หลาย ๆ คนถามว่าจะเรียนภาษาเยอรมันหรือภาษาต่างประเทศอย่างไรให้ได้ผล?
การเรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่เพียงพอแน่ ๆ สำหรับการเรียนภาษาต่างประเทศ สิ่งที่ควรมีและคำนึงถึงตลอดเวลาคือ
เราจะเรียนไปทำไม?
เป้าหมายของเราอยู่ตรงไหน?
หากทางที่จะทำให้เราถึงเป้าหมายได้ คือการเรียนภาษาให้สำเร็จ สอบผ่าน เราก็ต้องสู้ ไม่ถอย หากเราไม่พยายาม ก็ไม่มีทางที่เราจะประสบความสำเร็จได้นะคะ ซึ่งวิธีการที่ฝ้ายชอบใช้ เพื่อจูงใจให้เรียนภาษาเยอรมันได้ทุกวัน นั่นก็คือ การหาหนังสือที่เราชอบมาอ่าน เช่น ฝ้ายชอบงานของ Haruki Murakami ฝ้ายก็ไปเดินหาซื้อหนังสือภาษาเยอรมันหรือสั่งจาก Amazon แล้วก็เริ่มได้เลย
โดยทั่วไปถ้าเราไม่ได้อ่านงานของนักเขียนสมัยก่อน อย่าง Franz Kafka หรือ Goethe ภาษาและไวยากรณ์ที่ใช้ ก็จะค่อนข้างง่ายต่อการทำความเข้าใจ และได้ยินบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันด้วย เช่น ของ Murakami หรือ Stieg Larsson ชุดนี้ 3 เล่ม เนื้อหาก็ไม่ได้อ่านยากมากเท่าไหร่ แถมบางช่วงบางตอน อ่านแล้ววางไม่ลงอีกต่างหาก
ทั้ง 4 เล่มนี้ เป็นหนังสือมือสองหมด แต่สภาพยังดี คุ้มค่าคุ้มราคาสุด ๆ
งั้นมาเริ่มกันเลยค่ะ หนังสือที่จะแนะนำวันนี้ คือ
South of the border, west of the sun หรือ
Gefährliche Geliebte (ชื่อภาษาเยอรมันแย่มาก ยังกับนิยายประโลมโลก -_- เสียเครดิตเฮียมูหมด) หรือ การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก
ฝ้ายจะเลือกบางตอนที่อ่านแล้วชอบ มาแปลเป็นภาษาไทยง่าย ๆ พร้อมสอดแทรกเกร็ดไวยากรณ์ในบางช่วงนะคะ ซึ่งการเรียนรู้คำศัพท์เพิ่ม ฝ้ายแนะนำให้ใช้พจนานุกรม Deutsch-Deutsch นะคะ เพราะเราจะได้เรียนรู้คำศัพท์ที่กว้างขึ้นกว่าเดิมทุกครั้งเลยค่ะ
เพื่อบริหารจัดการความคาดหวังของผู้อ่าน การอธิบายไวยากรณ์ต่าง ๆ ต่อจากนี้ จะเหมาะกับผู้ที่มีพื้นความรู้ภาษาเยอรมันมาระดับต้นถึงกลางนะคะ หรือมีความรู้ภาษาอังกฤษพื้นฐานอยู่บ้าง ดังนั้น อาจเข้าใจยากสำหรับผู้เริ่มต้น ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
S. 17
Aber was ich zu sagen versuchte, war schlicht und einfach das:
แต่สิ่งที่ผมพยายามจะสื่อนั้น เรียบง่าย
คำว่า schlicht นั้น เมื่อเปิดดูความหมายในพจนานุกรมจะพบว่า schlicht Adj; einfach u. ohne Schmuck od. viele Details: Sie trägt nur schlichte Kleider ซึ่งมีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า einfach ซึ่งแปลว่าง่ายนั่นเอง
Der Hajime, der jetzt hier existiert, ist ohne Geschwister aufgewachsen.
