เนื่องจากในปัจจุบัน การเลือกสินค้าต่าง ๆ มีการเลือกซื้อโดยเน้นความคุ้มค่า และทันสมัย เนื่องจากเทคโนโลยีในโลกปัจจุบันมีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีหลายมาตรฐาน มีหลายความต้องการมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้น การจะเลือกซื้อ TV สักเครื่อง จึงต้องมีการพิจารณากันค่อนข้างละเอียด เนื่องจากเป็นสินค้าที่ไม่ได้ซื้อกันบ่อยครั้งนัก
ดังนั้น ผู้บริโภคในปัจจุบัน จึงมีการเลือกซื้อ โดยส่วนหนึ่งก็อาศัยข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ โดยในที่นี่ได้ยกหลักการเลือก "หลักการเลือกซื้อ TV ง่ายๆ แค่นี้ก็ได้ทีวีตรงใจคุณ" จาก (
http://www.lcdtvthailand.com) อันได้แก่
1. จำนวนของพิกเซล!! ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีเรื่องภาพนั้นพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทีวีที่เราเลือกซื้ออย่างน้อยๆ ควรจะมีความละเอียดอย่างน้อยๆ ระดับ Full HD 1080p ขึ้นไป
2. Contrast Ratio ค่านี้ยิ่งสูงยิ่งดี เพราะค่า Contrast Ratio คืออัตราส่วนสีดำที่ดำที่สุดและสีขาวที่ขาวที่สุดที่ทีวีสามารถแสดงได้
3. Response Time ค่านี้ยิ่งต่ำมากๆ ยิ่งดี อย่างน้อยควรจะต่ำว่า 4ms ซึ่งค่า Response Time นี้ เป็นความเร็วในการตอบสนองของเม็ดพิกเซล
4. มีช่องต่อที่ครอบคลุม
- ถ้าเป็นขนาด 42” ขึ้นไปควรมีช่องต่อ HDMI version 1.4
- ช่องต่อ Component ควรจะมีอย่างน้อย 1 ชุด
- ช่องต่อ Optical
- ช่องต่อ AV
- ส่วนช่องต่อ USB Port
5. ขาตั้งและมุมมอง
ต้องยอมรับว่าขาตั้งของทีวีในปัจจุบันส่วนใหญ่เกือบ 80% ไม่สามารถหมุนซ้าย - ขวาได้ ก่อนเลือกซื้อผู้ใช้ควรคิดคำนึงด้วยว่าเวลาเราใช้งานจริง มีการหมุนทีวีมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นปัญหาเรื่องการหมุนของขาตั้งจึงแทบไม่ต้องใส่ใจ ผู้ใช้ควรมาพิจารณาถึงเรื่องมุมมองของทีวีแทน ฉะนั้นก่อนเลือกซื้อผู้ใช้ควรลองดูมุมมองด้านข้างของทีวีด้วย ว่าให้ภาพเป็นอย่างไร สีสันเป็นอย่างไร แตกต่างจากการมองตรงกลางมากน้อยแค่ไหนด้วย
6. ดีไซน์
หากจะพูดว่าทีวีนั้นไม่ได้ต่างอะไรกับเฟอร์นิเจอร์ก็คงไม่ผิดนัก เพราะทีวีเครื่องแรกมักจะถูกจัดวางอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ดังนั้นการเลือกดีไซน์ของทีวีให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ก็ถือว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง
7. ขนาดของจอภาพ (ปัจจัยสำคัญมาก)
เชื่อว่าหลายๆคนที่เคยซื้อ LCD TV หรือ Plasma TV ไปแล้ว ใช้ไปซักพักจะเจอปัญหา "จอหด" คือทีวีที่มีอยู่ที่บ้านมันดูเล็กเหลือเกินทั้งๆที่ตอนซื้อเราก็ว่าใหญ่แล้วนะ ทางผู้เขียนแนะนำให้ซื้อขนาดที่ใหญ่ และเป็นขนาดที่ "ใหญ่แบบพอเหมาะ"
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ได้มาจากการนำเสนอ โดย คุณชานม และคุณ Dear sir จาก Web lcdtvthailand.com ในวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2558 ณ Thai Samsung Electronics ตึกเอมไพร์ ทาวเวอร์ ถนนสาธร กรุงเทพฯ
