ว่าแล้วก็ขอสารภาพตามตรงว่าขอบตาของผมกำลังร้อนผะผ่าว เพราะเป็นแฟนคลับของผู้จัดการทีมชาวเยอรมันท่านนี้คนหนึ่งเหมือนกัน
นี่ถ้าผมเป็นเจ้าของสโมสรปีศาจแดง ในเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับออกมาจาก เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม พร้อมความยับเยิน ก่อนตามมาด้วยการโดนไล่ออกจาก ลิเวอร์พูล ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผมจะสั่งการด่วนให้ปลด หลุยส์ ฟาน กัล ออกจากตำแหน่งทันที แล้วรีบไปชิงตัดหน้า เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่
เพราะหากอนุญาตให้กุนซือจอมปรัชญาทำหน้าที่ต่อไปพลางปล่อยให้กุนซือหนุ่มชาวด๊อยช์ลันด์ไปคุม ลิเวอร์พูล มันคงไม่ใช่เรื่องดีต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด แน่นอน
ยิ่งคิดยิ่งเสียดายปนอิจฉา 555
เฉพาะอย่างยิ่งหลังจากทราบว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ คือหนึ่งในคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อผู้จัดการทีมปีศาจแดงคนใหม่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แกลิสต์เอาไว้ ก่อนวางมือซะด้วย
ป๋าเพิ่งเปิดเผยเมื่อวันก่อนว่าตัวแทนของตัวเองที่คิดไว้ประกอบด้วย โชเซ่ มูรินโญ่, คาร์โล อันเชล็อตติ, เจอร์เก้น คล็อปป์, หลุยส์ ฟาน กัล และเป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แต่จิตใจของ มูรินโญ่ มุ่งไปที่ เชลซี อย่างเดียว
"พี่แจ้" ก็ไปแทน มูรินโญ่ ที่ เรอัล มาดริด พอดี
คล็อปป์ ก็ยังมีสัญญากับ ดอร์ทมุนด์
อาจารย์หลุยส์ติดคุมทีมชาติฮอลแลนด์
ส่วน "โค้ชเป๊ป" ถูกท่านพระยาหมื่นทาบทามตอนไปดินเนอร์ด้วยกัน เมื่อเดือนกันยายน 2012 ป๋าอุตส่าห์ทิ้งเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ให้ แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก (เข้าใจว่าคงรับปากกับทาง บาเยิร์น มิวนิค เป็นที่เรียบร้อย)
สุดท้ายหวยเลยมาออกที่ เดวิด มอยส์!
จังหวะไม่ดีจริงๆ นะครับ จังหวะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อำลาตำแหน่ง ถ้า เจอร์เก้น คล็อปป์ ว่างงานเหมือนตอนนี้ คุณพี่เขาก็มีสิทธิ์ที่จะมารับช่วงต่อจากคุณป๋า เพราะมีอะไรหลายๆ อย่างที่คล้ายกัน
อย่างไรก็ต้องขอแสดงความยินดีกับเด็กหงส์ทุกหมู่เหล่าด้วยนะครับ เพราะในสายตาผม เจอร์เก้น คล็อปป์ คือผู้จัดการทีมระดับอ๋องคนหนึ่งของวงการ
แน่นอนว่ามีคุณภาพคับตูดมากกว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แบบเทียบกันไม่ติด
ผมมองว่าเทรนเนอร์วัย 48 ขวบผู้นี้แหละ คือผู้จัดการทีมที่ดูดีและมีชาติตระกูลสูงส่งมากที่สุดของหงส์แดงนับตั้งแต่ปี 1990 เลยทีเดียว
และนั่นอาจหมายถึงการกลับชาติมาเกิดใหม่ของ ลิเวอร์พูล
นับตั้งแต่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งสุดท้าย เมื่อ 1990 ก่อนที่ เคนนี่ ดัลกลิช จะลาออกไป เพราะทนแบกรับความกดดันไม่ไหว - ลิเวอร์พูล เปลี่ยนผู้จัดการทีมมาแล้วอย่างสิ้นเปลืองถึง 7 คน คือ แกรม ซูเนสส์, รอย อีแวนส์, เชร์ราร์ อุลลิเย่ร์, ราฟาเอล เบนิเตซ, รอย ฮ็อดจ์สัน, เคนนี่ ดัลกลิช (รอบ 2) และเบรนแดน ร็อดเจอร์ส โดยแต่ละคนจะมีอายุเฉลี่ยบนเก้าอี้ผู้จัดการทีมหงส์แดงประมาณ 3-4 ปี
