นอยู่ที่ เม็ดบีทส์วิตามินอี เมื่อทาลงผิวจะแตกตัวช่วยเติมความ
ชุ่มชื่นให้ผิวตลอดทั้งคืน
เคล็ดลับการใช้: ตัวนี้ค่อนข้างใช้ง่าย แค่ทาให้ทั่วใบหน้าแล้วนอน ดูจากเนื้อครีมมีเม็ดบีชเล็กสีออกน้ำเงินๆ อยู่ด้วย แต่พอค่อยๆทาไปสักพักจะหายไปเป็นเนื้อเดียวกับครีมเลย ผลลัพท์ที่ได้ทันทีคือ ผิวชุ่มชื่น ขุยๆ บริเวณหน้าลดลง แต่ใช้ไปนานๆ แล้วผลที่ได้ค่อนข้างนิ่ง ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ส่วนตัวเฉยๆ อาจซื้อต่อถ้ามีโปรเจ๋งๆ
สรุปส่งท้าย
1. Laneige คุณสมบัติใกล้เคียง Aqualia Night Spa แต่ที่แพ้แบบฉิวเฉียดคงเป็นเรื่องขนาดและราคา เพราะ Aqualia Night Spa ได้ขนาดเยอะกว่า 5 มล. ในราคาเท่ากัน ส่วนเนื้อครีมหลังใช้ เหมาะกับคนเวลาน้อย หน้าอิดโรยบ่อยๆ ทำงานดึกๆ ไม่ค่อยได้นอน คว้ามาใช้ได้ แต่หากยังมีพฤติกรรมการนอนเดิมๆ ไม่เปลี่ยน ครีมตัวนี้ก็ไม่ช่วยชีวิตนะคะ
2. Aqualia Night Spa หน้าอิ่มน้ำ เด้งขึ้น ยิ่งใช้ผิวหน้ายิ่งดีขึ้น เติมความชุ่มชื้นให้ผิวค่อนข้างดี ตัวนี้เรายกให้เป็นลูกรัก เลิกผลิตจะบุกไปพังบริษัทเลยทีเดียว ผิวแพ้ง่ายอย่างเรายังใช้ได้ เลยแนะนำให้คนใกล้ตัวได้ลอง เสียงตอบรับกินขาด ชนะเริ่ด ปรบมือให้รั่วๆ
3. Neutrogena Hydro Boots night concentrate น้องเล็กราคาเบาสุด ขนาดย่อมเยา เหมาะกับคนที่งบน้อย และอยากลองเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ในหมวด Sleeping Mask เหมาะกับทุกสภาพผิว หากต้องเลือกใช้มาส์กแบบแผ่นหรือ Neutrogena Hydro Boots night concentrate จงเลือกอย่างหลัง เพราะทาแค่ครั้งเดียวเทียบได้กับต้องใช้มาส์กแผ่นถึง 10 แผ่นเลยทีเดียว
ในความรู้สึกเราพอได้ลองใช้แล้วรู้สึกว่าสภาพหน้าเหมือนมีเกราะป้องกันความแข็งแรงมากขึ้น จากผิวที่แห้งมากๆ ต้องพึ่งยาหมอตลอดเวลา ตอนนี้กลับค้นพบว่าสภาพผิวหน้าดีขึ้น สามารถใช้ครีมเคาร์เตอร์แบรนด์ได้บ้างแล้ว จากที่เคยแพ้ อาการเหล่านั้นหายไป เพราะใบหน้าเราแข็งแรง เนียนนุ่มชุ่มชื่นขึ้น ยิ่งใช้ยิ่งดีต่อผิวหน้า จบการรีวิวฉบับบ้านๆ ของเราที่ใช้จริง พิสูจน์มาแล้วว่าของดีจริง ไม่ลองไม่รู้ ต้องลองเองถึงจะรู้นะคะ
Review รีวิว Sleeping Mask เทพๆ ลองจริง ใช้จริง ผิวหน้าดีเวอร์ จนใครๆ ก็ทัก ใช้แล้วดีจริง จึงอยากบอกต่อ เร่เข้ามาเร็วๆ
