สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ผมนี้อยากให้ ยกเลิกรางวัลส่วนแบ่งค่าปรับ กับตำรวจที่จับครับ อยากให้เงินเข้าหลวงทั้งหมด ไม่อย่างงั้นคนเก็ยขยะ คนกวาดขยะ หรือ เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐส่วนอื่นก็เรียกร้องเปอร์เซ็นค่าทำงาน นอกเหนือจากเงินเดือนที่มาจากภาษีของประชาชน ได้หมด ผมว่ามันไม่เป็นธรรมกับหน่วงงานรัฐส่วนอื่นนะ นี้ละครับที่ปัจุบันหลายๆคนที่คิดไม่ดีอยากมาเป็นตำรวจ ตั้งแต่จ่ายเพื่อให้สอบได้เป็นหลักแสน พอเข้ามาเป็นตำรวจก็หาช่องทางของกฎหมายขูดรีดกับประชาชน มันไม่ควนมีตั้งแต่แรกแล้วเรื่องเปอร์เซ็นนำจับ คิดจะทำเพื่อประชาชนกับแผ่นดิน แต่มาหวังกินผลประโยชน์ทางกฎหมาย 100 บาทเข้าหลวงกี่บาทตำรวจได้กี่บาท มันไม่เหมาะอยู่แล้ว งี้วันไหนคนกวาดขยะบอกวันนี้ขยะเยอะจังก็ขอเปอร์เซ็นค่ากวาดถนนเพิ่มได้ละซิมันเอาเปรียบเกินไป
ความคิดเห็นที่ 38
ระบบที่บิดเบี้ยว ก็นำไปสู่ผลที่บิดเบี้ยวไปด้วยครับ
ส่วนแบ่งค่าปรับ เป็นวิธีการที่ขัดกับหน้าที่หลักของตำรวจมากๆ
จากพระบรมราโชวาทของ ร.5
จะเห็นว่า หลักการของส่วนแบ่งค่าปรับ มันก็คือการให้รางวัลกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานปกติ ไม่ได้มีความชอบอะไร แล้ว.... มันจะส่งผลยังไงกับสังคมล่ะ
- ถ้าคนทำผิดเยอะ ตำรวจได้เงินเยอะ
- ถ้าคนทำผิดน้อย ตำรวจได้เงินน้อย
- ทำให้ตำรวจที่เห็นแก่เงิน ละทิ้งเป้าหมายหลักของตำรวจที่เน้นการป้องกัน ไปเป็นปราบปราม ซึ่งทำให้ได้เงิน
- แต่ปราบปรามก็ไม่ทำอย่างเต็มที่ ก็ถ้าคิดอะไรดีๆ ที่จะทำให้คนเลิกทำผิดได้ตัวเองก็จะขาดรายได้ ซึ่งนั่นหมายความว่า ขาดแรงจูงใจในการทำงานเชิงป้องกัน เพราะทำงานเชิงปราบปรามได้เงินดีกว่า
- ผลสุดท้าย ก็.... เป็นอย่างที่เราเห็นกันทุกวันคือ.... ไม่ได้คิดอะไรใหม่ๆ ที่จะป้องกันอุบัติเหตุ หรือคนทำผิดกฎจราจร แต่ทำสิ่งที่เห็นได้ตลอดก็คือ ตั้งด่านๆๆๆๆๆ ทั้งด่านจริง และด่านลอย
.
.
.
.
