เนื่องจากได้ ทำหนังสือค้ำประกัน การใช้ไฟฟ้า ไว้กับ ธนาคาร กสิกร จำกัด (มหาชน) สาขา ภูเก็ต ไว้ 2 ฉบับ
     1 . ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2551  จำนวนเงิน     64,000 บาท

     2 . ลงวันที่ 22 มีนาคม      2556  จำนวนเงิน   100,000 บาท  


  
       ไม่มีปัญหาอะไร จนมาประมาณ เดือน มีนาคม 2558  มีโทรศัพท์ จาก ธนาคาร แจ้งมาว่า บัญชี ติดลบ ให้ไปติดต่อสาขา สอบถามอะไรก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ กระต่ายขาเดียว ให้ติดต่อสาขา เท่านั้น    เมื่อได้เข้าไปติดต่อสาขา สาขาแจ้งว่า เป็นการตัดค่า ธรรมเนียม หนังสือค้ำประกันไฟฟ้า จึงได้ขอทราบ รายละเอียดการเดินบัญชี กระแสรายวัน จึงทราบว่า

                      - เป็นการตัดค่าธรรมเนียม จำนวน เงิน 1,280 บาท จำนวน 24 เดือน ตั้งแต่ วันที่ 30/09/56 - 30/09/58 หนังสือค้ำประกัน 64,000 บาท อัตรา 1 เปอร์เซ็นต์ 24 เดือน ลงวันที่ ในใบเสร็จ 24/08/58 (ตัดไปตั้งแต่ เดือน 20/02/2558)
                      - เป็นการตัดค่าธรรมเนียม จำนวน เงิน 3,000 บาท จำนวน 18 เดือน ตั้งแต่ วันที่ 30/09/56 - 30/03/58 หนังสือค้ำประกัน 100,000 บาท อัตรา 1 เปอร์เซ็นต์ 18 เดือน ลงวันที่ ในใบเสร็จ 24/08/58 (ตัดไปตั้งแต่ เดือน 20/02/2558  และ หนังสือค้ำประกัน ที่ได้ทำเอาไว้ เริ่มลงวันที่ 22/3/56 แต่เดือน 30/09/56 โดนค่าธรรมเนียมอีกแล้วทั้งๆที่ทำได้ไม่ถึง 1 ปี )

                       จึงแจ้ง พนักงาน ไปว่า ทำไมตัดเกินบัญชีไปได้ บัญชีติดลบอยู่ 2,550.77 บาท จึงใส่เงินให้เป็นบัญชี ปกติ แต่ติดบัญชี 49.23 บาท เนื่องจากบัญชี นี้ไม่ได้ใช้กับธนาคาร มา กว่า 5 ปีแล้ว เพราะเคยใช้ โอดี อยู่ ในวงเงิน 900,000 แต่ปิดบัญชี ไปนานมาก เลยเหลือติดบัญชีไว้  1,736.54 บาท เมื่อเป็นหนี้ ก็ต้องใช้ และบอกว่า ตัดบัญชีไปแล้ว ขอใบเสร็จ ค่าธรรมเนียม และ ใบต่อค้ำประกันด้วยนะครับ พนักงาน ให้คำตอบมาว่า บัญชี มียอด hold อยู่ 900,000 บาท เลยแจ้งไปว่า โอดี ได้ทำการปิดบัญชี จบไปนานแล้ว แก้ไขให้ด้วย ก่อนออกมาจากธนาคาร ได้ย้ำแล้วว่า ช่วยเอาใบค้ำประกัน และใบเสร็จค่าธรรมเนียม ให้ด้วย
         แต่ปัญหาไม่จบ ครับ ประมาณอีก 1 เดือน มีโทรศัพท์ แจ้งมาว่า บัญชี ติดลบ อีกแล้ว เข้าไปติดต่อ พนักงานอีกว่าเกิดอะไรขึ้นอีก พนักงานตอบกลับมาว่า  เป็นการตัดค่าปรับ ค่าธรรมเนียมค้ำประกัน จำนวน เงิน 500 บาท จำนวน 3 เดือน ตั้งแต่ วันที่ 30/03/56 - 30/06/58 หนังสือค้ำประกัน 100,000 บาท อัตรา 1 เปอร์เซ็นต์ 3 เดือน ลงวันที่ ในใบเสร็จ 24/08/58 (ตัดไปตั้งแต่ เดือน 30/03/2558) อัตรา 1 เปอร์เซ็นต์ 100,000 บาท/ ปี คิดยังไงก็ 1,000 บาท
                เป็นค่าปรับ ที่ไม่แจ้งกับทาง ธนาคาร ว่าจะต่อ หนังสือค้ำประกัน อาว....ไอ้ที่ไปบอกเมื่อวันที่ 11/03/58 นั้นคืออะไร ตกลงว่า ธนาคารทำอะไรโยนความผิดให้ลูกค้าอีก จึงฝากเงินเข้าไปปิดบัญชีไม่ให้ยอดติดลบ และได้ย้ำอีกครั้งว่า ขอใบค้ำประกันและใบเสร็จ ค่าปรับ ตัวใหม่ ด้วย และใบเสร็จตัวเก่า ก็ยังไม่ได้รับเลย ผ่านมา 3 เดือนแล้ว
                ยังๆยังไม่จบ วันที่ 30/06/58 มีตัดบัญชีอีกแล้ว  เป็นการตัดค่าธรรมเนียมค่าปรับ  จำนวน เงิน 500 บาท จำนวน 3 เดือน ตั้งแต่ วันที่ 30/06/56 - 30/09/58 หนังสือค้ำประกัน 100,000 บาท อัตรา 1 เปอร์เซ็นต์ 3 เดือน ลงวันที่ ในใบเสร็จ 24/08/58 (ตัดไปตั้งแต่ เดือน 30/06/58)