ฮาจิเมะที่มีตัวตนอยู่ตรงนี้ เติบโตมาโดยปราศจากพี่น้อง
Wenn ich Geschwister gehabt hätte, wäre ich nicht der, der ich bin.
หากผมมีพี่น้อง ผมก็คงจะไม่ใช่ผมในวันนี้
อันนี้เป็นไวยากรณ์พื้นฐาน Konjunktiv II ที่จะใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน เมื่อกล่าวถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้วในความเป็นจริง หรือประมาณว่า “รู้งี้ เราคงไม่ทำแบบนี้ในตอนนั้นหรอก”
S. 18
In dieser Welt gibt es Dinge, die man ein zweites Mal, anders, machen kann, und Dinge, bei denen das nicht geht.
ในโลกใบนี้ มีเรื่องที่หากคนเรามีโอกาสครั้งที่สอง ก็จะสามารถทำอย่างอื่นที่ต่างจากครั้งแรกได้ และมีเรื่องที่ทำแบบนั้นไม่ได้
es gibt เป็นไวยากรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หากเทียบกับภาษาอังกฤษ ก็คือ there is หรือ there are แต่ภาษาเยอรมันจะมีรูปเดียว เพราะ gibt มาจาก geben เมื่อใช้กับ es ที่เป็นประธาน ก็ต้องเปลี่ยนรูปเป็น gibt และไม่มีการใช้รูปพหูพจน์ในบริบทที่สื่อความหมายว่า there are
Und die Vergangenheit ist eines dieser Dinge, die man nicht ungeschehen und dann anders machen kann.
และอดีตก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราไม่สามารถทำให้มันไม่เกิดขึ้นได้ หรือทำอย่างอื่นให้ต่างออกไปได้อีก
จะเห็นได้ว่า รูปแบบของประโยคนี้ เป็นประโยคเสริมหรือขยายประโยคหลัก ตามหลักไวยากรณ์ต้องเอา verb มาไว้ท้ายประโยค โดยที่ verb ช่วยจะอยู่ท้ายสุดของประโยค ซึ่งต่างจากภาษาอังกฤษค่อนข้างมาก machen = do และ kann = can
S. 21
Die Erinnerung an sie machte mir Mut, linderte mir die Verwirrungen und Schmerzen des Heranwachsens.
ความทรงจำถึงเธอทำให้ผมมีความกล้าหาญ ช่วยบรรเทาความสับสน และความเจ็บปวดของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่
อย่างที่ทราบกันว่า ภาษาเยอรมันมี 3 เพศ คือ der-ชาย die-หญิง das-กลาง ไม่ใช่กะเทยนะคะ -_- คำว่า Heranwachsen เป็นเพศกลาง เมื่อนำมาใช้แสดงความเป็นเจ้าของ แบบ his/her ก็ต้องมีการผันตัว das เป็น des และเติม s เข้าไปข้างหลังคำด้วย ซึ่งคำนามเพศชาย ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้
Lange Zeit nahm sie einen besonderen Platz in meinem Herzen ein.
นานมาแล้วที่เธอเข้ามาจับจองพื้นที่ในหัวใจของผม
คำว่า หัวใจ Herz เป็นคำนามเพศกลาง แต่เป็นตัวที่มีข้อยกเว้นในการผันคำนามตามตำแหน่งหน้าที่ของมัน ในประโยคนี้ ทำหน้าที่เป็น Dativ หรือกรรมรอง
Das ประธาน
Das กรรมตรง
Dem กรรมรอง
ดังนั้น ต้องใช้ meinem และตัว Herz เองก็ต้องเติม -en เข้าไปท้ายคำด้วย
ซึ่งก็ต้องใช้รูปแบบเดียวกันนี้ หากเป็นการบอกว่า หัวใจของฉัน = meines Herzen ไม่ใช่ Herzes หรือ Herzs
Ich hielt diesen besonderen Platz nur für sie frei, wie einen ruhigen Ecktisch in einem Restaurant, mit einem >>Reserviert<<-Schildchen darauf.
ผมเก็บพื้นที่ตรงนี้ว่างไว้สำหรับเธอเท่านั้น เหมือนกับโต๊ะเงียบ ๆ ตรงมุมห้องของร้านอาหาร ที่มีป้ายจองแล้ว วางไว้
S. 52
Immer wieder beging ich den gleichen Fehler: verletzte andere und dabei auch mich.
ผมมักจะทำผิดซ้ำ ๆ ซาก ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นก็คือ การทำร้ายคนอื่นและรวมถึงตัวผมเองด้วย
beging เป็นรูปอดีตของคำว่า begehen ซึ่งจะหมายถึงการทำอะไรที่ไม่ค่อยดีหรือทำอะไรโง่ ๆ แล้วจะเป็น verb ที่ใช้ในการกล่าวถึงการฆ่าตัวตาย (Selbstmord begehen) ด้วยค่ะ
S. 71
Wenn es nicht zu regnen begonnen hätte – oder wenn ich einen Schirm dabeigehabt hätte
หากว่าฝนไม่เริ่มตก - หรือหากผมเอาร่มติดมือไปด้วย
ตรงนี้ก็คือ Konjunktiv II นะคะ
(war durchaus möglich gewesen wäre, denn ich hatte es ernsthaft erwogen, bevor ich das Hotel verließ)
ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะผมก็คำนึงถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังก่อนออกจากโรงแรม
-, dann hätte ich sie nie kennengelernt.
ผมคงไม่มีโอกาสได้รู้จักกับเธอ
kennengelernt เป็นรูปอดีตของ kennen lernen ซึ่งเป็น verb ที่ต้องเขียนไว้ด้วยกัน (zusammengesetzten verben) ซึ่งจะมีหลักการผัน verb แบบเดียวกับ trennbar verb จะใส่ ge- ที่เหมือนกับ -ed ในภาษาอังกฤษ ไว้ตรงกลางของคำ ไม่ใช่ข้างหน้า
Und wenn ich sie nicht kennengelernt hätte, dann würde ich jetzt noch immer im Schulbuchverlag schuften,
หากผมไม่ได้รู้จักกับเธอ ผมคงยังทำงานอยู่ที่โรงพิมพ์หนังสือเรียน
ตรงนี้ก็คือ Konjunktiv II อีกแล้วนะคะ
noch immer halbe Nächte lang allein in meiner Wohnung herumsitzen,
และคงยังนั่งอยู่คนเดียวตอนกลางคืนในห้องพักของผม
den Rücken gegen die Wand gelehnt, trinken und wirre Selbstgespräche führen.
หลังพิงกับกำแพงห้อง ดื่มคนเดียว และพูดคุยกับตัวเอง
Daran wird mir einmal wieder so recht bewusst, wie wenig man doch Herr seines Schicksals ist.
ณ ตอนนั้น ผมตระหนักอีกครั้งว่า มนุษย์เราควบคุมชะตาชีวิตของตนเองได้น้อยนิดเพียงใด
S. 71
Yukiko und ich fühlten uns von Anfang an zueinander hingezogen.
ยูกิโกะและผมรู้สึกถึงความดึงดูดซึ่งกันและกันตั้งแต่เริ่มแรก
คำนี้มาจาก sich zu etwas hingezogen fühlen นะคะ แต่เมื่อประธานของประโยคคือ เราสองคน หรือ wir ตรงตำแหน่ง sich จึงต้องใช้ uns ค่ะ
Ihre Freundin war viel hübscher, aber ich hatte nur Augen für Yukiko.
