สืบเนื่องจากกระทู้แนะนำกระทู้นึงในห้องสวนลุมนะคะ และขออนุญาติตั้งเป็นกระทู้ที่อยากแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นเองโดยตรงค่ะ การเรียบเรียง การเล่าอาจไม่สนุกเพราะนำเสนอไม่เก่ง เริ่มเลยนะคะ
คุณพ่อดิฉันเป็นคนสูบบหรี่จัดมากค่ะ (ยาเส้น ) แต่เหล้าเลิกกินมา 10 ปี นิดๆๆคุณแม่ท่านจากไปแล้วค่ะ ขอไม่เอ่ยถึง เรื่องบุหรี่ดิฉันไม่ห้ามค่ะ เพราะห้ามยากมาก แค่เลิกเหล้าได้ก็พอใจระดับสูงสุดแล้วค่ะ แต่กังวลนิดๆๆตามประสาบุคคลากรทางการแพทย์ ห่วงอยู่เนืองๆๆคอยโทรถามไถ่สุขภาพท่านตลอดๆๆ ดิฉันทำงานกรุงเทพค่ะ พ่ออยู่ตจว. กับพี่ และน้องสาว และแล้วเหตุการณ์ที่มะโนไว้ก็มาถึง ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากพี่สาว ปกติสั่งห้าม มีไรจะโทรกลับเอง( เพราะยังสยองไม่หายกับเหตุการณ์รับโทรศัพท์ตอนตี 1 ว่าคุณแม่จากไป )
พี่สาว : "ก. พ่อมีอาการงั้นงี้ แนะนำไปหาหมอทุกสถาบันก็ไม่ยอม ดื้อจะไปคลินิค ไม่หายก็จะรักษาหมอบ้าน ( ยาสมุนไพร) เป็นมาเดือนนึงล่ะ รู้สึกก้อนมันโตขึ้น และคุณพ่อเริ่มเครียด ทานข้าวไม่ได้ น้ำหนักลดลง เลยโทรมาปรึกษาช่วยพูดกับคุณพ่อหน่อย เผื่อเกรงใจ "
ดิฉัน : "ได้ๆๆๆ แต่สงสัยเหมือนกัน น่าจะเป็น... ชัวร์ๆๆๆ ภาวนาให้ไม่ใช่เถอะๆๆๆๆๆ"
และดิฉันก็โทรหาพ่อ ๆร้องไห้ ยอมตรวจตามคำแนะนำของดิฉัน
ย้อนไปนิดนะคะ ญาติสนิทๆกันแนะนำหมอที่คลินิคเอกชนจังหวัดหนึ่งทางใต้ว่ารักษาพี่หายนะ บลาๆๆๆๆ แต่พี่คะ พี่ลืมไปเหรอ พี่เป็นเนื้องอกในมดลูก ส่วนพ่อดิฉันเป็น ที่ดิฉันสงสัย CA TONGUE จะไปได้ยังงัย เลยจัดแจงตามแผนการณ์ที่วางไว้ และปรสบการณ์การส่งต่อ การแนะนำผุ้ป่วยตามสิทธิ์บัตรทองค่ะ
ขั้นที่ 1. ให้พี่สาวไปทำบัตรผู้ป่วยของคุณพ่อที่มอ. ( หาดใหญ่ )ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐที่อยู่ในส่วนของมหาวิทยาลัยที่ดิฉันคุ้นเคยและมั่นใจ พร้อมทั้งนัดแพทย์เฉพาะทางห้คุณพ่อ ( ENT)
2. พาคุณพ่อไปตรวจและเจาะเลือด ตัด BIOPSY ( ตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ ) CXR และทุกๆๆอย่างที่พร้อมสำหรับเช็คร่างกายไปในคราวเดียวกัน ใหนๆๆก็ไปแล้ว ตั้งไกล ( บ้านดิฉันอยู่จ. พัทลุงค่ะ )
