ตอนที่ 1 สู่นครโฮจิมินทร์ - มุ่ยเน่
สวัสดีครับทุกคนครั้งนี้ผมจะพาทุกคนไปเวียดนามใต้กันครับ หลังทริปก่อนหน้านั้นพาทุกคนไปตะลอนและปั่นจักรยานที่ฮ่องกงกันมาแล้ว โดยครั้งนี้ผมได้นัดแนะกับเพื่อนอีกคนว่าจะไปไหนดีที่เป็นประเทศใกล้ ๆ ประกอบกับสายการบินนกแอร์เปิดรูทเส้นทางใหม่ ดอนเมือง (DMK) - โฮจิมินทร์ (SGN) พอดีเลยได้โอกาสไปเยือนเมืองนี้กัน หลังจากอ่านมาหลายรีวิวเหลือเกินว่าสักวันหนึ่งจะขอไปทะเลทรายแบบใกล้บ้านเรา (ไม่มีปัญญาไปซาฮารา) เลยทำการจองตั๋วไปครับ และระหว่างนั้นก็ทำการศึกษาสถานที่ที่จะไป รวมถึงที่พักก็ให้เพื่อนทำการจองให้ โดยวันที่เดินทางคือ 1 - 5 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าก่อนหน้าวันออกเดินทาง 4-5 วัน เพื่อนได้ทำการอินบ็อกมาบอกว่า ไม่สามารถไปได้แล้วเนื่องจากติดทำธุระที่ประเทศจีน ไอ้เราก็ใจแป้วเลยครับว่าจะเอาไงกับชีวิตดี เดินหน้าหรือถอยหลัง คิดจนกระทั่งถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่งของวันที่ 1 ตุลาคม เครื่องออกจากสนามบิน 7.30 น. สักพักเลยตัดสินใจไปก็ไป ตายเอาดาบหน้า (ใจจริงกลัวอ่านรีวิวว่า โดนโกงบ้าง ชิงทรัพย์บ้าง แล้วไปตัวคนเดียวจะรอดไหมเพิ่งจะไปประเทศนี้ครั้งแรก)
เส้นทางจากดอนเมืองไปโฮจิมินทร์ ผมและเพื่อนได้จองกันตั้งแต่เดือนกรกฏาคม แปบนะเพิ่งจองฮ่องกงไปหยกๆๆ มาจองเวียดนามอีก อาลัยแปบ ซึ่งไปวัน 1 - 5 ตุลาคม 2015 ครับ (เส้นทางบินแรกของน้องนกไปโฮจิมินทร์)
ปอลิง ฝากกดถูกใจหรือมีคำถามอะไรถามในอินบอกซ์ได้เลยครับ หรือให้กำลังใจก้ได้นะครับ อิอิ
บรรยากาศบริเวณเคาเตอร์เชคอินไฟล์ทไปโฮจิมินทร์
ยืนมองป้ายแล้วทำตาปริบ ๆ เนื่องจากง่วงนอนมากถึงมากที่สุด
บรรยากาศภายในเกท 23 ของเส้นทางการบินไฟล์ทปฐมฤกษ์ ดอนเมือง - โฮจิมินทร์ ครับ ส่วนใหญ่จะเยอะเพราะทัวร์คนไทยนี่แหละ
ผู้ที่จะพาเราลัดฟ้าไปนครไซกอนครั้งนี้ คือ นกร่าเริง นั่นเอง ขอเรียกนกนีโม นะ
บรรยากาศภายในเครื่องเจ้านกร่าเริง เต็มไปด้วยกลุ่มทัวร์คนไทย
ในเที่ยวบินไฟล์ทปฐมฤกษ์ของนกแอร์ไปนครโฮจิมินทร์นั้น ก็จะมีการแจกแผนที่ท่องเที่ยวโฮจิมินทร์ รวมถึงขวดลูกอม (น่ารักมากมาย) ขณะนั่งเครื่องแอร์โฮสเตสและกัปตัน พูดผิดบ่อยมาก ว่าย่างกุ้ง ไปพม่าบ้าง (ตกลงนิผมจะไปพม่า หรือไปเวียดนามกันแน่) สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้โดยสารภายในเที่ยวบินนี้ได้อย่างดี
และแล้วภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีจากดอนเมืองก็เข้าสู่นครโฮจิมินทร์ เมืองที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเวียดนามแล้วครับ
