ครั้งแรกของการพาพ่อเที่ยวต่างประเทศค่ะ ตัวเราเป็นคนเที่ยวค่อนข้างบ่อย เที่ยว 2 คนจนเคยชิน
จนมาวันนึงแม่จากเราไปแบบไม่มีวันกลับ ซึ่งตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่แม่บอกเสมอว่าอยากไปคุนหมิง แต่ช่วงนั้นการเงินไม่ค่อยดี
ก็เลยไม่ได้พาทั้งพ่อและแม่ไป และทำให้เรารู้สึกเสียใจมาถึงทุกวันนี้ แต่...วันนี้ฉันพร้อม ฉันจะพาพ่อเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก
เราตัดสินใจเลือกพาไปฮ่องกงค่ะ เราเคยไปมาแล้วครั้งนึง แล้วเราก็คิดว่าที่นี่มีเที่ยวแบบครบรส ถ้าพาผู้ใหญ่มาเที่ยวน่าจะประทับใจ
พ่อเราอายุ 62 ปีค่ะ เป็นข้าราชการเกษียณ กับอีกหนึ่งครอบครัวอายุ 62-63 ปี ทริปนี้ก็เลยไปกัน 6 คน
เริ่มเดินทางกันเลยค่ะ บอกเลยว่าการเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างเสี่ยงกับพายุ เพราะพายุกำลังเข้าจีน แต่เราก็เช็คอากาศแล้วแค่ครึ้มๆ
พ่อก็เดินทางมาจากหัวหิน เพื่อมาขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง น้องสาวแอบถ่ายรูปให้ดู พ่อน่าจะตื่นเต้น ดูพาสปอร์ตตลอดเลย
ก่อนหน้านี้มาดูกันค่ะว่าเราเตรียมอะไรไปบ้าง
1. จองตั๋วเครื่องบินค่ะ เลือก Hongkong Express ค่ะ ตอนนั้นมีโปรโมชั่นพอดี
แต่ขอบอกเลยว่าโอกาสหน้าขอกลับมาใช้บริการ Hongkong Airline เหมือนเดิมดีกว่า ค่าตั๋วเครื่องบิน + ค่าที่นั่ง + ค่ากระเป๋า 28,078 บาท
2. ซื้อ Airport Express + MTR 3 วัน ใช้บริการของ Hongkong Fanclub คนละ 1,260 บาทค่ะ
3. ซื้อบัตรขึ้นกระเช้านองปิง ซิตี้ทัวร์ เซ็ทนี้ซื้อกับบ้านตระกูลเฉินค่ะ เพราะเช็คราคาแล้วถูกกว่า คนละ 1,515 บาท
4. แลกเงินค่ะ เราแลกไปทั้งหมด 4,880 เหรียญฮ่องกง ซึ่งขอบอกว่าน้อยมาก เพราะเราลืม...ค่าช้อปปิ้งตัวเอง นึกแต่ค่าอาหาร
5. จองโรงแรมค่ะ เราเลือกเอเวอร์กรีน ค่อนข้างไกล MRT นิดหน่อย (สำหรับผู้สูงอายุนะคะ)
ตอนแรกเราจะจองกับ CASA แต่ทางโรงแรมโทรมาบอกว่าไม่สามารถเสริมเตียงได้ ก็เลยจองที่นี่ 2 คืน 2 ห้อง 18,411 บาทค่ะ
6. ซื้อซิมฮ่องกงค่ะ 400 บาท เอาไว้โทรหาน้า เพราะว่าที่บ้านเลี้ยงน้องหมากับน้องแมวค่ะ
ต้องโทรมาเช็คเป็นระยะ แล้วก็เอาไว้ search หาข้อมูลระหว่างทาง เผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน
7. ทำแพลนท่องเที่ยว ขอโทษนะคะมีแค่ 2 วันแรก เพราะวันสุดท้ายค่อยไปคิดเอาหน้างาน
ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วค่ะ เครื่องขึ้น 00.40 น. เรามาถึงสนามบินดอนเมืองกัน 3 ทุ่ม วันนั้นฝนตกหนักมาก
เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดแค่ 2 ช่องนะคะ ใช้ของ Lion Air แต่ต้องคอยเดินมาดูเป็นระยะว่าเปิดหรือยัง
มาดูบรรยากาศบนเครื่องบินกันค่ะ HK Express เท่าที่ศึกษาดูเป็นเครื่อง A320 ค่อนข้างเล็กนิดนึงค่ะ
เราซื้อที่นั่งให้พ่อเพิ่มอีก 600 บาท เพื่อจะได้วางขาสะดวก แต่ขอโทษค่ะเป็นที่ตรงทางออกฉุกเฉินปรับเบาะเอนไม่ได้
ตอนนี้คุณแอร์กำลังมาสอนวิธีช่วยเหลือ เมื่อต้องนั่งในบริเวณทางออกฉุกเฉิน ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ได้แต่โอเคค่ะ
กว้างมากเลยค่ะ สมราคา ที่นั่งตรงนี้ HK Express ใช้ชื่อว่า Sweet Seat เหมือนที่นั่งฮันนีมูนเลย
ส่วนตัวเราก็ซื้อที่นั่งเพื่อให้นั่งติดกัน แต่ขอแบบธรรมดาค่ะ ซึ่งก็กว้างกว่าหางแดงนิดหน่อย
มาดูเมนูอาหารกันบ้างค่ะ มีคนแนะนำให้ลองติ่มซำบนเครื่องแต่พอเปิดดูราคาแล้ว ขอบายค่ะ หลับดีกว่า
อยู่บนเครื่องปรากฎว่าพ่อก็หลับไม่ลงค่ะ เพราะเครื่องตกหลุมอากาศบ่อยมาก เราก็เลยพาลไม่หลับไม่นอนไปด้วย
เราถึงสนามบินฮ่องกงเวลา 04.20 น. ค่ะ ไฟลท์เช้ามืดแบบนี้ ตม.โล่งมาก ใช้เวลาไม่นานค่ะ
เราต้องรอเคาน์เตอร์แลกบัตร Airport Express เปิดตอน 05.45 น.ค่ะ ก็นั่งรอแถวๆ นั้น ล้างหน้าแปรงฟันคอย
พอเคาน์เตอร์เปิดก็เอาใบที่เราปรินท์มาจากเมล์ Hongkong Fanclub มายื่นที่เคาน์เตอร์ค่ะ ก็จะได้บัตรมา
ส่วนบัตร MTR นั้น สามารถแลกได้ที่ต้นทางคือสนามบิน หรือปลายทาง ที่เกาลูนหรือฮ่องกงก็ได้ค่ะ เราแลกที่เกาลูนเพราะสนามบินคนเยอะ
ขึ้น Airport Express แล้วจ้า คณะทัวร์ตาแข็งตาค้างตื่นเต้นจนไม่หลับไม่นอน ทุกคนดูตื่นตาตื่นใจมาก
ออกจาก Airport Express ไปต่อ Shuttle Bus ค่ะ เพื่อเดินทางต่อไปยังโรงแรม เพื่อนๆ สามารถต่อ MTR ได้ค่ะ
เราก็งงๆ ว่าทำไมไม่ต่อ MTR 555 ไม่เป็นไรค่ะถือเป็นประสบการณ์ เพราะจากจุดที่ Shuttle Bus จอดกับโรงแรมไกลกันมาก
ต้องเอากระเป๋าเข้าไปฝากที่โรงแรมก่อนค่ะ จากนั้นก็จะไปเที่ยวตามแพลนกันเลยค่ะ
ขออนุญาตมาต่อพรุ่งนี้นะคะ จะเลิกงานแล้ว 555 รูปเก็บไว้ในคอมฯ ที่ออฟฟิศค่ะ มาดูกันว่าพ่อลำบากยังไง
[CR] พาพ่อไปลำบากที่ฮ่องกง ครั้งแรกกับการเที่ยวต่างประเทศของพ่อ พ่อจ๋าหนูขอโทษ เดี๋ยวเก็บเงินแล้วพาไปใหม่นะ
จนมาวันนึงแม่จากเราไปแบบไม่มีวันกลับ ซึ่งตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่แม่บอกเสมอว่าอยากไปคุนหมิง แต่ช่วงนั้นการเงินไม่ค่อยดี
