ต่อไปก็คงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นวัยรุ่น อายุ 17-18 เมื่อไหร่ มนุษย์มีปัญหาแน่นอน
สุดฮือฮา ! นักวิทย์เจ๋งพัฒนาได้แล้ว"ปัญญาประดิษฐ์ สมองเท่าเด็ก 4 ขวบ!
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18:00:22 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเรื่องฮือฮาในวงการเทคโนโลยี เมื่อทีมนักวิจัยได้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งมีความฉลาดด้านสติปัญญาเทียบเท่ากับเด็กอายุ 4 ขวบได้
รายงานระบุว่า วงการเทคโนโลยีไก้ก้าวหน้าไปอีกขั้น เมื่อทีมนักวิจัยมีการเผยแพร่ผลการทดสอบไอคิวที่ให้ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) ผ่านระบบๆหนึ่ง เรียกว่า "ConceptNet" ซึ่งคิดค้นโดยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ เอ็มไอที ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นโอเพนท์ซอสซ์ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่นักพัฒนาทั่วไปสามารถเข้าไปดัดแปรงและร่วมพัฒนาได้ ซึ่งการทดสอบดังกล่าวเป็นการทดสอบเดียวกันที่ใช้กับมนุษย์ และผลลัพธ์ที่ได้คือ คอมพิวเตอร์ได้คะแนนดีและเทียบเท่ากับเด็กคนหนึ่ง
โดยทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ รัฐชิคาโก อธิบายว่า "เราได้ทดสอบจิตวิทยาให้แก่ WPPSI-III VIQ ผ่านระบบ ConceptNet 4 มีกระบวนการคิดและตอบสนองได้เทียบเท่ากับเด็ก 4 ขวบ แต่กระบวนการณ์คิดวิเคราะห์ของเขายังด้อยอยู่มาก เมื่อเทียบกับเด็กที่อายุมากกว่า เช่นเด็กที่มีอายุ 7 ขวบขึ้นไป"
ในการศึกษาเต็มรูปแบบ นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า นอกจากกระบวนการคิดวิเคราห์ด้านสติปัญญาแล้ว ได้มีการพัฒนาระบบเสียงให้มีความคล้ายคลึงกับเสียงมนุษย์ ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับสิริในไอโฟน และขณะได้คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาถึง 60 ปีในการพัฒนาเอไอให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองรวดเร็ว และมีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์
ขณะเดียวกัน สุดยอดผู้คิดค้นนวัตกรรมและเจ้าของฉายา "โทนี่ สตาร์คตัวจริง"อย่าง อีลอน มัสก์ มองต่างมุม แสดงความกังวลถึงความก้าวหน้าของ"เอไอนี้"ว่า "การพัฒนาดังกล่าวอาจเกิดความเสี่ยงบางอย่างที่ร้ายแรงภายในเวลา 5-10 ปี ขอให้ทุกคนทราบไว้ว่าผมมีสุดยอดเทคโนโลยีอยู่ในมือ และผมไม่เคยพัฒนามันมาก่อนเลยจนเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งมันไม่ใช่กรณีที่จะทำแบบลวกๆ คุณควรศึกษาควบคู่ไปด้วย"
ขณะที่ชาวอังกฤษเกือบครึ่งยังได้แสดงความกังวลกับการพัฒนาเอไอ ซึ่งในอนาคตหากเหล่าเอไอมีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์จริงๆ นั่นหมายความว่า บริษัทหรือองกรณ์ต่างๆจะตัดสินใจจ้างแรงงานน้อยลง ส่งผลให้คนจำนวนมาตกงาน
อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิทยาศาสตร์ยังคงเชื่อมั่นว่า ความก้าวหน้าของเอไอจะเป้นประโยชน์ต่อการแข่งขันของมนุษย์มากกว่าจะเป็นโทษ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1444455676
เลิกเถียงกันเรื่อง เมกา รัสเซีย หรือ จีนรบกันได้แล้วตอนนี้ AIเริ่มมีอายุเท่าเด็ก 4 ขวบแล้ว
สุดฮือฮา ! นักวิทย์เจ๋งพัฒนาได้แล้ว"ปัญญาประดิษฐ์ สมองเท่าเด็ก 4 ขวบ!
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18:00:22 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเรื่องฮือฮาในวงการเทคโนโลยี เมื่อทีมนักวิจัยได้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งมีความฉลาดด้านสติปัญญาเทียบเท่ากับเด็กอายุ 4 ขวบได้
รายงานระบุว่า วงการเทคโนโลยีไก้ก้าวหน้าไปอีกขั้น เมื่อทีมนักวิจัยมีการเผยแพร่ผลการทดสอบไอคิวที่ให้ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) ผ่านระบบๆหนึ่ง เรียกว่า "ConceptNet" ซึ่งคิดค้นโดยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ เอ็มไอที ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นโอเพนท์ซอสซ์ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่นักพัฒนาทั่วไปสามารถเข้าไปดัดแปรงและร่วมพัฒนาได้ ซึ่งการทดสอบดังกล่าวเป็นการทดสอบเดียวกันที่ใช้กับมนุษย์ และผลลัพธ์ที่ได้คือ คอมพิวเตอร์ได้คะแนนดีและเทียบเท่ากับเด็กคนหนึ่ง
โดยทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ รัฐชิคาโก อธิบายว่า "เราได้ทดสอบจิตวิทยาให้แก่ WPPSI-III VIQ ผ่านระบบ ConceptNet 4 มีกระบวนการคิดและตอบสนองได้เทียบเท่ากับเด็ก 4 ขวบ แต่กระบวนการณ์คิดวิเคราะห์ของเขายังด้อยอยู่มาก เมื่อเทียบกับเด็กที่อายุมากกว่า เช่นเด็กที่มีอายุ 7 ขวบขึ้นไป"
ในการศึกษาเต็มรูปแบบ นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า นอกจากกระบวนการคิดวิเคราห์ด้านสติปัญญาแล้ว ได้มีการพัฒนาระบบเสียงให้มีความคล้ายคลึงกับเสียงมนุษย์ ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับสิริในไอโฟน และขณะได้คาดการณ์ไว้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาถึง 60 ปีในการพัฒนาเอไอให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองรวดเร็ว และมีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์
ขณะเดียวกัน สุดยอดผู้คิดค้นนวัตกรรมและเจ้าของฉายา "โทนี่ สตาร์คตัวจริง"อย่าง อีลอน มัสก์ มองต่างมุม แสดงความกังวลถึงความก้าวหน้าของ"เอไอนี้"ว่า "การพัฒนาดังกล่าวอาจเกิดความเสี่ยงบางอย่างที่ร้ายแรงภายในเวลา 5-10 ปี ขอให้ทุกคนทราบไว้ว่าผมมีสุดยอดเทคโนโลยีอยู่ในมือ และผมไม่เคยพัฒนามันมาก่อนเลยจนเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งมันไม่ใช่กรณีที่จะทำแบบลวกๆ คุณควรศึกษาควบคู่ไปด้วย"
ขณะที่ชาวอังกฤษเกือบครึ่งยังได้แสดงความกังวลกับการพัฒนาเอไอ ซึ่งในอนาคตหากเหล่าเอไอมีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์จริงๆ นั่นหมายความว่า บริษัทหรือองกรณ์ต่างๆจะตัดสินใจจ้างแรงงานน้อยลง ส่งผลให้คนจำนวนมาตกงาน
อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิทยาศาสตร์ยังคงเชื่อมั่นว่า ความก้าวหน้าของเอไอจะเป้นประโยชน์ต่อการแข่งขันของมนุษย์มากกว่าจะเป็นโทษ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1444455676