ตกลงนอนหลับในรถ...ติดเครื่อง+เปิดแอร์......ตายไม่ตายครับ

กระทู้คำถาม
บางทีขับรถไกล จะจอดนอนปั๊ม เราก็ดับเครื่องลดกระจก
ซักพักดันมีเพื่อนร่วมทาง ขับมาจอดแต่ติดเครื่อง+เปิดแอร์  ทำให้เรานอนไม่ได้เพราะเสียงเครื่องและควันรถ

เคยเห็นมีกระทู้ แต่ยังไม่มีข้อสรุป
? ตาย........ ขาดออกซิเจน และ ไอเสียเวียนเข้ารถ
? ไม่ตาย.... ไอเสียไม่เวียนเข้ารถ แต่อากาศหมุนเวียนจากไหน ตอบไม่ได้

สรุป....ตายไม่ตายครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
การตายในรถจากการนอนติดเครื่องเปิดแอร์ นั้น  เราไม่ได้ตายเพราะขาดอากาศหายใจครับ

เพราะหากเราขาดอากาศหายใจ  เช่น  อุดจมูก  จมน้ำ  เราก็จะรู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว และพยายามดิ้นรนเปิดประตูรถออกมาได้
แต่การนอนติดเครื่อง + เปิดแอร์ นั้น  หากว่ามีไอเสียเล็ดรอดเข้ามาในห้องโดยสารทีละนิดแบบต่อเนื่อง  เราจะอาจจะมีอันตราย
ถึงตายได้จากการที่มีก๊าซ Carbon monoxide หรือ CO  เข้าร่างกายมากเกินไป

   การติดเครื่องแล้วเปิดแอร์  นั้น จะทำให้ CO จากไอเสียค่อย ๆ เล็ดรอดเข้ามาจากการดูดของระบบไหลเวียนอากาศของแอร์  
และเมื่อ CO เข้ามาในรถ ขณะที่เราหลับ เราจะหมดสติอย่างไม่รู้ตัว  เพราะเราหายใจเอา CO ปะปนเข้าไปตอนที่เราหลับ  
และเมื่อหมดสติไปแล้วทุกอย่างก็จะนำไปสู่ความตาย  เพราะระบบประสาทส่วนกลางจะทำงานผิดปกติ  หัวใจเต้นผิดจังหวะ  และหยุดเต้น  
ซึ่งกลไกแบบนี้จะต่างจากการถูกอุดตันทางเดินหายใจมาก  การถูกอุดตันทางเดินหายใจนั้นร่างกายจะสามารถ ตื่น ได้เองอย่างรวดเร็ว
แต่การนอนหลับแล้วมี CO เข้าทางเดินหายใจไปเรื่อย ๆ .... ร่างกายจะไม่ตื่นขึ้นมาครับ  เพราะระบบประสาทส่วนกลางได้ผิดปกติไปแล้ว
ทำให้เรามีอาการหัวใจล้มเหลวได้ อย่างไม่รู้ตัว .... ซึ่งคือการไหลตายนั่นเองครับ  โดยทั้งหมดนี้มาจากพิษ CO ทั้งนั้นเลย
ขณะที่ อากาศปกติ ในรถ นั้น  ไม่ได้ขาดหายไปใหนเลย

ดังนั้น  การติดเครื่องเปิดแอร์แล้วตั้งใจนอนแบบยาว ๆ 2  3  4 ชั่วโมง นั้น จะมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก  ไม่ควรทำอย่างยิ่ง

เพิ่มเติม
อุปกรณ์ที่น่าสนใจ คือ Carbon monoxide detector  อย่างรุ่นนี้ก็เสียบที่จุดบุหรี่รถยนต์ได้เลย  อันละ 300 บาท เท่านั้น
ดูใน Spec มันจะเริ่มเตือนที่ความเข้มข้น 100 PPM ขึ้นไป  (อาการเกิดพิษจะเริ่มที่ 150 - 200 PPM)
http://zhiyuantech.diytrade.com/sdp/1242100/4/pd-5562345/11680858-2158230/HWW888_Portable_CO_Gas_Detector_for_car.html
ความคิดเห็นที่ 50
มาขอยืนยันอีกคนว่าตายค่ะ
กับคำถามที่ว่าไอเสียที่เข้ามาในรถยนต์ในขณะที่รถยนต์ขับเคลื่อนนั้นมีหรือไม่ คำตอบคือมีค่ะ แต่ไอเสียในที่นี้ คือ CO2 (Carbon dioxide) ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอัตรายอย่างเฉียบพลัน ซึ่งต่างกับ CO ( Carbon monoxide) ซึ่งถ้าถามต่อว่าแล้วทำไมอยู่ดีๆ พอจอดรถจากปิดกระจกเปิดแอร์ CO2 มันถึงกลายเป็น CO ที่อันตรายถึงชีวิตได้ คำตอบก็อยู่ใน ตัวของมันเองแล้วค่ะ C คือ คาร์บอนด์ O คือ อ็อกซิเจนค่ะ.  การเผาผลาญของเครื่องยนต์ จะปล่อยคาร์บอนด์ออกมาค่ะ ถ้ามี อ็อกซิเจนมาก ๆ Carbon ก็รวมตัวกับ อ็อกซิเจน 2 โมเลกุล แล้วฟอร์ม CO2 (คาร์บอนไดอ็อกไซด์)ก็จะจบไป.  แต่ถ้า อ็อกซิเจนมีจำกัด มันก็จะฟอร์มได้แค่ CO ค่ะ. แล้วทีนี้มัน ไม่สเถียรค่ะ CO ก็จะแอ็คทีฟมาก เพราะว่ายังสามารถรวมตัวกับอะตอมอื่นได้อีก เพื่อความเสถียรของตัวเอง.  ก็ถ้ามันเป็นก๊าซอันตรายแล้วมันลอยไปไหนก็ไม่เป็นอันตรายกับเราค่ะ แต่ทีนี้มันอยู่ในรถเรา เราก็ดันทะลึ่งหายใจเอามันเข้าไปในปอด. ทีนี้เม็ดเลือดแดงเราเนี่ย มีสารที่เรียกว่าฮีโมโกลบินใช่มั้ยคะ ซึ่งฮีโมโกลบินเนี่ยก็จะบอนด์กับอ็อกซิเจน แล้วก็เอาไปส่งให้เซลล์ตามร่างกายเราใช้ไง ทีนี้แรงดึงดูดของ Hg กับ CO มันแรงกว่า Hg กับ O ค่ะ มันก็กลายเป็นว่า เม็ดเลือดแดงเราไม่สามารถส่งอ็อกซิเจนให้เซลล์ตามร่างกายค่ะ แล้วพอคาร์บอนด์มอนอกไซด์ไปบอนด์กับฮีโมโกลบินนี่ไม่ไม่ยอมหลุดออกง่ายๆค่ะ หลังจากนี้ ถ้าเราหลับไปแล้วหายใจเอา CO เข้าไปเรื่อยๆ โดยที่ความเข้มข้นของก๊าซจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดร่างกายก็ขาดออ็อกซินเจนไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกายค่ะ การล้มเหลวของอวัยวะทุกส่วนก็จะเกิดขึ้น .... ก็ตามนั้นค่ะ ถ้าพิมพ์แล้วอ่านไม่รู้เรื่องขออภัยด้วยค่ะ นึกศัพท์ไม่ค่อยออก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่