[SR] Review Samsung SUHD Smart TV JS9000 และ JS8000 (มี Video Review)

กระทู้รีวิว
เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กันยายน 2558 ได้มีโอกาสเข้าไปร่วม work shop กับ Samsung ที่อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ โดยการไป workshop ครั้งนี้ได้มีโอกาสสัมผัสกับนวัตกรรมใหม่ของ Samsung ซึ่งประกอบไปด้วย Samsung SUHD TV และลำโพง R6 และ R7 ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก



                หากพูดถึง Samsung นั้น ผมเชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักกับสินค้าแบรนด์นี้ไม่ชนิดใดก็ชนิดหนึ่ง เพราะอย่างแรกเป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งมานานคือตั้งแต่ปี 19381 หรือปี 2481 (มีใครที่อ่าน Review เกิดทันปีนี้ไหมนะ อิ ๆ) ก่อตั้ง Samsung ในแตกู เกาหลี โดยประธานผู้ก่อตั้ง คือ Byung-Chull Lee  (เบือง ชุล ลี) แต่ในช่วงแรกนั้นไม่ได้ขายสินค้าแบบที่เราเห็นกันทุกวันนี้นะ โดยแรกเริ่มนั้นในช่วงแรกของการทำธุรกิจนั้นเน้นที่การส่งออกสินค้า เช่น ปลาแห้งเกาหลี ผัก และผลไม้ เพื่อส่งออกไปที่แมนจูเรียและปักกิ่ง ในปี 1960 หรือปี 25032 บริษัท Samsung ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เต็มตัว และหลังจากนั้นทางบริษัท Samsung จึงได้เริ่มต้นการผลิตโทรทัศน์ขาวดำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
Source 1 http://www.samsung.com/th/aboutsamsung/samsung/history_08.html
Source  2 http://news.siamphone.com/news-15121.html



                จนกระทั้งปี 1976 หรือปี 2519 Samsung ได้ผลิตทีวีสีได้สำเร็จและจำหน่ายในปี 1977 หรือปี 2520 และได้พัฒนาสินค้าที่มาพร้อมกับนวัตกรรม ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น


                ไม่ว่าจะเป็นสินค้าภายในบ้าน เช่น ทีวี, เครื่องเสียง, เครื่องซักผ้า, แอร์, ตู้เย็น, เครื่องดูดฝุ่น, โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดอยู่ ณ ขณะนี้คือ Samsung S6 Edge นี่ยังไม่รวมถึงกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์, กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ที่อยู่ในอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์อีกหลายประเภท นับได้ว่าเป็นแบรนด์สินค้าที่เรามักเจอและสัมผัสได้ในชีวิตประจำวันของเราเลย และแน่นอนว่าเมื่อสินค้าที่ผลิตออกมาแต่ละชนิดนั้นต้องเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา เราก็มักจะได้เห็นรูปแบบ, นวัตกรรม ที่ล้ำสมัยอยู่เสมอ
                จนในปี 2015 Samsung ได้เปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ในงาน CES2015 ที่สร้างประสบการณ์การรับชมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนนั้นคือ เปิดตัว 3 รุ่น คือ รุ่น JS9500, JS9000, JS8500 จุดต่างคือขนาดหน้าจอ ซึ่งตัวท็อปสุด JS9500 ขนาด 88 นิ้ว สิ่งที่ทุกรุ่นมีเหมือนกันคือเป็นจอโค้ง ความละเอียด UHD 4K แบบ Quantum Dot โดยใช้วัสดุทำเม็ดพิกเซลเป็น nano-crystal ที่ให้สีสันสดใสและแม่นยำกว่าทีวีปกติ 64 เท่า, มีระดับความเข้มของสีดำเพิ่มขึ้น 10เท่า-ความสว่างของสีขาวมากกว่าทีวีปกติ 2.5 เท่า และมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่ชื่อ “TIZEN” ออกเสียงว่า “ไท-เซน” ซึ่งจะทำให้การเชื่อมต่อกับ Samart Phone ง่าย รวดเร็ว และรองรับสตรีมมิ่งคอนเทนท์ออนไลน์แบบ 4K ได้ด้วย โดยได้เริ่มวางจำหน่ายไปแล้วใน Q2 ของปีนี้ โดยในครั้งนี้ได้มีโอกาสมาสัมผัสกับ 2 รุ่น แบบเจาะลึก ที่บริษัท Samsung อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ นั้นคือ รุ่น JS9000 ซึ่งเป็นจอโค้ง และรุ่น JS8000 ซึ่งเป็นจอแบน (ภาพซ้ายคือ JS8000 และภาพขวาคือ JS9000) โดยใช้ชื่อทางการตลาดว่า “Samsung SUHD TV” อ่านว่า “เอส-ยู-เฮด-ดี” อย่าอ่านว่า “ซู-เฮด-ดี” เดี๋ยวไม่อินเทรนด์