เพื่อนของเธอนั้นสวยกว่าเธอมาก แต่ผมสนใจแต่ยูกิโกะเท่านั้น
ตรงนี้คือการแสดงการเปรียบเทียบขั้นกว่า โดยการเติม -er เข้าไปด้านหลังของ hübsch ซึ่งการแสดงขั้นกว่าของเยอรมันจะใช้หลักการนี้กับ adj ที่ยาวกว่าหนึ่งพยางค์เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น fantastischer ในขณะที่ภาษาอังกฤษจะใช้ more fantastic
S. 72
Sie war eher unscheinbar, zumindest nicht der Typ, der überall die Blicke der Männer auf sich zieht.
เธอค่อนข้างดูเรียบ ๆ หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่ประเภทที่ดึงดูดสายตาหนุ่ม ๆ จากทุกที่ที่เธอไป
Aber es lag etwas in ihrem Gesicht, das nur für mich bestimmt war.
แต่มันมีบางอย่างบนใบหน้าของเธอ ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผมเท่านั้น
Jedesmal, wenn wir uns trafen, sah ich sie mir als erstes genau an.
ทุกครั้งที่เราพบกัน ผมจะพินิจมองเธอเป็นอย่างแรก
ในภาษาเยอรมัน จะมี verb หลายตัว ที่เวลาใช้งานจะต้องประกอบด้วยส่วนอื่น ๆ เช่น Reflexivpronomen, Dativ, Akkusativ หรือ Präposition ซึ่งในหลาย ๆ ครั้ง มักไม่มีหลักการตายตัว ต้องจดจำเอาเองจากการใช้บ่อย ๆ หรืออ่านเจอนั่นเองค่ะ
verb ชุดนี้คือ sich (Dat) jemanden/etwas ansehen เมื่อประธานคือ ich เราจะสามารถสร้างประโยคได้ตามนี้ค่ะ
sich (Dat) = mir
jemanden/etwas = sie ตรงนี้หมายถึงยูกิโกะ
ansehen = จากที่เล่าไปใน S. 71 ตัวนี้คือ trennbar verb: an-sehen ดังนั้น เมื่อใช้ในรูปอดีต ก็ต้องผัน sehen --> sah แล้วใส่ an ไว้ท้ายประโยค
Und ich war hingerissen von dem, was ich sah.
และผมคลั่งไคล้ในสิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า
S. 90
Obwohl wir durchaus weibliche Gäste ohne Begleitung sahen.
ถึงแม้ว่าเราจะเห็นแขกผู้หญิงมาคนเดียวเป็นเรื่องธรรมดา
Manche Frauen scheinen zu erwarten, dass Männer sich an sie heranmachen; andere scheinen das eher zu hoffen.
ผู้หญิงบางคนดูเหมือนคาดหวังให้ผู้ชายเข้ามาจีบ ในขณะที่อีกส่วนคงได้แต่หวัง
ตรงนี้ ใช้เหมือนกับภาษาอังกฤษคำว่า seem to … หรือ appear to …
Ich konnte immer erkennen, zu welcher der beiden Kategorien eine Frau gehörte.
ผมสามารถบอกได้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้จัดอยู่ในประเภทแรกหรือประเภทหลัง
gehören zu … เป็น verb พื้นฐานที่ได้ใช้แน่ ๆ ในชีวิตประจำวันค่ะ
Aber eine so schöne Frau wie diese wäre nie allein in eine Bar gegangen.
แต่ผู้หญิงที่สวยขนาดผู้หญิงคนนี้ จะไม่มีทางมาที่บาร์คนเดียว
Sie würde sich über Annäherungsversuche nicht freuen, sondern sie nur als Belästigung empfinden.
เธอจะไม่รู้สึกดีใจกับความพยายามที่จะเข้ามาจีบเธอ แต่จะรู้สึกเหมือนโดนดูถูกเสียมากกว่า
---> เป็นการเปรียบเปรยที่เวอร์วังอลังการสุด ๆ อ่ะค่ะ
(มีต่อ)
เนื้อหาทั้งหมดมาจาก Blog
http://chronicleofphaiy.blogspot.de
สามารถติดตามได้ที่เพจ
https://www.facebook.com/sevenyearsingermany
เรียนภาษาเยอรมันกับ Murakami | Lernen Deutsch mit Murakami | Learn German with Murakami
การเรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่เพียงพอแน่ ๆ สำหรับการเรียนภาษาต่างประเทศ สิ่งที่ควรมีและคำนึงถึงตลอดเวลาคือ
เราจะเรียนไปทำไม?
