สวัสดีค่ะ วันนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์การผ่าฟันคุดแบบไม่เจ็บ ไม่ทรมาณอะไรเลย หลังจากตามอ่านกระทู้เรื่องผ่านฟันคุดแล้วทุกคนบอกเยอะมากว่าเจ็บโคตร
สืบเนื่องมาจากช่วงก่อนหน้านี้เป็นช่วงสอบมิดเทอมของมหาลัยเราค่ะ อ่านหนังสือกันหนักมาก อ่านไม่ทันนั่นเอง 555 แต่อยู่ๆเราก็เจ็บฟันคุดเพราะมันเริ่มงอกออกมามากขึ้น ช่วงนั้นคือเคี้ยวอะไรไม่ได้เลย กินแต่ข่าวต้มโจ้ก เจเล่ นม น้ำ TT เราเลยเปิดกระทู้หาเรื่องฟันคุดเยอะมากค่ะ เรียกได้ว่าดูทุกวันเลย 555 เล่าประสบการณ์บ้าง แนะนำอาหารหลังผ่าบ้าง คนส่วนใหญ่ก็บอกว่าตอนผ่ามันไม่เจ็บหรอก แต่หลังผ่าเสร็จนี่สิ เจ็บมาก เจ็บสุดๆ เราก็กลัวสิคะ อยู่หอคนเดียวด้วย พ่อแม่ก็อยู่ไกล ญาติก็ไม่ค่อยมี ถ้าเกิดเป็นไรขึ้นมาชีวิตจะเป้นไงแว้ เลยทำให้เรากลัวไม่กล้าไปหาหมอเพราะกลัวไปหาแล้วหมอบอกให้ไปผ่าเลย หนูไม่พร้อมค่าหมออออออ TT
จนมิดเทอมผ่านไป เราก็ทนเจ็บมาครบอาทิตย์ น้ำหนักลดไปสามโล ทั้งเครียดเรื่องสอบ กินอะไรก็ไม่ได้ เลยตัดสินใจไปหาหมอหลังสอบเสร็จวันสุดท้าย ก็ทำบัตร เอกซเรย์เสร็จ หมอบอกฟันคุดมีสี่ซี่เลย ทุกมุมปาก วันนี้อยากทำอะไรก่อนดี 55555 เลยอ้าปากให้หมอดูว่าซี่ที่เพิ่งงอกมันเจ็บมาก เจ็บจนเหงือกอักเสบ แดงแจ๋ กินยาแก้อักเสบก็ไม่ไหวแล้ว ทรมาณมากๆค่ะตอนนั้น ยิ่งเครียดๆมันก็จะยิ่งเจ็บฟันแบบปรี๊ดขึ้นสมองเลย เราไม่เคยมีปัญหาเรื่องฟันเลย เพิ่งมาเข้าใจว่า เจ็บฟันมันโคตรทรมาณ แต่สรุปคิวผ่าวันนั้นเต็ม หมอเลยนัดผ่าอีกสี่วันค่ะ
ตอนวันผ่า เราผ่าที่คลินิคพิเศษ ทันตะ จุฬาค่ะ เพราะใกล้ที่อยู่ เผื่อผ่าเสร็จพูดไม่ไ่ด้จะได้เดินกลับได้ 5555555 หลังจากเข้าห้องผ่า หมอก็ให้บ้วนปาก แล้วก้อธิบายว่าจะผ่ายังไงโดยให้เราดูฟิล์มที่เอกซเรย์ไปด้วยค่ะ ตอนแรกหมอจะให้ผ่าซี่นึง ถอนซี่นึงในข้างเดียวกันไปเลย แต่เราขอซี่เดียวก่อน กลัวเจ็บมากๆ อ่านมาเยอะ 5555555 หมอก็ใจดีค่ะ บอกแล้วแต่ ละก็เอาผ้ามาปิดโดยมีช่องให้เห็นแค่ปากเรา ละก้ฉีดยาชาสองเข็ม จริงๆฉีดยาชาก็ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นนะ อุตส่าห์กลัว หมอมีนับถอยหลังด้วย ว่าหมอจะฉีดยาชาเข้าไปห้าวินะ เราก็เออออไป ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บขนาดนั้นอ่ะ โถ่ว กลัวจากนั้นเราก็เริ่มชาๆค่ะ ปากหนักๆ แก้มย้อยๆ (คิดไปเอง) 555 และก็เริ่มเอาเครื่องมือเข้าปากเรา อันนี้เราก็ไม่รู้ว่าเปนไรบ้างนะ เพราะหลับตา แต่ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีอ่ะ ก็รู้สึกเหมือนเอาอะไรมาทับที่ปาก มันหนักๆ หมอก็บอกเสร็จ ก็ออกมาจ่ายเงิน รับยาแก้ปวด กับยาฆ่าเชื้อ กัดผ้าก๊อตไว้ชมครึ่ง ห้ามพูดอะไรถ้าไม่จำเป็น
