จขกท. วัย 26 ย่าง 27 จบปอตรี วิศวะประสบการณ์ทำงาน 2 ปี ทำงานออฟฟิศบริษัทเอกชน เงินเดือน 21xxx หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ ฐานรายได้ระดับนี้ถ้าพูดได้ก็ถือว่าไม่น้อยเกินไปสำหรับ ชีวิตมนุษย์เงินเดือนทั่วไปที่เพิ่งเริ่มต้น แต่ดูเหมือนจะไม่เพียงพอกับการใช้จ่ายและผ่อนหนี้ในครอบครัว ขอเข้าประเด็นครับ ครอบครัวของ จขกท. พี่พ่อ แม่ น้องสาว และเจ้าของกระทู้
หนี้หลักๆเกิดจาก พ่อเราไม่ยอมทำมาหากิน 6-7 ปี เดิมทำงานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่เนื่องจากสินค้าจีนแดงราคาถูกพอๆกับราคาซ่อมก็ไม่มีใครมาซ่อมกัน จนไม่มีลูกค้ามาซ่อม พ่อเลยตกงาน และมีทิฏฐิไม่ยอมทำงานอื่น จนเราขึ้นปีหนึ่ง ทะเลาะกับแม่ครั้งใหญ่และเงินไม่พอ จึงออกไปทำมาหากิน ระหว่างที่พ่อไม่ทำมาหากิน แม่ก็กู้หนี้ยืมสินจนดอกดวงมันเพิ่มขึ้นมหาศาล ช่วงนั้นเรายังอยู่ในวัยเรียนไม่ได้รับรู้อะไรมาก แต่พอเรียนจบมาแล้ว ดูเหมือนจะอัดเรื่องราวใส่หูเรากรอกหูเราทุกวัน
- เงินเดือนเราหลังหักประกันสังคมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เหลือประมาณ 19000 บาท
- ให้พ่อเดือนละ 2,500 บาท แม่เดือนละประมาณ 7,000 บาท(ค่ากิน 3,000+ค่าหนี้ก้อนแรก 60,000 ผ่อนเงินต้นเดือนละ 2,000 บวกกับดอกที่ลดลงทุกเดือน หนี้ก้อนนี้พ่อไม่รู้ ถ้ารู้บ้านแตก แต่แล้วแม่ก็เอาเงินทั้งค่ากินและค่าผ่อนหนี้ ไปใช้หนี้ทั้งหมด ไม่เหลือไว้กิน ค่ากินไปขอกับป้า และลูกพี่ลูกน้องเรา ไม่กล้ามาขอกับเรา กลัวเราว่า)
- ค่าเดินทางมาทำงาน ประมาณเดือนละ 3,900 บาท
หักแล้วก็เหลือค่ากินกับค่าใช้ส่วนตัวประมาณ 5,000-6,000 แต่พ่อเราจะเริ่มใช้หนี้ส่วนตัวเค้า เค้าขอให้เราให้เค้าจากเดิมเดือนละ 2,500 เป็นเดือนละ 5,000 เราก็จะเหลือค่าใช้จ่ายส่วนตัว 3,000-4,000 ซึ่งไม่รู้จะพออยู่ได้ไหม
น้องเรียนปีสี่กำลังจะจบแล้ว พ่อได้กู้เงินกับธนาคารออมสินมาจำนวนหนึ่ง หลักแสนมาส่งค่าเทอมน้อง แต่ทว่าค่าเทอมที่ว่าน้องเรากู้ กยศ. ได้มา ทั้งค่าเทอม+ค่ากินค่าอยู่ น้องใช้เงินกู้ทั้งสองส่วนนั้นส่งค่าเทอมตัวเอง แล้วอาศัยเงินของพ่อเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไปเรียนค่าอาหาร ตกเดือนละ 