‘ เที่ยวมาเยอะตกลงชอบเขา  หรือ  ทะเล ’
เจอคำถามนี้บ่อยบ่อย  จะตอบว่าชอบอะไรก็พูดไม่เต็มปาก

เอาว่ะ  มันต้องลองซักครั้งคงได้คำตอบ
แล้วจะไปไหนว้ะ  เวลาก็น้อย  กำลังกายไม่ได้ออกจะขึ้นสูงเกิ้นขาสั่นเป็นเจ้าเข้าแน่แน่
เปิดแผนที่  >>  เลือกจังหวัด  >> เปิดอำเภอของจังหวัดนั้น  >> เลือกเขา


‘  พุเตย ’ ที่ไหนว่ะเนี่ย  ไม่เคยได้ยิน  ?

สูงก็พอดีคงได้อยู่ 1,123 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ใกล้กรุงเทพ  เอาแหละที่นี่

สำหรับการเดินทางเรามักมีตัวเลือกต่างต่างขึ้นมาในหัวเสมอ  และเพื่อนร่วมเดินทางส่วนมากก็เป็น
หนึ่ง  คนเดียว  สงบ ได้อยู่กับตัวเอง
สอง  แฟน  งุ้งงิ้ง  มุ้งมิ้ง  ถ้ามีคงได้อารมณ์นี้
สาม  เพื่อน  เฮฮา  มีคนช่วยคิด
คิดอยู่นาน  เห้ย  จะไปเดินเขานะเว้ย  จะไปคนเดียวก็ไม่ใช่  จะไปกับแฟนก็ไหนว้ะ!!
เพื่อนนี่แหละ  หาเพื่อน
‘ แก  พาเราไปหาเขาหน่อย ’
ชวนไปชวนมา  ก็ได้ตัวเลือกที่สี่  “ คนที่ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า  รู้แค่ว่าเป็นคนกระหายความสุขจากการเดินทางเหมือนกัน  ’
ทริปนี้มีทั้งหมดแปดคน  ต่างเพศ  ต่างวัย ต่างอาชีพ ที่อยู่ และอื่นๆ  ฮ่าๆๆ
ทริปนี้จึงงงงงตั้งแต่สถานที่ที่ไม่เคยได้ยิน  เพื่อนร่วมทางที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน  และแพลนที่นิ่งนิ่งเงียบเงียบไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว  ฮ่าๆๆ
เราตกลงเดินทางกันหน้าฝน  ในวันที่  3 – 4 ตุลา  58  
ส่วนการเตรียมตัวก็มีคร่าวคร่าว ดังนี้
- ของที่ต้องเตรียมไป
หนึ่ง  เสื้อผ้า  ดูจากสภาพอากาศ (( โทรถามทาง  อช. พุเตยล่วงหน้าได้เลย  ))
สอง  เต๊นท์ /ถุงนอน ถ้าใครไม่มีทาง อช.  มีให้เช่า  
สาม  อุปรณ์กันน้ำ  กันฝน  ;  เสื้อกันฝน  รองเท้ากันน้ำ
สี่  ที่กันสารพัดสัตว์  ; ยุง  มด
ห้า ทิชชู่  ทั้งเปียก และไม่เปียก
เจ็ด  ของกิน ขนม  นม เนย หรือของสด เอาไปทำที่ที่พัก
แปด รองเท้า  แตะ  ผ้าใบ  กันน้ำ
เก้า  ไฟฉาย
สิบ  ร่างกายยยยยยยยยย  !!  ย้ำ  เดินเขา ร่างกายยยยยย  
-  การติดต่อที่พักทาง  อช.
จุดกางเต๊นท์มีสามที่ใหญ่ใหญ่  ดูตามลิงค์นี้ได้เลย http://www.suphan.biz/Phutoeinationalpark.htm
ซึ่งเราเลือกตะเพินคี่  จุดหมายคือยอดเขาเทวดา
ติดติอเจ้าหน้าที่เรื่องที่พัก หรือสอบถามการเดินทาง  0 3544 6237
โอเค   รู้สึกเหมือนทุกอย่างพร้อม
ใกล้วันเข้า  เริ่มรู้จักตื่นเต้น ไปกับคนที่ไม่เคยเจอหน้า ไม่รู้จัก  นี่ต้องทำตัวไงว้ะ ฮ่าๆๆ
วันที่หนึ่ง   03.10.58
เราตกลงนัดเจอกันร้านก๋วยจั๊บ  ที่อนุเสาวรีย์ 6.45 น.
หลังตกลงกันเสร็จ  เสียงจากทีวีดังขึ้น
‘ ระหว่างวันที่ 4 – 6 ตุลานี้  จะมีอิทธิพลจากพายุ  ส่งผลให้ภาคเหนือ  ภาคตะวันออก  และภาคกลางมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น ’
จ้าา า า า า า า า า า า  เพิ่มมากขึ้น  ปกติตกที่นี่น้ำท่วม  ><” เอาว่ะ  ไม่เป็นไรเราไปวันที่  3  นี่สบายย ย ไม่โดนหรอก  ( หลอกตัวเองอยู่ )
ทันทีที่ลงจากบีทีเอส  แม่เจ้าโว้ย ย ไหนแสงอาทิตย์  ตกโครม ม  เข้า  ทริปนี้จึงชิลล์  ชิลล์ทีแปลว่าหนาวสั่น หนะ  TT  ฝนตกตั้งแต่เริ่มทริป  ภาวนากันตลอดทาง  ขอให้ถึงปุ๊ปหยุดปั๊ป