แต่ละปี ใบสั่งเป็นแสนๆ ใบ
แต่......สถิติอุบัติเหตุมีแต่เพิ่มขึ้นจนติดอันดับโลก
แค่นี้ยังไม่ชัดเจนพอหรือครับ ถึงความล้มเหลวของระบบส่วนแบ่งใบสั่ง
การยกเลิกส่วนแบ่ง เป็นก้าวแรกของการปฏิรูประบบการทำงานของตำรวจจราจร (และหวังว่าจะไปถึงทั้งหน่วยงาน)
เมื่อยกเลิกส่วนแบ่งแล้ว ต้องสร้างแรงจูงใจในการทำงานใหม่ให้กับการทำงาน
แต่ต้องเป็นแรงจูงใจที่ตรงกับเป้าหมายการทำงานของตำรวจ นั่นคือ..... สถิติอุบัติเหตุต้องลดลง สถิติอาชญากรรมต้องลดลง
- รัฐต้องวางระบบใหม่ ทั้งระบบประเมินผลการทำงาน และระบบการให้ผลตอบแทน
- ระบบการประเมิน ต้องประเมินจากสถิติอุบัติเหตุและอาชญากรรมที่ลดลง ไม่ใช่ยอดการจับกุม โดยมาจากสถาบันที่เชื่อถือได้
- ระบบให้ผลตอบแทน ต้องหาเงินทุนที่ไม่เกี่ยวกับค่าปรับมาสนับสนุน ซึ่งสุดท้ายคงไม่พ้นภาษี(และสามารถมาได้จากหลายทางด้วย เช่น เอกชนก็บริจาคเข้ามาได้(ให้ลดภาษีด้วยเลย) หรือค่าปรับจะเอามารวมด้วยก็ได้แต่ห้ามเอามาเป็นเกณฑ์ในการกำหนดสัดส่วน)
- เงินก้อนนี้ต้องประเมินจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุและอาชญากรรม
เช่น ปีนี้ ตาย 100 ศพ สูญเสียกว่า 1000 ล้าน ก็ตั้งกองทุนไปเลย 500 ล้านต่อปี (อีก 500 ล้านที่ไม่สูยเสีย ถือว่าประชาชนได้กำไรผลประโยชน์)
- 500 ล้านก้อนนี้จะถูกแบ่งไปใช้ทำด้านต่างๆ และส่วนหนึ่ง(สมมติ 200 ล้าน) คือ เงินที่จะจัดสรรไปเป็นโบนัสสำหรับให้กับตำรวจที่ทำผลงานดี
- วางโครงสร้างของเงินโบนัสกระจายไปหลายรูปแบบ เช่น
- สน.ที่สถิติลดมากที่สุด รับไป 50 ล้าน แบ่งเท่ากันทุกคน รองลงมาอีก 2 อันดับก็รับไป 10 และ 5 ล้าน
- สน.ที่สถิติต่ำที่สุดเมื่อเทียบต่อจำนวนประชากร รับไป 50 ล้าน แบ่งเท่ากันทุกคน รองลงมาอีก 2 อันดับก็รับไป 10 และ 5 ล้าน
- ตำรวจที่ทำผลงานดีเด่นในการป้องกัน เช่น คิดค้นนวัตกรรมที่นำไปใช้แล้วส่งผลให้อุบัติเหตุลดได้ชัดเจน รับไปเลย 5 ล้าน คนเดียว
- สน.ไหน สถิติเพิ่ม งดขึ้นเงินเดือน งดเลื่อนขั้น ถ้า 2 ปีติดต่อกัน ย้ายออกนอกพื้นที่ ถ้าส่วนบุคคลพบว่า ย้ายเพราะสาเหตุนี้ 3 ครั้งติด ให้ทำการสอบสวน และถ้าพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ ก็ให้ออกจากราชการ
ส่วนแบ่งค่าปรับ เป็นวิธีการที่ขัดกับหน้าที่หลักของตำรวจมากๆ
จากพระบรมราโชวาทของ ร.5
จะเห็นว่า หลักการของส่วนแบ่งค่าปรับ มันก็คือการให้รางวัลกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานปกติ ไม่ได้มีความชอบอะไร แล้ว.... มันจะส่งผลยังไงกับสังคมล่ะ
- ถ้าคนทำผิดเยอะ ตำรวจได้เงินเยอะ
- ถ้าคนทำผิดน้อย ตำรวจได้เงินน้อย
- ทำให้ตำรวจที่เห็นแก่เงิน ละทิ้งเป้าหมายหลักของตำรวจที่เน้นการป้องกัน ไปเป็นปราบปราม ซึ่งทำให้ได้เงิน
- แต่ปราบปรามก็ไม่ทำอย่างเต็มที่ ก็ถ้าคิดอะไรดีๆ ที่จะทำให้คนเลิกทำผิดได้ตัวเองก็จะขาดรายได้ ซึ่งนั่นหมายความว่า ขาดแรงจูงใจในการทำงานเชิงป้องกัน เพราะทำงานเชิงปราบปรามได้เงินดีกว่า
- ผลสุดท้าย ก็.... เป็นอย่างที่เราเห็นกันทุกวันคือ.... ไม่ได้คิดอะไรใหม่ๆ ที่จะป้องกันอุบัติเหตุ หรือคนทำผิดกฎจราจร แต่ทำสิ่งที่เห็นได้ตลอดก็คือ ตั้งด่านๆๆๆๆๆ ทั้งด่านจริง และด่านลอย
.
