รอ รอรัก หรือ รอเลิก?

กระทู้คำถาม
ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เราก็ไม่รู้ว่าจะหาคำตอบให้กับตัวเองยังไง เลยอยากให้คนที่อ่านช่วยหาคำตอบให้ที คือเรื่องมันมีอยู่ว่า
        เรากำลังรอคำตอบจากผู้ชายคนนึง โดยที่เรื่องราวเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เรารู้จักกันโดยมีเพื่อนแนะนำให้รู้จักว่าผู้ชายคนนี้เป็นรุ่นพี่นะ รู้จักกันไว้ เผื่อได้ช่วยเหลือกัน ซึ่งรู้จักกันครั้งแรกในสถานที่เที่ยวกลางคืน เราก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดแค่ว่าเป็นรุ่นพี่ของเพื่อนที่สนิทกันอีกที แล้วผู้ชายคนนี้ก็กำลังจีบเพื่อนของเพื่อนเรา ในคืนนั้นก็เที่ยวกลางคืนทั่วไป เมาแล้วก็กลับแยกย้าย
        ผ่านไปไม่นานมาก ประมาณ 1 อาทิตย์ เราก็ได้เจอผู้ชายคนนี้อีก เพราะเพื่อนเรียกไปทานข้าวเป็นเพื่อนกันกับผู้ชายคนนี้ คือมีเรา เพื่อน ผู้ชาย ก็กินข้าวคุยกันตามปะสาพี่น้องคนรู้จัก เราก็ยังทำตัวเป็นกลาง เฉยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้ชายคนนี้ เพราะเราก็มีคนคุย(เรียกว่าคบ แต่ก็ไม่ได้ในสถานะแฟน) ในการกินข้าวครั้งนี้ก็มีแอลกอฮอร์เข้ามาเกี่ยวข้องตามเดิม แต่ก็ไม่ได้เมาอะไรมากมาย ผู้ชายก็มีการขอถ่ายรูปกับเราบอกว่า ขำๆ จะส่งไปให้น้องที่ทำงานดู เราก็โอเค เพราะไม่ได้คิดอะไรถือว่าเป็นพี่น้องกัน เขาก็ขอแอดไลน์ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ให้ไป เขาก็ส่งรูปที่ถ่ายมาให้เราในไลน์ เราก็เปิดดูไม่ได้คิดอะไร ในระหว่างกินข้าวเราก็คุยกันเรื่องที่เขากำลังจีบเพื่อนของเพื่อน และผู้หญิงคนนี้เราก็พอรู้จักบ้าง เราก็เชียร์เพราะไม่ได้คิดอะไรกับเขา ตามปะสาคนรู้จัก เลยให้กำลังใจ บอกว่าจีบต่อไปเด่วเขาก็ใจอ่อน เหตุการณ์คืนนั้นก็จบลงต่างคนต่างแยกย้ายไป
       แล้วต่อมาอีกอาทิตย์กว่า ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้น คือ เพื่อนก็ชวนไปปาร์ตี้เหมือนทุกครั้ง เราก็โอเค ตกลงไป เพื่อนก็บอกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนมารับนะ เราก็ไม่ได้คิดอะไร ก็คิดว่าคงไปกันเยอะ ผู้หญิงที่ผู้ชายคนนี้จีบอยู่ก็คงไปด้วย เราไปถึงผู้หญิงที่ผู้ชายคนนี้จีบกับไม่ได้ไปด้วย ก็เที่ยวกันปกติ เราก็ไม่ได้ทำตัวสนิทสนมอะไรกับผู้ชายคนนี้มากมาย แล้วในปาร์ตี้คืนนั้นเราก็เจอกับคนที่เราคบอยู่ แต่ไม่ได้อยู่ในสถานะแฟน เราก็พาเขามาแนะนำให้เพื่อนในกลุ่ม กับผู้ชายคนนี้รู้จักว่าเราคบกะคนนี้นะ เที่ยวเสร็จก็กลับกันทั้งกลุ่ม โดยผู้ชายที่เราคบด้วยไม่ได้ไปส่ง ผู้ชายคนนี้ก็ไปส่ง และได้ขอร้องให้เรานั่งรถไปเป็นเพื่อนเขาก่อน กับเหตุผลของเขา คือ กลัวมีด่านตั้งก่อนถึงบ้านเขา เดี๋ยววนกลับมาส่งเรา เพราะถ้าเจอด่าน ถ้าเห็นมีผู้หญิงไปด้วยตำรวจจะไม่ตรวจ เราก็งง แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็อือๆ ไป เพราะคิดว่าคงไม่มีไรเกิดขึ้น เพราะเขาจีบเพื่อนของเพื่อนอยู่แล้วเขาก็แสดงออกชัดเจน แล้วเราก็แสดงออกชัดเจนว่ามีคนคบด้วย ถึงไม่ได้อยู่ในสถานะแฟน ก็ตาม ระหว่างขับรถไปดูด่าน เราก็ไม่รู้ว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหน แต่เขาบอกว่าไม่ไกล ระหว่างเขาคุยโทรศัพท์ตลอดเวลากะเพื่อนคุยเรื่องเกี่ยวกับซื้อที่ดิน จากนั้นเขาก็โทรไปหาแม่เขา เพราะเงินต้องอนุมัติผ่านแม่เขา ที่จับใจความได้คือแม่ต้องการคำยืนยันว่าเขาอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้เที่ยว ตั้งใจทำงานถึงจะซื้อให้ และต้องการเสียงทีวียืนยันว่าอยู่บ้านพักของเขา เขาต่อรองกะแม่สักพัก แล้วก็เลี้ยวเข้าโรงแรม เราก็ทำหน้าตกใจ เขาก็ทำท่าทีประมาณว่าแค่เข้ามาเปิดทีวีให้แม่ได้ยิน ทุกอย่างก็เป็นไปในทิศทางนั้น แม่เขาก็เชื่อว่าอยู่บ้าน แล้วถามว่าอยู่กับใครแฟนหรา เขาก็ยื่นโทรศัพท์มาทางเราแล้วบอกว่าพูดอะไรก็ได้ ให้แม่เขารู้ว่าอยู่กับแฟน เราก็ได้แค่พูดว่าคะ สวัสดีคะ เขาก็ดึงโทรศัพท์กลับไป จากนั้นการต่อรองในการซื้อที่ดินก็จบลงได้ตามที่เขาต้องการ เขาแสดงท่าทีดีใจ แล้วเดินเข้ามากอดเราที่ยืนอยู่หน้าทีวี เราก็คิดว่ามันเป็นกอดแบบพี่น้องละมั้ง เวลาดีใจใครก็อยากจะแสดงออกแบบนี้มั้ง เขาปล่อยตัวเราออก เราเลยบอกว่ากลับเถอะคะ แต่เขากลับบอกว่านอนที่นี้ก่อนก็ได้นะ ไหนๆก็เปิดห้องไปแล้ว อีกหน่อยก็เช้า เดี๋ยวเขาไปส่งเราให้ทันเวลางาน เขาจะนอนตรงโซฟา ให้เรานอนบนเตียง เราก็บอกว่าไม่โอเคมั้ง กลับไปส่งเราเถอะ เพราะมันก็ไม่ได้ไกลมาก เขาก็เริ่มบทสนทนาที่เปลี่ยนไป เริ่มเข้ามาใกล้ เขาพูดว่า เราไปอยู่ไหนมา ทำไมเขาไม่เจอเราก่อนหน้าคนที่เขากำลังจีบอยู่ (คือเพื่อนของเพื่อน จีบโดยการมีเพื่อนของเราเป็นสื่อกลางมาตลอด) เราก็ทำหน้าอึนๆ คือ งง บวกกับตั้งรับกับคำถามเขาไม่ทัน เขาก็พูดต่อว่า เป็นไปได้ไหมถ้าเราจะคบกัน แล้วก็ต่างๆนาๆ เขาขออยู่กับเราแบบนี้สักพัก แล้วเขาก็เข้ามากอดเรา เราก็บอกว่าไม่ได้หรอก เพราะเขาจีบเพื่อนของเพื่อนเราอยู่ แล้วเราก็รู้จักผู้หญิงคนนั้น