เราไปกันโดยรถตู้  ซื้อตั๋วที่  อนุเสาวรีย์นั่นแหละ กรุงเทพ – ด่านช้าง  190 บาท คนเต็มแล้วรถออก
ช่วงแรก  ยังเกร็งเกร็ง  โอเค พี่คนนี้ชื่อนี้  พูดหรอ  ยัง ยังไม่กล้า  และ  ค่ะ ค่ะ อยู่  พอผ่านไปเท่านั้นแหละ  
เฮ้ย ย  !! ตลกว่ะ  สนิทกันได้แบบไม่ต้องแนะนำตัว  เหมือนรู้จักกันมานานหลายปี  

8.30 – 12.00 น.   ก็ถึง บขส. ด่านช้าง


สำหรับคนที่ไม่สะดวกรถส่วนตัว  และคิดว่าลำบาก  เรามีทางเลือกให้คุณ  !!  ( จิกคาง  กระพริบตา สะบัดบ๊อบเล็กน้อย )
พวกเราตัดสินใจให้  จนท. ทาง อช. มารับเหมา 3500 บาทถ้วน
เป็นรถกระบะ  พลังแกร่ง  !!



แต่ จ้ะแต่  ตามที่บอกให้เตรียมของกินไป  ด๊าน น น   !! ก็บอกแล้วว่าชิลล์  ไม่ได้เตรียมกันมา  ฮ่าๆๆ
ให้พี่เค้าแวะตลาดซื้อของสดไปทำอาหารกินที่โน้น น





บอกเลย  เจอพี่เค้าครั้งแรกก็ทั่วไป  แต่พอยิ่งรู้จัก  ยิ่งโคดด ด จะน่ารัก  
ซื้อไปเถอะ  จะกินอะไร  เอาไปข้างบนพี่เค้าจัดให้  กระทงกระทะ  แก๊ส  คือมีหมด ด รถกระบะเฮียแก  เหมือนโดเรมอนมีทุกอย่าง
เดินช๊อปในตลาดเสร็จก็ออกเดินทางไปยัง  อช. พุเตย  ระยะทาง 80 กิโล
เฮียแกเหยียบไปถึงที่นั่นได้ผ่านใน 45 นาที
บอกเลยว่าสุพรรณ  คือ จังหวัดที่มีสีเขียวเยอะมาก  มองไปทางนั้นก็มีแต่สีเขียว  ป่า  เขา ที่เหมือนเล่นแม่สีสลับกันตลอดทาง  มันสบายตามากจริงๆ



ถึง  อช. แวะเอาของใช้ที่ต้องเตรียมไปทำอาหาร  และจะมีพี่ จนท. อีกคนสำหรับนำทางเราเดินเขาในเช้าวันถัดไป
จากนั้นก็เดินทางกันไปยังจุดกางเต๊นท์ตะเพินคี่
ทันที่ที่เห็นที่ทาง  โอ้แม่เจ้า  !! นี่แหละแบบที่ตามหา
ไปขึ้นเขา  มันต้องแบบนี้  ทางแบบนี้  สุดสุด!! แอดเวนเจอร์  ( เผยอมากเล็กน้อย  ฮ่าๆๆ  )