ดีที่สุดน่าจะเป็น ราฟา เบนิเตซ ที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยุโรปอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อ 2005
รองลงมาน่าจะเป็น เชร์ราร์ "เฮียโปน" อุลลิเย่ร์ ผู้เสกให้ ลิเวอร์พูล คว้าทริปเปิ้ลแชมป์บอลถ้วย เมื่อ 2001
แต่ที่เหมือนกันหมดทุกคนคือประสบความไม่สำเร็จในพรีเมียร์ลีก
ใกล้เคียงกับตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุดก็ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นี่แหละ ใกล้เคียงกว่าสมัยกุนซือหนวดทำได้อันดับ 2 เมื่อฤดูกาล 2008-09 เสียอีก เรียกว่าอยู่ในมือเลยดีกว่า แต่เพราะความอ่อนหัดของ "เบรนดี้" นี่แหละทำให้โทรฟี่แชมป์กระเด็นหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย
ทว่าโดยส่วนใหญ่ ลิเวอร์พูล จะไม่ติด 4 อันดับแรกในพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ
สำหรับอดีตของผู้จัดการทีมหงส์แดงบางคน
แรกๆ ตอนรับตำแหน่งใหม่ๆ อาจจะดูดีมีอนาคตจน "เดอะ ค็๋อป" อดไม่ได้ที่จะส่งข้อความ (ข้อความละ 3-6 บาท) ไปตามรายการเล่าข่าวว่า "ปีนี้แชมป์แน่" - แต่พอทำไปทำมาผลงานชักตกต่ำลงเรื่อยๆ มันก็ต้องแยกทางกัน และเป็นแบบนี้มาตลอดจนอาจกล่าวได้ว่า ลิเวอร์พูล ยังไม่เจอคนที่ใช่ในตำแหน่งผู้จัดการทีม
เมื่อยังไม่เจอคนที่ใช่ก็ต้องเปลี่ยนไปเรื่อยเหมือนเปลี่ยนกางเกงในนั่นแหละ
บางที เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจเป็นคนที่ ลิเวอร์พูล ไล่ล่าและตามหามานาน..ก็..เป็น..ได้
เหมือนกับที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยไล่ล่าและตามหา "คนที่ใช่" มานาน นับตั้งแต่ เซอร์ แมตต์ บัสบี้ วางมือ พวกเขาเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปเรื่อย วิล์ฟ แม็คกินเนสส์, เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (รอบ 2), แฟรงค์ โอฟาเรล, ทอมมี่ ด็อคเคอร์ตี้, เดฟ เซ็กซ์ตัน และรอน แอตกินสัน กว่าจะตามหาคนที่ใช่อย่าง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนเจอ โดยใช้เวลาไปทั้งหมดถึง 17 ปี แถมตอนนี้ปีศาจแดงก็เริ่มตามหากันใหม่อีกครั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกกี่ปีถึงจะเจอคนที่ใช่อีกครั้ง
ถึงตอนนี้ อดีตมหาอำนาจลูกหนัง ลิเวอร์พูล ก็ตามหาคนที่ใช่มาแล้วถึง 25 ปี
คล็อปปี้ เอ๊ย! คล็อปโป้ คือคนล่าสุด และต่อไปนี้คือเหตุผลที่บอกว่าทำไมเขาอาจเป็นคนที่ใช่สำหรับ ลิเวอร์พูล
1. เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่ในวัยที่กำลังพอพอดี อายุแค่ 48 ใกล้เคียงกับตอนที่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนอายุ 45 คือไม่เด็กและไม่แก่จนเกินไป - สังเกตได้เลยว่ากุนซือที่ประสบความสำเร็จในโลกลูกหนังยุคปัจจุบันอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หรือ หลุยส์ เอ็นริเก้ รวมถึงตัวเขาเองก็พุ่งชนความสำเร็จบนวัยประมาณนี้แหละ
2. เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นโค้ชที่อุมด้วยความสามารถ หลักฐานสำคัญคือการสร้างทีมที่ไร้ดาราในตอนแรกอย่าง ดอร์ทมุนด์ ให้มาแย่งอำนาจจาก บาเยิร์น มิวนิค ได้ถึง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน แถมพาเข้าชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกต่างหาก มันไม่ใช่เรื่องฟักกลิ้งฟลุ๊ค เพราะถ้าไม่มีฝีมือไม่มีความสามารถคงทำอะไรเยี่ยงนี้ไม่ได้แน่นอน
3. เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นกุนซือไฟแรงที่มีความกระเหี้ยนสูง และหื่นกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับทีมประเภทยักษ์หลับอย่าง ลิเวอร์พูล ซึ่งแทบไม่ต่างจากตอนที่เขาคุม ดอร์ทมุนด์ ใหม่ๆ นั่นแหละ
นอกจากนี้พี่แกยังเป็นกุนซือที่มีความเมามัน กระตือรือร้นและตื่นตัวตลอดเวลา จุดนี้แตกต่างจากผู้จัดการทีมบางท่านที่ก้มหน้าก้มหน้าจดอะไรยุกยิกๆ อยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองอย่างเดียวตลอดทั้งเกม โดยไม่คิดที่จะออกมาแก้เกมและกระตุ้นลูกทีมในยามคับขันบ้าง
คิดง่ายๆ นะครับว่าถ้าผู้จัดการทีมมีความเมามัน ลูกทีมก็จะเล่นด้วยความเมามันด้วยเหมือนกัน
ถ้าผู้จัดการทีมเอาแต่วางตูดอยู่บนเก้าอี้อย่างเดียว โดยไม่ลุกมารำดาบรำหอกออกยั่วศึกบ้าง ลูกทีมก็จะเล่นกันแบบซังกะตาย - ถ่ายบอลไปถ่ายบอลมา...น่าเบื่อ!
4. เจอร์เก้น คล็อปป์ มีความสามารถพิเศษในการปั้นดินให้เป็นดาว เพราะก่อนที่ "เสือเหลือง" จะประกาศศักดาแห่งความยิ่งใหญ่ในเยอรมัน แทบไม่มีใครรู้จักผู้เล่นอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ชินจิ คางาวะ, มาร์โก รอยช์, อิลคาย กุนโดกัน หรือ มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ มาก่อน
ที่สำคัญคือคุณพี่เขาอาจใช้ความผูกพัน ดึงลูกน้องเก่าของตัวเองมาที่ แอนฟิลด์
บางทีเดือนมกราคมนี้ หรือไม่ก็ฤดูกาลหน้า ลิเวอร์พูล อาจมีกองหลังกับกองกลางคนใหม่อย่าง มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ หรือ มาร์โก รอยช์ ก็เป็นได้
5. ข้อนี้อาจพิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ดูนามสกุลของคุณพี่เขาซีครับ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น
คือคำว่า "คล็อปป์" พ้องเสียงกับคำว่า "ค็อป" ที่หมายถึง ลิเวอร์พูล
บางที เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจเกิดมาเพื่อ "เดอะ ค็อป" โดยเฉพาะ ซึ่งในที่สุดทั้งคู่ก็หากันจนเจอ
หรือมันถึงเวลาแล้วที่ ลิเวอร์พูล จะกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ หลังจากที่รอมานานแสนนาน?
ที่แน่ๆ คือตอนนี้ "เด็กหงส์" กำลังระริกระรี้ยิ่งกว่าปลากระดี่ได้น้ำพลางซอยบั้นเด้าด้วยความเร็วสูง
...ว่าแล้วสำหรับท่านที่ไม่ใช่เด็กหงส์ โดยเฉพาะท่านที่เป็นเด็กผี กรุณารีบปิดประตู-หน้าต่างบ้านของท่านให้มิดชิด ทางที่ดีควรปิดการสื่อสารทุกชนิดด้วย
เพราะความน่ากลัวกำลังจะมาเยือนเมืองมนุษย์อีกครั้งหนึ่งแล้ว!