เป้าหมายของเราอยู่ตรงไหน?
หากทางที่จะทำให้เราถึงเป้าหมายได้ คือการเรียนภาษาให้สำเร็จ สอบผ่าน เราก็ต้องสู้ ไม่ถอย หากเราไม่พยายาม ก็ไม่มีทางที่เราจะประสบความสำเร็จได้นะคะ ซึ่งวิธีการที่ฝ้ายชอบใช้ เพื่อจูงใจให้เรียนภาษาเยอรมันได้ทุกวัน นั่นก็คือ การหาหนังสือที่เราชอบมาอ่าน เช่น ฝ้ายชอบงานของ Haruki Murakami ฝ้ายก็ไปเดินหาซื้อหนังสือภาษาเยอรมันหรือสั่งจาก Amazon แล้วก็เริ่มได้เลย
โดยทั่วไปถ้าเราไม่ได้อ่านงานของนักเขียนสมัยก่อน อย่าง Franz Kafka หรือ Goethe ภาษาและไวยากรณ์ที่ใช้ ก็จะค่อนข้างง่ายต่อการทำความเข้าใจ และได้ยินบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันด้วย เช่น ของ Murakami หรือ Stieg Larsson ชุดนี้ 3 เล่ม เนื้อหาก็ไม่ได้อ่านยากมากเท่าไหร่ แถมบางช่วงบางตอน อ่านแล้ววางไม่ลงอีกต่างหาก ทั้ง 4 เล่มนี้ เป็นหนังสือมือสองหมด แต่สภาพยังดี คุ้มค่าคุ้มราคาสุด ๆ
งั้นมาเริ่มกันเลยค่ะ หนังสือที่จะแนะนำวันนี้ คือ South of the border, west of the sun หรือ Gefährliche Geliebte (ชื่อภาษาเยอรมันแย่มาก ยังกับนิยายประโลมโลก -_- เสียเครดิตเฮียมูหมด) หรือ การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก
ฝ้ายจะเลือกบางตอนที่อ่านแล้วชอบ มาแปลเป็นภาษาไทยง่าย ๆ พร้อมสอดแทรกเกร็ดไวยากรณ์ในบางช่วงนะคะ ซึ่งการเรียนรู้คำศัพท์เพิ่ม ฝ้ายแนะนำให้ใช้พจนานุกรม Deutsch-Deutsch นะคะ เพราะเราจะได้เรียนรู้คำศัพท์ที่กว้างขึ้นกว่าเดิมทุกครั้งเลยค่ะ
เพื่อบริหารจัดการความคาดหวังของผู้อ่าน การอธิบายไวยากรณ์ต่าง ๆ ต่อจากนี้ จะเหมาะกับผู้ที่มีพื้นความรู้ภาษาเยอรมันมาระดับต้นถึงกลางนะคะ หรือมีความรู้ภาษาอังกฤษพื้นฐานอยู่บ้าง ดังนั้น อาจเข้าใจยากสำหรับผู้เริ่มต้น ก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะคะ
S. 17
Aber was ich zu sagen versuchte, war schlicht und einfach das:
แต่สิ่งที่ผมพยายามจะสื่อนั้น เรียบง่าย
คำว่า schlicht นั้น เมื่อเปิดดูความหมายในพจนานุกรมจะพบว่า schlicht Adj; einfach u. ohne Schmuck od. viele Details: Sie trägt nur schlichte Kleider ซึ่งมีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า einfach ซึ่งแปลว่าง่ายนั่นเอง
Der Hajime, der jetzt hier existiert, ist ohne Geschwister aufgewachsen.