3,000 ทีนี้พ่อเราต้องเริ่มผ่อนใช้หนี้ ทั้งเงินต้นและดอกถึง 60 งวด งวดละประมาณ 5,000 บาท พักนี้ก็เลยทำเป็นเดือดร้อนใจ ไม่เคยเป็นหนี้ใคร ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จะบ่นความลำเค็ญให้เราฟังอยากหนักหน่วงทุกวัน บอกว่า "จากนี้ไปอยากกินอะไรก็ซื้อเข้ามาเอง พ่อจะไม่ซื้ออะไรเข้ามาอีก จะอดบ้างกินบ้าง" ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ไม่มีวัตถุดิบทำอาหารในบ้านเลย เราต้องออกไปซื้ออาหารสำเร็จรูปแบบง่ายๆ มาปรุงกินเองกับน้อง แล้วก็บ่นอีกว่าแก่แล้ว ป่านนี้ยังไม่ได้พักยังไม่สบายเลยจนบัดนี้ จนตอนนี้เรามีอาการนอนไม่ค่อยหลับ ตลอดเวลาครุ่นคิดจะทำยังไงให้หนี้สินหมดไปจากบ้าน ยอมรับว่าปวดหัวบ่อยมากครับ แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้พ่อหยุดพูดบ้าง บางทีเรื่องบางเรื่องเรารับรู้อยู่แล้ว ก็ไม่อยากจะรับรู้เพิ่มอีก พอถามพ่อว่า เบื่อมั้ยที่บ่นแบบนี้ พ่อบ่นมากเราก็เครียด พ่อก็ว่าเราแรงๆ บอกไม่น่าเลี้ยงส่งมาให้เสียข้าวสุก จนตอนนี้เราไม่รู้จะทำยังไง
ส่วนด้านแม่เรามีลูกชายติดสามีเก่าอยู่คนนึง อายุ 33 แล้ว ได้ลูกสาวเศรษฐีมาเป็นเมีย ลูกสองคน แต่มีนิสัยเอาตัวไม่รอด ชอบโทรมางอแงกับแม่เราตลอด บางทีก็ทำเป็นให้หลานมาคุยด้วยบ้าง ประจบสอพอ แต่ว่าเรื่องของเรื่องหลักๆ ถ้าไม่มีรถขับ พ่อตากะแม่ยายจะให้เลิกกับเมีย ก็เลยไปซื้อรถกระบะมาขับคันนึง ราคาร่วม 500,000-600,000 สุดท้ายไม่มีปัญหาผ่อนเองไหว เคยมาขอเงินเราไปผ่อนงวดนึง 5,000 กับแม่ เราไม่ให้ แม่ก็ด่าเราทะเลาะกับเราร้องไห้ร้องห่ม แม่เป็นลมชัก จนเราต้องยอมให้เงินมันไป เพื่อให้แม่อาการดีขึ้น
แต่สุดท้ายก็ยังไม่ไหว เอารถไปให้เพื่อนขับ+ให้เงิน 100,000 สุดท้ายเพื่อนคนนั้นขโมยรถหายสาบสูญไป ตามจับไม่ได้ด้วยจนวันนี้ ทำให้ต้องผ่อนรถคันนั้นให้หมดแบบไม่มีทางเลือก แต่เมื่อรถหาย ก็ต้องซื้อคันใหม่อีก ราคาร่วม 400,000 ทีนี้คันใหม่ ใช้ชื่อแม่เป็นเจ้าของรถเลย ก่อนหน้านี้เคยมาขอร้องเราให้ใช้ชื่อเราเป็นเจ้าของรถ เราไม่คุยแล้วให้แม่ไปด่าว่าๆอย่ามายุ่งกับเรา ถ้ายุ่งเราคงจะหมดความอดทนและจะไม่ทน จะแจ้งความจับพี่มัน แม่ก็เลยจำใจใช้ชื่อตัวเองเป็นเจ้าของรถ ผ่อนรถคันเก่าที่หายไป+คันใหม่ที่ซื้อมา พี่มันก็เอารถไปใช้เฉย ไม่มีปัญหาผ่อน สรุปแม่เรามีหนี้แค่ค่าผ่อนรถก็ร่วมล้าน บวกกับหนี้ครอบครัวซึ่งไม่รู้ว่าเท่าไหร่ แม่ปิดบังไว้ไม่บอกหมด บอกแค่ส่วน 60,000 ที่เราผ่อน ที่บอกไปตอนข้างต้น เราค้ำประกันให้อยู่ (ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าเป็นหนี้ผ่อนรถหรือเปล่า แม่โกหกว่าเป็นหนี้ครอบครัว) แล้วล่าสุดพี่ชายมีลูกใหม่อีกคน เป็นหัดเยอรมันไม่มีค่ารักษา ร้องไห้ฟูมฟายกับแม่ แม่ก็มาขอตังเราอีก แบบตามขอชนิดที่ว่า ขอชีวิตหลาน เราเองก็ให้ไป คิดเสียว่าต่อชีวิตให้คนได้บุญ
ณ ตอนนี้รู้สึกเครียดมาก เบื่อมาก ชีวิตไม่มีความสุขเลยครับ ไม่รู้จะบริหารจัดการชีวิตอย่างไรให้มีความสุข อยากพ่อเลิกบ่น อยากให้แม่เลิกก่อหนี้ เล่าความจริงทั้งหมด ทุกวันนี้เครียดมาก บางทีลดความกดดันไปหาอะไรเล่น ก็ยังไม่หาย นอนไม่ค่อยหลับเลยครับ บางทีอยากหาอาชีพเสริมทำบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เพราะไม่มีความสามารถโดดเด่นอะไรนัก
ปล. เคยเรียกที่บ้านมาคุยด้วยกัน เพื่อที่จะช่วยกันแก้ พ่อยืนกรานไม่ช่วยแม่เด็ดขาด เค้าไม่ยอมเป็นหนี้ที่เค้าไม่ได้ก่อ ส่วนแม่ก็พอคั้นความจริง ก็ร้องไห้หนัก ประชดชีวิต ไม่กินข้าวกินปลา จนโรคกระเพาะกำเริบ ด่าว่าเราแรงๆ
รู้สึกเบื่อและเครียดกับปัญหาหนี้ในครอบครัว
หนี้หลักๆเกิดจาก พ่อเราไม่ยอมทำมาหากิน 6-7 ปี เดิมทำงานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่เนื่องจากสินค้าจีนแดงราคาถูกพอๆกับราคาซ่อมก็ไม่มีใครมาซ่อมกัน จนไม่มีลูกค้ามาซ่อม พ่อเลยตกงาน และมีทิฏฐิไม่ยอมทำงานอื่น จนเราขึ้นปีหนึ่ง ทะเลาะกับแม่ครั้งใหญ่และเงินไม่พอ จึงออกไปทำมาหากิน ระหว่างที่พ่อไม่ทำมาหากิน แม่ก็กู้หนี้ยืมสินจนดอกดวงมันเพิ่มขึ้นมหาศาล ช่วงนั้นเรายังอยู่ในวัยเรียนไม่ได้รับรู้อะไรมาก แต่พอเรียนจบมาแล้ว ดูเหมือนจะอัดเรื่องราวใส่หูเรากรอกหูเราทุกวัน
- เงินเดือนเราหลังหักประกันสังคมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เหลือประมาณ 19000 บาท
