วันหยุดว่างๆ อยากหาที่เที่ยวซัก 2 วัน 1 คืน ที่เห็นจะใกล้ๆก็นี่เลยค่ะ เมืองกาญจนบุรี ขับรถไป แวะไป เที่ยวไป เดี๋ยวก็ถึง หลายคนทิ่อยากไปเที่ยวเมืองกาญคงกำลังมองหารีสอร์ทที่จะได้รู้สึกถึงคำว่าพักผ่อน อย่างจริงๆจังๆ เราขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ อมาดาด รีสอร์ท เพราะที่นี่เค้าเป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในเขื่อนศรีนครินทร์ ต้องนั่งเรือต่อออกไปยังตัวรีสอร์ท เน็ทไม่มี  สัญญาณโทรศัพท์ไปไม่ถึง  ไม่มีคำว่าสังคมก้มหน้า ตัดขาดจากโลกโซเชี่ยล วางโทรศัพท์แล้วหันมาใส่ใจคนใกล้ตัวได้อย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าเป็นทริปแห่งการพักผ่อนอย่างจริงๆจังๆก็ทีนี้หละค่ะ


ทริปนี้เราได้รับการบอกต่อมาจากเพื่อนที่เคยไปมาแล้ว บอกว่าที่นี่มันเจ๋งมาก สงบมาก แต่ก็สนุกมาก ไปแล้วรู้สึกได้พักผ่อน พอเพียง อยู่กับธรรมชาติ มากๆค่ะ จั่วหัวกันมาซักพักแล้ว เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าที่นี่เค้ามีอะไรดี

ที่ อมาดาด รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทแบบ all inclusive เหมารวมทุกอย่างไว้ให้แล้ว
1 ห้อง นอน 4 คน คนละ 1,870 บาท
1 ห้อง นอน 3 คน คนละ 1,980 บาท
** ราคานี้จะรวม อาหารหลัก 3 มื้อ (เย็น, เช้า , กลางวัน) / อาหารว่าง 2 มื้อ (บ่ายของวันแรก , มื้อดึก) / ค่าเรือรับ-ส่งเข้าที่พัก

เรามาเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่า หลังจากแพ็คกระเป๋า เข้าเกียร์กันแล้ว ก็บึ่งไปที่เมืองกาญกันเลย ขับไปทางอำเภอ ศรีสวัสดิ์ เส้นทางน้ำตกเอราวัณ ใช้เวลาขับจาก กทม ประมาณ 3ชม ครึ่งนะคะ เราต้องไปขึ้นเรือให้ทันรอบ 13.30 เพราะเรือจะมีรอบเดียวเท่านั้น จะรับผู้โดยสารทั้งหมดที่จะเข้าพักไปยังรีสอร์ท ไปช้านี่มีอายนะคะ  เป้าหมายของเราคือต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือป้าสงวน แต่ป้ายด้านหน้าปากซอยจะเขียนว่าแพนันทนา หรือแพมิตรกัญญานะคะ อยู่แถวบ้านหม่องกระแทะ  ตามแผนที่ด้านล่างนะคะ


หลังจากเลี้ยวเข้าซอยแล้ว จอดรถทิ้งไว้ที่ฝั่งนี้ได้เลยค่ะ ค่าจอดรถ 50 บาท รถตู้ 100 บาทนะคะ  เสร็จแล้วหยิบเป๋าแล้วเดินลงเรือทางนี้ได้เลยค่ะ

หลังจากนั่งเรือมาซัก 20 นาที เข้าที่พักปุ๊บ เค้าก็จะมี welcome drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบให้นะคะ  พอซักบ่าย 3 ก็จะเอาขนมปังหน้าหมูมาเสริฟถึงห้องเลยค่ะ กินหนมปังริมน้ำมันชิวจังเลย  ที่พักและวิวที่นี่ ตามนี้นะคะ

หลังจากแดดร่ม เราก็พร้อมจะลุยกันแล้วค่ะ เริ่มจากพายคยัคกันนิดๆหน่อยๆ ถ่ายรูปสวยๆ  หลังจากพายได้ที่ แขกบางห้องเริ่ม อยากจะเล่นบานาน่าโบ๊ทกันแล้ว พี่โป้งเจ้าของ (ทำทุกหน้าที่เลยค่ะ ) ก็ออกมาขับเรือให้แขกแต่ละห้องเล่น  ไหนๆก็มาแล้วก็เล่นสิคะ รออะไร  (ค่าเล่นบานาน่าโบ๊ท ครึ่ง ชม 600 บาท  ถ้าเราเล่น 10 นาที พี่เค้าก็คิดแค่ 200 เองนะ ) ใจมาก