ฮาจิเมะที่มีตัวตนอยู่ตรงนี้ เติบโตมาโดยปราศจากพี่น้อง
Wenn ich Geschwister gehabt hätte, wäre ich nicht der, der ich bin.
หากผมมีพี่น้อง ผมก็คงจะไม่ใช่ผมในวันนี้
อันนี้เป็นไวยากรณ์พื้นฐาน Konjunktiv II ที่จะใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน เมื่อกล่าวถึงเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้วในความเป็นจริง หรือประมาณว่า “รู้งี้ เราคงไม่ทำแบบนี้ในตอนนั้นหรอก”
S. 18
In dieser Welt gibt es Dinge, die man ein zweites Mal, anders, machen kann, und Dinge, bei denen das nicht geht.
ในโลกใบนี้ มีเรื่องที่หากคนเรามีโอกาสครั้งที่สอง ก็จะสามารถทำอย่างอื่นที่ต่างจากครั้งแรกได้ และมีเรื่องที่ทำแบบนั้นไม่ได้
es gibt เป็นไวยากรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หากเทียบกับภาษาอังกฤษ ก็คือ there is หรือ there are แต่ภาษาเยอรมันจะมีรูปเดียว เพราะ gibt มาจาก geben เมื่อใช้กับ es ที่เป็นประธาน ก็ต้องเปลี่ยนรูปเป็น gibt และไม่มีการใช้รูปพหูพจน์ในบริบทที่สื่อความหมายว่า there are
Und die Vergangenheit ist eines dieser Dinge, die man nicht ungeschehen und dann anders machen kann.
และอดีตก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราไม่สามารถทำให้มันไม่เกิดขึ้นได้ หรือทำอย่างอื่นให้ต่างออกไปได้อีก
จะเห็นได้ว่า รูปแบบของประโยคนี้ เป็นประโยคเสริมหรือขยายประโยคหลัก ตามหลักไวยากรณ์ต้องเอา verb มาไว้ท้ายประโยค โดยที่ verb ช่วยจะอยู่ท้ายสุดของประโยค ซึ่งต่างจากภาษาอังกฤษค่อนข้างมาก machen = do และ kann = can
S. 21
Die Erinnerung an sie machte mir Mut, linderte mir die Verwirrungen und Schmerzen des Heranwachsens.
ความทรงจำถึงเธอทำให้ผมมีความกล้าหาญ ช่วยบรรเทาความสับสน และความเจ็บปวดของการเติบโตเป็นผู้ใหญ่
อย่างที่ทราบกันว่า ภาษาเยอรมันมี 3 เพศ คือ der-ชาย die-หญิง das-กลาง ไม่ใช่กะเทยนะคะ -_- คำว่า Heranwachsen เป็นเพศกลาง เมื่อนำมาใช้แสดงความเป็นเจ้าของ แบบ his/her ก็ต้องมีการผันตัว das เป็น des และเติม s เข้าไปข้างหลังคำด้วย ซึ่งคำนามเพศชาย ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้
Lange Zeit nahm sie einen besonderen Platz in meinem Herzen ein.
นานมาแล้วที่เธอเข้ามาจับจองพื้นที่ในหัวใจของผม
คำว่า หัวใจ Herz เป็นคำนามเพศกลาง แต่เป็นตัวที่มีข้อยกเว้นในการผันคำนามตามตำแหน่งหน้าที่ของมัน ในประโยคนี้ ทำหน้าที่เป็น Dativ หรือกรรมรอง
Das ประธาน
Das กรรมตรง
Dem กรรมรอง
ดังนั้น ต้องใช้ meinem และตัว Herz เองก็ต้องเติม -en เข้าไปท้ายคำด้วย
ซึ่งก็ต้องใช้รูปแบบเดียวกันนี้ หากเป็นการบอกว่า หัวใจของฉัน = meines Herzen ไม่ใช่ Herzes หรือ Herzs
Ich hielt diesen besonderen Platz nur für sie frei, wie einen ruhigen Ecktisch in einem Restaurant, mit einem >>Reserviert<<-Schildchen darauf.