.
.
.
แต่ละปี ใบสั่งเป็นแสนๆ ใบ
แต่......สถิติอุบัติเหตุมีแต่เพิ่มขึ้นจนติดอันดับโลก
แค่นี้ยังไม่ชัดเจนพอหรือครับ ถึงความล้มเหลวของระบบส่วนแบ่งใบสั่ง
การยกเลิกส่วนแบ่ง เป็นก้าวแรกของการปฏิรูประบบการทำงานของตำรวจจราจร (และหวังว่าจะไปถึงทั้งหน่วยงาน)
เมื่อยกเลิกส่วนแบ่งแล้ว ต้องสร้างแรงจูงใจในการทำงานใหม่ให้กับการทำงาน
แต่ต้องเป็นแรงจูงใจที่ตรงกับเป้าหมายการทำงานของตำรวจ นั่นคือ..... สถิติอุบัติเหตุต้องลดลง สถิติอาชญากรรมต้องลดลง
- รัฐต้องวางระบบใหม่ ทั้งระบบประเมินผลการทำงาน และระบบการให้ผลตอบแทน
- ระบบการประเมิน ต้องประเมินจากสถิติอุบัติเหตุและอาชญากรรมที่ลดลง ไม่ใช่ยอดการจับกุม โดยมาจากสถาบันที่เชื่อถือได้
- ระบบให้ผลตอบแทน ต้องหาเงินทุนที่ไม่เกี่ยวกับค่าปรับมาสนับสนุน ซึ่งสุดท้ายคงไม่พ้นภาษี(และสามารถมาได้จากหลายทางด้วย เช่น เอกชนก็บริจาคเข้ามาได้(ให้ลดภาษีด้วยเลย) หรือค่าปรับจะเอามารวมด้วยก็ได้แต่ห้ามเอามาเป็นเกณฑ์ในการกำหนดสัดส่วน)
- เงินก้อนนี้ต้องประเมินจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุและอาชญากรรม
เช่น ปีนี้ ตาย 100 ศพ สูญเสียกว่า 1000 ล้าน ก็ตั้งกองทุนไปเลย 500 ล้านต่อปี (อีก 500 ล้านที่ไม่สูยเสีย ถือว่าประชาชนได้กำไรผลประโยชน์)
- 500 ล้านก้อนนี้จะถูกแบ่งไปใช้ทำด้านต่างๆ และส่วนหนึ่ง(สมมติ 200 ล้าน) คือ เงินที่จะจัดสรรไปเป็นโบนัสสำหรับให้กับตำรวจที่ทำผลงานดี
- วางโครงสร้างของเงินโบนัสกระจายไปหลายรูปแบบ เช่น
- สน.ที่สถิติลดมากที่สุด รับไป 50 ล้าน แบ่งเท่ากันทุกคน รองลงมาอีก 2 อันดับก็รับไป 10 และ 5 ล้าน
- สน.ที่สถิติต่ำที่สุดเมื่อเทียบต่อจำนวนประชากร รับไป 50 ล้าน แบ่งเท่ากันทุกคน รองลงมาอีก 2 อันดับก็รับไป 10 และ 5 ล้าน
- ตำรวจที่ทำผลงานดีเด่นในการป้องกัน เช่น คิดค้นนวัตกรรมที่นำไปใช้แล้วส่งผลให้อุบัติเหตุลดได้ชัดเจน รับไปเลย 5 ล้าน คนเดียว
- สน.ไหน สถิติเพิ่ม งดขึ้นเงินเดือน งดเลื่อนขั้น ถ้า 2 ปีติดต่อกัน ย้ายออกนอกพื้นที่ ถ้าส่วนบุคคลพบว่า ย้ายเพราะสาเหตุนี้ 3 ครั้งติด ให้ทำการสอบสวน และถ้าพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ ก็ให้ออกจากราชการ