ลองชมวิดีโอรีวิวของผมก่อนที่จะไปดูรายละเอียดแบบลึก ๆ กันต่อไปครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คุณสมบัติ SUHD Curved Smart TV JS9000

Spec SUHD Curved Smart TV JS9000 ด้านเทคนิคดูเพิ่มเติมได้จาก
http://www.samsung.com/th/consumer/tv-av/tv/suhd/UA65JS9000KXXT

คุณสมบัติ SUHD Smart TV JS8000 Series 8

Spec SUHD Smart TV JS8000 Series 8 ด้านเทคนิคดูเพิ่มเติมได้จาก
http://www.samsung.com/th/consumer/tv-av/tv/suhd/UA55JS8000KXXT


หลายคนคิดว่า SUHD คงย่อมาจาก Super Ultra High Definition แต่จริง ๆ แล้วในความหมายของ Samsung เองนั้น ต้องการสื่อมากกว่านั้น ดังนี้
S : Spectacular Color - แสดงรายละเอียดเฉดสีได้กว้างกว่าทีวีทั่วไป 64เท่า
S : Stunning Contrast - SUHD TV แสงสีขาวมีความสว่างขึ้น 2.5เท่า และส่วนของสีดำเพิ่มขึ้น 10เท่า
S : Striking Brightness - ด้วยเทคโนโลยี Peak Illuminator Ultimate ปรับภาพสว่างสมจริง เหนือกว่า UHD ทั่วไป
S : Superb UHD Detail - ความละเอียด 4K

ลองมาดูรูปลักษณ์ดีไซค์ภายนอกกันก่อนดีกว่า


แรกเห็นต้องต้องยอมรับเลยว่า “หรูหรา” เนื่องจากวัสดุมันวาว โดยเฉพาะตัวกรอบทีวีที่มีกรอบขนาดเล็กมันวาว คล้าย ๆ กับกรอบรูปหรู ๆ เลย รุ่น JS9000 ที่ออกมามีให้เลือกถึง 2 ขนาดด้วยกัน คือขนาด 65 และ 55 นิ้ว โดยที่รุ่นดังกล่าวลักษณะจอจะโค้งรับสายตาและยังดีไซค์ฐานตั้งให้มีลักษณะโค้งเหมือนกับตัวจอด้วย

บริเวณด้านล่างของกลางจอ จะมี Logo Samsung และสิ่งที่ทำให้ดูหรูหราไปมากกว่านั้นคือ "แสงสีฟ้าขาว" บริเวณใต้ Logo Samsung โดยที่แสงสีฟ้าขาวนี้ทำให้เย็นตาเมื่อเห็น ซึ่งแสงจะติดเมื่อเราเริ่มเปิดทีวี

บริเวณ ด้านขวามือบน จะมี Logo SUHD เพื่อแสดงให้ทราบว่าตัวเครื่องนี้สามารถแสดงผลได้ในระดับ 8 ล้าน Pixel

บริเวณด้านหลังตัวเครื่อง Samsung JS9000 โดดเด่นด้วย Shirring Design ดีไซน์ด้านหลังเป็นลอนคลื่นสวยงามโดดเด่นทุกมุมมอง และที่สำคัญจะไม่มี Port หลาย Port เหมือนทีวีรุ่นอื่น ๆ เพราะปัญหาที่หลาย ๆ ท่านเจอ คือถ้าจะเสียบสายอะไรสักอย่าง เช่น สาย HDMI หรือ Thumb Drive นั้นจะต้องมุดเข้าไปที่หลังตัวเครื่องทีวี ถ้าบางบ้านวางทีวีไว้ไม่ได้แขวนก็คงไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่ถ้าบ้านไหนได้ลองแขวนทีวีไว้กับกำแพงแล้วละก็ ไม่อยากคิดเลยว่าลำบากขนาดไหน ซึ่ง Samsung JS9000 จะมีเพียง Port “One Connect” และช่องสายไฟ อยู่บริเวณด้านกลางซ้ายเท่านั้น


หลาย ๆ คนคงสงสัยว่า Port “One Connect” คือ Port อะไร” Port นี้จะใช้ต่อกลับกล่อง One Connect ที่จะมี Port ต่าง ๆ อยู่ในกล่อง One Connect ทั้งช่อง HDMI, USB, สาย LAN เป็นต้น และกล่องนี้เองทำให้ปัญหาสายระโยงระยาง หรือสายพันกันหลังทีวีที่หลายบ้านเจอกัน หายไปในทันที