ผมเก็บพื้นที่ตรงนี้ว่างไว้สำหรับเธอเท่านั้น เหมือนกับโต๊ะเงียบ ๆ ตรงมุมห้องของร้านอาหาร ที่มีป้ายจองแล้ว วางไว้
S. 52
Immer wieder beging ich den gleichen Fehler: verletzte andere und dabei auch mich.
ผมมักจะทำผิดซ้ำ ๆ ซาก ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นก็คือ การทำร้ายคนอื่นและรวมถึงตัวผมเองด้วย
beging เป็นรูปอดีตของคำว่า begehen ซึ่งจะหมายถึงการทำอะไรที่ไม่ค่อยดีหรือทำอะไรโง่ ๆ แล้วจะเป็น verb ที่ใช้ในการกล่าวถึงการฆ่าตัวตาย (Selbstmord begehen) ด้วยค่ะ
S. 71
Wenn es nicht zu regnen begonnen hätte – oder wenn ich einen Schirm dabeigehabt hätte
หากว่าฝนไม่เริ่มตก - หรือหากผมเอาร่มติดมือไปด้วย
ตรงนี้ก็คือ Konjunktiv II นะคะ
(war durchaus möglich gewesen wäre, denn ich hatte es ernsthaft erwogen, bevor ich das Hotel verließ)
ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะผมก็คำนึงถึงเรื่องนี้อย่างจริงจังก่อนออกจากโรงแรม
-, dann hätte ich sie nie kennengelernt.
ผมคงไม่มีโอกาสได้รู้จักกับเธอ
kennengelernt เป็นรูปอดีตของ kennen lernen ซึ่งเป็น verb ที่ต้องเขียนไว้ด้วยกัน (zusammengesetzten verben) ซึ่งจะมีหลักการผัน verb แบบเดียวกับ trennbar verb จะใส่ ge- ที่เหมือนกับ -ed ในภาษาอังกฤษ ไว้ตรงกลางของคำ ไม่ใช่ข้างหน้า
Und wenn ich sie nicht kennengelernt hätte, dann würde ich jetzt noch immer im Schulbuchverlag schuften,
หากผมไม่ได้รู้จักกับเธอ ผมคงยังทำงานอยู่ที่โรงพิมพ์หนังสือเรียน
ตรงนี้ก็คือ Konjunktiv II อีกแล้วนะคะ
noch immer halbe Nächte lang allein in meiner Wohnung herumsitzen,
และคงยังนั่งอยู่คนเดียวตอนกลางคืนในห้องพักของผม
den Rücken gegen die Wand gelehnt, trinken und wirre Selbstgespräche führen.
หลังพิงกับกำแพงห้อง ดื่มคนเดียว และพูดคุยกับตัวเอง
Daran wird mir einmal wieder so recht bewusst, wie wenig man doch Herr seines Schicksals ist.
ณ ตอนนั้น ผมตระหนักอีกครั้งว่า มนุษย์เราควบคุมชะตาชีวิตของตนเองได้น้อยนิดเพียงใด
S. 71
Yukiko und ich fühlten uns von Anfang an zueinander hingezogen.
ยูกิโกะและผมรู้สึกถึงความดึงดูดซึ่งกันและกันตั้งแต่เริ่มแรก
คำนี้มาจาก sich zu etwas hingezogen fühlen นะคะ แต่เมื่อประธานของประโยคคือ เราสองคน หรือ wir ตรงตำแหน่ง sich จึงต้องใช้ uns ค่ะ
Ihre Freundin war viel hübscher, aber ich hatte nur Augen für Yukiko.