ป้ายต้อนรับแสดงความยินดีไฟล์ทบินปฐมฤกษ์ของนกแอร์ครับ
หลังจากนั้นก็ทำพิธีการผ่านตม. แล้วทำการแลกเงินดอลลาร์เป็นดองเวียดนามและซื้อซิมบริเวณภายในสนามบินครับ พอเสร็จก็ออกทางประตู ชะงักแปบคือคนรอเยอะมาก นี่ถ้ามีป้ายไฟ ป้ายชื่อนะ คิดว่าตัวเองเป็นซุปตาร์เกาหลีเลย อิอิ
รถเมล์ที่เห็นไกล ๆ นั่นคือสาย 152 ครับสายจากสนามบินเข้าไปยังบริเวณเมืองโฮจิมินทร์ ค่าใช้จ่ายคนละ 5000 ดองเวียดนามครับ
บรรยากาศภายในรถค่อนข้างแออัด เนื่องจากสัมภาระนักท่องเที่ยวแต่ละคนใช่ว่าจะน้อย ซึ่งตอนขึ้นรถผมยินดีจะจ่าย 10000 ดองเวียดนามเพื่อเอาเก้าอี้สองตัว เลยไปบอกคนขับรถ คนขับรถตรงมายังที่ที่ผมนั่งแล้วก็บอกว่า คิด 5000 ดองเวียดนาม ขนาดเราชี้ว่าเอาสองที่ ลุงก็ยืนยันว่า 5000 ดอง (ขอบคุณครับลุง) ไม่ได้มีผมคนเดียวนะ คนอินเดีย (มั้ง ) กะคนจีนหรือฮ่องกงก็คิด 5000 ดองเวียดนามเหมือนกัน งงกันทั้งไทย จีน อินเดีย ????
หลังจากนั้นรถสาย 152 ก็จะมาจอดตรงตลาดเบนถันครับ จุดสังเกตคือ เห็นวงเวียนครับ แล้วจะมีป้ายรถเมล์ที่เหมือนศูนย์รวมรถเมล์แบบในภาพครับ (คล้าย ๆ อนุสาวรีย์บ้านเรา) ลงตรงนี้ครับ แต่แต่ ผมยังไม่ลงป้ายนี้ครับ เพราะผมจะไปย่านฟามงูเหลา เพื่อไปเวียตซีเลยลงอีกป้ายถัดไปครับ (ซึ่งใกล้กว่ากันมาก) จากนั้นก็เดินไปตามทาง ตามนักท่องเที่ยวคนอื่นไป จนเจอเวียตซีครับ
ผมได้ทำการติดต่อเวียตซีทัวร์ตั้งแต่อยู่ประเทศไทยครับ ว่าผมมีโปรแกรมไปเวียตนาม 1 -5 ตุลาคม 2558 โดยต้องการจัดทัวร์มุยเน่ครึ่งวัน และดาลัดหนึ่งวัน พร้อมรถบัสจากไซกอนไปมุยเน่ จากมุยเน่ไปดาลัทและจากดาลัทกลับไซกอน โดยตอนแรกผมคิดจะซื้อทัวร์ที่โรงแรมที่ตัวเองจองไว้ครับ เลยถามรอบการเดินรถ และราคา ตามภาพด้านล่างครับ
อันนี้คือรายละเอียดตารางเดินรถและราคา ที่สอบถามเวียตซีครับ ส่วน Shin cafe หรือ Futa bus ผมไม่ได้สอบถามครับ (ขออภัยครับ) และรายละเอียดข้อมูลที่ให้ทางเวียตซีจัดทัวร์ ซึ่งการจัดทัวร์ผมแพลนให้เวียตซีจัดดังนี้
1. รถบัสสำหรับไปกลับจาก ไซกอน - มุยเน่ รถจากมุยเน่ - ดาลัด และสุดท้ายจากดาลัด - ไซกอน
2. ทัวร์สำหรับมุยเน่ครึ่งวัน และทัวร์ดาลัดเต็มวัน ส่วนโฮจิมินทร์ผมตัดออกเพราะผมขอออกเดินทางเองครับ
3. ที่พักผมทำหน้าที่จองเองครับ แล้วให้เวียตซีติดต่อให้รถมารับ (555)
ราคาที่ผมบอกถ้ารวมทัวร์ที่ไซกอนด้วยครึ่งวันจะราคา 67 USD ถ้าตัดทัวร์ครึ่งวันที่ไซกอนออกเหลือ 57 USD แต่ผมตัดทัวร์ไซกอนออกแต่พอไปจ่ายที่เวียตซีจริงจ่ายแค่ 55 USD งงแปบ ถูกลงตั้ง 2 USD แหนะ อิอิ