หลังจากผ่าเสร็จกลับมา ก็กินยาแก้ปวด รอให้เลือดหยุดไหล แล้วเราก็นอนค่ะ คิดในใจว่าตื่นมาเจ็บแน่ๆ แต่พอตื่นมาจริงๆ ยาชาหมดแล้ว ก็ไม่ได้เจ็บอะไรเลยค่ะ คือมันไม่รู้สึกอะไรเลยนะ หรืออาจจะเพราะกินยาแก้ปวดดักไว้แล้ว รู้สึกตกใจ โทรหาทุกคนบอกว่าไม่เจ็บว่ะแกรรร 55555 ลองส่องเข้าไปดู เหงือกเป็นรูอย่างกะมิติพิศวง 5555 มีไหมเย็บอยู่ด้วย เลยกินก๋วยเตี๋ยวไป กินได้แต่เส้น กลัวมันไปติดในเหงือกที่เพิ่งผ่า 5555 เราเลยไปซื้อ หลอดฉีดยาแบบที่ไม่มีเข็มอ่ะ เค้าเรียกว่าอะไร 5555 แล้วเอาน้ำเกลือใส่หลอดมาฉีดๆตรงนั้น เผื่อเศษอาหารมันเข้าไปติด มันก็ออกมาเต็มเลยค่ะ ไอเท็มแนะนำเลย 555
ตอนนี้ก็ใกล้จะได้ไปตัดไหมแล้วค่ะ แต่แผลปิดแล้ว กินอะไรได้มากขึ้น เพราะวันแรกๆยังไม่ค่อยกล้ากิน แปรงฟันแล้วบ้วนปากก็ยังมีเลือดออกอยู่ เลยพยายามกินอาหารอ่อนๆไปก่อน แต่สองวันก็หาย ก็เริ่มกินราดหน้า ผัดซีอิ๋ว ได้แล้ว เลยมีแรงบันดาลใจอยากจะมาเล่าประสบการณ์ดีๆในการผ่าให้ฟัง เผื่อคนที่หากระทู้เรื่องผ่าฟันคุดแบบเราจะไม่กลัวการไปผ่าได้บ้าง อยากแนะนำว่า ก่อนมันจะเริ่มเจ็บให้ไปเอาออกเหอะค่ะ ก่อนที่มันจะมาเจ็บในช่วงสำคัญๆในชีวิตแบบช่วงสอบ มันทรมาณมากเลยนะ
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
)
ขอเล่าประสบการณ์ผ่าฟันคุดในมุมมองที่ดีและไม่เจ็บบ้างนะคะ
สืบเนื่องมาจากช่วงก่อนหน้านี้เป็นช่วงสอบมิดเทอมของมหาลัยเราค่ะ อ่านหนังสือกันหนักมาก อ่านไม่ทันนั่นเอง 555 แต่อยู่ๆเราก็เจ็บฟันคุดเพราะมันเริ่มงอกออกมามากขึ้น ช่วงนั้นคือเคี้ยวอะไรไม่ได้เลย กินแต่ข่าวต้มโจ้ก เจเล่ นม น้ำ TT เราเลยเปิดกระทู้หาเรื่องฟันคุดเยอะมากค่ะ เรียกได้ว่าดูทุกวันเลย 555 เล่าประสบการณ์บ้าง แนะนำอาหารหลังผ่าบ้าง คนส่วนใหญ่ก็บอกว่าตอนผ่ามันไม่เจ็บหรอก แต่หลังผ่าเสร็จนี่สิ เจ็บมาก เจ็บสุดๆ เราก็กลัวสิคะ อยู่หอคนเดียวด้วย พ่อแม่ก็อยู่ไกล ญาติก็ไม่ค่อยมี ถ้าเกิดเป็นไรขึ้นมาชีวิตจะเป้นไงแว้ เลยทำให้เรากลัวไม่กล้าไปหาหมอเพราะกลัวไปหาแล้วหมอบอกให้ไปผ่าเลย หนูไม่พร้อมค่าหมออออออ TT
จนมิดเทอมผ่านไป เราก็ทนเจ็บมาครบอาทิตย์ น้ำหนักลดไปสามโล ทั้งเครียดเรื่องสอบ กินอะไรก็ไม่ได้ เลยตัดสินใจไปหาหมอหลังสอบเสร็จวันสุดท้าย ก็ทำบัตร เอกซเรย์เสร็จ หมอบอกฟันคุดมีสี่ซี่เลย ทุกมุมปาก วันนี้อยากทำอะไรก่อนดี 55555 เลยอ้าปากให้หมอดูว่าซี่ที่เพิ่งงอกมันเจ็บมาก เจ็บจนเหงือกอักเสบ แดงแจ๋ กินยาแก้อักเสบก็ไม่ไหวแล้ว ทรมาณมากๆค่ะตอนนั้น ยิ่งเครียดๆมันก็จะยิ่งเจ็บฟันแบบปรี๊ดขึ้นสมองเลย เราไม่เคยมีปัญหาเรื่องฟันเลย เพิ่งมาเข้าใจว่า เจ็บฟันมันโคตรทรมาณ แต่สรุปคิวผ่าวันนั้นเต็ม หมอเลยนัดผ่าอีกสี่วันค่ะ