3. นัดฟังผล ถูกหวยค่ะ ฮือๆๆๆๆๆๆ แต่พ่อกำลังใจดีมาก ไม่เครียดเลยค่ะตอนฟังผลพี่สาวเล่าให้ฟังว่าน่าจะระดับใหญ่กว่าเรสสิเด๊นท์มาแจ้งผล ท่านแนะนำให้ผ่าตัดคะ เพราะแค่ระยะที่ 1 และเป็นไม่มาก ถ้าทำ ค๊โม อาจทานข้าวลำบาก มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก พ่อก็เลือกผ่าตัดค่ะ แต่แพทย์ท่านนั้นบอกต่อว่า การนัดคิวผ่าที่มอ. นั้นนานมากกกอาจใช้เวลาเป็นเดือนๆๆ แนะนำให้ไปผ่าที่รพ. พันทลุง ท่านจะเขียนจดหมายส่งตัวให้ ผ อันนี้ดิฉันเตี๊ยยมกับพี่สาวล่ะค่ะ ให้ขอจดหมายส่งตัวเลย ) พอได้กลับมา
4. พี่สาวนำจดหมายส่งตัวไปที่รพ. ประจำอำเภอต้นสังกัด โชคเข้าข้างได้รับการอนุมัติภยในวันนั้นให้นำจดหมวยส่งตัวไปที่รพ. พันทลุงและพบแพทย์เฉพาะทางทันที ถึงตรงนี้ ต้องนำผู้ป่วยมาด้วย
5. พี่สาวโทรหาดิฉันว่า....ตามข้อ 4 และพาพ่อไปพบแพทย์ ENT ประจำรพ. พัทลุง ดิฉันลืมชื่อค่ะ คุณหมอผู้หญิงกันเองมาก ตรวจคุณพ่อ ดูใบส่งตัว ดูแล็บ ผลชิ้นเนื้อ นัดวันผ่า เฮ้ย เร็วไป๊ พ่อและดิฉันช๊อคที่เร็วยังกะรพ.เอกชน แต่เอางัยเอากัน ผ่าเร็ว มีชัยไปกว่าครึ่ง
หลังจากนั้นดิฉันโทรให้กำลังใจคุณพ่อ ดูแกยังชิลๆๆ แต่ในใจกลัวค่ะ พี่สาวบอก รพ. พัทลุงนัดผ่า อีก 2 วันไปแอดมิดได้ เช้าจะผ่า ดิฉันให้พี่สาวจองห้องพิเศษค่ะ เผื่อคนเฝ้าจะได้สบายๆๆและทำเพื่อคุณพ่อด้วย เพราะเราใช้สิทธิ์บัตรทอง เสียแต่ค่าห้องพิเศษค่ะ จนการผ่าตัดเรียบร้อยดี ดิฉันโทรเช็คกับพี่สาวเป็นระยะๆๆๆ และบินกลับไปเฝ้าคืนแรกจนกลับบ้าน ปลอดภัยดี
ในแง่การบริการ เป็นกันเอง มากกกคือญาติดูและผุ้ป่วยเอง เช็ดตัว ป้อนข้าว ซึ่งตรงนี้ดิฉันทำเองค่ะ เพราะทำให้ผู้ป่วยทุกวัน พ่อเราเองทำไมจะทำไม่ได้ แต่พยาบาลไม่รู้ว่าดิฉันเป็นพยาบาล 555 ไม่แสดงตัวค่ะ กลัวลำบากใจ แต่ก็มีคนรู้จนได้ ก็ว่ากันไป เพราะดิฉันมีเพื่อนในรพ. เป็นระดับซีเนียร์มากๆๆๆ ตรงน้ไม่ได้ใช้สิทธิ์ค่ะ ชอบเงียบๆๆๆ
หลังกลับบ้านพ่อไป follow up ตามนัดไม่เคยขาด นัดอีกที ธันวาคมค่ะ โดยส่วนตัวถือว่าการให้บริการประทับใจค่ะ ไม่ได้อวย เพราะปกติทำงานรพ. เอกชน ย่อมไม่คุ้นระบบรพ. รัฐและไม่ค่อยมั่นใจบัตรทองมากนัก แต่หลังจากเจอกับคนไกล้ชิด ก็ชื่นชมการทำงานของแผนกหูคอ จมูก รพ. พัทลุงและคุณหมอที่ผ่าตัดคุณพ่อค่ะ เสียใจและขอโทษที่ลืมชื่อค่ะ