ถามว่าทำไมจองเวียตซีเลย ผมอยากจัดการให้มันเสร็จสรรพรวดเดียวครับ เพื่อความสบายใจแต่ไม่ได้ผมก็ไม่กังวลครับ เดี๋ยวให้ที่พักติดต่อให้มีหลายทางเลือก
หลังจากเสร็จสิ้นธุระการติดต่อกับเวียตซีแล้ว ตอนนี้ก็รอเวลาออกเดินทางคือ 15.00 น. เลยเดินออกไปชมเมืองสักหน่อยดีกว่า
แวะเข้าแฟมิลิมาร์ทเพื่อซื้อน้ำดื่มไว้กินบนรถกับขนม ตุน ๆๆๆ
ซื้อขนมเสร็จหาข้าวกินก็มานั่งพักผ่อน ตรงสวนสาธารณะครับร่มรื่นมาก ๆ สวนสาธารณะนี้ตั้งอยู่ตรงฟามงูเหลา (ตอนแรกที่อ่านรีวิว ฟามงูเหลา เราก็คิดทำไมต้องฟาร์มงูด้วยฟระ มันเหมือนฟาร์มงูของสภากาชาดไทยรึป่าว )
เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ชมเมืองครับรอเวลา พอใกล้เวลาผมกลับไปรอที่เวียตซีครับ สักพักก็มีน้องผู้หญิงจากบริษัท Hanh cafe เดินมารับผมและส่งให้ผมรอรถ
นี้คือรถบัสแบบ sleep bus ผมจะได้ขึ้นไปนอนกันครับ (หลายคนบอกว่าถ้าไปเวียดนามแล้วไม่ได้ขึ้นรถแบบนี้ เหมือนไปไม่ถึงเวียดนาม ตื่นเต้น)
บรรยากาศภายในรถครับ ซึ่งผมได้นอนชั้นบน (ชั้นสอง) ตื่นเต้นได้ปีนป่ายกะไดแล้ว หลังจากนั้นรถก็ออกเดินทางจากไซกอนมุ่งหน้าสู่มุ่ยเน่ เวลาเดินทางจากไซกอนถึงมุ่ยเน่ใช้เวลา 5 ชั่วโมง (รถที่ผมนั่ง เอ้ย นอนไปออก 15.00 น. ถึงมุยเน่ 20.00 น.)
เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ
[CR] xin chào >< FIRST TIME @ SOUTH VIETNAM เพราะชีวิตคือการเดินทาง (มิตรภาพ และน้ำใจ)
สวัสดีครับทุกคนครั้งนี้ผมจะพาทุกคนไปเวียดนามใต้กันครับ หลังทริปก่อนหน้านั้นพาทุกคนไปตะลอนและปั่นจักรยานที่ฮ่องกงกันมาแล้ว โดยครั้งนี้ผมได้นัดแนะกับเพื่อนอีกคนว่าจะไปไหนดีที่เป็นประเทศใกล้ ๆ ประกอบกับสายการบินนกแอร์เปิดรูทเส้นทางใหม่ ดอนเมือง (DMK) - โฮจิมินทร์ (SGN) พอดีเลยได้โอกาสไปเยือนเมืองนี้กัน หลังจากอ่านมาหลายรีวิวเหลือเกินว่าสักวันหนึ่งจะขอไปทะเลทรายแบบใกล้บ้านเรา (ไม่มีปัญญาไปซาฮารา) เลยทำการจองตั๋วไปครับ และระหว่างนั้นก็ทำการศึกษาสถานที่ที่จะไป รวมถึงที่พักก็ให้เพื่อนทำการจองให้ โดยวันที่เดินทางคือ 1 - 5 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าก่อนหน้าวันออกเดินทาง 4-5 วัน เพื่อนได้ทำการอินบ็อกมาบอกว่า ไม่สามารถไปได้แล้วเนื่องจากติดทำธุระที่ประเทศจีน ไอ้เราก็ใจแป้วเลยครับว่าจะเอาไงกับชีวิตดี เดินหน้าหรือถอยหลัง คิดจนกระทั่งถึงเที่ยงคืน ตีหนึ่งของวันที่ 1 ตุลาคม เครื่องออกจากสนามบิน 7.30 น. สักพักเลยตัดสินใจไปก็ไป ตายเอาดาบหน้า (ใจจริงกลัวอ่านรีวิวว่า โดนโกงบ้าง ชิงทรัพย์บ้าง แล้วไปตัวคนเดียวจะรอดไหมเพิ่งจะไปประเทศนี้ครั้งแรก)