- ให้พ่อเดือนละ 2,500 บาท แม่เดือนละประมาณ 7,000 บาท(ค่ากิน 3,000+ค่าหนี้ก้อนแรก 60,000 ผ่อนเงินต้นเดือนละ 2,000 บวกกับดอกที่ลดลงทุกเดือน หนี้ก้อนนี้พ่อไม่รู้ ถ้ารู้บ้านแตก แต่แล้วแม่ก็เอาเงินทั้งค่ากินและค่าผ่อนหนี้ ไปใช้หนี้ทั้งหมด ไม่เหลือไว้กิน ค่ากินไปขอกับป้า และลูกพี่ลูกน้องเรา ไม่กล้ามาขอกับเรา กลัวเราว่า)
- ค่าเดินทางมาทำงาน ประมาณเดือนละ 3,900 บาท
หักแล้วก็เหลือค่ากินกับค่าใช้ส่วนตัวประมาณ 5,000-6,000 แต่พ่อเราจะเริ่มใช้หนี้ส่วนตัวเค้า เค้าขอให้เราให้เค้าจากเดิมเดือนละ 2,500 เป็นเดือนละ 5,000 เราก็จะเหลือค่าใช้จ่ายส่วนตัว 3,000-4,000 ซึ่งไม่รู้จะพออยู่ได้ไหม
น้องเรียนปีสี่กำลังจะจบแล้ว พ่อได้กู้เงินกับธนาคารออมสินมาจำนวนหนึ่ง หลักแสนมาส่งค่าเทอมน้อง แต่ทว่าค่าเทอมที่ว่าน้องเรากู้ กยศ. ได้มา ทั้งค่าเทอม+ค่ากินค่าอยู่ น้องใช้เงินกู้ทั้งสองส่วนนั้นส่งค่าเทอมตัวเอง แล้วอาศัยเงินของพ่อเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไปเรียนค่าอาหาร ตกเดือนละ 3,000 ทีนี้พ่อเราต้องเริ่มผ่อนใช้หนี้ ทั้งเงินต้นและดอกถึง 60 งวด งวดละประมาณ 5,000 บาท พักนี้ก็เลยทำเป็นเดือดร้อนใจ ไม่เคยเป็นหนี้ใคร ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จะบ่นความลำเค็ญให้เราฟังอยากหนักหน่วงทุกวัน บอกว่า "จากนี้ไปอยากกินอะไรก็ซื้อเข้ามาเอง พ่อจะไม่ซื้ออะไรเข้ามาอีก จะอดบ้างกินบ้าง" ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ไม่มีวัตถุดิบทำอาหารในบ้านเลย เราต้องออกไปซื้ออาหารสำเร็จรูปแบบง่ายๆ มาปรุงกินเองกับน้อง แล้วก็บ่นอีกว่าแก่แล้ว ป่านนี้ยังไม่ได้พักยังไม่สบายเลยจนบัดนี้ จนตอนนี้เรามีอาการนอนไม่ค่อยหลับ ตลอดเวลาครุ่นคิดจะทำยังไงให้หนี้สินหมดไปจากบ้าน ยอมรับว่าปวดหัวบ่อยมากครับ แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้พ่อหยุดพูดบ้าง บางทีเรื่องบางเรื่องเรารับรู้อยู่แล้ว ก็ไม่อยากจะรับรู้เพิ่มอีก พอถามพ่อว่า เบื่อมั้ยที่บ่นแบบนี้ พ่อบ่นมากเราก็เครียด พ่อก็ว่าเราแรงๆ บอกไม่น่าเลี้ยงส่งมาให้เสียข้าวสุก จนตอนนี้เราไม่รู้จะทำยังไง
