ช่วงที่คอยผลว่าจะได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยที่ลูก ๆ สมัครไปแต่ละที่หรือไม่นี่
ขอบอกเลยว่าลุ้นกันเหมือนแบบที่เรากำลังเฝ้ารอคอยจดหมายจากใครบางคนไม่มีผิด
จนวัน ๆ แทบจะไม่มีสมาธิทำอะไรกันเลยนอกจากต้องคอยถามลูกตลอดเวลาว่า
"ได้รับเมล์แจ้งจากที่ไหนมาบ้างแล้วหรือยัง?"
พอได้รับคำตอบจากลูกว่า "ยัง" ก็ลุ้นกันต่อ วันไหนได้คำตอบว่าที่โน่นที่นี่
ตอบปฏิเสธมา ก็จ๋อยกันตามระเบียบ!!
วันที่ได้รับการตอบรับจากที่หนึ่งว่าให้ทุนจำนวนเท่านั้นเท่านี้ก็คอยลุ้นกันต่อว่า
จะมีที่อื่นที่สามารถเสนอให้ทุนได้มากกว่าหรือไม่ เพราะถ้าไม่มีนั่นหมายถึงโอกาส
ที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศนั้นก็หมดไป!
ตอนส่งใบสมัครขอทุนนั้นลูก ๆ ได้วางแผนส่งเผื่อไปนับสิบแห่งทั้ง 3 คน
ซึ่งก่อนส่งได้คัดเลือกมหาวิทยาลัยหลายระดับตั้งแต่ระดับ Top ระดับกลาง ๆ
และระดับล่าง ๆ หรือที่เรียกกันว่า Safety School เป็นเกราะคุ้มกันไว้ด้วยเพื่อว่า
หากไม่ได้มหาวิทยาลัยที่ดี ๆ ที่ดัง ๆ สุดท้ายได้ที่ไหนก็ไม่มีสิทธิ์เกี่ยง ถ้าอยากไปเรียน
ต่างประเทศจริง ๆได้ที่ไหนก็ต้องไปเรียนที่นั่นกันเลย
ความจริงมีมหาวิทยาลัยอยู่หนึ่งแห่งที่เป็นความหวังอันสูงสุดของน้อง Sandy และ
ทุกคนในครอบครัวมาก เพราะทุนของที่นี่เป็นทุนการศึกษาเต็มจำนวนหรือ
Full Tuition Scholarship ที่ผู้ได้รับทุนจะได้รับเป็นมูลค่าทุนที่ครอบคลุมค่าเรียนทั้งหมด
รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่นค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ
คิดเป็นเงินต่อทุนมูลค่าสูงถึงประมาณ 65,000 เหรียญสหรัฐต่อปีเลยทีเดียว!
(65,000 เหรียญสหรัฐเป็นมูลค่าทุนของปีปัจจุบัน ค.ศ. 2015)
โดยมูลค่าของทุนนี้ก็จะเหมือนกับค่าเรียนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยทุกแห่ง
ที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี ๆ ละประมาณ 5% และที่สำคัญคือที่นี่มีค่าขนมให้เป็น Pocket Money
ต่างหากอีกเดือนละ US$200 น่าสนใจมากเลยใช่ไหมล่ะ?