เส้นทางจากดอนเมืองไปโฮจิมินทร์ ผมและเพื่อนได้จองกันตั้งแต่เดือนกรกฏาคม แปบนะเพิ่งจองฮ่องกงไปหยกๆๆ มาจองเวียดนามอีก อาลัยแปบ ซึ่งไปวัน 1 - 5 ตุลาคม 2015 ครับ (เส้นทางบินแรกของน้องนกไปโฮจิมินทร์)
ปอลิง ฝากกดถูกใจหรือมีคำถามอะไรถามในอินบอกซ์ได้เลยครับ หรือให้กำลังใจก้ได้นะครับ อิอิ
บรรยากาศบริเวณเคาเตอร์เชคอินไฟล์ทไปโฮจิมินทร์
ยืนมองป้ายแล้วทำตาปริบ ๆ เนื่องจากง่วงนอนมากถึงมากที่สุด
บรรยากาศภายในเกท 23 ของเส้นทางการบินไฟล์ทปฐมฤกษ์ ดอนเมือง - โฮจิมินทร์ ครับ ส่วนใหญ่จะเยอะเพราะทัวร์คนไทยนี่แหละ
ผู้ที่จะพาเราลัดฟ้าไปนครไซกอนครั้งนี้ คือ นกร่าเริง นั่นเอง ขอเรียกนกนีโม นะ
บรรยากาศภายในเครื่องเจ้านกร่าเริง เต็มไปด้วยกลุ่มทัวร์คนไทย
ในเที่ยวบินไฟล์ทปฐมฤกษ์ของนกแอร์ไปนครโฮจิมินทร์นั้น ก็จะมีการแจกแผนที่ท่องเที่ยวโฮจิมินทร์ รวมถึงขวดลูกอม (น่ารักมากมาย) ขณะนั่งเครื่องแอร์โฮสเตสและกัปตัน พูดผิดบ่อยมาก ว่าย่างกุ้ง ไปพม่าบ้าง (ตกลงนิผมจะไปพม่า หรือไปเวียดนามกันแน่) สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้โดยสารภายในเที่ยวบินนี้ได้อย่างดี
และแล้วภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีจากดอนเมืองก็เข้าสู่นครโฮจิมินทร์ เมืองที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเวียดนามแล้วครับ
ป้ายต้อนรับแสดงความยินดีไฟล์ทบินปฐมฤกษ์ของนกแอร์ครับ
หลังจากนั้นก็ทำพิธีการผ่านตม. แล้วทำการแลกเงินดอลลาร์เป็นดองเวียดนามและซื้อซิมบริเวณภายในสนามบินครับ พอเสร็จก็ออกทางประตู ชะงักแปบคือคนรอเยอะมาก นี่ถ้ามีป้ายไฟ ป้ายชื่อนะ คิดว่าตัวเองเป็นซุปตาร์เกาหลีเลย อิอิ
รถเมล์ที่เห็นไกล ๆ นั่นคือสาย 152 ครับสายจากสนามบินเข้าไปยังบริเวณเมืองโฮจิมินทร์ ค่าใช้จ่ายคนละ 5000 ดองเวียดนามครับ
บรรยากาศภายในรถค่อนข้างแออัด เนื่องจากสัมภาระนักท่องเที่ยวแต่ละคนใช่ว่าจะน้อย ซึ่งตอนขึ้นรถผมยินดีจะจ่าย 10000 ดองเวียดนามเพื่อเอาเก้าอี้สองตัว เลยไปบอกคนขับรถ คนขับรถตรงมายังที่ที่ผมนั่งแล้วก็บอกว่า คิด 5000 ดองเวียดนาม ขนาดเราชี้ว่าเอาสองที่ ลุงก็ยืนยันว่า 5000 ดอง (ขอบคุณครับลุง) ไม่ได้มีผมคนเดียวนะ คนอินเดีย (มั้ง ) กะคนจีนหรือฮ่องกงก็คิด 5000 ดองเวียดนามเหมือนกัน งงกันทั้งไทย จีน อินเดีย ????