สวยเสกได้ด้วยมือเราแบบง่ายไม่ต้องพึ่งทางการแพทย์ ย้อนกลับไปที่ก่อนหน้านี้เราเป็นคนผิวค่อนข้างบาง แพ้ง่ายใช้อะไรก็แพ้ไปหมด เนื่องจากสภาพผิวของเราค่อนข้างแห้ง พอตกบ่ายหน้าก็จะมันช่วงทีโซน ปัญหาที่เราไม่รู้จะแก้ยังไงคือ ผิวไม่เนียน หน้าหมอง ผิวแห้งกร้าน หน้าเป็นขุยๆเวลาทาครีม แต่งหน้าก็ไม่ค่อยติดพอช่วงกลางวันหน้าเริ่มกลับมาเป็นสภาพเดิมก่อนแต่ง บางทีก้มันเยิ้มหนักกว่าก่อนแต่งหน้าอีก ไม่พอเพื่อชอบทักว่าหน้าตาเหมือนคนป่วย ดูผิวไม่มีชีวิตชีวา เวลามีคนมาทักแบบนี้มันเสียเซลฟ์บอกเลย ยิ่งหนุ่มๆมาทักนะ โหยยยย ยิ่งอาการหนัก
ทุกวันนั้นมัวแต่นั่งคิด จนคิดได้ว่าปัญหาขนาดนี้ หาหมอไหม? 555 จะได้จบๆ พอมีคนแนะนำเราก็เดินเข้าออกคลินิกรักษาอยู่หลายปี ช่วงปีหลังๆ มานี้ขี้เกียจและไม่มีเวลาเพราะทั้งเรียนทั้งทำงาน เราจึงตัดสินใจลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผลง่ายๆ เบื่อยาหมอแต่ไม่เคยเบื่อหมอ ตอนนั้นคิดแค่ว่า หากยังยึดคติว่าไม่กล้าที่จะเสี่ยงแล้วจะพบของที่ดีกว่าได้ยังไงกัน หากหน้าพังก็กลับไปให้หมอรักษาใหม่ นับหนึ่งใหม่แค่นั้น คิดง่ายเนอะ 555
จนเพื่อนๆ ในนี้แหละบอกว่า อยากมีสภาพผิวหน้าดี การดูแลตัวเองกินของดีมีประโยชย์ช่วยได้ 50% ที่เหลืออีก 50% จงฝากความหวังไว้กับครีมที่ใช้ เราเริ่มหาข้อมูลแล้วไปเจอว่าคนที่ผิวแพ้ง่ายอาจเป็นเพราะผิวขาดน้ำ ไม่ชุ่มชื่น เออหรือจะจริงเพราะเราก็หน้าแห้งเป็นขุยจิง ๆ เลยไปหาข้อมูลการเติมน้ำให้ผิว นั่นไงไปเจอของเด็ด Sleeping Mask ที่กำลังฮอตฮิต พอลองค้นไปก็เจอไม่กี่ตัวที่มีคุณสมบัติเจ๋งๆ ที่ว่ากันว่าใช้แล้วดี เพียงทาแล้วหลับไปตื่นมาหน้าใสราวตูดเด็กเลยทีเดียว และยังช่วยอุ่มน้ำบนผิวหน้าให้ชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าไม่แห้งกร้าน เป็นการบำรุงจากภายในสู่ภายนอกอย่างแท้จริงด้วยนะดีเวอร์ คือข้อมูลทั้งหมดที่อ่านไม่ ถามหน่อยนะ ใครไม่อยากลองบ้าง ฮ่า
เราทดลองใช้จริงๆมาทั้งหมด 3 ตัวเลย แต่ว่าไม่ได้ลองพร้อมกันนะ อารมณ์ประมาณว่าครัวคุณต๋อย ชิวทีละร้านทีละจาน อันนี้ก็เหมือนกัน เราค่อยๆทดลองใช้ทีละตัวๆ จะได้รู้ว่าตัวไหนดีกว่ากัน เพราะบางทีเชื่อคนนั้นคนนี้ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่ากับทดลองใช้ด้วยตัวเอง ว่ามั้ยยย ???
พร้อมแล้วมาลุยกันเลยยยย !!
มาเริ่มที่ตัวแรก Laneige Sleeping Maskผู้โด่งดัง
ราคา 1,100 บาท
ขนาด 70 มล.