จากการได้เป็น 1 ในผู้ร่วมงานดังกล่าว ในงานมีการนำ TV มาจัดแสดงทั้งหมด 4 รุ่น โดย 2 รุ่น เป็น SUHD TV และอีก 2 รุ่นเป็น LCDTV เพื่อให้เป็นการเปรียบเทียบจากการดูภาพ ว่ามีลักษณะแตกต่างกันหรือไม่ โดยมีการจัดวางเช่นนี้
โดยจากการร่วมกิจกรรม ทดสอบในสภาวะต่าง (เปิดไฟ ปิดไฟ ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ) พบว่า SUHDTV มีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ อาทิเช่น
- สีสันเต็มอิ่ม ด้วย Nano Crystal Color สีสมจริงทุกรายละเอียด
- สว่างสดใน ด้วย Peak Illuminator Ultimate ปรับภาพสว่างสมจริง
- มิติล้ำลึก ด้วย UHD Dimming ปรับภาพมืดสว่างแม่นยำ ให้ความละเอียดคมชัด
- ยกระดับความคมชัด ด้วย UHD Resolution ใกล้เคียงความละเอียดระดับ UHD 4K
- คลังความบันเทิง ด้วย Smart Hub
- ระบบปฏิบัติการใหม่ ด้วย Tizen OS
ในการออกแบบ ซึ่งจากตนเองมองก็คือดูสวย และหรูและจากที่อ่านจาก Wel LCDTVThailand พบว่า "ตัวกรอบสีเงินมีการออกแบบแบบ Grand Chamfer อย่างเดียวกับกรอบรูปในพิพิธภัณฑ์ ด้านบนมีกล้องเว็บแคมซ่อนอยู่ ใช้นิ้วกดลงไปตัวกล้องก็จะเด้งขึ้นมา ส่วนขาตั้งเป็นรูป Y Shape ดีไซน์เข้ากับตัวเครื่องได้เป็นอย่างลงตัว ถึงจอจะใหญ่จัมโบ้แต่ตัวเครื่องก็มิได้ดูเทอะทะแม้แต่น้อย ด้านช่องต่อจะต้องเชื่อมต่อทุกสายสัญญาณผ่านกล่อง One Connect หรือกล่องศูนย์รวมช่องต่อ กล่องมีดีไซน์เป็นสีเงินซึ่งยังคงเข้ากับตัวเครื่องเช่นกัน สุดท้ายคือเรื่องของรีโมทคอนโทรลให้มา 2 แบบคือแบบปกติดอันสีดำ และแบบพิเศษ Pointer อีกหนึ่งอัน"
ต่อมา คือการตอบโจทย์การเลือกซื้อ LCD TV โดยเปรียบเทียบกับ SUHD TV ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 7 ข้อ ยกเว้น ในเรื่องราคา ซึ่งต้องแลกมากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย และราคาอาจจะลดลงในต่อไปในส่วนที่สามารถซื้อหาได้
นอกจากนี้ ยังมี Smart View นั่นคือ แค่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถใช้งานเป็นรีโมททีวีได้ด้วยแอพฯ Samsung Smart View 2.0 โดยนอกจากจะเป็นรีโมทแล้ว ยังสามารถดึงภาพจาก SUHD TV มาเก็บไว้บนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
โดยในขั้นตอนนี้ ทางคุณณัฐ ได้มีการการนำเสนอ การทำงานในระบบนี้ด้วย
พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่มีภาพสีคมชัด พร้อมปรับสีให้เหมาะสมกับสายตาในหลาย ๆ สภาวะ
และนอกจากนี้ ยังมีลำโพงอีก 2 รุ่น ที่เป็นอุปกรณ์เสริม สามารถรับเสียงได้ทุกทิศทาง 360 องศา ในระดับคุณภาพเสียงเท่า ๆ กัน และเป็นลำโพงไร้สาย (น่าอิจฉาคนที่ได้ทั้ง 4 คนจัง)
โดยรวมแล้ว SUHDTV เป็น TV ที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม สามารถต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ดี สามารถดูหนัง 3 มิติได้ เหมาะแก่บ้านที่ต้องการความทันสมัย มีความสวยงาม แปลกใหม่ เป็น Smart TV มีภาพที่ละเอียดคมชัด สามารถเป็นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของโดยไม่เสียดายเงิน