เพื่อนของเธอนั้นสวยกว่าเธอมาก แต่ผมสนใจแต่ยูกิโกะเท่านั้น
ตรงนี้คือการแสดงการเปรียบเทียบขั้นกว่า โดยการเติม -er เข้าไปด้านหลังของ hübsch ซึ่งการแสดงขั้นกว่าของเยอรมันจะใช้หลักการนี้กับ adj ที่ยาวกว่าหนึ่งพยางค์เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น fantastischer ในขณะที่ภาษาอังกฤษจะใช้ more fantastic
S. 72
Sie war eher unscheinbar, zumindest nicht der Typ, der überall die Blicke der Männer auf sich zieht.
เธอค่อนข้างดูเรียบ ๆ หรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่ประเภทที่ดึงดูดสายตาหนุ่ม ๆ จากทุกที่ที่เธอไป
Aber es lag etwas in ihrem Gesicht, das nur für mich bestimmt war.
แต่มันมีบางอย่างบนใบหน้าของเธอ ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผมเท่านั้น
Jedesmal, wenn wir uns trafen, sah ich sie mir als erstes genau an.
ทุกครั้งที่เราพบกัน ผมจะพินิจมองเธอเป็นอย่างแรก
ในภาษาเยอรมัน จะมี verb หลายตัว ที่เวลาใช้งานจะต้องประกอบด้วยส่วนอื่น ๆ เช่น Reflexivpronomen, Dativ, Akkusativ หรือ Präposition ซึ่งในหลาย ๆ ครั้ง มักไม่มีหลักการตายตัว ต้องจดจำเอาเองจากการใช้บ่อย ๆ หรืออ่านเจอนั่นเองค่ะ
verb ชุดนี้คือ sich (Dat) jemanden/etwas ansehen เมื่อประธานคือ ich เราจะสามารถสร้างประโยคได้ตามนี้ค่ะ
sich (Dat) = mir
jemanden/etwas = sie ตรงนี้หมายถึงยูกิโกะ
ansehen = จากที่เล่าไปใน S. 71 ตัวนี้คือ trennbar verb: an-sehen ดังนั้น เมื่อใช้ในรูปอดีต ก็ต้องผัน sehen --> sah แล้วใส่ an ไว้ท้ายประโยค
Und ich war hingerissen von dem, was ich sah.
และผมคลั่งไคล้ในสิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า
S. 90
Obwohl wir durchaus weibliche Gäste ohne Begleitung sahen.
ถึงแม้ว่าเราจะเห็นแขกผู้หญิงมาคนเดียวเป็นเรื่องธรรมดา
Manche Frauen scheinen zu erwarten, dass Männer sich an sie heranmachen; andere scheinen das eher zu hoffen.
ผู้หญิงบางคนดูเหมือนคาดหวังให้ผู้ชายเข้ามาจีบ ในขณะที่อีกส่วนคงได้แต่หวัง
ตรงนี้ ใช้เหมือนกับภาษาอังกฤษคำว่า seem to … หรือ appear to …
Ich konnte immer erkennen, zu welcher der beiden Kategorien eine Frau gehörte.
ผมสามารถบอกได้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้จัดอยู่ในประเภทแรกหรือประเภทหลัง
gehören zu … เป็น verb พื้นฐานที่ได้ใช้แน่ ๆ ในชีวิตประจำวันค่ะ
Aber eine so schöne Frau wie diese wäre nie allein in eine Bar gegangen.
แต่ผู้หญิงที่สวยขนาดผู้หญิงคนนี้ จะไม่มีทางมาที่บาร์คนเดียว
Sie würde sich über Annäherungsversuche nicht freuen, sondern sie nur als Belästigung empfinden.
เธอจะไม่รู้สึกดีใจกับความพยายามที่จะเข้ามาจีบเธอ แต่จะรู้สึกเหมือนโดนดูถูกเสียมากกว่า
---> เป็นการเปรียบเปรยที่เวอร์วังอลังการสุด ๆ อ่ะค่ะ
(มีต่อ)
เนื้อหาทั้งหมดมาจาก Blog http://chronicleofphaiy.blogspot.de
สามารถติดตามได้ที่เพจ https://www.facebook.com/sevenyearsingermany