พูดง่าย ๆ ก็คือนักเรียนที่มีผลการเรียนที่ดีและมีคุณสมบัติโดดเด่นที่สุดซึ่งหากได้รับ
การคัดเลือกจากที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็จะสามารถเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศอเมริกา
ได้แบบฟรี ๆโดยที่ทางบ้านแทบจะไม่ต้องเสียค่าใช่จ่ายอะไรเลยแม้แต่น้อย
มหาวิทยาลัยที่ว่านี้คือ Wesleyan University ซึ่งตั้งอยู่ใน Middletown รัฐ Connecticut
โครงการให้ทุนนี้เรียกว่า The Wesleyan Freeman Asian Scholarship Program
เป็นโครงการที่เป็นความร่วมมือระหว่าง Wesleyan University และ The Freeman Foundation
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความเข้าใจและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง
ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ทุนดังกล่าวใช้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาระดับปริญญาตรี 4 ปี โดยในอดีต
มีการตั้งจำนวนทุนไว้มากถึง 22 ทุนต่อปีสำหรับนักเรียนจากทวีปเอเชียรวม 11 ประเทศ
แต่หลังจาก Sub-prime Crisis หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2008
The Wesleyan Freeman Asian Scholarship Program ได้ลดจำนวนทุนเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง
หรือมอบให้ประเทศละ 1 ทุนเท่านั้นจากที่เคยให้ประเทศละ 2 ทุนมาโดยตลอด
นักเรียนที่เกิดและมีภูมิลำเนาอยู่ใน 11 ประเทศที่มีสิทธิ์สมัครขอทุนนี้ประกอบด้วย
People's Republic of China, Hong Kong, Indonesia, Japan, Malaysia,
the Philippines, Singapore, South Korea, Taiwan, Vietnam และประเทศไทย
โดยผู้ที่ได้รับทุนจะได้ศึกษาในระดับปริญญาตรีร่วมกับนักเรียนอเมริกันจากทั่วประเทศ
และจากประเทศอื่น ๆ อีกเกือบ 50 ประเทศ โดยนักศึกษาหรือผู้ได้รับทุนจะได้ศึกษา
ในสาขาที่เกี่ยวกับ Sciences and Mathematics, Arts, Humanities
และ Social & Behavioral Sciences
ในปี 2010 ที่น้อง Sandy ส่งใบสมัครขอทุนในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกานั้น
ก็ได้ส่งใบสมัครไปยังมหาวิทยาลัย Wesleyan แห่งนี้เพื่อเข้าแข่งขันขอทุนกับโครงการ
The Wesleyan Freeman Asian Scholarship Program ด้วยเช่นกัน
หลังจากส่งใบสมัครไปแล้วทาง Wesleyan ก็ส่ง E-mail แจ้งว่าได้คัดเลือกน้อง Sandy
เป็นหนึ่งใน Finalists หรือผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย โดยได้กำหนดวันนัดสัมภาษณ์ที่จัดขึ้น
ณ โรงแรมแห่งหนึ่งบนถนนสุขุมวิทในกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งได้เชิญให้เข้าร่วม
งานเลี้ยงรับรองที่จะจัดในวันรุ่งขึ้นหลังจากวันสัมภาษณ์ โดยจะต้องส่งรายชื่อผู้ปกครอง
ที่จะเข้าร่วมงานไปให้ด้วย
วันนั้นคุณแม่ได้ไปเป็นเพื่อนน้อง Sandy และนั่งรออยู่หน้าห้องสัมภาษณ์ด้วย
การสัมภาษณ์ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีโดยมีการตั้งคำถามต่าง ๆ มากมายเพื่อทดสอบ
ความรู้ความสามารถ และเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่ได้ระบุไว้ในใบสมัครจริง
ขณะนั่งรอการสัมภาษณ์ก็เห็นเด็กนักเรียนทั้งชายและหญิงอีก 5-6 คนพร้อมผู้ปกครอง
มารออยู่หน้าห้องเพื่อรอคิวสัมภาษณ์ด้วยเช่นกัน
เย็นวันต่อมาคุณแม่และโซ๊ยอี๊ได้ติดตามน้อง Sandy ในฐานะผู้ปกครองเข้าร่วมงาน
Reception ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้จัดขึ้นในโรงแรมเดียวกันนั้น เป็นงานเลี้ยงแบบ Cocktail
โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณเกือบ 100 คนประกอบด้วยทีมงานจากมหาวิทยาลัย นักศึกษา
และศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่สำคัญคือครอบครัวและ Finalists ทั้ง 7 คน
ที่ได้รับการคัดเลือกผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและการสัมภาษณ์ที่จัดขึ้นโดยคณาจารย์
จากมหาวิทยาลัยที่เดินทางมาสัมภาษณ์ด้วยตนเองถึงประเทศไทย
ภายในงานเลี้ยงมีการทำ Presentation แนะนำให้ผู้เข้าร่วมงานได้รู้จักมหาวิทยาลัยแห่งนี้
หลังจากผู้บริหารขึ้นเวทีกล่าวต้อนรับแขกและแจ้งวัตถุประสงค์ของการจัดงานและกล่าวว่า
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยได้มอบทุนการศึกษาประจำปีจำนวน 2 ทุนให้กับ
นักเรียนไทย แต่เนื่องจากวิกฤต Subprime crisis ช่วงปี 2008 ทางมหาวิทยาลัยซึ่ง
ได้รับผลกระทบเช่นกัน จึงเป็นที่น่าเสียดายว่านับจากปีการศึกษานี้เป็นต้นไปทางมหาวิทยาลัย
มีความจำเป็นต้องลดทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนไทยเหลือเพียงปีละ 1 ทุนเท่านั้น
บนเวทียังได้เชิญศิษย์เก่าที่จบด้วยทุนของมหาวิทยาลัยและมีงานทำที่มั่นคงในสาขาที่เรียนแล้ว
ขึ้นมาเล่าประสบการณ์และสิ่งดี ๆ ที่ได้รับจากรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย
สุดท้ายเป็นรายการเชิญ Finalists ทั้ง 7 ขึ้นบนเวทีแนะนำตัวทีละคน ประกอบด้วยชาย 4 หญิง 3
โดยมีน้อง Sandy เป็นหนึ่งใน 7 ผู้เข้ารอบสุดท้าย ซึ่งครึ่งหนึ่งของทั้งหมดมาจาก
โรงเรียนนานาชาติต่างที่กัน ที่เหลือมาจากโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียงจากภาครัฐ
โดยที่หนึ่งในนั้นมาจากโรงเรียนสาธิตแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
ผู้เข้ารอบทั้ง 7 คนได้ขึ้นบนเวทีกล่าวแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วฉะฉาน
เป็นที่ประทับใจแก่แขกผู้ร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง แม้จะเห็นน้อง Sandy พยายามแสดงความกล้า
พูดแนะนำตัวเองเพื่อเรียกคะแนนความประทับใจจากกรรมการเช่นเดียวกับคู่แข่งอีก 6 คน
แต่คุณแม่ซึ่งกำลังลุ้นอยู่ข้างล่างเวทีก็แอบสังเกตถึงน้ำเสียงที่สั่นและอาการประหม่าเล็ก ๆ
เล็ดลอดออกมาด้วย 555
หลังจากงาน Reception ในเย็นวันนั้นอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์กว่าต่อมาก็ได้รับ E-Mail
จาก Wesleyan University แจ้งว่าผู้ได้รับคัดเลือกรับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในปีนี้
คือนางสาว XXX ซึ่งเป็นนักเรียนจากโรงเรียนสาธิต (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นสาธิตปทุมวัน ^^)
ส่วนน้อง Sandy ได้รับคัดเลือกให้เป็น Alternate หรือตัวสำรอง โดยทางมหาวิทยาลัย
ได้ขอให้แจ้งความจำนงค์ตอบยืนยันกลับไปด้วยว่า หากผู้ได้รับทุนหรือน้องนักเรียนสาธิต
สละสิทธิ์หรือไม่สามารถลงทะเบียนเข้าเรียนตามกำหนด ทุนการศึกษานั้นจะตกเป็น
ของ Alternate หรือน้อง Sandy ต่อไป ^^
น้อง Sandy ตื่นเต้นและดีใจมาก รีบตอบรับการเป็นตัวสำรองทันทีโดยไม่ต้องคิดมาก!
จากวันที่ตอบรับสิทธิ์ตัวสำรองไปแล้วทั้งน้อง Sandy และคุณแม่ก็ช่วยลุ้นทุกวัน
แถมยังช่วยกันใช้ไสยศาสตร์เข้าช่วย ด้วยการภาวนาให้น้องนักเรียนสาธิตคนนั้น
ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยที่อื่นที่ดีกว่านี้จะได้สละทุนของ Wesleyan เพื่อทุนนั้นจะได้
ตกเป็นของน้อง Sandy ให้ได้สวมสิทธิ์แทนในฐานะตัวสำรองด้วยเถิด...เพี๊ยงงงง ^^
เมื่อครบกำหนด การรอคอยก็สิ้นสุดลง!