ตัวนี้เปิดตัวมาเป็นเจ้าแรกกันเลย เพราะช่วงนั้นที่หามาส์กบำรุง ตัวนี้เค้ากำลังมาแรง เพราะจริงๆก็มีเพื่อนใช้อยู่เหมือนกัน นางบอกว่าดีแนะนำเรามา เราก็เลยไปลองมาใช้ เป็นครีมมาส์กตัวแรกเลยนะที่เราได้ลอง
ความประทับใจ: เป็นตัวที่มีคุณสมบัติค่อนข้างใช้ได้เลย ช่วยให้หน้าอิดโรยกลับมาเต่งตึงได้ หลังลองใช้สิ่งที่เราชอบคือ เนื้อครีมเป็นเจลบางเบาสีฟ้าใส รู้สึกเย็นๆเวลาทาลงไปที่หน้า และยังให้ความชุ่มชื่นกับผิวแด้วย เพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวค่อยๆ ขาวขึ้น แต่ตรงนี้ต้องใช้เวลาพอสมควรเหมือนกันนะ เราใช้ประมาณ 2 เดือนเกือบ 3 เดือนถึงจะเริ่มมีคนทักว่าหน้าขาวขึ้น อีกอย่างคือเราชอบกลิ่นหอมอ่อนๆ ของอโรมา ช่วยทำให้หลับสบายมากขึ้น เราว่าครีมประเภทนี้เหมาะกับคนนอนน้อยมากๆ วันไหนนอนแค่ 3-4 ชม. แต่อยากให้หน้าเด้ง ไม่เหนื่อยล้า ใช้ตัวนี้แล้วหน้าจะไม่อิดโรยเท่าไหร่ ชนะใจตรงนี้แหละ แต่เรื่องขนาด ทำให้เจ็บๆ คันๆ นิดๆ เมื่อเทียบกับราคา ถือว่ารับได้ไม่ขี้เหล่เท่าไหร่ ซื้อต่อแน่ๆ
มาดูเนื้อครีมกันชัดๆ เนื้อครีมค่อนข้างบางเบา ทาแล้วไม่เหนอะหนะเลย เวลาทาจะรู้สึกเย็นๆ ซึมง่ายอีกด้วยนะ ปกติเราก็เป็นคนขาวอยู่แล้ว ใช้แล้วเลยไม่ค่อยเห็นความแตกต่างในเรื่องของความขาว ส่วมากเพื่อนจะทักว่าผิวใส ดูชุ่มชื่นขึ้นมากกว่า
เคล็ดลับการใช้: อาจด้วยตัวครีมมีลักษณะเป็นน้ำ เวลาทาลงผิวเนื้อครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวค่อนข้างเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ สังเกตก่อนทาเนื้อครีมจะเป็นสีฟ้าเจลใสๆ แต่พอทาไปแล้วใสกลืนไปกับผิวมาก เพื่อความสบายผิวเราชอบเอาครีมไปแช่ตู้เย็น 10-15 นาที ก่อนค่อยนำมาทาให้ทั่วใบหน้า ตื่นเช้ามาจะรู้สึกได้ทันทีว่าผิวอิ่มน้ำมากๆ และนุ่มเด้งสุดๆ เหมาะกับคนที่ชอบอะไรเบาๆ ไม่หนัก เราแนะนำตัวนี้เลย
มาต่อกันที่ตัวที่ 2 กันเลย Vichy Aqualia Thermal Night Spa
ราคา: 1,100 บาท
ขนาด: 75 มล.
