ให้ 8/10 หนังแอคชั่นไซไฟ เรื่องราวของนักบินอวกาศที่ติดอยู่บนดาวอังคารโดยลำพัง เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อติดต่อไปยังโลกและทำให้อาหารเพียงพอต่อการดำรงชีวิต  กำกับโดย Ridley Scott จาก Alien (1979), Gladiator (2000), Black Hawk Down (2001), Kingdom of Heaven (2005) และ Prometheus (2012)  เขียนบทโดย Drew Goddard จาก The Cabin in the Woods(2012) และ World War Z (2013)

ถ้าจะสรุป The Martian ให้สั้นที่สุด ขอบอกว่า Matt Damon ในรื่องนี้เขาก็คือ Matt Kowalski (George Clooney) จาก Gravity (2013) ที่บังเอิญติดอยู่บนดาวเหมือน Dr. Mann จาก Interstellar (2014) แต่แค่ย้ายมาติดอยู่บนดาวอังคารเท่านั้นเอง

หนังให้ความสนุกและน่าติดตามทั้งเรื่องในเวลาที่นานถึง 141 นาที นำเสนอในมุมมองที่ค่อนข้างบวกมากๆ ตลก แอบมีเสียดสีสังคมโลกและกัดจิกตัวเองอยู่เล็กน้อย ซึ่งแม้จะเล็กน้อยแต่ถ้าดูดีๆก็เจ็บลึกอยู่เหมือนกัน หนังมีกลิ่นอายของความเชยอยู่หน่อยๆแต่คือดี ยิ่งเมื่อรวมเข้ากับเพลงประกอบยุคดิสโก้แล้ว เลยยิ่งเหมาะเข้ากันไปใหญ่

ที่สำคัญคือจังหวะหนังเรื่องนี้คือแมส (ตลาด) มาก ดำเนินเรื่องเร็วทันใจ  ต่างจากหนังอวกาศอย่างทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมาอย่างสิ้นเชิง ดูง่ายเหมาะกับคนทุกกลุ่มวัย ไม่ต้องมีความรู้วิทยาศาสตร์เลยก็สามารถตามทัน เพราะไม่ต้องคิดเยอะมาก และเป็นหนังที่ทำออกมาในโทนที่มีความกดดันต่ำกว่าอีก 2 เรื่อง พูดง่ายๆว่าใครที่ไม่ชอบหนังอวกาศเลย ก็สามารถชอบหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก... โดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยปลื้มหนังที่เป็นอวกาศจ๋าสักเท่าไหร่ หากเปรียบเทียบความชอบทั้ง 3 เรื่องแล้ว ส่วนตัวชอบเรื่องนี้มากที่สุด รองลงมาคือ Gravity ที่อยู่ในระดับที่ค่อนไปทางชอบมากกว่าไม่ชอบ แต่ที่ไม่ชอบเลยคือ Interstellar ไม่ใช่เพราะหนังดูยากต้องคิดเยอะ แต่ด้วยเหตุผลอะไรหลายๆอย่างยิบย่อย

สำหรับคนที่ดู The Martian แล้วอยากไปเที่ยว ทะเลทรายวิดิรัม ประเทศ จอร์แดน คือสถานที่ที่ถ่ายหนังรื่องนี้ค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สิ่งที่ชอบมากใน The Martian คือประเด็นที่ Ridley เสียดสีว่าอเมริกาไม่ได้เก่งเองไปหมดซะทุกอย่าง สุดท้ายแล้วต้องไปพึ่งประเทศมหาอำนาจอย่างจีน รวมไปประเด็นสิทธิความเสมอภาคของ เพศ ชนชาติและสีผิว ที่ในหนังเกือบทุกเรื่องในปัจจุบันก็มีแหละ แต่ในเรื่องนี้จะเห็นได้ชัดกว่า เพราะมีหลายๆตัวละครกว่าเรื่องอื่นที่ไม่ใช่คนอเมริกัน เป็นคนผิวสี (ผิวดำ) รวมไปถึงมีผู้หญิงเป็นผู้นำอยู่ในระดับหัวๆ และมันก็ทำให้นึกถึงประเด็นเรื่องสมองไหล

แต่สิ่งที่ไม่ชอบและเซงมากในหนังเรื่องนี้ คือ การที่เห็นว่า Matt Damon ไม่ได้ลงทุน ทุ่มเทให้กับหนังเรื่องนี้จริงๆในการที่จะทำให้ตัวเองผอมซูบ แต่ดันใช้สแตนอินคนอื่นแทน ซึ่งจะเห็นได้ชัดมากจากมุมกล้องที่ค่อนข้างแถอย่างเด่นชัดในฉากผอมซูบ


ปล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิด ประสบการณ์ สิ่งที่เจอหรือรู้สึกในช่วงที่ดูหนังเรื่องนั้นๆต่างกัน เมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ

สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ  https://www.facebook.com/MoviesStalker