วันนี้ขออนุญาตมาแชร์ประสบการณ์นะคะ
พยาธิเม็ดเลือดรักษาได้ ถ้าเจ้าของสู้!!!
ลูกชายของเราชื่อ "บุญชู" เป็นหมาพันธุ์ปั๊ก อายุ 1ขวบค่ะ
-------
3 ต.ค.58 เราเริ่มสังเกตุเห็นอาการผิดปกติคือน้องซึมๆ ขาไม่ค่อยมีแรง จึงไปหาสัตวแพทย์แถวบ้าน คุณหมอให้ยาบำรุงมาทาน แล้วบอกว่าถ้าพรุ่งนี้เที่ยง น้องยังไม่ดีขึ้น ให้พาน้องไปโรงพยาบาล
-----
4 ต.ค.58 น้องไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น แถมดูแย่ไปกว่าเดิม จึงพาน้องไปโรงบาลสัตว์ คุณหมอซักประวัติ ดูเหงือกน้อง (ซีดมาก) วัดอุณภูมิ เจาะเลือดไปตรวจ ให้น้ำเกลือ ฉีดยาบำรุงหรืออะไรสักอย่าง รวม 4 เข็ม
-----
5 ต.ค.58 วันที่ต้องพาน้องมาฟังผลเลือดแต่วันนี้น้องดูแย่มากๆ ปากขาว เหงือกซีดมาก ตัวเหลือง 08.30 น. โรงพยาบาลเปิด รีบมาแต่เช้าเลยค่ะ ผลเลือดออก... หมอบอกน้องเป็นพยาธิเม็ดเลือดขั้นรุนแรง โลหิตจางขั้นรุนแรง แย่มากนะเจ้าของ เสี่ยงมากๆ แล้ว วัดอุณหภูมิสูงสุดปรอทต้องปรับอุณหภูมิน้องโดยการเช็ดตัวและเอาแท่งเย็นๆ มาประคบไว้ และพาน้องไปอยู่ใต้แอร์ ถ้าอุณหภูมิไม่ลดก็รักษาไม่ได้ หมอบอกว่าจะหาเตียงให้ชู ชูต้องแอดมิดเพราะถ้าไม่แอดมิดคงจะไม่รอด
และที่สำคัญบุญชูต้องการเลือดจากหมาใหญ่ 20 กิโลขึ้นไป อายุ 1-7 ปี สุขภาพแข็งแรง (ถ้าวัคซีนครบจะดีมาก) หมออยากให้ถ่ายเลือดเร็วที่สุดคือวันนี้ไม่เกิน 14.00 น. พระเจ้า!!! นี่น่าจะเป็นโอกาสรอดทางเดียวที่มี และการหาเลือดหมาใหญ่ที่เข้ากันได้ไม่ใช่เรื่องง่าย หมอจึงให้เตรียมมา 2 ตัว ในเวลาไม่กี่นาที ชูได้รับการช่วยเหลือจากโกโก้หมาของพี่สาวคนสนิท เรารีบไปรับโกโก้มา เพื่อตรวจเลือดว่า 1.โก้แข็งแรงและเลือดดีพอที่จะให้เลือดได้ไหม 2.เลือดโก้และเลือดชูสามารถเข้ากันได้ไหม การตรวจเลือดโก้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ผลบุญของชูที่เลือดโก้สามารถให้ได้และเข้ากันได้กับเลือดของชู
ตรวจเสร็จก็ทำการถ่ายเลือดให้ชู
-----
6 ต.ค.58 วันที่ 2 ของการแอดมิด บุญชูยังคงนอนนิ่งในตู้ที่ให้ออกซิเจน
-----
7 ต.ค.58 วันที่ 3 ของการแอดมิด บุญชูรู้สึกตัวแล้วค่ะ จำแม่ได้ แต่ยังไม่มีแรง หันมาทักแม่ได้สักประมาณหนึ่งนาทีก็ล้มตัวลงนอน คุณหมอบอกว่าเกร็ดเลือดเพิ่มขึ้นแล้วแต่น้องยังมีอาการเพลีย อ่อนแรง
-----
8 ต.ค.58 วันที่ 4 ของการแอดมิด ประมาณเที่ยงๆ คุณหมอโทรมาบอกว่าบุญชูดีขึ้นแล้วคะ ให้เจ้าของมารับกลับบ้านได้และวันที่ 13 ต.ค.58 หมอนัดตรวจเลือดซ้ำ
-----
9 ต.ค.58 บุญชูดีขึ้นค่ะ แต่ยังเหนื่อยง่ายและยังเดินเซๆ อยู่ ก็ต้องรักษากันต่อไป...
งานนี้ต้องขอบคุณพระเอกสุดหล่อ "โกโก้" ที่ให้ชีวิตใหม่แก่น้อง และขอบคุณมากๆ ไปยังครอบครัวของโกโก้นะคะ ชูเป็นหนี้ชีวิตทุกคนอยู่
ขอบคุณคุณหมอและเจ้าหน้าที่ทุกคน ถึงแม้ชูจะมีโอกาสรอดน้อยแต่ก็พยายามช่วยกันอย่างเต็มที่
ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งผ่านมาให้ค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีลูกป่วยนะคะ ดูแลกันให้ดีๆ อย่าท้อแท้อย่าหมดกำลังใจนะคะ
แชร์ประสบการณ์น้องหมา (หวิดตาย) เพราะพยาธิเม็ดเลือด
พยาธิเม็ดเลือดรักษาได้ ถ้าเจ้าของสู้!!!