ความประทับใจ: ชอบตัวนี้มากกกกกกก ( ก.ไก่ล้านตัว)เพราะวันไหนที่ทำงานเหนื่อยๆ หน้าล้าๆ โทรมๆ หน้าตาไม่สดชื่น ให้หยิบ Aqualia Night Spa เนื้อเจลครีมสีฟ้ามาใช้ เคล็ดลับอยู่ที่มาส์กตัวนี้แปลงร่างได้ หากอยากให้เป็น Night Cream ก็ทาให้ทั่วใบหน้าเพียงรอบเดียว หากวันไหนคิดว่าไม่ไหวแล้ว ใบหน้าต้องได้รับการบำรุงอย่างเร่งด่วน ก็เปลี่ยนมาทำ มาส์ก แทน สามารถทำได้โดยการเพิ่มปริมาณทาเนื้อครีมให้หน้า ให้หนาขึ้นถึง 2 เท่าจากการทาครีมปกติ โดยเว้นบริเวณรอบดวงตาและบริเวณริมฝีปากไว้ จากนั้นไปนอนคะ ไม่ต้องรอล้างออก ไม่ต้องยุ่งยาก ตื่นมาแล้วหน้าใสเด้งมาก เห็นผลได้ทันทีตั้งแต่ใช้ครั้งแรก จนต้องตกใจกับผลที่ได้รับเลยทีเดียว พอเราเริ่มใช้ไปสักพักประมาณ 2 สัปดาห์ หน้าเราเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นมาก ผิวหน้าชุ่มชื่นสุดๆ ผิวนุ่มเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น หน้าใสดูเปล่างปลั่ง มีชีวิตชีวา และในตลอดวันหน้าก็ไม่แห้งด้วยนะ แถมแต่งหน้าติดมากขึ้นด้วยนะเทอว์
ขอโชว์เนื้อครีมของตัวโปรดกันบ้าง จริงๆเนื้อครีมก็ไม่ได้ต่างกับ Laneige เท่าไหร่ แต่จะมีความเข้มข้นมากกว่า ลองสังเกตจากภาพที่ 3 ตอนที่กำลังทานั้นเนื้อครีมยังคงความเข้มข้นอยู่เลย แต่พอทาไปสักพักแล้วจะค่อยๆ แห้งซึมไปกับผิว แต่ใช้เวลาไม่นานนะ ถึงเนื้อครีมจะเข้มข้น แต่ว่าซึมเริ่มพอตัวอยู่นะ ไม่แพ้กับ Laneige เหมือนกัน แต่พอหน้าแห้งแล้วสัมผัสอีกครั้ง หน้ายังดูวาวๆนิ่มๆอยู่นะ ไม่ใช่แห้งกร้านไปเลย
เคล็ดลับการใช้ส่วนตัว (เลียนแบบได้ ): ทุกครั้งก่อนใช้แนะนำให้นำไปแช่ตู้เย็นก่อน 10-15 นาที (เราใช้เหมือนกับ Laneige เลย เพราะชอบให้หน้าเย็น มันจะรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเกือบ 80 % จริงๆนะ ) จากนั้นค่อยๆ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางปาดเนื้อครีมขึ้นมา ลักษณะการทาให้ทาครีมเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้า เพื่อให้เนื้อครีมซึมซับเข้าสู้ผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้นกลิ่นหอมอ่อนๆ ของครีม ยังช่วยให้ผ่อนคลายสบายผิวและสดชื่นได้ทันที เราแนะนำหากอยากเนรมิตรเป็นมาส์ก ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะดีนะคะ นอกนั้นก็ใช้เป็น Night Cream ปกติ ดีสมชื่อ Night spa ( แอบอ่านโบรชัวร์ เค้ามาอีกทีว่า เหมือนยกสปาหรูมาไว้ตั้งที่บ้านจริงๆ) ตัวนี้ใช้อยู่และจะไม่เปลี่ยนแปลง ซื้อต่ออีกหลายครั้งแน่นอนค่ะ คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด สามผ่านไปเลยลู๊กกกก
ตอนนี้มาถึงตัวสุดท้าย Neutrogena Hydro Boots night concentrate
(ไม่รู้ทำไมเห็นครีมแล้วนึกถึงมากี้ตลอดเลอ)
ราคา: 820 บาท
ขนาด: 50 กรัม