[SR] เปิดตา เปิดใจ ก้าวไปกับนวัตกรรมใหม่ ที่พร้อมไปด้วยคุณภาพ ดีไซน์หรู และระบบปฏิบัติการ Tizen ที่ตอบสนองกับอุปกรณ์ยุคนี้
ดังนั้น ผู้บริโภคในปัจจุบัน จึงมีการเลือกซื้อ โดยส่วนหนึ่งก็อาศัยข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ โดยในที่นี่ได้ยกหลักการเลือก "หลักการเลือกซื้อ TV ง่ายๆ แค่นี้ก็ได้ทีวีตรงใจคุณ" จาก (http://www.lcdtvthailand.com) อันได้แก่
1. จำนวนของพิกเซล!! ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีเรื่องภาพนั้นพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทีวีที่เราเลือกซื้ออย่างน้อยๆ ควรจะมีความละเอียดอย่างน้อยๆ ระดับ Full HD 1080p ขึ้นไป
2. Contrast Ratio ค่านี้ยิ่งสูงยิ่งดี เพราะค่า Contrast Ratio คืออัตราส่วนสีดำที่ดำที่สุดและสีขาวที่ขาวที่สุดที่ทีวีสามารถแสดงได้
3. Response Time ค่านี้ยิ่งต่ำมากๆ ยิ่งดี อย่างน้อยควรจะต่ำว่า 4ms ซึ่งค่า Response Time นี้ เป็นความเร็วในการตอบสนองของเม็ดพิกเซล
4. มีช่องต่อที่ครอบคลุม
- ถ้าเป็นขนาด 42” ขึ้นไปควรมีช่องต่อ HDMI version 1.4
- ช่องต่อ Component ควรจะมีอย่างน้อย 1 ชุด
- ช่องต่อ Optical
- ช่องต่อ AV
- ส่วนช่องต่อ USB Port
5. ขาตั้งและมุมมอง
ต้องยอมรับว่าขาตั้งของทีวีในปัจจุบันส่วนใหญ่เกือบ 80% ไม่สามารถหมุนซ้าย - ขวาได้ ก่อนเลือกซื้อผู้ใช้ควรคิดคำนึงด้วยว่าเวลาเราใช้งานจริง มีการหมุนทีวีมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นปัญหาเรื่องการหมุนของขาตั้งจึงแทบไม่ต้องใส่ใจ ผู้ใช้ควรมาพิจารณาถึงเรื่องมุมมองของทีวีแทน ฉะนั้นก่อนเลือกซื้อผู้ใช้ควรลองดูมุมมองด้านข้างของทีวีด้วย ว่าให้ภาพเป็นอย่างไร สีสันเป็นอย่างไร แตกต่างจากการมองตรงกลางมากน้อยแค่ไหนด้วย
6. ดีไซน์
หากจะพูดว่าทีวีนั้นไม่ได้ต่างอะไรกับเฟอร์นิเจอร์ก็คงไม่ผิดนัก เพราะทีวีเครื่องแรกมักจะถูกจัดวางอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ดังนั้นการเลือกดีไซน์ของทีวีให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ก็ถือว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง
7. ขนาดของจอภาพ (ปัจจัยสำคัญมาก)
เชื่อว่าหลายๆคนที่เคยซื้อ LCD TV หรือ Plasma TV ไปแล้ว ใช้ไปซักพักจะเจอปัญหา "จอหด" คือทีวีที่มีอยู่ที่บ้านมันดูเล็กเหลือเกินทั้งๆที่ตอนซื้อเราก็ว่าใหญ่แล้วนะ ทางผู้เขียนแนะนำให้ซื้อขนาดที่ใหญ่ และเป็นขนาดที่ "ใหญ่แบบพอเหมาะ"
ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ได้มาจากการนำเสนอ โดย คุณชานม และคุณ Dear sir จาก Web lcdtvthailand.com ในวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2558 ณ Thai Samsung Electronics ตึกเอมไพร์ ทาวเวอร์ ถนนสาธร กรุงเทพฯ