ลูกชายของเราชื่อ "บุญชู" เป็นหมาพันธุ์ปั๊ก อายุ 1ขวบค่ะ
-------
3 ต.ค.58 เราเริ่มสังเกตุเห็นอาการผิดปกติคือน้องซึมๆ ขาไม่ค่อยมีแรง จึงไปหาสัตวแพทย์แถวบ้าน คุณหมอให้ยาบำรุงมาทาน แล้วบอกว่าถ้าพรุ่งนี้เที่ยง น้องยังไม่ดีขึ้น ให้พาน้องไปโรงพยาบาล
-----
4 ต.ค.58 น้องไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น แถมดูแย่ไปกว่าเดิม จึงพาน้องไปโรงบาลสัตว์ คุณหมอซักประวัติ ดูเหงือกน้อง (ซีดมาก) วัดอุณภูมิ เจาะเลือดไปตรวจ ให้น้ำเกลือ ฉีดยาบำรุงหรืออะไรสักอย่าง รวม 4 เข็ม
-----
5 ต.ค.58 วันที่ต้องพาน้องมาฟังผลเลือดแต่วันนี้น้องดูแย่มากๆ ปากขาว เหงือกซีดมาก ตัวเหลือง 08.30 น. โรงพยาบาลเปิด รีบมาแต่เช้าเลยค่ะ ผลเลือดออก... หมอบอกน้องเป็นพยาธิเม็ดเลือดขั้นรุนแรง โลหิตจางขั้นรุนแรง แย่มากนะเจ้าของ เสี่ยงมากๆ แล้ว วัดอุณหภูมิสูงสุดปรอทต้องปรับอุณหภูมิน้องโดยการเช็ดตัวและเอาแท่งเย็นๆ มาประคบไว้ และพาน้องไปอยู่ใต้แอร์ ถ้าอุณหภูมิไม่ลดก็รักษาไม่ได้ หมอบอกว่าจะหาเตียงให้ชู ชูต้องแอดมิดเพราะถ้าไม่แอดมิดคงจะไม่รอด
และที่สำคัญบุญชูต้องการเลือดจากหมาใหญ่ 20 กิโลขึ้นไป อายุ 1-7 ปี สุขภาพแข็งแรง (ถ้าวัคซีนครบจะดีมาก) หมออยากให้ถ่ายเลือดเร็วที่สุดคือวันนี้ไม่เกิน 14.00 น. พระเจ้า!!! นี่น่าจะเป็นโอกาสรอดทางเดียวที่มี และการหาเลือดหมาใหญ่ที่เข้ากันได้ไม่ใช่เรื่องง่าย หมอจึงให้เตรียมมา 2 ตัว ในเวลาไม่กี่นาที ชูได้รับการช่วยเหลือจากโกโก้หมาของพี่สาวคนสนิท เรารีบไปรับโกโก้มา เพื่อตรวจเลือดว่า 1.โก้แข็งแรงและเลือดดีพอที่จะให้เลือดได้ไหม 2.เลือดโก้และเลือดชูสามารถเข้ากันได้ไหม การตรวจเลือดโก้ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ผลบุญของชูที่เลือดโก้สามารถให้ได้และเข้ากันได้กับเลือดของชู
ตรวจเสร็จก็ทำการถ่ายเลือดให้ชู
-----
6 ต.ค.58 วันที่ 2 ของการแอดมิด บุญชูยังคงนอนนิ่งในตู้ที่ให้ออกซิเจน
-----
7 ต.ค.58 วันที่ 3 ของการแอดมิด บุญชูรู้สึกตัวแล้วค่ะ จำแม่ได้ แต่ยังไม่มีแรง หันมาทักแม่ได้สักประมาณหนึ่งนาทีก็ล้มตัวลงนอน คุณหมอบอกว่าเกร็ดเลือดเพิ่มขึ้นแล้วแต่น้องยังมีอาการเพลีย อ่อนแรง
-----
8 ต.ค.58 วันที่ 4 ของการแอดมิด ประมาณเที่ยงๆ คุณหมอโทรมาบอกว่าบุญชูดีขึ้นแล้วคะ ให้เจ้าของมารับกลับบ้านได้และวันที่ 13 ต.ค.58 หมอนัดตรวจเลือดซ้ำ
-----
9 ต.ค.58 บุญชูดีขึ้นค่ะ แต่ยังเหนื่อยง่ายและยังเดินเซๆ อยู่ ก็ต้องรักษากันต่อไป...
งานนี้ต้องขอบคุณพระเอกสุดหล่อ "โกโก้" ที่ให้ชีวิตใหม่แก่น้อง และขอบคุณมากๆ ไปยังครอบครัวของโกโก้นะคะ ชูเป็นหนี้ชีวิตทุกคนอยู่
ขอบคุณคุณหมอและเจ้าหน้าที่ทุกคน ถึงแม้ชูจะมีโอกาสรอดน้อยแต่ก็พยายามช่วยกันอย่างเต็มที่
ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งผ่านมาให้ค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีลูกป่วยนะคะ ดูแลกันให้ดีๆ อย่าท้อแท้อย่าหมดกำลังใจนะคะ