ส่วนด้านแม่เรามีลูกชายติดสามีเก่าอยู่คนนึง อายุ 33 แล้ว ได้ลูกสาวเศรษฐีมาเป็นเมีย ลูกสองคน แต่มีนิสัยเอาตัวไม่รอด ชอบโทรมางอแงกับแม่เราตลอด บางทีก็ทำเป็นให้หลานมาคุยด้วยบ้าง ประจบสอพอ แต่ว่าเรื่องของเรื่องหลักๆ ถ้าไม่มีรถขับ พ่อตากะแม่ยายจะให้เลิกกับเมีย ก็เลยไปซื้อรถกระบะมาขับคันนึง ราคาร่วม 500,000-600,000 สุดท้ายไม่มีปัญหาผ่อนเองไหว เคยมาขอเงินเราไปผ่อนงวดนึง 5,000 กับแม่ เราไม่ให้ แม่ก็ด่าเราทะเลาะกับเราร้องไห้ร้องห่ม แม่เป็นลมชัก จนเราต้องยอมให้เงินมันไป เพื่อให้แม่อาการดีขึ้น
แต่สุดท้ายก็ยังไม่ไหว เอารถไปให้เพื่อนขับ+ให้เงิน 100,000 สุดท้ายเพื่อนคนนั้นขโมยรถหายสาบสูญไป ตามจับไม่ได้ด้วยจนวันนี้ ทำให้ต้องผ่อนรถคันนั้นให้หมดแบบไม่มีทางเลือก แต่เมื่อรถหาย ก็ต้องซื้อคันใหม่อีก ราคาร่วม 400,000 ทีนี้คันใหม่ ใช้ชื่อแม่เป็นเจ้าของรถเลย ก่อนหน้านี้เคยมาขอร้องเราให้ใช้ชื่อเราเป็นเจ้าของรถ เราไม่คุยแล้วให้แม่ไปด่าว่าๆอย่ามายุ่งกับเรา ถ้ายุ่งเราคงจะหมดความอดทนและจะไม่ทน จะแจ้งความจับพี่มัน แม่ก็เลยจำใจใช้ชื่อตัวเองเป็นเจ้าของรถ ผ่อนรถคันเก่าที่หายไป+คันใหม่ที่ซื้อมา พี่มันก็เอารถไปใช้เฉย ไม่มีปัญหาผ่อน สรุปแม่เรามีหนี้แค่ค่าผ่อนรถก็ร่วมล้าน บวกกับหนี้ครอบครัวซึ่งไม่รู้ว่าเท่าไหร่ แม่ปิดบังไว้ไม่บอกหมด บอกแค่ส่วน 60,000 ที่เราผ่อน ที่บอกไปตอนข้างต้น เราค้ำประกันให้อยู่ (ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าเป็นหนี้ผ่อนรถหรือเปล่า แม่โกหกว่าเป็นหนี้ครอบครัว) แล้วล่าสุดพี่ชายมีลูกใหม่อีกคน เป็นหัดเยอรมันไม่มีค่ารักษา ร้องไห้ฟูมฟายกับแม่ แม่ก็มาขอตังเราอีก แบบตามขอชนิดที่ว่า ขอชีวิตหลาน เราเองก็ให้ไป คิดเสียว่าต่อชีวิตให้คนได้บุญ
ณ ตอนนี้รู้สึกเครียดมาก เบื่อมาก ชีวิตไม่มีความสุขเลยครับ ไม่รู้จะบริหารจัดการชีวิตอย่างไรให้มีความสุข อยากพ่อเลิกบ่น อยากให้แม่เลิกก่อหนี้ เล่าความจริงทั้งหมด ทุกวันนี้เครียดมาก บางทีลดความกดดันไปหาอะไรเล่น ก็ยังไม่หาย นอนไม่ค่อยหลับเลยครับ บางทีอยากหาอาชีพเสริมทำบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เพราะไม่มีความสามารถโดดเด่นอะไรนัก
ปล. เคยเรียกที่บ้านมาคุยด้วยกัน เพื่อที่จะช่วยกันแก้ พ่อยืนกรานไม่ช่วยแม่เด็ดขาด เค้าไม่ยอมเป็นหนี้ที่เค้าไม่ได้ก่อ ส่วนแม่ก็พอคั้นความจริง ก็ร้องไห้หนัก ประชดชีวิต ไม่กินข้าวกินปลา จนโรคกระเพาะกำเริบ ด่าว่าเราแรงๆ