หลังจากเล่นเสร็จ ตกน้ำไม่เป็นท่า ทางรีสอร์ทก็เริ่มเตรียมอาหารเย็นให้แล้วค่ะ กินอาหารเย็นพร้อมกันริมน้ำ วิวดีมาก (เราไม่ได้ถ่ายรุปอาหารมา) ลืมเอาโทรศัพท์ออกมา พูดเลยว่าหิวจนมูมามมาก อาหารก็จะมี บาร์บีคิวหมู/ไก่ ,ปลาทอดกระเทียม, ต้มยำ ,หมูผัดพริกหยวก ,กะหล่ำผัดน้ำปลา แล้วก็อะไรอีกซักอย่างนี่หละค่ะ มีขนมหวานตบท้ายด้วย ทุกอย่างเติมได้ไม่อั้นนะคะ เค้าจะมาเสริฟค่ะไม่ต้องเดินให้เมื่อย

จบกิจกรรมไป 1 วัน ขอบอกว่าที่นี่มีรอบเวลาการเปิด-ปิดไฟ  รอบเวลาการจ่ายไฟ ตามนี้ค่ะ 7.00 – 9.00 น. / 12.00 – 13.30 น. / 17.30 – 24.00 น.ด้วยนะคะ ในห้องจะมีพัดลมให้ค่ะ อากาศก็ดีค่ะ นอนเปิดประตู หน้าต่าง เอาค่ะ  


เช้ามาเรารีบตื่นมาดูวิวพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ แต่มองไม่ค่อยเห็นมีหมอกลง ตื่นมาแล้วมีวิวแบบนี้หน้าบ้านมันชื่นใจจริงๆ
เสร็จแล้วเราก็ไปกินข้าวเช้ากันก่อนค่ะ  อาหารเช้าวันนี้ไม่ลืมเอาโทรศัพท์ไป  ได้กินแบบนี้นะคะ


หลังจากกินเสร็จแล้วเราก็เริ่มกิจกรรมพายคยัคกันต่อ แต่วันนี้พี่โป้งเจ้าของรีสอร์ทเค้าบอกว่า ภูเขาฝั่งตรงข้ามที่พักมีจุดชมวิวนะ ลองพายไปดูสิ   ได้ยินแบบนี้แล้วก็ไม่รอช้า  เข้าห้องเปลี่ยนชุดเลยค่ะ


ภาพนี้ ถ่ายจากจุดชมวิว ตรงข้ามที่พักนะคะ ที่เห็นเป็นแพๆเล็กๆตรงนั้นคือที่พักของเราเองค่ะ พายมาไกลพอสมควร ต่อด้วยเดินขึ้นเขาไปยอดดอย เพื่อไปดูจุดชมวิว แต่มันก็คุ้มดีนะคะ ธรรมชาติสุดๆไปเลย  ดื่มด่ำบรรยากาศไปพอหอมปากหอมคอ ก็รีบพายเรือกลับไปอาบน้ำดีกว่า เพราะว่าอาหารเที่ยงที่พี่เค้าเตรียมให้จะได้เวลาออกมาแล้วค่ะ อาหารกลางวันคือ ส้มตำ,ไก่ย่าง,น้ำตก,ยำวุ้นเส้น อะไรประมาณนี้  กินเสร็จแล้วก็ต้องรีบมาขึ้นเรือให้ทัน 13.00 นะคะ เพราะว่าเค้าจะต้องออกเรือไปส่งเรากลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงกันแล้วค่ะ  มานี่แล้วได้พักผ่อนอย่างจริงๆจังๆ ทีเดียวค่ะ ไม่ต้องคิดว่าจะออกไปเที่ยวไหนดี แถวนี้มีร้านกาแฟอะไรให้แวะ ไม่ต้องค่ะ ทุกอย่างเค้าสรรหามาให้แล้ว ที่เดียวจบ ครบทุกอย่างจ่ายเงินแล้วเดินเข้ามาหาความสุขได้เลยค่ะ