แต่เขาก็ยืนยันไม่ไปส่งเรา เขามากอดเราไว้ แล้วบอกว่าขอนอนกอดเราได้ไหม พูดต่างๆนาๆ จนเรายอม เราเลยบอกเขาว่าแค่ กอด นะ รับปากนะจะไม่มีอะไรเกินเลย เหตุการณ์ก็เหมือนจะเป็นตามที่เขารับปากเรา แต่เขากับเปลี่ยนคำขึ้นมาคล่อมบนตัวเรา เราตกใจมาก แล้วบอกเขาว่าอย่าทำแบบนี้ ทุกอย่างมันจะดูแย่มากๆถ้าเขาทำแบบนี้ เราก็มีคนที่คบอยู่ แล้วเราก็พูดไปตรงๆว่าเรามีอะไรกับคนที่คบอยู่ เรามีอะไรกับเขาไม่ได้หรอก เขาก็ยังจีบเพื่อนของเพื่อนเราอยู่ ขอว่าอย่าทำแบบนี้ ให้เกียรติเราหน่อยได้ไหม เขากลับบอกเราว่า เขาไม่แคร์ว่าเราคบกะใคร เขาจะถอยออกมาจากผู้หญิงอีกคน เพราะจีบผู้หญิงคนนั้นยังไง ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่รักเขาหรอก เราเลยบอกว่า เขาคิดแทนผู้หญิงคนนั้นว่าเขายังไงก็ไม่รักเขา รู้ได้ไง เพราะเราดูผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มมีทีท่าจะชอบเขา แล้วเขารู้ได้ไงว่าถ้าเขามีอะไรกับเราแล้ว เราจะชอบเขา จะรักเขา เขาหยุดชะงัก แล้วบอกว่าทำไมเราพูดแรงจัง เราก็เลยบอกว่าขอโทษนะที่ต้องพูดตรงๆ แต่มันคือความจริง แต่เขาก็ยังไม่หยุด แล้วเขาก็ยังพยายาม แล้วก็พูดแต่ว่าถ้าเหตุการณ์วันนี้ผ่านไป เราก็เป็นแฟนเขา เขาให้เวลาไปเลิกกับผู้ชายที่คบอยู่ ในเมื่อสถานะก็ไม่ได้เป็นแฟนกันอยู่แล้ว ขอให้เรารอให้เขาถอยออกมาจากการจีบผู้หญิงอีกคน เราก็ขัดขืน แต่พอรู้ตัวอีกทีคือเขากดมือเราไว้ เขาถอดชุดเรา ในใจเราไม่ได้เสียดายของความเป็นผู้หญิง เพราะเราก็เคยมีแฟน แต่สิ่งที่เรากลัว คือเขาจะทำได้อย่างที่เขาพูดไหม แล้วคืนนั้นเรากับเขาก็มีอะไรกัน และเขายืนยันสถานะว่าเราเป็นแฟนเขา เขาพร้อมจะดูแลเรา แต่เรากับเขาตกลงกันว่าจะยังไม่บอกใคร เพราะไม่อยากเสียความเป็นพี่เป็นเพื่อน ว่าแอบมาคบกัน แล้วเรากับผู้ชายคนนี้ก็ยังแอบคุยกัน แอบเจอกัน เขาบอกว่าขอเวลาถอยออกมา รอเขานะ  เราก็บอกเขาว่าเรารอเขาได้ เพราะเราก็อยากจะมีคนที่อยู่ข้างๆที่เรียกว่าแฟน แล้วเขาก็เรียกเราว่าแฟน โดยไม่ต้องปิดบังใคร และเป็นแฟนของเราจริงๆ โดยไม่ต้องแบ่งแฟนกับใคร โดยที่เรารับรู้ทุกอย่างที่เขาทำให้ผู้หญิงอีกคน