ตอนวันผ่า เราผ่าที่คลินิคพิเศษ ทันตะ จุฬาค่ะ เพราะใกล้ที่อยู่ เผื่อผ่าเสร็จพูดไม่ไ่ด้จะได้เดินกลับได้ 5555555 หลังจากเข้าห้องผ่า หมอก็ให้บ้วนปาก แล้วก้อธิบายว่าจะผ่ายังไงโดยให้เราดูฟิล์มที่เอกซเรย์ไปด้วยค่ะ ตอนแรกหมอจะให้ผ่าซี่นึง ถอนซี่นึงในข้างเดียวกันไปเลย แต่เราขอซี่เดียวก่อน กลัวเจ็บมากๆ อ่านมาเยอะ 5555555 หมอก็ใจดีค่ะ บอกแล้วแต่ ละก็เอาผ้ามาปิดโดยมีช่องให้เห็นแค่ปากเรา ละก้ฉีดยาชาสองเข็ม จริงๆฉีดยาชาก็ไม่ได้เจ็บขนาดนั้นนะ อุตส่าห์กลัว หมอมีนับถอยหลังด้วย ว่าหมอจะฉีดยาชาเข้าไปห้าวินะ เราก็เออออไป ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บขนาดนั้นอ่ะ โถ่ว กลัวจากนั้นเราก็เริ่มชาๆค่ะ ปากหนักๆ แก้มย้อยๆ (คิดไปเอง) 555 และก็เริ่มเอาเครื่องมือเข้าปากเรา อันนี้เราก็ไม่รู้ว่าเปนไรบ้างนะ เพราะหลับตา แต่ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีอ่ะ ก็รู้สึกเหมือนเอาอะไรมาทับที่ปาก มันหนักๆ หมอก็บอกเสร็จ ก็ออกมาจ่ายเงิน รับยาแก้ปวด กับยาฆ่าเชื้อ กัดผ้าก๊อตไว้ชมครึ่ง ห้ามพูดอะไรถ้าไม่จำเป็น
หลังจากผ่าเสร็จกลับมา ก็กินยาแก้ปวด รอให้เลือดหยุดไหล แล้วเราก็นอนค่ะ คิดในใจว่าตื่นมาเจ็บแน่ๆ แต่พอตื่นมาจริงๆ ยาชาหมดแล้ว ก็ไม่ได้เจ็บอะไรเลยค่ะ คือมันไม่รู้สึกอะไรเลยนะ หรืออาจจะเพราะกินยาแก้ปวดดักไว้แล้ว รู้สึกตกใจ โทรหาทุกคนบอกว่าไม่เจ็บว่ะแกรรร 55555 ลองส่องเข้าไปดู เหงือกเป็นรูอย่างกะมิติพิศวง 5555 มีไหมเย็บอยู่ด้วย เลยกินก๋วยเตี๋ยวไป กินได้แต่เส้น กลัวมันไปติดในเหงือกที่เพิ่งผ่า 5555 เราเลยไปซื้อ หลอดฉีดยาแบบที่ไม่มีเข็มอ่ะ เค้าเรียกว่าอะไร 5555 แล้วเอาน้ำเกลือใส่หลอดมาฉีดๆตรงนั้น เผื่อเศษอาหารมันเข้าไปติด มันก็ออกมาเต็มเลยค่ะ ไอเท็มแนะนำเลย 555
ตอนนี้ก็ใกล้จะได้ไปตัดไหมแล้วค่ะ แต่แผลปิดแล้ว กินอะไรได้มากขึ้น เพราะวันแรกๆยังไม่ค่อยกล้ากิน แปรงฟันแล้วบ้วนปากก็ยังมีเลือดออกอยู่ เลยพยายามกินอาหารอ่อนๆไปก่อน แต่สองวันก็หาย ก็เริ่มกินราดหน้า ผัดซีอิ๋ว ได้แล้ว เลยมีแรงบันดาลใจอยากจะมาเล่าประสบการณ์ดีๆในการผ่าให้ฟัง เผื่อคนที่หากระทู้เรื่องผ่าฟันคุดแบบเราจะไม่กลัวการไปผ่าได้บ้าง อยากแนะนำว่า ก่อนมันจะเริ่มเจ็บให้ไปเอาออกเหอะค่ะ ก่อนที่มันจะมาเจ็บในช่วงสำคัญๆในชีวิตแบบช่วงสอบ มันทรมาณมากเลยนะ
ขอบคุณที่อ่านค่ะ )