เมื่อคลีนิคเสริมความงาม"ว."ลาดพร้าว 25 ใช้แพทย์จบใหม่ไม่ได้เรียนเฉพาะทางผ่าจมูกลูกค้าจนพัง!!





เช้าวันนี้( 8 ต.ค.2558) รายการยกทัพข่าวเช้า สถานีโทรทัศน์ PPTV HD ได้เปิดเผยเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากจากการทำศัลยกรรมเสริมจมูก โดยสถานเสริมความงามที่ใช้แพทย์ซึ่งไม่มีความเชี่ยวชาญมาผ่าตัดให้กับลูกค้า

น้องโฟม หรือนางสาวศศิธร วงพิมล  21 ปี  ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่สถาบันแห่งหนึ่งในจ.มหาสารคาม  เธอมีความหวังว่าจะมีจมูกที่สวยงามได้รูปยิ่งขึ้นจากการเข้ารับการผ่าตัดเสริมดั้งจมูกและตัดปีกจมูกให้เรียวเล็กสวยงาม โดยเธอได้ศึกษารีวิวการศัลยกรรมเสริมความงามจากคลีนิค"ว." คลีนิคเสริมความงามชื่อดังในซอยลาดพร้าว 25  

น้องโฟมเล่าว่าวันที่ 15 สิงหาคม 2558 เดินทางไปที่คลีนิคพร้อมคุณแม่ โดยเดิมทีตั้งใจจะไปเสริมสันจมูกให้โด่งขึ้นและปลายจมูกเป็นรูปหยดน้ำ ซึ่งทางคลีนิคได้เสนอแพคเกจทำจมูกราคา 1 แสนบาท มีโปรโมชั่นลด 50% เหลือ 50,000 บาท จึงตัดสินใจทำ แต่พอลงมือทำไปได้ซักพักทางคลีนิคได้แนะนำให้ตัดปีกจมูกเพิ่มเติมเพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงามขึ้น โดยมีค่าใช้จ่ายอีก 15,000 บาท คุณแม่จึงตกลง รวมแล้วเบ็ดเสร็จจ่ายไป 65,000 บาท ซึ่งในวันนั้นใช้เวลาทำนานกว่า 6 ชั่วโมง โดยระหว่างที่ทำมีเจ้าหน้าที่ รวมทั้งคุณหมอ และเจ้าของคลีนิคอยู่ภายในห้องทั้งหมด 6 คน มีการฉีดยาชาและถอดเข้าถอดออกซิลิโคนอยู่นานจนยาชาหมดฤทธิ์และเริ่มเจ็บมากขึ้น โดยเจ้าของคลีนิคคอยสั่งกำกับคุณหมออยู่ตลอดเวลาในการลงมือผ่าตัด

แต่หลังจากเข้ารับการผ่าตัดที่ปรากฏว่าจมูกของเธอมีปัญหาไม่สามารถตัดไหมออกได้ และเกิดการติดเชื้อจนอักเสบ ซึ่งทางคุณแม่ก็พยายามถามหาสาเหตุและขอคำอธิบายจากทางคลีนิคและคุณหมอแต่ก็ไม่มีคำตอบ บอกเพียงว่าจะทำเนินการแก้ไขให้ แต่ทางคนไข้ก็ไม่ไว้วางใจและเกรงว่าจะยิ่งแก้ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ จึงขอให้ทางคลีนิคคืนเงินให้ และนำตัวน้องโฟมไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลรามาธิบดี

ซึ่งอาจารย์แพทย์ที่รามาฯ น.พ.สุรเวช น้ำหอม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรม ระบุว่า จมูกของเธอมีอาการติดเชื้อ ต้องเอากระดูกเทียมออก และเกิดเป็นแผลบริเวณโคนจมูก ส่วนรูจมูกก็ตีบเล็กลงมากเพราะตัดปีกจมูกที่ไม่ถูกต้อง เรียกว่ารูปทรงจมูกนอกจากไม่สวยแล้วยังทำให้ของเดิมเสียหายด้วย นอกจากนี้โครงสร้างจมูกยังถูกทำลายจากการผ่าตัดเปิดปลายจมูกเพื่อเสริมซิลิโคนและกระดูกเทียมตรงปลายจมูกที่ไม่ถูกวิธี   ที่ทำการรักษาระบุว่าการจะแก้ไขให้กลับไปเหมือนเดิมนั้นยากมากมาก อาจใช้เวลานาน 6  เดือนถึง 1ปี แต่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสกลับไปเหมือนเดิมหรือไม่

หลังเหตุการณ์นี้ทางครอบครัวของน้องโฟมพยายามถามหาความรับผิดชอบจากทางคลินิก โดยเฉพาะการให้แพทย์หนุ่มจบใหม่อายุเพียง 26 ปี ซึ่งไม่ได้เรียนจบแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยแพทย์ มาทำการผ่าตัดเสริมความงามให้กับคนไข้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับคำชี้แจง หรือการแสดงออกเพื่อรับผิดชอบใดๆเลยทำให้ผู้เสียหายตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางคลินิกและแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเสริมความงามรายดังกล่าวแล้วที่สน.พหลโยธิน  ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้น้องโฟมเครียดมากถึงขั้นนอนร้องไห้ทุกวัน

ซึ่งเรื่องนี้ทางรายการยกทัพข่าวเช้า ก็ได้พยายามติดต่อไปทางคลีนิคดังกล่าวเพื่อขอคำชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น แต่ทางคลีนิคแจ้งว่าไม่สามารถให้สัมภาษณ์ใดๆได้ เนื่องจากต้องให้ทางผู้บริหารมีการประชุมกันก่อน และบ่ายเบี่ยงที่จะให้ข้อมูลใดๆเพิ่มเติม ขณะเดียวกันทางราบการก็ได้ต่อสายพูดคุยสดๆกับแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่รับคนไข้รายดังกล่าวมารักษาอาการต่อเพื่อสอบถามถึงอาการล่าสุด และได้ต่อสายพูดคุยกับนพ.สัมพันธ์  คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา ถึงแนวทางการดำเนินการต่อกรณีดังกล่าว ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้สามารถติดตามรับชมได้ในคลิปรายการนี้เลยครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ขอบคุณข้อมูลและภาพ:รายการยกทัพข่าวเช้า ช่อง PPTV HD36
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่