และฝันของน้อง Sandy ที่จะได้ตำแหน่ง Miss Alternate ก็สลายไปกับสายลม ฮือ ๆๆ T_T
ป่านนี้น้องสาธิตคนนั้นก็คงเรียนจบพร้อมใบปริญญาและนำวิชาความรู้กลับมา
รับใช้บ้านเกิดเรียบร้อยแล้ว ^^
เผอิญในวันที่มีงานเลี้ยงรับรองก่อนประกาศผล มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณพ่อของน้องสาธิตด้วย
คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าครอบครัวค้าขายอยู่ต่างจังหวัด มีบุตรชายหญิง 3 คน น้องสาธิต
เป็นลูกสาวคนเล็กและลูกทั้ง 3 คนก็ได้ทุนเรียนต่อต่างประเทศฟรีแบบนี้ทุกคนคร้าบบบบ ^^
แบบนี้ไม่ปรบมือแสดงความยินดีกับครอบครัวตัวอย่างนี้ไม่ได้แล้ว...สุดยอดจริง ๆ!!
พลาดจากทุนที่คาดหวังสูง สุดท้ายน้อง Sandy ก็ต้องเดินคอตกกลับไปง้อทุนจากมหาวิทยาลัย
อีก 4-5 แห่งที่ตอบรับเสนอให้ทุนการศึกษาที่มีตั้งแต่ประมาณ 50% ขึ้นไป บางแห่งมี Ranking
ที่ดีกว่าแต่ให้ทุนเพียง 50% ซึ่งเกินกำลังที่ครอบครัวจะสนับสนุนได้ สุดท้ายได้เลือกรับทุน
จากมหาวิทยาลัยที่มี Ranking รองลงมาแต่เสนอให้ทุนสูงสุดเป็นทุนเต็มจำนวน และได้เลือก
เรียน Pre. Medicine แต่ต้องจ่ายค่าอาหารและที่พักเอง ซึ่งเรียนจบแล้วตั้งแต่กลางปี 2014
จะเห็นได้ว่า โอกาสดี ๆ แบบนี้ยังมีให้กับทุกคนที่ฝันอยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศเสมอ
ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะมาจากครอบครัวที่ยากจนแค่ไหน นี้จึงเป็นเหตุผลที่สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศ
ที่เป็นที่สนใจและเป็นความฝันของเด็กนักเรียนทั่วโลกมากที่สุด เพราะให้ทุนการศึกษาที่มากที่สุด
เป็นที่ที่นักเรียนที่ยากจนแต่เรียนดีสามารถมาตามล่าความฝันของพวกเขาได้นั่นเอง!
แต่ของดี ๆ ถ้าอยากได้ไม่ใช่ได้มาง่าย ๆ ต้องใช้ความเพียรพยายามมากกว่าผู้อื่นหลายเท่านัก
จึงจะมีโอกาสได้สิ่งนั้นมาครอบครอง
ดังนั้นถ้าอยากได้ทุนนี้ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่มีแค่ที่ Wesleyan University เพียงแห่งเดียวที่มีทุนแบบนี้
ก็ต้องเริ่มขยันหมั่นเพียรเสียตั้งแต่วันนี้ อย่าผลัดวันประกันพรุ่งหรือปล่อยเวลาให้ผ่านไป
โดยเปล่าประโยชน์ ขอให้ตั้งเป้าหมาย "ฝันให้ไกล ไปให้ถึงดวงดาว" เร่งตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
หาความรู้ประดับตัวให้มาก ๆ เข้าไว้ หาโอกาสเข้าร่วมการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการ
ช่วยเหลือสังคมบ่อย ๆ เพื่อสร้าง Profile ของเราให้โดดเด่นสะดุดตา ให้เป็นคนเก่งรอบด้าน
หรือ well-rounded จริง ๆ จึงจะได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ได้รับทุนดี ๆ เช่นน้องสาธิตคนนั้น ^^
สำหรับผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจทุนเรียนฟรีเต็มจำนวนโครงการนี้
สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตาม Link นี้
FREEMAN ASIAN SCHOLARS PROGRAM for INTERNATIONAL STUDENTS
http://www.wesleyan.edu/admission/international_students/freeman.html
Met up for a drink with International Admissions Director จากมหาวิทยาลัย
ที่น้อง Paul กำลังศึกษาอยู่ ^^
"กว่าจะปั้นลูก 3 คนได้ทุนเรียนอเมริกาฟรี" ตอนที่ 6 เย้!! ได้รับทุนแล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง?