    เมื่อ ธนาคาร ตัดบัญชีตามใจชอบ โดยไม่สนใจ ลูกค้า จึงขอปิดบัญชีกระแสรายวัน ได้รับคำชี้แจงว่า ปิดไม่ได้ เพราะไว้ตัดค่าธรรมเนียม ตามข้อตกลง (ไปตกลงกันเมื่อไหร่จำไม่ได้) เอาปิดไม่ได้ก็ปิดก็ไม่ได้ งั้นขอยกเลิก หนังสือ ค้ำประกัน ทั้ง 2 ฉบับซะ จึงเอาเงินไปจ่ายการไฟฟ้า เมื่อวันที่ 21/08/2558 จำนวน  164,000 บาท และนำหนังสือ ค้ำประกันมาคืนกับทาง ธนาคาร ทั้ง 2 ฉบับ และหนังสือยืนยันจากการไฟฟ้าขอคืนหนังสือค้ำประกัน อีกด้วย ในวันเดียวกัน และ ขอปิดบัญชีเลย


    พนักงานตอบว่า เอกสารต้องส่งมาจากหน่วยงานอื่น ต้องรอ อีก 2 อาทิตย์ (ส่งจากที่ไหนหว่า 2 อาทิตย์ ) แล้วจะโทรศัพท์ มาแจ้งให้มาปิดบัญชี  เอ้าผีถึงวัดแล้วยังไงก็ต้องเผา .......รอก็รอ......ให้เวลา..1 เดือนเลย ค่อยไปติดต่อ.............
    1 เดือนผ่านไป ยังไม่ติดต่อกลับมา สงสัย พนักงานไม่ว่าง งานยุ่ง รอต่อไป...ประมาณ 1.5 เดือน มีโทรศัพท์ มาจาก ธนาคาร ฮา..ได้เงินคืนแล้ว ..............แต่ๆๆๆๆ โทรมาแจ้งว่า ปิดได้เฉพาะ ยอด 100,000 บาท ยอด 64,000 บาท ถอนปิดบัญชี ไม่ได้ อาว.....เกิดอะไรขึ้นอีกแล้ว ได้รับคำตอบว่า หาเอกสารไม่เจอ ไม่ทราบว่า หายไปไหน ........โอ้ พระเจ้า แล้วเกี่ยวอะไรกับลูกค้า.....ธนาคารทำเอกสาร หายแต่เงินของลูกค้า จะถอน แต่ถอนไม่ได้ จะรอดู น่าจะมีค่าปรับมาอีก
    จนวันนี้ 13/10/58 ยังไม่ได้เงินคืนมาเลย เกิดอะไรขึ้นกับ ทางธนาคาร กสิกร จึงสามารถ ทำตามอำเภอใจ ได้ขนาดนี้ จะตัดบัญชีติดลบ ก็ตัด แล้วถ้าตัด ไปสัก 1 ล้าน จะหาเงินที่ไหนมาใช้ให้ ดอกเบี้ยที่ตัดติดลบ ก็มีคิดดอกเบี้ย เพิ่มมาอีก