หลังจากนั้นรถสาย 152 ก็จะมาจอดตรงตลาดเบนถันครับ จุดสังเกตคือ เห็นวงเวียนครับ แล้วจะมีป้ายรถเมล์ที่เหมือนศูนย์รวมรถเมล์แบบในภาพครับ (คล้าย ๆ อนุสาวรีย์บ้านเรา) ลงตรงนี้ครับ แต่แต่ ผมยังไม่ลงป้ายนี้ครับ เพราะผมจะไปย่านฟามงูเหลา เพื่อไปเวียตซีเลยลงอีกป้ายถัดไปครับ (ซึ่งใกล้กว่ากันมาก) จากนั้นก็เดินไปตามทาง ตามนักท่องเที่ยวคนอื่นไป จนเจอเวียตซีครับ
ผมได้ทำการติดต่อเวียตซีทัวร์ตั้งแต่อยู่ประเทศไทยครับ ว่าผมมีโปรแกรมไปเวียตนาม 1 -5 ตุลาคม 2558 โดยต้องการจัดทัวร์มุยเน่ครึ่งวัน และดาลัดหนึ่งวัน พร้อมรถบัสจากไซกอนไปมุยเน่ จากมุยเน่ไปดาลัทและจากดาลัทกลับไซกอน โดยตอนแรกผมคิดจะซื้อทัวร์ที่โรงแรมที่ตัวเองจองไว้ครับ เลยถามรอบการเดินรถ และราคา ตามภาพด้านล่างครับ
อันนี้คือรายละเอียดตารางเดินรถและราคา ที่สอบถามเวียตซีครับ ส่วน Shin cafe หรือ Futa bus ผมไม่ได้สอบถามครับ (ขออภัยครับ) และรายละเอียดข้อมูลที่ให้ทางเวียตซีจัดทัวร์ ซึ่งการจัดทัวร์ผมแพลนให้เวียตซีจัดดังนี้
1. รถบัสสำหรับไปกลับจาก ไซกอน - มุยเน่ รถจากมุยเน่ - ดาลัด และสุดท้ายจากดาลัด - ไซกอน
2. ทัวร์สำหรับมุยเน่ครึ่งวัน และทัวร์ดาลัดเต็มวัน ส่วนโฮจิมินทร์ผมตัดออกเพราะผมขอออกเดินทางเองครับ
3. ที่พักผมทำหน้าที่จองเองครับ แล้วให้เวียตซีติดต่อให้รถมารับ (555)
ราคาที่ผมบอกถ้ารวมทัวร์ที่ไซกอนด้วยครึ่งวันจะราคา 67 USD ถ้าตัดทัวร์ครึ่งวันที่ไซกอนออกเหลือ 57 USD แต่ผมตัดทัวร์ไซกอนออกแต่พอไปจ่ายที่เวียตซีจริงจ่ายแค่ 55 USD งงแปบ ถูกลงตั้ง 2 USD แหนะ อิอิ
ถามว่าทำไมจองเวียตซีเลย ผมอยากจัดการให้มันเสร็จสรรพรวดเดียวครับ เพื่อความสบายใจแต่ไม่ได้ผมก็ไม่กังวลครับ เดี๋ยวให้ที่พักติดต่อให้มีหลายทางเลือก
หลังจากเสร็จสิ้นธุระการติดต่อกับเวียตซีแล้ว ตอนนี้ก็รอเวลาออกเดินทางคือ 15.00 น. เลยเดินออกไปชมเมืองสักหน่อยดีกว่า
แวะเข้าแฟมิลิมาร์ทเพื่อซื้อน้ำดื่มไว้กินบนรถกับขนม ตุน ๆๆๆ
ซื้อขนมเสร็จหาข้าวกินก็มานั่งพักผ่อน ตรงสวนสาธารณะครับร่มรื่นมาก ๆ สวนสาธารณะนี้ตั้งอยู่ตรงฟามงูเหลา (ตอนแรกที่อ่านรีวิว ฟามงูเหลา เราก็คิดทำไมต้องฟาร์มงูด้วยฟระ มันเหมือนฟาร์มงูของสภากาชาดไทยรึป่าว )
เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ชมเมืองครับรอเวลา พอใกล้เวลาผมกลับไปรอที่เวียตซีครับ สักพักก็มีน้องผู้หญิงจากบริษัท Hanh cafe เดินมารับผมและส่งให้ผมรอรถ
นี้คือรถบัสแบบ sleep bus ผมจะได้ขึ้นไปนอนกันครับ (หลายคนบอกว่าถ้าไปเวียดนามแล้วไม่ได้ขึ้นรถแบบนี้ เหมือนไปไม่ถึงเวียดนาม ตื่นเต้น)
บรรยากาศภายในรถครับ ซึ่งผมได้นอนชั้นบน (ชั้นสอง) ตื่นเต้นได้ปีนป่ายกะไดแล้ว หลังจากนั้นรถก็ออกเดินทางจากไซกอนมุ่งหน้าสู่มุ่ยเน่ เวลาเดินทางจากไซกอนถึงมุ่ยเน่ใช้เวลา 5 ชั่วโมง (รถที่ผมนั่ง เอ้ย นอนไปออก 15.00 น. ถึงมุยเน่ 20.00 น.)
เดี๋ยวมาเล่าต่อครับ