ความคิดเห็นที่ 4
อุตส่าห์ขอร้องที่หัวกระทู้แล้วว่าอย่าย้ายแท็กหรือลบแท็ก จุดประสงค์ในนี้ก็อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี้ได้รับรู้ด้วย เผื่อจะนำไปปรับปรุงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะมันส่งผลกระทบกับประชาชนโดยตรงแล้วแท็กห้องการเมืองด้วยมันไปผิดอะไรตรงไหน การแก้กฏหมายหรือการแก้ข้อกำหนดต่างๆที่มันจะมาบังคับใช้กับประชาชนมันก็ต้องผ่านระบบการเมืองหรือผู้ปกครองบ้านเมืองทั้งนั้น แต่นี่อะไรพอแท็กห้องราชดำเนินปุ๊บย้ายแท็กลบแท็กอีกแล้ว หลายครั้งที่ผู้คตั้งกระทู้มีเจตนาที่จะสื่อถึงจุดมุ่งหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหานั้นๆหรือมีอำนาจที่จะปรับปรุงแก้ไขปัญหานั้นๆได้อ่านหรือรับทราบ แต่จุดประสงค์ต้องตกลงไปเพราะวิจารณญาณของ wm คุณเป็นผู้ดูแลระบบก็จริงแต่คุณต้องมองให้ลึกและครอบคลุมรวมถึงวัตถุประสงค์ของกระทู้ด้วยครับ
ความคิดเห็นที่ 3
เห็นด้วยกับภาพนี้ตรงที่ว่า
"ไม่ให้ใช้ดุลพินิจที่ไม่เป็นธรรม"
ส่วนเรื่อง % จากค่าปรับ หรือรางวัลนำจับ ไม่มีความเห็นครับ
แต่คิดว่า คนทำผิดกฎจราจร สมควรแล้วที่จะมีบทลงโทษ
หลายคนอาจจะเคยโดนปรับแบบไม่เป็นธรรม น่าเห็นใจครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีอีกหลายคนที่ทำผิดจริง แล้วผสมโรงด่าคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องไปด้วย
"ไม่ให้ใช้ดุลพินิจที่ไม่เป็นธรรม"
ส่วนเรื่อง % จากค่าปรับ หรือรางวัลนำจับ ไม่มีความเห็นครับ
แต่คิดว่า คนทำผิดกฎจราจร สมควรแล้วที่จะมีบทลงโทษ
หลายคนอาจจะเคยโดนปรับแบบไม่เป็นธรรม น่าเห็นใจครับ แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีอีกหลายคนที่ทำผิดจริง แล้วผสมโรงด่าคนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องไปด้วย
แสดงความคิดเห็น
เห็นคลิปนี้แล้วอยากสนับสนุนให้ยกเลิกรางวัลส่วนแบ่งค่าปรับทันที นี่หรือมุมมองข้าราชการไทย ปรับทัศนคติด่วนเลย แย่มาก
https://www.facebook.com/840706315969399/videos/vb.840706315969399/1076860649020630/?type=2&theater
ตอนแรกเฉยๆแต่พอเจอแบบนี้เห็นด้วยทันทีกับภาพนี้ทันที