"บอ.บู๋"
Bbmeetyou@yahoo.com
http://www.siamsport.co.th/Column/151008_358.html
"ถ้าผมเป็นเจ้าของสโมสรปีศาจแดง ผมจะรีบปลดฟานกัล แล้วแย่งคล๊อบมาจากลิเวอร์พูล" บอบู๋
นี่ถ้าผมเป็นเจ้าของสโมสรปีศาจแดง ในเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับออกมาจาก เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม พร้อมความยับเยิน ก่อนตามมาด้วยการโดนไล่ออกจาก ลิเวอร์พูล ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผมจะสั่งการด่วนให้ปลด หลุยส์ ฟาน กัล ออกจากตำแหน่งทันที แล้วรีบไปชิงตัดหน้า เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่
เพราะหากอนุญาตให้กุนซือจอมปรัชญาทำหน้าที่ต่อไปพลางปล่อยให้กุนซือหนุ่มชาวด๊อยช์ลันด์ไปคุม ลิเวอร์พูล มันคงไม่ใช่เรื่องดีต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด แน่นอน
ยิ่งคิดยิ่งเสียดายปนอิจฉา 555
เฉพาะอย่างยิ่งหลังจากทราบว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ คือหนึ่งในคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อผู้จัดการทีมปีศาจแดงคนใหม่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แกลิสต์เอาไว้ ก่อนวางมือซะด้วย
ป๋าเพิ่งเปิดเผยเมื่อวันก่อนว่าตัวแทนของตัวเองที่คิดไว้ประกอบด้วย โชเซ่ มูรินโญ่, คาร์โล อันเชล็อตติ, เจอร์เก้น คล็อปป์, หลุยส์ ฟาน กัล และเป๊ป กวาร์ดิโอล่า
แต่จิตใจของ มูรินโญ่ มุ่งไปที่ เชลซี อย่างเดียว
"พี่แจ้" ก็ไปแทน มูรินโญ่ ที่ เรอัล มาดริด พอดี
คล็อปป์ ก็ยังมีสัญญากับ ดอร์ทมุนด์
อาจารย์หลุยส์ติดคุมทีมชาติฮอลแลนด์
ส่วน "โค้ชเป๊ป" ถูกท่านพระยาหมื่นทาบทามตอนไปดินเนอร์ด้วยกัน เมื่อเดือนกันยายน 2012 ป๋าอุตส่าห์ทิ้งเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ให้ แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก (เข้าใจว่าคงรับปากกับทาง บาเยิร์น มิวนิค เป็นที่เรียบร้อย)
สุดท้ายหวยเลยมาออกที่ เดวิด มอยส์!
จังหวะไม่ดีจริงๆ นะครับ จังหวะที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อำลาตำแหน่ง ถ้า เจอร์เก้น คล็อปป์ ว่างงานเหมือนตอนนี้ คุณพี่เขาก็มีสิทธิ์ที่จะมารับช่วงต่อจากคุณป๋า เพราะมีอะไรหลายๆ อย่างที่คล้ายกัน
อย่างไรก็ต้องขอแสดงความยินดีกับเด็กหงส์ทุกหมู่เหล่าด้วยนะครับ เพราะในสายตาผม เจอร์เก้น คล็อปป์ คือผู้จัดการทีมระดับอ๋องคนหนึ่งของวงการ
แน่นอนว่ามีคุณภาพคับตูดมากกว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แบบเทียบกันไม่ติด
ผมมองว่าเทรนเนอร์วัย 48 ขวบผู้นี้แหละ คือผู้จัดการทีมที่ดูดีและมีชาติตระกูลสูงส่งมากที่สุดของหงส์แดงนับตั้งแต่ปี 1990 เลยทีเดียว
และนั่นอาจหมายถึงการกลับชาติมาเกิดใหม่ของ ลิเวอร์พูล
นับตั้งแต่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งสุดท้าย เมื่อ 1990 ก่อนที่ เคนนี่ ดัลกลิช จะลาออกไป เพราะทนแบกรับความกดดันไม่ไหว - ลิเวอร์พูล เปลี่ยนผู้จัดการทีมมาแล้วอย่างสิ้นเปลืองถึง 7 คน คือ แกรม ซูเนสส์, รอย อีแวนส์, เชร์ราร์ อุลลิเย่ร์, ราฟาเอล เบนิเตซ, รอย ฮ็อดจ์สัน, เคนนี่ ดัลกลิช (รอบ 2) และเบรนแดน ร็อดเจอร์ส โดยแต่ละคนจะมีอายุเฉลี่ยบนเก้าอี้ผู้จัดการทีมหงส์แดงประมาณ 3-4 ปี