บริเวณด้านกลางขวา มีช่องสำหรับเสียบสายไฟขนาดเล็ก


บริเวณด้านล่างซ้ายมือ จะมีปุ่ม Power เพื่อเปิด – ปิด Samsung JS9000 , ปุ่ม เปลี่ยนช่องรายการ, ปุ่มเพิ่ม – ลดเสียงทีวี และเป็นปุ่ม Function ในการงาน menu ต่าง ๆ

บริเวณซ้ายมือด้านล่างจะมีสติ๊กเกอร์ TV Digital ที่รับรองโดย กสทช. สติ๊กเกอร์แสดงข้อมูลทีวี Samsung JS9000 ไม่ว่าจะเป็นขนาดของทีวี, ชื่อรุ่น, Serial Number และข้อมูลผลิตภัณฑ์อื่น ๆ


มาดู กล่อง One Connect กันบ้าง บริเวณด้านหลังกล่องนี้จะมีหลายช่อง ได้แก่ ช่องเสียบสายอากาศ, ช่องเสียบ USB 3.0 ซึ่งรองรับต่อกับ External Hard Disk ที่สนับสนุนเทคโนโลยี 3.0 ซึ่งสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง, ช่อง HDMI ถึง 4 ช่อง

ถัดมาจะเป็นช่อง Audio Out / AV in / Component in หลายคนคงอาจจะไม่คุ้นกับ Port ดังกล่าว แต่ถ้าพูดถึงสาย AV 3 สายที่มีสีเหลือง สำหรับ สัญญาญภาพ, สีแดงกับสีขาว สำหรับสัญญาณเสียง หลายคนคงนึกออก ซึ่งทาง Samsung JS9000 เองก็ได้รวมสายต่าง ๆ เหล่านี้เอาไว้ในช่อง ๆ เดียว แต่ผู้บริโภคไม่ต้องห่วงนะครับ เนื่องจากทาง Samsung มีสายแปลงให้มาเรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องหาซื้อสายมาให้ยุ่งยาก ช่องถัดมามีไว้สำหรับทาง Samsung เอาไว้ Service หรือ ตรวจสอบความผิดปกติของตัวกล่อง One Connect และ ตัวเครื่อง JS9000 เอง ถัดมาคือช่อง One Connect Out ที่เป็นตัวรวมสัญญาณภาพและเสียงส่งออกไปยังทีวีนั้นเอง

ส่วน Port สุดท้ายที่อยู่หลังกล่องนั้นคือ ช่องสาย LAN เพื่อเอาไว้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตผ่านสาย LAN ซึ่งจะทำให้คุณภาพของสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ส่งมานั้นมีความเสถียรมากขึ้นและรับ-ส่งข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพของสัญญาณอินเตอร์เน็ต

บริเวณด้านข้างของกล่อง One Connect นั้นจะมีช่อง Digital Audio Out สำหรับต่อสัญญาณเสียง ผ่านสาย Fiber Optic เพื่อส่งไปยังอุปกรณ์หูฟังไร้สาย หรืออุปกรณ์อื่นๆที่มีช่อง Optic ถัดมาคือช่องเสียบ USB 2.0 จำนวน 2 ช่อง และ สุดท้ายคือช่อง IR Out

                ลองมาดู SUHD Smart TV JS8000 Series 8 กันบ้าง สำหรับรุ่นนี้จะออกแบบดีไซค์เป็นจอแบน


                ตัวขาตั้งก็ได้รับการออกแบบดีไซค์มาให้เป็นในลักษณะตรง เพื่อให้สอดรับกับหน้าจอทีวี

                ด้านมุมขวามือบนของรุ่น JS8000 ก็ได้มีโลโก SUHD เหมือนกับตัว JS9000 เรียกว่าเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันเลยทีเดียว




                ในด้านของกล่อง One Connect รุ่น JS8000 นั้น ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นสีดำ โดยที่กล่องนี้จะมี Port น้อยกว่ารุ่น JS9000 ซึ่ง Port ที่มีก็จะมี port HDMI 4 Port, USB 2.0 2 Port, ช่อง Optical Digital Audio Out และสุดท้ายจะเป็นช่อง One Connect Out หลายคนเลยมีคำถามว่าแล้วถ้าจะต่อช่อง Component / AV จะไปต่อตรงจุดไหน คำตอบคือ ก็จะต่อที่หลังทีวี
ชื่อสินค้า:   Samsung SUHD JS9000 Samsung SUHD JS8000
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่