ขอบอกเลยว่าลุ้นกันเหมือนแบบที่เรากำลังเฝ้ารอคอยจดหมายจากใครบางคนไม่มีผิด
จนวัน ๆ แทบจะไม่มีสมาธิทำอะไรกันเลยนอกจากต้องคอยถามลูกตลอดเวลาว่า
"ได้รับเมล์แจ้งจากที่ไหนมาบ้างแล้วหรือยัง?"
พอได้รับคำตอบจากลูกว่า "ยัง" ก็ลุ้นกันต่อ วันไหนได้คำตอบว่าที่โน่นที่นี่
ตอบปฏิเสธมา ก็จ๋อยกันตามระเบียบ!!
วันที่ได้รับการตอบรับจากที่หนึ่งว่าให้ทุนจำนวนเท่านั้นเท่านี้ก็คอยลุ้นกันต่อว่า
จะมีที่อื่นที่สามารถเสนอให้ทุนได้มากกว่าหรือไม่ เพราะถ้าไม่มีนั่นหมายถึงโอกาส
ที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศนั้นก็หมดไป!
ตอนส่งใบสมัครขอทุนนั้นลูก ๆ ได้วางแผนส่งเผื่อไปนับสิบแห่งทั้ง 3 คน
ซึ่งก่อนส่งได้คัดเลือกมหาวิทยาลัยหลายระดับตั้งแต่ระดับ Top ระดับกลาง ๆ
และระดับล่าง ๆ หรือที่เรียกกันว่า Safety School เป็นเกราะคุ้มกันไว้ด้วยเพื่อว่า
หากไม่ได้มหาวิทยาลัยที่ดี ๆ ที่ดัง ๆ สุดท้ายได้ที่ไหนก็ไม่มีสิทธิ์เกี่ยง ถ้าอยากไปเรียน
ต่างประเทศจริง ๆได้ที่ไหนก็ต้องไปเรียนที่นั่นกันเลย
ความจริงมีมหาวิทยาลัยอยู่หนึ่งแห่งที่เป็นความหวังอันสูงสุดของน้อง Sandy และ
ทุกคนในครอบครัวมาก เพราะทุนของที่นี่เป็นทุนการศึกษาเต็มจำนวนหรือ
Full Tuition Scholarship ที่ผู้ได้รับทุนจะได้รับเป็นมูลค่าทุนที่ครอบคลุมค่าเรียนทั้งหมด
รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่นค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ
คิดเป็นเงินต่อทุนมูลค่าสูงถึงประมาณ 65,000 เหรียญสหรัฐต่อปีเลยทีเดียว!
(65,000 เหรียญสหรัฐเป็นมูลค่าทุนของปีปัจจุบัน ค.ศ. 2015)
โดยมูลค่าของทุนนี้ก็จะเหมือนกับค่าเรียนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยทุกแห่ง
ที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี ๆ ละประมาณ 5% และที่สำคัญคือที่นี่มีค่าขนมให้เป็น Pocket Money
ต่างหากอีกเดือนละ US$200 น่าสนใจมากเลยใช่ไหมล่ะ?