ตัวนี้เพิ่งคลอดมา 2 อาทิตย์เอง เพราะเห็นโฆษณามาแรงในช่วงนี้ เลยอยากจะลองใช้ดูว่าจะได้ผลลัพธ์ มาดูกันว่าจะเป็นยังไง
ความประทับใจ: สารภาพว่าซื้อมาเพราะเจอโปรแรง เห็นเค้าเคลมว่า ฟื้นฟูสภาพผิวได้ เทียบเท่ามาส์ก 10 แผ่น นั่น
หมายความว่า ทาเจ้ากระปุกนี้เพียงครั้งเดียว จะได้รับความชุ่มชื่นเหมือนใช้มาส์ก 10 แผ่นเชียวเหรอ อุต๊ะ จิงๆแล้วเรา
ก็เคยลองมาส์กหน้าแบบแผ่นนะ แต่ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ เอาน่ะ ลองดู พอลองแล้ว รู้สึกว่าหน้าชุ่มชื่นทันที วันไหนอยากบำรุงเพิ่มก็จัดตัวนี้โบ๊ะหน้าก่อนนอน จุดเด่นอยู่ที่ เม็ดบีทส์วิตามินอี เมื่อทาลงผิวจะแตกตัวช่วยเติมความ
ชุ่มชื่นให้ผิวตลอดทั้งคืน
เคล็ดลับการใช้: ตัวนี้ค่อนข้างใช้ง่าย แค่ทาให้ทั่วใบหน้าแล้วนอน ดูจากเนื้อครีมมีเม็ดบีชเล็กสีออกน้ำเงินๆ อยู่ด้วย แต่พอค่อยๆทาไปสักพักจะหายไปเป็นเนื้อเดียวกับครีมเลย ผลลัพท์ที่ได้ทันทีคือ ผิวชุ่มชื่น ขุยๆ บริเวณหน้าลดลง แต่ใช้ไปนานๆ แล้วผลที่ได้ค่อนข้างนิ่ง ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ส่วนตัวเฉยๆ อาจซื้อต่อถ้ามีโปรเจ๋งๆ
สรุปส่งท้าย
1. Laneige คุณสมบัติใกล้เคียง Aqualia Night Spa แต่ที่แพ้แบบฉิวเฉียดคงเป็นเรื่องขนาดและราคา เพราะ Aqualia Night Spa ได้ขนาดเยอะกว่า 5 มล. ในราคาเท่ากัน ส่วนเนื้อครีมหลังใช้ เหมาะกับคนเวลาน้อย หน้าอิดโรยบ่อยๆ ทำงานดึกๆ ไม่ค่อยได้นอน คว้ามาใช้ได้ แต่หากยังมีพฤติกรรมการนอนเดิมๆ ไม่เปลี่ยน ครีมตัวนี้ก็ไม่ช่วยชีวิตนะคะ
2. Aqualia Night Spa หน้าอิ่มน้ำ เด้งขึ้น ยิ่งใช้ผิวหน้ายิ่งดีขึ้น เติมความชุ่มชื้นให้ผิวค่อนข้างดี ตัวนี้เรายกให้เป็นลูกรัก เลิกผลิตจะบุกไปพังบริษัทเลยทีเดียว ผิวแพ้ง่ายอย่างเรายังใช้ได้ เลยแนะนำให้คนใกล้ตัวได้ลอง เสียงตอบรับกินขาด ชนะเริ่ด ปรบมือให้รั่วๆ
3. Neutrogena Hydro Boots night concentrate น้องเล็กราคาเบาสุด ขนาดย่อมเยา เหมาะกับคนที่งบน้อย และอยากลองเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ในหมวด Sleeping Mask เหมาะกับทุกสภาพผิว หากต้องเลือกใช้มาส์กแบบแผ่นหรือ Neutrogena Hydro Boots night concentrate จงเลือกอย่างหลัง เพราะทาแค่ครั้งเดียวเทียบได้กับต้องใช้มาส์กแผ่นถึง 10 แผ่นเลยทีเดียว
ในความรู้สึกเราพอได้ลองใช้แล้วรู้สึกว่าสภาพหน้าเหมือนมีเกราะป้องกันความแข็งแรงมากขึ้น จากผิวที่แห้งมากๆ ต้องพึ่งยาหมอตลอดเวลา ตอนนี้กลับค้นพบว่าสภาพผิวหน้าดีขึ้น สามารถใช้ครีมเคาร์เตอร์แบรนด์ได้บ้างแล้ว จากที่เคยแพ้ อาการเหล่านั้นหายไป เพราะใบหน้าเราแข็งแรง เนียนนุ่มชุ่มชื่นขึ้น ยิ่งใช้ยิ่งดีต่อผิวหน้า จบการรีวิวฉบับบ้านๆ ของเราที่ใช้จริง พิสูจน์มาแล้วว่าของดีจริง ไม่ลองไม่รู้ ต้องลองเองถึงจะรู้นะคะ