จากการได้เป็น 1 ในผู้ร่วมงานดังกล่าว ในงานมีการนำ TV มาจัดแสดงทั้งหมด 4 รุ่น โดย 2 รุ่น เป็น SUHD TV และอีก 2 รุ่นเป็น LCDTV เพื่อให้เป็นการเปรียบเทียบจากการดูภาพ ว่ามีลักษณะแตกต่างกันหรือไม่ โดยมีการจัดวางเช่นนี้
โดยจากการร่วมกิจกรรม ทดสอบในสภาวะต่าง (เปิดไฟ ปิดไฟ ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ) พบว่า SUHDTV มีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ อาทิเช่น
- สีสันเต็มอิ่ม ด้วย Nano Crystal Color สีสมจริงทุกรายละเอียด
- สว่างสดใน ด้วย Peak Illuminator Ultimate ปรับภาพสว่างสมจริง
- มิติล้ำลึก ด้วย UHD Dimming ปรับภาพมืดสว่างแม่นยำ ให้ความละเอียดคมชัด
- ยกระดับความคมชัด ด้วย UHD Resolution ใกล้เคียงความละเอียดระดับ UHD 4K
- คลังความบันเทิง ด้วย Smart Hub
- ระบบปฏิบัติการใหม่ ด้วย Tizen OS
ในการออกแบบ ซึ่งจากตนเองมองก็คือดูสวย และหรูและจากที่อ่านจาก Wel LCDTVThailand พบว่า "ตัวกรอบสีเงินมีการออกแบบแบบ Grand Chamfer อย่างเดียวกับกรอบรูปในพิพิธภัณฑ์ ด้านบนมีกล้องเว็บแคมซ่อนอยู่ ใช้นิ้วกดลงไปตัวกล้องก็จะเด้งขึ้นมา ส่วนขาตั้งเป็นรูป Y Shape ดีไซน์เข้ากับตัวเครื่องได้เป็นอย่างลงตัว ถึงจอจะใหญ่จัมโบ้แต่ตัวเครื่องก็มิได้ดูเทอะทะแม้แต่น้อย ด้านช่องต่อจะต้องเชื่อมต่อทุกสายสัญญาณผ่านกล่อง One Connect หรือกล่องศูนย์รวมช่องต่อ กล่องมีดีไซน์เป็นสีเงินซึ่งยังคงเข้ากับตัวเครื่องเช่นกัน สุดท้ายคือเรื่องของรีโมทคอนโทรลให้มา 2 แบบคือแบบปกติดอันสีดำ และแบบพิเศษ Pointer อีกหนึ่งอัน"
ต่อมา คือการตอบโจทย์การเลือกซื้อ LCD TV โดยเปรียบเทียบกับ SUHD TV ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 7 ข้อ ยกเว้น ในเรื่องราคา ซึ่งต้องแลกมากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย และราคาอาจจะลดลงในต่อไปในส่วนที่สามารถซื้อหาได้
นอกจากนี้ ยังมี Smart View นั่นคือ แค่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถใช้งานเป็นรีโมททีวีได้ด้วยแอพฯ Samsung Smart View 2.0 โดยนอกจากจะเป็นรีโมทแล้ว ยังสามารถดึงภาพจาก SUHD TV มาเก็บไว้บนสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
โดยในขั้นตอนนี้ ทางคุณณัฐ ได้มีการการนำเสนอ การทำงานในระบบนี้ด้วย
พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่มีภาพสีคมชัด พร้อมปรับสีให้เหมาะสมกับสายตาในหลาย ๆ สภาวะ
และนอกจากนี้ ยังมีลำโพงอีก 2 รุ่น ที่เป็นอุปกรณ์เสริม สามารถรับเสียงได้ทุกทิศทาง 360 องศา ในระดับคุณภาพเสียงเท่า ๆ กัน และเป็นลำโพงไร้สาย (น่าอิจฉาคนที่ได้ทั้ง 4 คนจัง)
โดยรวมแล้ว SUHDTV เป็น TV ที่ทันสมัย รูปลักษณ์สวยงาม สามารถต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ดี สามารถดูหนัง 3 มิติได้ เหมาะแก่บ้านที่ต้องการความทันสมัย มีความสวยงาม แปลกใหม่ เป็น Smart TV มีภาพที่ละเอียดคมชัด สามารถเป็นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของโดยไม่เสียดายเงิน