ปี 1939 ที่ประเทศอังกฤษ สมาคมลับกลุ่มนึ่ง ได้สุ่มจับก้อนหินขาวดำกันในถุงผ้า ซึ่งจะมีหินดำทั้งหมด และมีสีขาวเพียงก้อนเดียว และผู้ที่จับได้ก้อนสีขาว ผู้นั้นต้องออกเดินทางไปยังสถานที่สุดจะหยั่งถึง นั่นคือในโมโนลิธ!!

เวลาปัจจุบัน ณ ห้องมอนิเตอร์ในเพลกราวด์ เดซี่และแม๊กกำลังนั่งคุยเกี่ยวกับเพื่อนๆที่หายไป ทั้งเมย์และเจมม่า และดร.การ์ธเนอร์(สามีเก่าเมย์)

ทันใดนั้นฮันเตอร์และบ็อบบี้ก็รีบวิ่งเข้ามาและบอกว่า ฟิซเข้าไปในตู้นิรภัยของโมโนลิธ และชกโมโนลิธอย่างบ้าคลั่ง(ฉากตอนจบใน EP01) แม็กจึงรีบเข้าไปดึงตัวฟิซออกมาให้ไกลโมโนลิธที่แสนอันตรายนี้ ทันทีที่ลากฟิซออกมาและกำลังจะปิดตู้ โมโนลิธก็เปลี่ยนรูปร่างไหลไปมาในตู้อย่างกราดเดรี้ยว พวกของเดซี่และบ็อบบี้ต้องดันประตูกันสุดกำลัง

ไดเรคเตอร์โคลสันรีบตามเข้ามาในห้องเก็บโมโนลิธเช่นกัน โคลสันต่อว่าฟิซว่า เขาเสียเจมม่าไปแล้วคนหนึ่ง เขาไม่อยากเสียฟิซไปอีกคน บ็อบบี้เข้ามาปลอดใจฟิซ และฟิซก็สังเกตุบางอย่างที่ติดอยู่บนแก้มของตัวเองที่บ็อบบี้ลูบออกมาติดมือได้ มันคือทรายที่ออกมาจากโมโนลิธนั่นเอง

ฟิซรีบนำทรายนั้นไปวิเคราะห์ทันที (ตรงนี้ฟังไม่ทัน อีตาฟิซพูดเร็วยั๊งจรวด- -*) แต่ก็พอจับใจความได้ว่า ฟิซบอกว่ามันคือทรายอายุนับล้านปี และทรายนี่คือตัวพิสูจน์ว่า โมโนลิธ คือประตูมิติไปที่ใดที่หนึ่งแน่นอน

โคลสันจึงบอกฟิซว่า แต่นี่ก็ผ่านไปหลายเดือนแล้ว เจมม่าอาจจะตายไปแล้ว ฟิซก็บอกว่าใช่ โคลสันจึงบอก งั้นเราก็ไปหาคำตอบกัน ทีมโคลสันทุกคนนั้นต่างก็ส่งเสียงเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องตามหาเจมม่า ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย โคลสันจึงถามฟิซว่า ต้องการอะไรบ้างในภารกิจนี้ บอกมาได้เลย

โคลสันส่งทุกคนแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ และคนสำคัญที่โคลสันสั่งให้บ็อบบี้ขับควินเจ็ตพาตนเองกับฟิซไปหาก็คือ ศาสตราจารย์แรนดอร์ฟ แอสการ์เดี้ยนผู้มีอายุพันกว่าปีคนนั้นนั่นเอง เพราะแรนดอร์ฟอยู่บนโลกมานาน แรนดอร์ฟน่าจะรู้เรื่องโมโนลิธบ้าง (แต่โมโนลิธอยู่นานกว่าแรนดอร์ฟนะ)

ตัดฉากมาที่อีวอร์ดสารเลว ซึ่งกำลังซิ่งรถอยู่ในตึกใดตึกนึง ซึ่งมีแนวร่วมไฮดร้ายืนอยู่ตามเสาอาคารตึกทุกเสา ซึ่งชายผู้ที่อยู่หน้ากระโปรงรถองวอร์ดนั้น คือผู้รู้ความลับบางอย่าง ก่อนที่วอร์ดจะเหยียบเบรคนคนนั้นกระเด็นออกไป และวอร์ดก็ถามชายคนนั้นว่า "เด็ก อยู่ที่ไหน?"

