นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ออกมาปรากฏตัวให้สื่อมวลชนได้เห็นเป็นครั้งแรกในงานแถลงข่าว เมย์ไหน..ไฟแรงพุ่ง มุ่งสู่ 80 ล้าน สำหรับนักแสดงสาว "ปันปัน สุทัตตา" ที่ก่อนหน้านี้ถูกทางต้นสังกัดสั่งห้ามงดรับงานและเล่นโซเชียลเป็นเวลา 6 เดือนเต็ม หลังจากที่เป็นหนึ่งในนักแสดงที่อยู่ในคลิปเต้นบนรถไฟใต้ดินที่ประเทศญี่ปุ่น
งานนี้สาวปันปันยังได้ออกมาเปิดใจให้ฟังเป็นครั้งแรก ถึงบทเรียนราคาแพงที่เกิดขึ้น ทำให้ต่อจากนี้ไปต้องระมัดระวังตัวเอง และคิดให้รอบคอบก่อนจะทำอะไรอีกด้วย
ความรู้สึกหลังจากที่วันนี้ได้มาเจอสื่ออีกครั้งเป็นอย่างไรบ้าง?
"จริงๆ ก็ตื่นเต้นนิดนึงเนอะ เพราะเราไม่ได้มาอีเว้นท์แบบนี้นานแล้วเหมือนกัน ก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากค่ะ ในที่สุดก็จะได้ออกมาโปรโมทหนังตัวเองแล้วนะ (หัวเราะ)"
วันเปิดตัวรอบสื่อเราไม่ได้มา เสียดายไหม?
"พูดตรงๆก็รู้สึกนอยด์นิดหน่อยค่ะ เพราะรอบสื่อเราก็ไม่ได้ไปดู หนังเราเราได้ไปดูทีหลัง แต่ก็ไม่เป็นไรจ่ายเงินดูเองก็ได้ค่ะ"
โดนพักงานไป 6 เดือนเป็นอย่างไรบ้าง?
"โอเคค่ะ เหมือนเราได้ไปใช้ชีวิตที่เราไม่เคยมี ไปเรียนหนังสือ และสิ่งที่หนูแฮปปี้มากกับการที่ได้หยุดงานไปก็คือ หนูได้อยู่กับพ่อแม่มากขึ้นค่ะ หนูมีเวลาเจอพ่อแม่เยอะมากเลยค่ะ ปกติก็จะเรียนไปทำงานกลับบ้านก็ดึก ตื่นเช้าต้องไปเรียนอีก ทำให้ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์เลย"
ที่ผ่านมาเราเครียดไหม?
"ที่ผ่านมาไม่เครียดนะคะ หนูปกติมากค่ะ"
6 เดือนที่ผ่านมาได้บทเรียนอะไรบ้าง?
"จริงๆ เป็นบทเรียนตั้งแต่ตอนที่เกิดเรื่องแล้วค่ะ เราก็ต้องคิดก่อนที่จะทำอะไร ทุกอย่างเป็นดาบสองคมได้ ห้ามทำอะไรแบบไม่คิด เพราะเราไม่ได้ยืนอยู่ในจุดที่คนมองไม่เห็น เราอยู่ในจุดที่สว่างมากค่ะ ทุกคนเห็นเรา เพราะฉะนั้นต้องระวังตัวให้มากขึ้น"
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราโตขึ้นไหม?
"ทำให้โตขึ้นค่ะ"
6 เดือนสำหรับเรามันยาวนาน หรือผ่านไปไวมาก?
"แรกๆ เหมือนจะนานนะคะ แต่พอผ่านมาสักพักก็คิดว่าครบแล้วเหรอ เพราะเราอยู่ในช่วงเปิดเทอมค่ะ เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ก็เรียนหนังสือ เพิ่งสอบมิดเทอมเสร็จค่ะ"
อึดอัดบ้างไหม ที่โพสต์อะไรลงโซเชียลก็ไม่ได้?
"ไม่อึดอัดนะคะ เพราะโดยส่วนตัวหนูไม่ค่อยชอบถ่ายรูป ถ้าคนรอบตัวเห็นจะรู้ว่าไม่ค่อยถ่ายรูปอยู่แล้ว ไปไหนก็ไม่ค่อยถ่าย ก็เลยไม่ได้มีความต้องการที่จะลงรูปหรือโพสต์อะไรตลอดเวลา"
ได้เข้ามาเช็คข่าวในโลกโซเชียลบ้างไหม?
"หนูไม่รู้ข่าวอะไรเลยค่ะ (หัวเราะ)"
จะกลับมาเล่นโซเชียลอีกไหม?