         ต่อมาก็มีวันสำคัญของผู้หญิงที่เขาจีบ ผู้ชายคนนี้ก็ตกลงกับเพื่อน กับผู้หญิงที่เขาจีบไว้นานแล้วว่าจะจัดงานเลี้ยง และเราก็รู้นานแล้ว ตั้งแต่เจอเขาครั้งแรก แต่เราจำวันไม่ได้ พอถึงวันผู้หญิงที่เขาจีบอยู่ ก็ทักไลน์เรามา ว่าวันนี้มีปาร์ตี้ ผู้ชายคนนี้จัดให้ เราจะไปด้วยไหม ไปกันหลายๆคนสนุกดี เรารู้สึกผิด แล้วก็ไม่อยากไป จึงปฏิเสธ ว่าติดธุระ เพราะรู้ว่าผู้ชายต้องอึดอัด เราก็อึดอัด  เราก็ไลน์ไปถามผู้ชายว่าวันนี้ว่างไหม จะชวนไปดูหนัง เขาตอบมาว่าไม่ว่าง งานเยอะมาก เราเลยบอกว่าหรอ นึกว่าไปงานเลี้ยงซะอีก เขาก็อึ้ง แล้วก็บอกว่ารู้ได้ไง กลัวเสียใจเลยไม่กล้าบอก เขาแคร์ความรู้สึกเรานะ แต่มันปฏิเสธไม่ได้ เพราะได้รับปากเขาไปนานแล้ว เราก็บอกเขาไป มีอะไรก็บอก เรามีเหตุผลพอ ถ้าจะให้เรารอ ขอได้ไหมให้บอก ให้พูดความจริงเถอะ เขาก็รับปาก และบอกว่าจะถอยออกมา ให้รอเขานะ เราโอเค เราไม่เป็นไร
        เราก็ได้แค่รอ พอดึกเราเลยถามผู้ชายว่าอยู่ไหน กลับรึยัง หลังจากที่เขาไปส่งผู้หญิงอีกคนเสร็จ เขาก็มาหาเรา เขาเมา เดินเข้ามากอดเรา แล้วบอกว่าอย่าคิดมากนะ เราเป็นแฟนเขา เราเป็นเจ้าของเขา เขาจะถอยออกมา เขารับปาก เราเลยบอกเขาว่า ขอได้ไหม ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย และอยากให้ทุกอย่างมันจบเร็วๆได้ไหม เราอึดอัด เขาก็รับปาก ...
        แต่..ตอนนี้ เรารู้ว่าเขาก็ติดต่อกับผู้หญิงอีกคนอยู่ และเขาก็น่าจะคุยกันมากกว่าที่คุยกับเรา เขาทั้งสองคนรู้จักกันมานาน ก็ย่อมสนิทกัน และเราก็รู้มาว่า เขาพูดกับผู้หญิงที่จีบว่า ถ้าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาก็บอกได้นะ เขารับได้ และยินดีที่จะเป็นพี่น้องกับผู้หญิงคนนั้น (คือผู้หญิงที่เขาจีบมาปรึกษาเพื่อน ในตอนนั้นเราอยู่ด้วยเลยได้ยิน) แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้บอกว่าให้คำตอบไปยังไง และเราก็ไม่ได้ถามผู้ชายอีกเลยว่าเป็นยังไง เพราะเราเป็นคนที่ไม่จู้จี้ ถ้าไลน์ไปถาม ถ้าเขาบอกว่าทำงาน เราก็จะไม่กวนเขา แล้วอีกอย่างเขาชอบผู้หญิงคนนี้มานานแล้ว แต่จีบไม่เคยสำเร็จ เราก็รู้นะว่าเขาชอบผู้หญิงคนนั้นมาก แล้วเราเคยถามเขาว่าทำไมถึงคิดที่จะมีเรา เขาไม่มีคำตอบให้เรา ได้แต่บอกว่า ให้รอเขา เขาจะดูแลเราเอง คือเราเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้สวยอะไร หน้าตาธรรมดา แต่สำหรับผู้หญิงอีกคน เป็นคนน่ารัก สวยเลยละ  เราก็ไม่ได้เร่งรัดเอาคำตอบจากเขา  เราเลยไม่รู้ว่าที่เรา  รออยู่นี้ คือรอเพื่ออะไร รอให้เขาสานต่อกัน เป็นแฟนกัน แล้วเขี่ยเราทิ้ง หรือเขาพยายามถอยออกมาอยู่ อย่างที่เขารับปากกับเรา เพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น และรอเวลาบอกกับทุกคนว่าเราเป็น แฟน ของเขา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่