พูดง่าย ๆ ก็คือนักเรียนที่มีผลการเรียนที่ดีและมีคุณสมบัติโดดเด่นที่สุดซึ่งหากได้รับ
การคัดเลือกจากที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็จะสามารถเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศอเมริกา
ได้แบบฟรี ๆโดยที่ทางบ้านแทบจะไม่ต้องเสียค่าใช่จ่ายอะไรเลยแม้แต่น้อย
มหาวิทยาลัยที่ว่านี้คือ Wesleyan University ซึ่งตั้งอยู่ใน Middletown รัฐ Connecticut
โครงการให้ทุนนี้เรียกว่า The Wesleyan Freeman Asian Scholarship Program
เป็นโครงการที่เป็นความร่วมมือระหว่าง Wesleyan University และ The Freeman Foundation
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความเข้าใจและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง
ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ทุนดังกล่าวใช้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาระดับปริญญาตรี 4 ปี โดยในอดีต
มีการตั้งจำนวนทุนไว้มากถึง 22 ทุนต่อปีสำหรับนักเรียนจากทวีปเอเชียรวม 11 ประเทศ
แต่หลังจาก Sub-prime Crisis หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2008
The Wesleyan Freeman Asian Scholarship Program ได้ลดจำนวนทุนเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง
หรือมอบให้ประเทศละ 1 ทุนเท่านั้นจากที่เคยให้ประเทศละ 2 ทุนมาโดยตลอด
นักเรียนที่เกิดและมีภูมิลำเนาอยู่ใน 11 ประเทศที่มีสิทธิ์สมัครขอทุนนี้ประกอบด้วย
People's Republic of China, Hong Kong, Indonesia, Japan, Malaysia,
the Philippines, Singapore, South Korea, Taiwan, Vietnam และประเทศไทย
โดยผู้ที่ได้รับทุนจะได้ศึกษาในระดับปริญญาตรีร่วมกับนักเรียนอเมริกันจากทั่วประเทศ
และจากประเทศอื่น ๆ อีกเกือบ 50 ประเทศ โดยนักศึกษาหรือผู้ได้รับทุนจะได้ศึกษา
ในสาขาที่เกี่ยวกับ Sciences and Mathematics, Arts, Humanities
และ Social & Behavioral Sciences
ในปี 2010 ที่น้อง Sandy ส่งใบสมัครขอทุนในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกานั้น
ก็ได้ส่งใบสมัครไปยังมหาวิทยาลัย Wesleyan แห่งนี้เพื่อเข้าแข่งขันขอทุนกับโครงการ
The Wesleyan Freeman Asian Scholarship Program ด้วยเช่นกัน
หลังจากส่งใบสมัครไปแล้วทาง Wesleyan ก็ส่ง E-mail แจ้งว่าได้คัดเลือกน้อง Sandy
เป็นหนึ่งใน Finalists หรือผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย โดยได้กำหนดวันนัดสัมภาษณ์ที่จัดขึ้น
ณ โรงแรมแห่งหนึ่งบนถนนสุขุมวิทในกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งได้เชิญให้เข้าร่วม
งานเลี้ยงรับรองที่จะจัดในวันรุ่งขึ้นหลังจากวันสัมภาษณ์ โดยจะต้องส่งรายชื่อผู้ปกครอง
ที่จะเข้าร่วมงานไปให้ด้วย
วันนั้นคุณแม่ได้ไปเป็นเพื่อนน้อง Sandy และนั่งรออยู่หน้าห้องสัมภาษณ์ด้วย
การสัมภาษณ์ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีโดยมีการตั้งคำถามต่าง ๆ มากมายเพื่อทดสอบ
ความรู้ความสามารถ และเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามที่ได้ระบุไว้ในใบสมัครจริง
ขณะนั่งรอการสัมภาษณ์ก็เห็นเด็กนักเรียนทั้งชายและหญิงอีก 5-6 คนพร้อมผู้ปกครอง
มารออยู่หน้าห้องเพื่อรอคิวสัมภาษณ์ด้วยเช่นกัน
เย็นวันต่อมาคุณแม่และโซ๊ยอี๊ได้ติดตามน้อง Sandy ในฐานะผู้ปกครองเข้าร่วมงาน
Reception ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้จัดขึ้นในโรงแรมเดียวกันนั้น เป็นงานเลี้ยงแบบ Cocktail