"จริงๆ ได้ไอจีกลับมาเล่นแล้ววันนี้ แต่ก็ยังไม่มีอะไรลงค่ะ ก็ว่าจะขอพี่ๆ นักข่าวถ่ายรูปลงวันนี้เป็นรูปแรกค่ะ"
ที่ผ่านมาเราได้กำลังใจจากคนรอบข้างอย่างไรบ้าง?
"กำลังใจจากคนรอบข้างสำคัญมากค่ะ เขาก็จะบอกว่าไม่เป็นไรนะ เวลานี้ไปคิดทบทวน ไปอยู่กับตัวเองบ้าง เพราะที่ผ่านมาเราก็ทำงานคิดฟุ้งซ่านไปหมดได้แต่คิดโน่นคิดนี่ พอหยุดไปก็เหมือนนั่งสมาธิไป 6 เดือนเลย ได้อยู่กับตัวเอง (ยิ้ม)"
กลับมารับงานอีกครั้ง ตอนนี้ผู้ใหญ่ป้อนงานให้บ้างแล้วหรือยัง?
"ตอนนี้ก็มีโปรเจคเมย์ไหนไฟแรงเฟ่อนี่แหละค่ะที่กำลังฉายอยู่ และช่วงปลายปีเราจะมีคอนเสิร์ต 11ปี GTH ก็ซ้อมเต้นซ้อมร้องเพลงอยู่ จริงจังมากค่ะ"
จะได้เห็นเราทางหน้าจอมากขึ้น?
"ใช่ค่ะ"
ถามถึงความสัมพันธ์กับ มาร์ช จุฑาวุฒิ เป็นอย่างไรบ้าง เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเราห่างๆ กัน?
"ก็ไม่ค่อยได้เจอกันค่ะ อย่างที่บอกหนูเปิดเทอม พี่เขาก็ทำงาน แต่ยังเจอบ้าง และคุยกันปกติค่ะ"
ความสัมพันธ์ยังโอเค ราบรื่นดีใช่ไหม?
"โอเคค่ะ ปกติมาก"
เรียกว่าแฟนได้หรือยัง?
" (หัวเราะ) สนิทกันมากที่สุดก็พอ"
ผ่านด่านคุณพ่อหรือยัง?
"คุณพ่อนั่งอยู่ตรงนั้น (ยิ้ม) พ่อก็โอเค ทำอะไรอยู่ในสายตาตลอด ไปไหนก็บอก กลับบ้านกี่โมงก็บอก"
ปันปัน ออกสื่อครั้งแรก!พร้อมเปิดใจหลังถูกพักงานครึ่งปี
ออกมาปรากฏตัวให้สื่อมวลชนได้เห็นเป็นครั้งแรกในงานแถลงข่าว เมย์ไหน..ไฟแรงพุ่ง มุ่งสู่ 80 ล้าน สำหรับนักแสดงสาว "ปันปัน สุทัตตา" ที่ก่อนหน้านี้ถูกทางต้นสังกัดสั่งห้ามงดรับงานและเล่นโซเชียลเป็นเวลา 6 เดือนเต็ม หลังจากที่เป็นหนึ่งในนักแสดงที่อยู่ในคลิปเต้นบนรถไฟใต้ดินที่ประเทศญี่ปุ่น
งานนี้สาวปันปันยังได้ออกมาเปิดใจให้ฟังเป็นครั้งแรก ถึงบทเรียนราคาแพงที่เกิดขึ้น ทำให้ต่อจากนี้ไปต้องระมัดระวังตัวเอง และคิดให้รอบคอบก่อนจะทำอะไรอีกด้วย
ความรู้สึกหลังจากที่วันนี้ได้มาเจอสื่ออีกครั้งเป็นอย่างไรบ้าง?
"จริงๆ ก็ตื่นเต้นนิดนึงเนอะ เพราะเราไม่ได้มาอีเว้นท์แบบนี้นานแล้วเหมือนกัน ก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากค่ะ ในที่สุดก็จะได้ออกมาโปรโมทหนังตัวเองแล้วนะ (หัวเราะ)"
วันเปิดตัวรอบสื่อเราไม่ได้มา เสียดายไหม?
"พูดตรงๆก็รู้สึกนอยด์นิดหน่อยค่ะ เพราะรอบสื่อเราก็ไม่ได้ไปดู หนังเราเราได้ไปดูทีหลัง แต่ก็ไม่เป็นไรจ่ายเงินดูเองก็ได้ค่ะ"
โดนพักงานไป 6 เดือนเป็นอย่างไรบ้าง?
"โอเคค่ะ เหมือนเราได้ไปใช้ชีวิตที่เราไม่เคยมี ไปเรียนหนังสือ และสิ่งที่หนูแฮปปี้มากกับการที่ได้หยุดงานไปก็คือ หนูได้อยู่กับพ่อแม่มากขึ้นค่ะ หนูมีเวลาเจอพ่อแม่เยอะมากเลยค่ะ ปกติก็จะเรียนไปทำงานกลับบ้านก็ดึก ตื่นเช้าต้องไปเรียนอีก ทำให้ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์เลย"
ที่ผ่านมาเราเครียดไหม?