ก็เลยไม่ได้พาทั้งพ่อและแม่ไป และทำให้เรารู้สึกเสียใจมาถึงทุกวันนี้ แต่...วันนี้ฉันพร้อม ฉันจะพาพ่อเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก
เราตัดสินใจเลือกพาไปฮ่องกงค่ะ เราเคยไปมาแล้วครั้งนึง แล้วเราก็คิดว่าที่นี่มีเที่ยวแบบครบรส ถ้าพาผู้ใหญ่มาเที่ยวน่าจะประทับใจ
พ่อเราอายุ 62 ปีค่ะ เป็นข้าราชการเกษียณ กับอีกหนึ่งครอบครัวอายุ 62-63 ปี ทริปนี้ก็เลยไปกัน 6 คน
เริ่มเดินทางกันเลยค่ะ บอกเลยว่าการเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างเสี่ยงกับพายุ เพราะพายุกำลังเข้าจีน แต่เราก็เช็คอากาศแล้วแค่ครึ้มๆ
พ่อก็เดินทางมาจากหัวหิน เพื่อมาขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง น้องสาวแอบถ่ายรูปให้ดู พ่อน่าจะตื่นเต้น ดูพาสปอร์ตตลอดเลย
แต่ขอบอกเลยว่าโอกาสหน้าขอกลับมาใช้บริการ Hongkong Airline เหมือนเดิมดีกว่า ค่าตั๋วเครื่องบิน + ค่าที่นั่ง + ค่ากระเป๋า 28,078 บาท
ตอนแรกเราจะจองกับ CASA แต่ทางโรงแรมโทรมาบอกว่าไม่สามารถเสริมเตียงได้ ก็เลยจองที่นี่ 2 คืน 2 ห้อง 18,411 บาทค่ะ
ต้องโทรมาเช็คเป็นระยะ แล้วก็เอาไว้ search หาข้อมูลระหว่างทาง เผื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน
เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดแค่ 2 ช่องนะคะ ใช้ของ Lion Air แต่ต้องคอยเดินมาดูเป็นระยะว่าเปิดหรือยัง
เราซื้อที่นั่งให้พ่อเพิ่มอีก 600 บาท เพื่อจะได้วางขาสะดวก แต่ขอโทษค่ะเป็นที่ตรงทางออกฉุกเฉินปรับเบาะเอนไม่ได้
ตอนนี้คุณแอร์กำลังมาสอนวิธีช่วยเหลือ เมื่อต้องนั่งในบริเวณทางออกฉุกเฉิน ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง ได้แต่โอเคค่ะ
เราถึงสนามบินฮ่องกงเวลา 04.20 น. ค่ะ ไฟลท์เช้ามืดแบบนี้ ตม.โล่งมาก ใช้เวลาไม่นานค่ะ
เราต้องรอเคาน์เตอร์แลกบัตร Airport Express เปิดตอน 05.45 น.ค่ะ ก็นั่งรอแถวๆ นั้น ล้างหน้าแปรงฟันคอย
พอเคาน์เตอร์เปิดก็เอาใบที่เราปรินท์มาจากเมล์ Hongkong Fanclub มายื่นที่เคาน์เตอร์ค่ะ ก็จะได้บัตรมา
ส่วนบัตร MTR นั้น สามารถแลกได้ที่ต้นทางคือสนามบิน หรือปลายทาง ที่เกาลูนหรือฮ่องกงก็ได้ค่ะ เราแลกที่เกาลูนเพราะสนามบินคนเยอะ
เราก็งงๆ ว่าทำไมไม่ต่อ MTR 555 ไม่เป็นไรค่ะถือเป็นประสบการณ์ เพราะจากจุดที่ Shuttle Bus จอดกับโรงแรมไกลกันมาก
ต้องเอากระเป๋าเข้าไปฝากที่โรงแรมก่อนค่ะ จากนั้นก็จะไปเที่ยวตามแพลนกันเลยค่ะ