ที่คุกๆหนึ่ง แรนดอร์ฟถูกขังอยู่ในคุก ซึ่งด้วยพละกำลังแอสการ์เดี้ยน แรนดอร์ฟจะแหกคุกตอนไหนก็ได้ แต่แรนดอร์ฟก็ไม่ทำ โคลสันพูดจูงใจจนแรนดอร์ฟยอมช่วยเหลือ และแรนดอร์ฟก็พังลูกกรงคุกออกมาเฉยเลย เพื่อจะตามโคลสันออกไป สัญญาณเตือนภัยจึงดังขึ้น เจ้าหน้าที่เฝ้าคุกรีบเข้ามา และแรนดอร์ฟก็บอกเจ้าหน้าที่เฝ้าคุกว่า โคลสันเป็นคนพังคุก ซึ่งโคลสันได้แต่ยิ้มแห้งๆ (ฉากนี้ฮา.. 555+)

ตัดมาที่เพลกราวด์ ดร.การ์ธเนอร์ก็มาที่นี่ เพื่อช่วยเหลือโจอี้นั่นเอง (อินฮิวแมนคนใหม่ในEP01)

ที่สนามกอร์ฟในอริโซน่า เมย์ก็กำลังเพลิดเพลินกับการฝึกตีกอร์ฟอยู่กับพ่อของตน

ที่เพลกราวด์ และแรนดอร์ฟก็มาถึงเพลกราวด์ ทันทีที่แรนดอร์ฟเห็นโมโนลิธ มันก็เปลี่ยนรูปร่างไปมาโชว์แรนดอร์ฟเช่นกัน และแรนดอร์ฟก็ตกลงช่วยเหลือทีมโคลสันตามหาเจมม่า

ที่สเปน อีวอร์ดสารเลวก็วางแผนจับตัวเศรษฐีเพลบอยเด็กหนุ่มคนหนึ่งบนเรือยอร์ช ก่อนจะโชว์เมพซัดบอดี้การ์ดของเศรษฐีหนุ่มลงไปกองหมด

ที่สถานที่โบราณของโลกที่ใดที่หนึ่ง แรนดอร์ฟก็พาทีมโคลสันมาที่นี่ และพบประตูลับทางเข้าไปในที่แห่งนั้น

ที่เพลกราวด์ ดร.การ์ธเนอร์ก็สนทนากับเดซี่ถึงเรื่องราวของเรื่องราวต่างๆ ทั้งเรื่องอินฮิวแมน และเรื่องประตูมิติโมโนลิธ และดร.การ์ธเนอร์ก็พูดชื่อโปรเจคที่ทั้งคู่ทำด้วยกันครั้งแรก ซีเคร็ท วอริเออร์

ตัดไปที่เมย์และพ่อของเมย์ ก็สนทนาเรื่องราวต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาของครอบครัว และเมย์ก็รับรู้ถึงบางคนอยู่หน้าประตู เมย์จึงถือมีดออกไปจ่อคอผู้มาเยือน และคนนั้นก็คือ ฮันเตอร์

และที่แท้.. เศรษฐีเด็กหนุ่มเพลย์บอยที่วอร์ดจับมาคนนั้นคือลูกของ บารอน วอน สตรัคเกอร์

และฟิซ ก็ค้นพบหนทางเข้าไปสู่ประตูมิติแล้ว ฟิซจึงไปเข้าทันที และฟิซก็ได้ยินเสียงซิมม่อนในพายุทะเลทราย

พอแค่นี้ครับ 555+  สวัสดีครับ