ดีที่สุดน่าจะเป็น ราฟา เบนิเตซ ที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยุโรปอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อ 2005
รองลงมาน่าจะเป็น เชร์ราร์ "เฮียโปน" อุลลิเย่ร์ ผู้เสกให้ ลิเวอร์พูล คว้าทริปเปิ้ลแชมป์บอลถ้วย เมื่อ 2001
แต่ที่เหมือนกันหมดทุกคนคือประสบความไม่สำเร็จในพรีเมียร์ลีก
ใกล้เคียงกับตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุดก็ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นี่แหละ ใกล้เคียงกว่าสมัยกุนซือหนวดทำได้อันดับ 2 เมื่อฤดูกาล 2008-09 เสียอีก เรียกว่าอยู่ในมือเลยดีกว่า แต่เพราะความอ่อนหัดของ "เบรนดี้" นี่แหละทำให้โทรฟี่แชมป์กระเด็นหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย
ทว่าโดยส่วนใหญ่ ลิเวอร์พูล จะไม่ติด 4 อันดับแรกในพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ
สำหรับอดีตของผู้จัดการทีมหงส์แดงบางคน
แรกๆ ตอนรับตำแหน่งใหม่ๆ อาจจะดูดีมีอนาคตจน "เดอะ ค็๋อป" อดไม่ได้ที่จะส่งข้อความ (ข้อความละ 3-6 บาท) ไปตามรายการเล่าข่าวว่า "ปีนี้แชมป์แน่" - แต่พอทำไปทำมาผลงานชักตกต่ำลงเรื่อยๆ มันก็ต้องแยกทางกัน และเป็นแบบนี้มาตลอดจนอาจกล่าวได้ว่า ลิเวอร์พูล ยังไม่เจอคนที่ใช่ในตำแหน่งผู้จัดการทีม
เมื่อยังไม่เจอคนที่ใช่ก็ต้องเปลี่ยนไปเรื่อยเหมือนเปลี่ยนกางเกงในนั่นแหละ
บางที เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจเป็นคนที่ ลิเวอร์พูล ไล่ล่าและตามหามานาน..ก็..เป็น..ได้
เหมือนกับที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยไล่ล่าและตามหา "คนที่ใช่" มานาน นับตั้งแต่ เซอร์ แมตต์ บัสบี้ วางมือ พวกเขาเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปเรื่อย วิล์ฟ แม็คกินเนสส์, เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (รอบ 2), แฟรงค์ โอฟาเรล, ทอมมี่ ด็อคเคอร์ตี้, เดฟ เซ็กซ์ตัน และรอน แอตกินสัน กว่าจะตามหาคนที่ใช่อย่าง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนเจอ โดยใช้เวลาไปทั้งหมดถึง 17 ปี แถมตอนนี้ปีศาจแดงก็เริ่มตามหากันใหม่อีกครั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกกี่ปีถึงจะเจอคนที่ใช่อีกครั้ง
ถึงตอนนี้ อดีตมหาอำนาจลูกหนัง ลิเวอร์พูล ก็ตามหาคนที่ใช่มาแล้วถึง 25 ปี
คล็อปปี้ เอ๊ย! คล็อปโป้ คือคนล่าสุด และต่อไปนี้คือเหตุผลที่บอกว่าทำไมเขาอาจเป็นคนที่ใช่สำหรับ ลิเวอร์พูล
1. เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่ในวัยที่กำลังพอพอดี อายุแค่ 48 ใกล้เคียงกับตอนที่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาคุม แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนอายุ 45 คือไม่เด็กและไม่แก่จนเกินไป - สังเกตได้เลยว่ากุนซือที่ประสบความสำเร็จในโลกลูกหนังยุคปัจจุบันอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หรือ หลุยส์ เอ็นริเก้ รวมถึงตัวเขาเองก็พุ่งชนความสำเร็จบนวัยประมาณนี้แหละ
2. เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นโค้ชที่อุมด้วยความสามารถ หลักฐานสำคัญคือการสร้างทีมที่ไร้ดาราในตอนแรกอย่าง ดอร์ทมุนด์ ให้มาแย่งอำนาจจาก บาเยิร์น มิวนิค ได้ถึง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน แถมพาเข้าชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกต่างหาก มันไม่ใช่เรื่องฟักกลิ้งฟลุ๊ค เพราะถ้าไม่มีฝีมือไม่มีความสามารถคงทำอะไรเยี่ยงนี้ไม่ได้แน่นอน
3. เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นกุนซือไฟแรงที่มีความกระเหี้ยนสูง และหื่นกระหายที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งกับทีมประเภทยักษ์หลับอย่าง ลิเวอร์พูล ซึ่งแทบไม่ต่างจากตอนที่เขาคุม ดอร์ทมุนด์ ใหม่ๆ นั่นแหละ
นอกจากนี้พี่แกยังเป็นกุนซือที่มีความเมามัน กระตือรือร้นและตื่นตัวตลอดเวลา จุดนี้แตกต่างจากผู้จัดการทีมบางท่านที่ก้มหน้าก้มหน้าจดอะไรยุกยิกๆ อยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองอย่างเดียวตลอดทั้งเกม โดยไม่คิดที่จะออกมาแก้เกมและกระตุ้นลูกทีมในยามคับขันบ้าง
คิดง่ายๆ นะครับว่าถ้าผู้จัดการทีมมีความเมามัน ลูกทีมก็จะเล่นด้วยความเมามันด้วยเหมือนกัน
ถ้าผู้จัดการทีมเอาแต่วางตูดอยู่บนเก้าอี้อย่างเดียว โดยไม่ลุกมารำดาบรำหอกออกยั่วศึกบ้าง ลูกทีมก็จะเล่นกันแบบซังกะตาย - ถ่ายบอลไปถ่ายบอลมา...น่าเบื่อ!
4. เจอร์เก้น คล็อปป์ มีความสามารถพิเศษในการปั้นดินให้เป็นดาว เพราะก่อนที่ "เสือเหลือง" จะประกาศศักดาแห่งความยิ่งใหญ่ในเยอรมัน แทบไม่มีใครรู้จักผู้เล่นอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ชินจิ คางาวะ, มาร์โก รอยช์, อิลคาย กุนโดกัน หรือ มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ มาก่อน
ที่สำคัญคือคุณพี่เขาอาจใช้ความผูกพัน ดึงลูกน้องเก่าของตัวเองมาที่ แอนฟิลด์
บางทีเดือนมกราคมนี้ หรือไม่ก็ฤดูกาลหน้า ลิเวอร์พูล อาจมีกองหลังกับกองกลางคนใหม่อย่าง มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ หรือ มาร์โก รอยช์ ก็เป็นได้
5. ข้อนี้อาจพิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ดูนามสกุลของคุณพี่เขาซีครับ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น
คือคำว่า "คล็อปป์" พ้องเสียงกับคำว่า "ค็อป" ที่หมายถึง ลิเวอร์พูล
บางที เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจเกิดมาเพื่อ "เดอะ ค็อป" โดยเฉพาะ ซึ่งในที่สุดทั้งคู่ก็หากันจนเจอ
หรือมันถึงเวลาแล้วที่ ลิเวอร์พูล จะกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ หลังจากที่รอมานานแสนนาน?
ที่แน่ๆ คือตอนนี้ "เด็กหงส์" กำลังระริกระรี้ยิ่งกว่าปลากระดี่ได้น้ำพลางซอยบั้นเด้าด้วยความเร็วสูง
...ว่าแล้วสำหรับท่านที่ไม่ใช่เด็กหงส์ โดยเฉพาะท่านที่เป็นเด็กผี กรุณารีบปิดประตู-หน้าต่างบ้านของท่านให้มิดชิด ทางที่ดีควรปิดการสื่อสารทุกชนิดด้วย
เพราะความน่ากลัวกำลังจะมาเยือนเมืองมนุษย์อีกครั้งหนึ่งแล้ว!
"บอ.บู๋"
Bbmeetyou@yahoo.com
http://www.siamsport.co.th/Column/151008_358.html