ลองดูนะคะ รพ.รัฐไม่ได้เลวร้ายเสมอไป หากเราเข้าใจในสิทธิ์ ขั้นตอน และการติตามการรักษาค่ะ
รพ.รัฐกับการรักษาคุณพ่อดิฉัน
คุณพ่อดิฉันเป็นคนสูบบหรี่จัดมากค่ะ (ยาเส้น ) แต่เหล้าเลิกกินมา 10 ปี นิดๆๆคุณแม่ท่านจากไปแล้วค่ะ ขอไม่เอ่ยถึง เรื่องบุหรี่ดิฉันไม่ห้ามค่ะ เพราะห้ามยากมาก แค่เลิกเหล้าได้ก็พอใจระดับสูงสุดแล้วค่ะ แต่กังวลนิดๆๆตามประสาบุคคลากรทางการแพทย์ ห่วงอยู่เนืองๆๆคอยโทรถามไถ่สุขภาพท่านตลอดๆๆ ดิฉันทำงานกรุงเทพค่ะ พ่ออยู่ตจว. กับพี่ และน้องสาว และแล้วเหตุการณ์ที่มะโนไว้ก็มาถึง ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากพี่สาว ปกติสั่งห้าม มีไรจะโทรกลับเอง( เพราะยังสยองไม่หายกับเหตุการณ์รับโทรศัพท์ตอนตี 1 ว่าคุณแม่จากไป )
พี่สาว : "ก. พ่อมีอาการงั้นงี้ แนะนำไปหาหมอทุกสถาบันก็ไม่ยอม ดื้อจะไปคลินิค ไม่หายก็จะรักษาหมอบ้าน ( ยาสมุนไพร) เป็นมาเดือนนึงล่ะ รู้สึกก้อนมันโตขึ้น และคุณพ่อเริ่มเครียด ทานข้าวไม่ได้ น้ำหนักลดลง เลยโทรมาปรึกษาช่วยพูดกับคุณพ่อหน่อย เผื่อเกรงใจ "
ดิฉัน : "ได้ๆๆๆ แต่สงสัยเหมือนกัน น่าจะเป็น... ชัวร์ๆๆๆ ภาวนาให้ไม่ใช่เถอะๆๆๆๆๆ"
และดิฉันก็โทรหาพ่อ ๆร้องไห้ ยอมตรวจตามคำแนะนำของดิฉัน
ย้อนไปนิดนะคะ ญาติสนิทๆกันแนะนำหมอที่คลินิคเอกชนจังหวัดหนึ่งทางใต้ว่ารักษาพี่หายนะ บลาๆๆๆๆ แต่พี่คะ พี่ลืมไปเหรอ พี่เป็นเนื้องอกในมดลูก ส่วนพ่อดิฉันเป็น ที่ดิฉันสงสัย CA TONGUE จะไปได้ยังงัย เลยจัดแจงตามแผนการณ์ที่วางไว้ และปรสบการณ์การส่งต่อ การแนะนำผุ้ป่วยตามสิทธิ์บัตรทองค่ะ
ขั้นที่ 1. ให้พี่สาวไปทำบัตรผู้ป่วยของคุณพ่อที่มอ. ( หาดใหญ่ )ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรัฐที่อยู่ในส่วนของมหาวิทยาลัยที่ดิฉันคุ้นเคยและมั่นใจ พร้อมทั้งนัดแพทย์เฉพาะทางห้คุณพ่อ ( ENT)
2. พาคุณพ่อไปตรวจและเจาะเลือด ตัด BIOPSY ( ตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ ) CXR และทุกๆๆอย่างที่พร้อมสำหรับเช็คร่างกายไปในคราวเดียวกัน ใหนๆๆก็ไปแล้ว ตั้งไกล ( บ้านดิฉันอยู่จ. พัทลุงค่ะ )