"ที่ผ่านมาไม่เครียดนะคะ หนูปกติมากค่ะ"
6 เดือนที่ผ่านมาได้บทเรียนอะไรบ้าง?
"จริงๆ เป็นบทเรียนตั้งแต่ตอนที่เกิดเรื่องแล้วค่ะ เราก็ต้องคิดก่อนที่จะทำอะไร ทุกอย่างเป็นดาบสองคมได้ ห้ามทำอะไรแบบไม่คิด เพราะเราไม่ได้ยืนอยู่ในจุดที่คนมองไม่เห็น เราอยู่ในจุดที่สว่างมากค่ะ ทุกคนเห็นเรา เพราะฉะนั้นต้องระวังตัวให้มากขึ้น"
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราโตขึ้นไหม?
"ทำให้โตขึ้นค่ะ"
6 เดือนสำหรับเรามันยาวนาน หรือผ่านไปไวมาก?
"แรกๆ เหมือนจะนานนะคะ แต่พอผ่านมาสักพักก็คิดว่าครบแล้วเหรอ เพราะเราอยู่ในช่วงเปิดเทอมค่ะ เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ก็เรียนหนังสือ เพิ่งสอบมิดเทอมเสร็จค่ะ"
อึดอัดบ้างไหม ที่โพสต์อะไรลงโซเชียลก็ไม่ได้?
"ไม่อึดอัดนะคะ เพราะโดยส่วนตัวหนูไม่ค่อยชอบถ่ายรูป ถ้าคนรอบตัวเห็นจะรู้ว่าไม่ค่อยถ่ายรูปอยู่แล้ว ไปไหนก็ไม่ค่อยถ่าย ก็เลยไม่ได้มีความต้องการที่จะลงรูปหรือโพสต์อะไรตลอดเวลา"
ได้เข้ามาเช็คข่าวในโลกโซเชียลบ้างไหม?
"หนูไม่รู้ข่าวอะไรเลยค่ะ (หัวเราะ)"
จะกลับมาเล่นโซเชียลอีกไหม?
"จริงๆ ได้ไอจีกลับมาเล่นแล้ววันนี้ แต่ก็ยังไม่มีอะไรลงค่ะ ก็ว่าจะขอพี่ๆ นักข่าวถ่ายรูปลงวันนี้เป็นรูปแรกค่ะ"
ที่ผ่านมาเราได้กำลังใจจากคนรอบข้างอย่างไรบ้าง?
"กำลังใจจากคนรอบข้างสำคัญมากค่ะ เขาก็จะบอกว่าไม่เป็นไรนะ เวลานี้ไปคิดทบทวน ไปอยู่กับตัวเองบ้าง เพราะที่ผ่านมาเราก็ทำงานคิดฟุ้งซ่านไปหมดได้แต่คิดโน่นคิดนี่ พอหยุดไปก็เหมือนนั่งสมาธิไป 6 เดือนเลย ได้อยู่กับตัวเอง (ยิ้ม)"
กลับมารับงานอีกครั้ง ตอนนี้ผู้ใหญ่ป้อนงานให้บ้างแล้วหรือยัง?
"ตอนนี้ก็มีโปรเจคเมย์ไหนไฟแรงเฟ่อนี่แหละค่ะที่กำลังฉายอยู่ และช่วงปลายปีเราจะมีคอนเสิร์ต 11ปี GTH ก็ซ้อมเต้นซ้อมร้องเพลงอยู่ จริงจังมากค่ะ"
จะได้เห็นเราทางหน้าจอมากขึ้น?
"ใช่ค่ะ"
ถามถึงความสัมพันธ์กับ มาร์ช จุฑาวุฒิ เป็นอย่างไรบ้าง เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเราห่างๆ กัน?
"ก็ไม่ค่อยได้เจอกันค่ะ อย่างที่บอกหนูเปิดเทอม พี่เขาก็ทำงาน แต่ยังเจอบ้าง และคุยกันปกติค่ะ"
ความสัมพันธ์ยังโอเค ราบรื่นดีใช่ไหม?
"โอเคค่ะ ปกติมาก"
เรียกว่าแฟนได้หรือยัง?
" (หัวเราะ) สนิทกันมากที่สุดก็พอ"
ผ่านด่านคุณพ่อหรือยัง?
"คุณพ่อนั่งอยู่ตรงนั้น (ยิ้ม) พ่อก็โอเค ทำอะไรอยู่ในสายตาตลอด ไปไหนก็บอก กลับบ้านกี่โมงก็บอก"