โดยมีผู้เข้าร่วมงานประมาณเกือบ 100 คนประกอบด้วยทีมงานจากมหาวิทยาลัย นักศึกษา
และศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่สำคัญคือครอบครัวและ Finalists ทั้ง 7 คน
ที่ได้รับการคัดเลือกผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและการสัมภาษณ์ที่จัดขึ้นโดยคณาจารย์
จากมหาวิทยาลัยที่เดินทางมาสัมภาษณ์ด้วยตนเองถึงประเทศไทย
ภายในงานเลี้ยงมีการทำ Presentation แนะนำให้ผู้เข้าร่วมงานได้รู้จักมหาวิทยาลัยแห่งนี้
หลังจากผู้บริหารขึ้นเวทีกล่าวต้อนรับแขกและแจ้งวัตถุประสงค์ของการจัดงานและกล่าวว่า
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาทางมหาวิทยาลัยได้มอบทุนการศึกษาประจำปีจำนวน 2 ทุนให้กับ
นักเรียนไทย แต่เนื่องจากวิกฤต Subprime crisis ช่วงปี 2008 ทางมหาวิทยาลัยซึ่ง
ได้รับผลกระทบเช่นกัน จึงเป็นที่น่าเสียดายว่านับจากปีการศึกษานี้เป็นต้นไปทางมหาวิทยาลัย
มีความจำเป็นต้องลดทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนไทยเหลือเพียงปีละ 1 ทุนเท่านั้น
บนเวทียังได้เชิญศิษย์เก่าที่จบด้วยทุนของมหาวิทยาลัยและมีงานทำที่มั่นคงในสาขาที่เรียนแล้ว
ขึ้นมาเล่าประสบการณ์และสิ่งดี ๆ ที่ได้รับจากรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย
สุดท้ายเป็นรายการเชิญ Finalists ทั้ง 7 ขึ้นบนเวทีแนะนำตัวทีละคน ประกอบด้วยชาย 4 หญิง 3
โดยมีน้อง Sandy เป็นหนึ่งใน 7 ผู้เข้ารอบสุดท้าย ซึ่งครึ่งหนึ่งของทั้งหมดมาจาก
โรงเรียนนานาชาติต่างที่กัน ที่เหลือมาจากโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียงจากภาครัฐ
โดยที่หนึ่งในนั้นมาจากโรงเรียนสาธิตแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
ผู้เข้ารอบทั้ง 7 คนได้ขึ้นบนเวทีกล่าวแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วฉะฉาน
เป็นที่ประทับใจแก่แขกผู้ร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง แม้จะเห็นน้อง Sandy พยายามแสดงความกล้า
พูดแนะนำตัวเองเพื่อเรียกคะแนนความประทับใจจากกรรมการเช่นเดียวกับคู่แข่งอีก 6 คน
แต่คุณแม่ซึ่งกำลังลุ้นอยู่ข้างล่างเวทีก็แอบสังเกตถึงน้ำเสียงที่สั่นและอาการประหม่าเล็ก ๆ
เล็ดลอดออกมาด้วย 555
หลังจากงาน Reception ในเย็นวันนั้นอีกประมาณหนึ่งสัปดาห์กว่าต่อมาก็ได้รับ E-Mail
จาก Wesleyan University แจ้งว่าผู้ได้รับคัดเลือกรับทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในปีนี้
คือนางสาว XXX ซึ่งเป็นนักเรียนจากโรงเรียนสาธิต (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นสาธิตปทุมวัน ^^)
ส่วนน้อง Sandy ได้รับคัดเลือกให้เป็น Alternate หรือตัวสำรอง โดยทางมหาวิทยาลัย
ได้ขอให้แจ้งความจำนงค์ตอบยืนยันกลับไปด้วยว่า หากผู้ได้รับทุนหรือน้องนักเรียนสาธิต
สละสิทธิ์หรือไม่สามารถลงทะเบียนเข้าเรียนตามกำหนด ทุนการศึกษานั้นจะตกเป็น
ของ Alternate หรือน้อง Sandy ต่อไป ^^
น้อง Sandy ตื่นเต้นและดีใจมาก รีบตอบรับการเป็นตัวสำรองทันทีโดยไม่ต้องคิดมาก!
จากวันที่ตอบรับสิทธิ์ตัวสำรองไปแล้วทั้งน้อง Sandy และคุณแม่ก็ช่วยลุ้นทุกวัน
แถมยังช่วยกันใช้ไสยศาสตร์เข้าช่วย ด้วยการภาวนาให้น้องนักเรียนสาธิตคนนั้น
ได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยที่อื่นที่ดีกว่านี้จะได้สละทุนของ Wesleyan เพื่อทุนนั้นจะได้
ตกเป็นของน้อง Sandy ให้ได้สวมสิทธิ์แทนในฐานะตัวสำรองด้วยเถิด...เพี๊ยงงงง ^^
เมื่อครบกำหนด การรอคอยก็สิ้นสุดลง!