3. นัดฟังผล ถูกหวยค่ะ ฮือๆๆๆๆๆๆ แต่พ่อกำลังใจดีมาก ไม่เครียดเลยค่ะตอนฟังผลพี่สาวเล่าให้ฟังว่าน่าจะระดับใหญ่กว่าเรสสิเด๊นท์มาแจ้งผล ท่านแนะนำให้ผ่าตัดคะ เพราะแค่ระยะที่ 1 และเป็นไม่มาก ถ้าทำ ค๊โม อาจทานข้าวลำบาก มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก พ่อก็เลือกผ่าตัดค่ะ แต่แพทย์ท่านนั้นบอกต่อว่า การนัดคิวผ่าที่มอ. นั้นนานมากกกอาจใช้เวลาเป็นเดือนๆๆ แนะนำให้ไปผ่าที่รพ. พันทลุง ท่านจะเขียนจดหมายส่งตัวให้ ผ อันนี้ดิฉันเตี๊ยยมกับพี่สาวล่ะค่ะ ให้ขอจดหมายส่งตัวเลย ) พอได้กลับมา
4. พี่สาวนำจดหมายส่งตัวไปที่รพ. ประจำอำเภอต้นสังกัด โชคเข้าข้างได้รับการอนุมัติภยในวันนั้นให้นำจดหมวยส่งตัวไปที่รพ. พันทลุงและพบแพทย์เฉพาะทางทันที ถึงตรงนี้ ต้องนำผู้ป่วยมาด้วย
5. พี่สาวโทรหาดิฉันว่า....ตามข้อ 4 และพาพ่อไปพบแพทย์ ENT ประจำรพ. พัทลุง ดิฉันลืมชื่อค่ะ คุณหมอผู้หญิงกันเองมาก ตรวจคุณพ่อ ดูใบส่งตัว ดูแล็บ ผลชิ้นเนื้อ นัดวันผ่า เฮ้ย เร็วไป๊ พ่อและดิฉันช๊อคที่เร็วยังกะรพ.เอกชน แต่เอางัยเอากัน ผ่าเร็ว มีชัยไปกว่าครึ่ง
หลังจากนั้นดิฉันโทรให้กำลังใจคุณพ่อ ดูแกยังชิลๆๆ แต่ในใจกลัวค่ะ พี่สาวบอก รพ. พัทลุงนัดผ่า อีก 2 วันไปแอดมิดได้ เช้าจะผ่า ดิฉันให้พี่สาวจองห้องพิเศษค่ะ เผื่อคนเฝ้าจะได้สบายๆๆและทำเพื่อคุณพ่อด้วย เพราะเราใช้สิทธิ์บัตรทอง เสียแต่ค่าห้องพิเศษค่ะ จนการผ่าตัดเรียบร้อยดี ดิฉันโทรเช็คกับพี่สาวเป็นระยะๆๆๆ และบินกลับไปเฝ้าคืนแรกจนกลับบ้าน ปลอดภัยดี
ในแง่การบริการ เป็นกันเอง มากกกคือญาติดูและผุ้ป่วยเอง เช็ดตัว ป้อนข้าว ซึ่งตรงนี้ดิฉันทำเองค่ะ เพราะทำให้ผู้ป่วยทุกวัน พ่อเราเองทำไมจะทำไม่ได้ แต่พยาบาลไม่รู้ว่าดิฉันเป็นพยาบาล 555 ไม่แสดงตัวค่ะ กลัวลำบากใจ แต่ก็มีคนรู้จนได้ ก็ว่ากันไป เพราะดิฉันมีเพื่อนในรพ. เป็นระดับซีเนียร์มากๆๆๆ ตรงน้ไม่ได้ใช้สิทธิ์ค่ะ ชอบเงียบๆๆๆ
หลังกลับบ้านพ่อไป follow up ตามนัดไม่เคยขาด นัดอีกที ธันวาคมค่ะ โดยส่วนตัวถือว่าการให้บริการประทับใจค่ะ ไม่ได้อวย เพราะปกติทำงานรพ. เอกชน ย่อมไม่คุ้นระบบรพ. รัฐและไม่ค่อยมั่นใจบัตรทองมากนัก แต่หลังจากเจอกับคนไกล้ชิด ก็ชื่นชมการทำงานของแผนกหูคอ จมูก รพ. พัทลุงและคุณหมอที่ผ่าตัดคุณพ่อค่ะ เสียใจและขอโทษที่ลืมชื่อค่ะ
ลองดูนะคะ รพ.รัฐไม่ได้เลวร้ายเสมอไป หากเราเข้าใจในสิทธิ์ ขั้นตอน และการติตามการรักษาค่ะ