สำหรับคนที่เอารถมาเองก็ขึ้นได้นะ  แต่ทางดูโหดโหด  หรือเราคิดไปเอง  ^^

พี่เอก  จนท. ที่พาขึ้นไปแกบอกขับตามจังหวะเพลง  ฮ่าๆๆ
ภาพที่ได้ระหว่างทางบางส่วนจึงเป้นแบบนี้

เหมือนสามช่าตลอดทาง  มันส์มากจริงจริง หัวโขก  กล้องกระแทก เลนส์เกือบหลุด  ใบไม้ฟาดหน้า
ที่นี่งเลื่อน  ก้นเกือบมีรอยช้ำ  แต่ได้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะตลอดทาง ง
ระหว่างทางพี่เค้าแวะให้ชมจุดชมวิวสองจุด  เอ้อ อ  ลืมบอกไป  ไอที่ภาวนาให้ฝนหยุดตอนมาถึง  มันค่อยค่อยหยุดจริงจริงนะเห้ย ย  ฮ่าๆๆ  โชคช่วย ย
สวยสดงดงาม  เอาจริงจริงเวลาบอกว่าสวยแล้วถ่ายรูปเก็บมา  สู้มาเห็นด้วยตาตัวเองไม่ได้เลย



ถึงจุดกางเต็นท์แล้ว ว
หาทำเลที่ตั้งได้เลย  ด้านหน้าเป็นสวนข้าวไร่  และข้าวโพด  ด้านข้าง ข้างขวาเป็นเขา ด้านซ้ายเป็นยอดเขาเทวดา  ด้านหลังก็เขา  แม่เจ้าโว้ย ยย ย  ฟินไปดิ  ^^




ไปดูวิวรอบรอบ และลั่นชัตเตอร์กัน น น  !!









ตอนเราไปคนไม่เยอะ  มีแค่ 5 กลุ่มที่มาพักบนนี้  บรรยากาศเลยค่อนข้างเงียบ  สงบ  ถือว่ามาพักผ่อนจริงจริง
กางเต๊นท์เตรียมของเสร็จ  ก็ไปช่วยพีพี่เค้าเตรียมมื้อเย็น  เมนูวันนี้ บอกเลยไม่เหมาะกับการเดินป่าแต่อย่างใด
หมูย่าง  น้ำจิ้มรสเด็ดของพี่โย  ข้าวที่หุงจากเตาถ่านที่ไม่เคยเห็นมานาน  ปลาทับทิมย่าง  และทอด  ยำแหนม  ต้มจืด  กินอยู่อย่างราชา  ไปแปดคนหมูสามกิโล  ปลาทับทิมตัวเบ้งสามตัว  กินได้ยันเช้า









ด้วยความที่อาหารอร่อยอยู่แล้ว  หรือหิว (?)  ทำให้อาหารมือนี้ฟินเข้าไปอีก  ทำอาหารเสร็จราวราวสองทุ่ม  นั่งคุยกันจนถึงสี่ทุ่ม  ท่ามกลางสายหมอก  คือหนาว  เม็ดหมอกมาสัมผัสเหมือนละอองฝนเล็กเล็ก  ได้ความอุ่นจากเตาไฟ  สมบูรณ์แบบจริงจริง  แต่ปัญหาไม่จบแค่นั้นจ้ะ

เมื่อลมเปลี่ยนทิศ  ชีวิตติ้งเข้าเต๊นท์  ฝนโตกกกกกกกกกกกกก  หนักมาก!!  รีบเก็บของ  หลบในเต๊นท์
แปดคน มี สี่เต๊นท์ หนึ่งเต๊นท์น้ำท่วมทั้งเต๊นท์  หนึ่งเต๊นท์น้ำท่วมไปครึ่ง อีกสองน้ำซึมนอนชื้นยันเช้า

ประสบการณ์ชีวิตจริงจริง  ฮ่าๆๆ ๆ  สนุกสนาน  แพลนไว้นอนท่ามกลางดวงดาว  ด๊าน น มานอนท่ามกลางสายน้ำซะงั้น   จบกันแพลนดูดาวของชั้น  แอบเสียใจเล็กน้อย  ที่ต้องลุ้นอีกอย่างคือตอนเช้าเราจะเดินขึ้นเขาเทวดาได้หรือไม่  ในเวลาตีสี่  ตั้งนาฬิกาปลุกเลยจ้า