และฝันของน้อง Sandy ที่จะได้ตำแหน่ง Miss Alternate ก็สลายไปกับสายลม ฮือ ๆๆ T_T
ป่านนี้น้องสาธิตคนนั้นก็คงเรียนจบพร้อมใบปริญญาและนำวิชาความรู้กลับมา
รับใช้บ้านเกิดเรียบร้อยแล้ว ^^
เผอิญในวันที่มีงานเลี้ยงรับรองก่อนประกาศผล มีโอกาสได้พูดคุยกับคุณพ่อของน้องสาธิตด้วย
คุณพ่อเล่าให้ฟังว่าครอบครัวค้าขายอยู่ต่างจังหวัด มีบุตรชายหญิง 3 คน น้องสาธิต
เป็นลูกสาวคนเล็กและลูกทั้ง 3 คนก็ได้ทุนเรียนต่อต่างประเทศฟรีแบบนี้ทุกคนคร้าบบบบ ^^
แบบนี้ไม่ปรบมือแสดงความยินดีกับครอบครัวตัวอย่างนี้ไม่ได้แล้ว...สุดยอดจริง ๆ!!
พลาดจากทุนที่คาดหวังสูง สุดท้ายน้อง Sandy ก็ต้องเดินคอตกกลับไปง้อทุนจากมหาวิทยาลัย
อีก 4-5 แห่งที่ตอบรับเสนอให้ทุนการศึกษาที่มีตั้งแต่ประมาณ 50% ขึ้นไป บางแห่งมี Ranking
ที่ดีกว่าแต่ให้ทุนเพียง 50% ซึ่งเกินกำลังที่ครอบครัวจะสนับสนุนได้ สุดท้ายได้เลือกรับทุน
จากมหาวิทยาลัยที่มี Ranking รองลงมาแต่เสนอให้ทุนสูงสุดเป็นทุนเต็มจำนวน และได้เลือก
เรียน Pre. Medicine แต่ต้องจ่ายค่าอาหารและที่พักเอง ซึ่งเรียนจบแล้วตั้งแต่กลางปี 2014
จะเห็นได้ว่า โอกาสดี ๆ แบบนี้ยังมีให้กับทุกคนที่ฝันอยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศเสมอ
ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะมาจากครอบครัวที่ยากจนแค่ไหน นี้จึงเป็นเหตุผลที่สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศ
ที่เป็นที่สนใจและเป็นความฝันของเด็กนักเรียนทั่วโลกมากที่สุด เพราะให้ทุนการศึกษาที่มากที่สุด
เป็นที่ที่นักเรียนที่ยากจนแต่เรียนดีสามารถมาตามล่าความฝันของพวกเขาได้นั่นเอง!
แต่ของดี ๆ ถ้าอยากได้ไม่ใช่ได้มาง่าย ๆ ต้องใช้ความเพียรพยายามมากกว่าผู้อื่นหลายเท่านัก
จึงจะมีโอกาสได้สิ่งนั้นมาครอบครอง
ดังนั้นถ้าอยากได้ทุนนี้ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่มีแค่ที่ Wesleyan University เพียงแห่งเดียวที่มีทุนแบบนี้
ก็ต้องเริ่มขยันหมั่นเพียรเสียตั้งแต่วันนี้ อย่าผลัดวันประกันพรุ่งหรือปล่อยเวลาให้ผ่านไป
โดยเปล่าประโยชน์ ขอให้ตั้งเป้าหมาย "ฝันให้ไกล ไปให้ถึงดวงดาว" เร่งตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
หาความรู้ประดับตัวให้มาก ๆ เข้าไว้ หาโอกาสเข้าร่วมการทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการ
ช่วยเหลือสังคมบ่อย ๆ เพื่อสร้าง Profile ของเราให้โดดเด่นสะดุดตา ให้เป็นคนเก่งรอบด้าน
หรือ well-rounded จริง ๆ จึงจะได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ได้รับทุนดี ๆ เช่นน้องสาธิตคนนั้น ^^
สำหรับผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจทุนเรียนฟรีเต็มจำนวนโครงการนี้
สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตาม Link นี้
FREEMAN ASIAN SCHOLARS PROGRAM for INTERNATIONAL STUDENTS
http://www.wesleyan.edu/admission/international_students/freeman.html
Met up for a drink with International Admissions Director จากมหาวิทยาลัย
ที่น้อง Paul กำลังศึกษาอยู่ ^^